"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
- Eyore
- Verified User
- โพสต์: 606
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 1
ฟังด๊อกเตอร์พูดถึงปัญหา Lotus ของ CP7-11 ว่าเป็น "ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้" ตามแบบของบัฟเฟต์แล้ว
มานั่งนึกว่า เออ จริงด้วยแฮะ ทำไมเรานึกไม่ออก :wall: :wall:
เลยมานั่งนึกๆดูว่ามีกรณีอย่างงี้อีกรึเปล่า
(เผื่อฟลุ๊ก อิอิ)
คิดขึ้นมาได้ UMS ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนี่นา
ก่อนหน้านี้ก็กลัวกันแต่เรื่องโกดังเก็บถ่านหินที่มีปัญหากับชาวบ้านเรื่องมลพิษ
ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ (ตกเครื่องบินนะสิ 555) :wall: :wall:
ใครนึกเรื่องอะไรออก มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
เรื่องอดีตก็ได้ อนาคตยิ่งดี
จะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน
มานั่งนึกว่า เออ จริงด้วยแฮะ ทำไมเรานึกไม่ออก :wall: :wall:
เลยมานั่งนึกๆดูว่ามีกรณีอย่างงี้อีกรึเปล่า
(เผื่อฟลุ๊ก อิอิ)
คิดขึ้นมาได้ UMS ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนี่นา
ก่อนหน้านี้ก็กลัวกันแต่เรื่องโกดังเก็บถ่านหินที่มีปัญหากับชาวบ้านเรื่องมลพิษ
ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ (ตกเครื่องบินนะสิ 555) :wall: :wall:
ใครนึกเรื่องอะไรออก มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
เรื่องอดีตก็ได้ อนาคตยิ่งดี
จะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน
- Doramon007
- Verified User
- โพสต์: 110
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 3
เห็นด้วยกับพี่พอใจครับ เพราะบางเรื่องเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยครับว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะแก้ไขปัญหา ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มหัวใจ ว่าปัญหาคืออะไรครับ
ตกเครื่องดีกว่าเครื่องตกครับ เพราะตกเครื่องค่อยไปเที่ยวใหม่ก็ได้ แต่ถ้าเครื่องตกโอกาสรอดยากครับ (แซวเล่นครับอันนี้) :lol:
ตกเครื่องดีกว่าเครื่องตกครับ เพราะตกเครื่องค่อยไปเที่ยวใหม่ก็ได้ แต่ถ้าเครื่องตกโอกาสรอดยากครับ (แซวเล่นครับอันนี้) :lol:
เมื่อมีสติ ก็จะเกิดปัญญา
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 4
เอาหวยที่ออกแล้วมาแทง ยังไงก็เสียดายครับ เอาหวยที่ยังไม่ออกดีไหม
TMB เพิ่มทุนสำเร็จไหม จะ Turn Around หรือเปล่า
SHIN ล่ะ Tender ตั้ง 49 บาทนะ ปัจจัยแค่การเมืองเอง ( ดู Ucom นั่นปะไร :mrgreen: )
SC นั่นก็อีกแล้ว ปัญหาที่แก้ไขได้หรือเปล่า :roll: (จะตาม Sattel หรือ ITV ดีล่ะ )
TMB เพิ่มทุนสำเร็จไหม จะ Turn Around หรือเปล่า
SHIN ล่ะ Tender ตั้ง 49 บาทนะ ปัจจัยแค่การเมืองเอง ( ดู Ucom นั่นปะไร :mrgreen: )
SC นั่นก็อีกแล้ว ปัญหาที่แก้ไขได้หรือเปล่า :roll: (จะตาม Sattel หรือ ITV ดีล่ะ )
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 6
ต่อด้วยประเด็นที่ว่า
19/12/2549 มีน่าคนที่มั่นใจ
หนึ่งในนั้นคือผมเอง
จัดportใหม่ไปหนึ่ง เพราะเห็นแล้วหุ้นในportแล้ว ลำคาญใจอย่างแรง แต่ก็ซื้อหมดภายในวันเดียวกันน่าครับ
อีกportมีขายของออกไปก็รับกลุ่มธนาคารมาสองตัว
แต่ถือไม่ได้เพราะไม่ได้รับอนุมัติให้ใส่เงินเพิ่มทุนลงไป
เลยปรับเล็กน้อย แต่วันถัดมาก็กำไรกลับมาชดเชยสิ่งที่ขาดทุนไปได้
ผมมองว่า ทุกวิกฤติมีโอกาส หากคนนั้นมีสติ สมาธิและปัญญา ครบถ้วน
19/12/2549 มีน่าคนที่มั่นใจ
หนึ่งในนั้นคือผมเอง
จัดportใหม่ไปหนึ่ง เพราะเห็นแล้วหุ้นในportแล้ว ลำคาญใจอย่างแรง แต่ก็ซื้อหมดภายในวันเดียวกันน่าครับ
อีกportมีขายของออกไปก็รับกลุ่มธนาคารมาสองตัว
แต่ถือไม่ได้เพราะไม่ได้รับอนุมัติให้ใส่เงินเพิ่มทุนลงไป
เลยปรับเล็กน้อย แต่วันถัดมาก็กำไรกลับมาชดเชยสิ่งที่ขาดทุนไปได้
ผมมองว่า ทุกวิกฤติมีโอกาส หากคนนั้นมีสติ สมาธิและปัญญา ครบถ้วน
-
- Verified User
- โพสต์: 1558
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 8
ผมก็ติด ITV ไว้เหมือนกัน คิดว่าเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ แต่ก็ยังเชื่อว่าต้องชนะคดีครับ แต่ได้บทเรียนคือ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเสี่ยงกับมันเลย ลงทุนตัวอื่นก็ได้ ถือมาตั้งแต่ราคาสิบบาท ลงก็ซื้อเพิ่ม หุ้นที่ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองมักจะมีอะไรที่คิดไม่ถึงเกิดขึ้น แต่ผมก็ยังไม่เข็ดนะ ตอนนี้มีทั้ง sattel แล้วก็ sc เลย
- Eyore
- Verified User
- โพสต์: 606
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 9
พูดถึงเรื่อง "ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้" ผมตั้งใจหมายถึงปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่นะครับ
พอพูดคำว่า แก้ได้ หรือ ไม่ได้ แล้ว
มันก็จริงอย่างที่พี่พอใจว่า
ไม่มีใครรู้
ก็ต้องยกเอาคำพูดของท่านแม่ทัพมาพูด
ท่านสุมาอี้บอกว่า อย่าไปยุ่งกับเหตุการณ์ที่ "มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่มีโอกาสเสียหายสูง" เพราะจะทำให้ Downside risk มาก
เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับ "โอกาสเกิด" กับ "ความเสียหาย"
เช่นอย่างที่เพื่อนยกตัวอย่าง ITV
แน่ล่ะ เราอาจจะคิดว่ามันเป็น "ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
แต่ถ้าดูในกรณี worse case แล้ว
Downside risk สูงมาก
แต่ถ้ากลับมาดูกรณี CP7-11 แล้ว
ย่อนกลับไปเมื่อก่อน ตอนยังต้องแบกภาระ Lotus
มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 3 หน้า คือ ดีขึ้น, เท่าเดิม, และ แย่ลง
1. ดีขึ้น ไม่พูดถึง เพราะดีแน่ๆ
2. เท่าเดิม กลับไปดูราคา CP7-11 ตอนนั้น PE 17 เท่า ก็ไม่ได้ถึงกับแย่มาก ถ้าดูในระยะยาว growth ของ 7-11 เมืองไทยก็ยังพอ cover ได้อยู่
3. ปัญหาอยู่ที่กรณีที่ 3 ถ้า Lotus แย่ลงๆๆ เรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น
ลองนึกๆดูแล้ว มันจะแย่ไปถึงซักแค่ไหนกัน ถ้าขาดทุนยังไม่มากจริงๆ
ก็ทู่ซี้ไปเรื่อยๆ ให้ 7-11 เมืองไทยแบกภาระไป EPS อาจจะเท่าๆเดิมหรือลดลง
มันก็จะไปตกข้อ 2 ซึ่ง Downside risk ก็ไม่มาก
แต่ถ้ามันขาดทุนมากขึ้นมากๆๆๆ จนไม่มีอนาคต มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทู่ซี้ต่อไป
สุดท้ายก็ต้องขายอยู่ดี
ผมจำได้เคยมีคน post เรื่องนี้ด้วย
จะเห็นได้ว่า Downside มันมีจุดสิ้นสุดโดยตัวมันเองอยู่แล้ว
เมื่อรวม 3 ข้อนี้เข้าด้วยกันจะเห็นได้ว่า Upside มันมีโอกาสเกิดมากกว่า Downside และกรณี Worse case นั้น Downside ก็ไม่มากด้วย
หรืออย่างกรณี UMS ก็เหมือนกัน
ถ้าการสร้างโกดังแก้ไขได้ก็จบ
แล้วถ้าสร้างไม่ได้แล้วยังไง
มันก็ไม่ได้ส่งผลกับผลประกอบการของบริษัทซักเท่าไร
เพราะยังไงยอดขายก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอยู่แล้ว
สร้างโกดังที่นี่ไม่ได้ ก็ไปสร้างที่ใหม่ ก็จบ
ดูดีๆจะเห็นว่า ทั้งสองกรณี
ถึงจะเป็น worse case scenario
มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวบริษัทมาก
ไม่ต่างอะไรกับกรณี AMEX ที่บัฟเฟต์ไปซื้อ
แต่ต่างกับกรณี ITV และ ันที่19เดือน12 อย่างมาก
พอพูดคำว่า แก้ได้ หรือ ไม่ได้ แล้ว
มันก็จริงอย่างที่พี่พอใจว่า
ไม่มีใครรู้
ก็ต้องยกเอาคำพูดของท่านแม่ทัพมาพูด
ท่านสุมาอี้บอกว่า อย่าไปยุ่งกับเหตุการณ์ที่ "มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่มีโอกาสเสียหายสูง" เพราะจะทำให้ Downside risk มาก
เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับ "โอกาสเกิด" กับ "ความเสียหาย"
เช่นอย่างที่เพื่อนยกตัวอย่าง ITV
แน่ล่ะ เราอาจจะคิดว่ามันเป็น "ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
แต่ถ้าดูในกรณี worse case แล้ว
Downside risk สูงมาก
แต่ถ้ากลับมาดูกรณี CP7-11 แล้ว
ย่อนกลับไปเมื่อก่อน ตอนยังต้องแบกภาระ Lotus
มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 3 หน้า คือ ดีขึ้น, เท่าเดิม, และ แย่ลง
1. ดีขึ้น ไม่พูดถึง เพราะดีแน่ๆ
2. เท่าเดิม กลับไปดูราคา CP7-11 ตอนนั้น PE 17 เท่า ก็ไม่ได้ถึงกับแย่มาก ถ้าดูในระยะยาว growth ของ 7-11 เมืองไทยก็ยังพอ cover ได้อยู่
3. ปัญหาอยู่ที่กรณีที่ 3 ถ้า Lotus แย่ลงๆๆ เรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น
ลองนึกๆดูแล้ว มันจะแย่ไปถึงซักแค่ไหนกัน ถ้าขาดทุนยังไม่มากจริงๆ
ก็ทู่ซี้ไปเรื่อยๆ ให้ 7-11 เมืองไทยแบกภาระไป EPS อาจจะเท่าๆเดิมหรือลดลง
มันก็จะไปตกข้อ 2 ซึ่ง Downside risk ก็ไม่มาก
แต่ถ้ามันขาดทุนมากขึ้นมากๆๆๆ จนไม่มีอนาคต มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทู่ซี้ต่อไป
สุดท้ายก็ต้องขายอยู่ดี
ผมจำได้เคยมีคน post เรื่องนี้ด้วย
จะเห็นได้ว่า Downside มันมีจุดสิ้นสุดโดยตัวมันเองอยู่แล้ว
เมื่อรวม 3 ข้อนี้เข้าด้วยกันจะเห็นได้ว่า Upside มันมีโอกาสเกิดมากกว่า Downside และกรณี Worse case นั้น Downside ก็ไม่มากด้วย
หรืออย่างกรณี UMS ก็เหมือนกัน
ถ้าการสร้างโกดังแก้ไขได้ก็จบ
แล้วถ้าสร้างไม่ได้แล้วยังไง
มันก็ไม่ได้ส่งผลกับผลประกอบการของบริษัทซักเท่าไร
เพราะยังไงยอดขายก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอยู่แล้ว
สร้างโกดังที่นี่ไม่ได้ ก็ไปสร้างที่ใหม่ ก็จบ
ดูดีๆจะเห็นว่า ทั้งสองกรณี
ถึงจะเป็น worse case scenario
มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวบริษัทมาก
ไม่ต่างอะไรกับกรณี AMEX ที่บัฟเฟต์ไปซื้อ
แต่ต่างกับกรณี ITV และ ันที่19เดือน12 อย่างมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 10
จำได้ว่า Monish Pabrai เคยพูดเรื่อง Low risk, High uncertainty ไว้ตอนสัมภาษณ์ใน CNBC กับใน Dhundo Investor ซึ่งน่าสนใจมาก
หลักการเลือกและกรองหุ้น คล้าย Graham มากกว่า Buffet คือเลือกหุ้นที่ปลอดภัย (low risk) ไว้ก่อน แต่ต่างจาก original Graham คือ หาสิ่งที่เรียกว่า high uncertainty ในตัวกิจการหรือหุ้น หมายความว่า ผลการดำเนินกิจการนั้นมีโอกาสจะแกว่งตัวสูง คือ variation กว้างจากดีมาก ถึงแย่มาก
ถ้าเขาได้ (คือกิจการดีมาก) จะได้มาก แต่ถ้าเสีย จะเสียน้อย (คือไม่เจ็บตัวนัก เพราะเขาเลือกหุ้นไว้ก่อนแล้วว่าต้องเป็น low risk)
แม้จะดูเหมือนการแทงหวย แต่หวยเขาคล้าย ๆ หวยออมสินมากกว่าหวยใต้ดิน
ส่วน Anomaly investment ที่ Monish ว่าไว้ อันนี้คล้ายคลึงกับ Buffet (ถ้ากิจการดี แต่เกิดปัญหาบางอย่างจนทำให้มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เขาจะกระโจนเข้าไปซื้อ)
หลักการเลือกและกรองหุ้น คล้าย Graham มากกว่า Buffet คือเลือกหุ้นที่ปลอดภัย (low risk) ไว้ก่อน แต่ต่างจาก original Graham คือ หาสิ่งที่เรียกว่า high uncertainty ในตัวกิจการหรือหุ้น หมายความว่า ผลการดำเนินกิจการนั้นมีโอกาสจะแกว่งตัวสูง คือ variation กว้างจากดีมาก ถึงแย่มาก
ถ้าเขาได้ (คือกิจการดีมาก) จะได้มาก แต่ถ้าเสีย จะเสียน้อย (คือไม่เจ็บตัวนัก เพราะเขาเลือกหุ้นไว้ก่อนแล้วว่าต้องเป็น low risk)
แม้จะดูเหมือนการแทงหวย แต่หวยเขาคล้าย ๆ หวยออมสินมากกว่าหวยใต้ดิน
ส่วน Anomaly investment ที่ Monish ว่าไว้ อันนี้คล้ายคลึงกับ Buffet (ถ้ากิจการดี แต่เกิดปัญหาบางอย่างจนทำให้มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เขาจะกระโจนเข้าไปซื้อ)
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 11
[quote="Eyore"]
แต่ถ้ากลับมาดูกรณี CP7-11 แล้ว
ย่อนกลับไปเมื่อก่อน ตอนยังต้องแบกภาระ Lotus
มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 3 หน้า คือ ดีขึ้น, เท่าเดิม, และ แย่ลง
1. ดีขึ้น ไม่พูดถึง เพราะดีแน่ๆ
2. เท่าเดิม กลับไปดูราคา CP7-11 ตอนนั้น PE 17 เท่า ก็ไม่ได้ถึงกับแย่มาก ถ้าดูในระยะยาว growth ของ 7-11 เมืองไทยก็ยังพอ cover ได้อยู่
3. ปัญหาอยู่ที่กรณีที่ 3 ถ้า Lotus แย่ลงๆๆ เรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น
แต่ถ้ากลับมาดูกรณี CP7-11 แล้ว
ย่อนกลับไปเมื่อก่อน ตอนยังต้องแบกภาระ Lotus
มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 3 หน้า คือ ดีขึ้น, เท่าเดิม, และ แย่ลง
1. ดีขึ้น ไม่พูดถึง เพราะดีแน่ๆ
2. เท่าเดิม กลับไปดูราคา CP7-11 ตอนนั้น PE 17 เท่า ก็ไม่ได้ถึงกับแย่มาก ถ้าดูในระยะยาว growth ของ 7-11 เมืองไทยก็ยังพอ cover ได้อยู่
3. ปัญหาอยู่ที่กรณีที่ 3 ถ้า Lotus แย่ลงๆๆ เรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 12
พี่พอจัยเป็นผู้ที่นำเสนอแนวคิดในการลงทุนที่เข้าจัยได้ง่าย น่าจะเขียนหนังสือออกมาสักเล่น
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- Eyore
- Verified User
- โพสต์: 606
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 13
ขอโทษครับพี่พอใจ
ผมไม่มีทั้ง 2 ตัวนั่นแหละ
ไม่งั้นจะมา post ทำไม
ป่านนี้นั่งยิ้มไปแล้ว 555
แต่ที่มา post เนี่ย คือต้องการเรียนรู้ว่า
สิ่งที่ผ่านมาให้เราเห็น
เราจะสามารถเรียนรู้ได้มากน้อยแค่ไหน
แล้วอนาคตจะมีกรณีศึกษาแบบนี้อีกรึเปล่า
อยากทราบความเห็นเพื่อนๆ
เผื่อจะได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก
ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น
หรือบอกว่าตัวเองเก่ง
ผมเชื่อพี่นะ "รู้อะไรไม่สู้ รู้เงี้ย"
ที่รพ.ผม
ทุกวันศุกร์ จะมี Case analysis
เป็นการเอา case ที่มีปัญหา ผลการรักษาไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
เอามาวิเคราะห์ดูว่า ปัญหามันเกิดตรงไหน
แล้วจะป้องกันแก้ไขอะไรได้บ้าง
คราวหน้าจะได้ไม่เกิดอีก
หลายคนไม่ชอบระบบนี้
เวลามาพูดทีหลัง พูดอะไรก็ถูกหมดแหละ
คนทำไว้ก่อนผิดหมด
แต่ผมว่าดีนะ
มันทำให้เราได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
ผมไม่มีทั้ง 2 ตัวนั่นแหละ
ไม่งั้นจะมา post ทำไม
ป่านนี้นั่งยิ้มไปแล้ว 555
แต่ที่มา post เนี่ย คือต้องการเรียนรู้ว่า
สิ่งที่ผ่านมาให้เราเห็น
เราจะสามารถเรียนรู้ได้มากน้อยแค่ไหน
แล้วอนาคตจะมีกรณีศึกษาแบบนี้อีกรึเปล่า
อยากทราบความเห็นเพื่อนๆ
เผื่อจะได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก
ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น
หรือบอกว่าตัวเองเก่ง
ผมเชื่อพี่นะ "รู้อะไรไม่สู้ รู้เงี้ย"
ที่รพ.ผม
ทุกวันศุกร์ จะมี Case analysis
เป็นการเอา case ที่มีปัญหา ผลการรักษาไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
เอามาวิเคราะห์ดูว่า ปัญหามันเกิดตรงไหน
แล้วจะป้องกันแก้ไขอะไรได้บ้าง
คราวหน้าจะได้ไม่เกิดอีก
หลายคนไม่ชอบระบบนี้
เวลามาพูดทีหลัง พูดอะไรก็ถูกหมดแหละ
คนทำไว้ก่อนผิดหมด
แต่ผมว่าดีนะ
มันทำให้เราได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 14
ผมว่า retrospective analysis ที่ดีไม่ใช่การมองย้อนหลังแบบประเภทพูดอะไรก็ถูกไปหมดEyore เขียน:ที่รพ.ผม
ทุกวันศุกร์ จะมี Case analysis
เป็นการเอา case ที่มีปัญหา ผลการรักษาไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
เอามาวิเคราะห์ดูว่า ปัญหามันเกิดตรงไหน
แล้วจะป้องกันแก้ไขอะไรได้บ้าง
คราวหน้าจะได้ไม่เกิดอีก
หลายคนไม่ชอบระบบนี้
เวลามาพูดทีหลัง พูดอะไรก็ถูกหมดแหละ
คนทำไว้ก่อนผิดหมด
แต่ผมว่าดีนะ
มันทำให้เราได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
แต่ต้องเป็นว่า ถ้าเราย้อนกลับไปได้อีก ไปยืนที่จุดนั้นใหม่ เราจะมองหาอะไรที่เป็น turning point หรือ critical point ในกรณีนั้น ๆ แล้วคิดให้ออก เวลาเจอครั้งถัดไป จะได้ไม่พลาด
retrospective analysis ไม่ได้ป้องกันความผิดพลาดครับ ผมว่าวิเคราะห์ข้อมูลดีแค่ไหนมันก็ยังมีโอกาสผิด
แต่การทำการบ้านมาเยอะ ทำให้โอกาสผิดมัน้อยลงมาก
น่าจะเอามาประยุกต์ในกับการดูหุ้นทั้งสองตัวได้สบายเลย ว่าไอ้เจ้าสองตัวนี้มันมี turning point อะไร (คือผมก็ไม่รู้เหมือนกันหรอก ไม่ได้สนใจเจ้าสองตัวนี้ด้วยสิ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 18
Path Said
TMB SHIN SC นัย คือ สามตัวนี้ยังอยู่ใน " ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้หรือไม่" ส่วน SATTEL ขอตัดออก แม้จะมีปัญหาอยู่ แต่ ราคาขยับขึ้นมาพอสมควรแล้ว ส่วน ITV ตัดออกเช่นกัน เพราะ คดีถึงที่สุดแล้ว
ถ้าจะเรียงธุรกิจสำคัญ คงเรียงตามความสนใจแล้วกัน เพราะไม่สามารถเทียบความสำคัญได้
1 SC ปัญหา อยู่ตรง ความเสี่ยง ค่าปรับที่ Worst case คือ โดนปรับเต็มเพดาน 2 เท่า มูลค่าipo 19000 ล้าน ผมว่าเป็นไปได้น้อย
2 SHIN ปัญหามันอยู่กับบริษัทย่อย กับการเมือง
3 TMB ปัญหา เพิ่มทุนสำเร็จหรือไม่ แต่ผมชอบน้อย เพราะถึงเพิ่มทุนสำเร็จ ก็ไม่ได้กลายเป็นผู้นำในsector ได้
Oatarm wrote:
เอาหวยที่ออกแล้วมาแทง ยังไงก็เสียดายครับ เอาหวยที่ยังไม่ออกดีไหม
TMB เพิ่มทุนสำเร็จไหม จะ Turn Around หรือเปล่า
SHIN ล่ะ Tender ตั้ง 49 บาทนะ ปัจจัยแค่การเมืองเอง ( ดู Ucom นั่นปะไร )
SC นั่นก็อีกแล้ว ปัญหาที่แก้ไขได้หรือเปล่า (จะตาม Sattel หรือ ITV ดีล่ะ )
ตอบว่าท่านว่า ธุรกิจไหนสำคัญ และต้องรักษาไว้ล่ะครับ เรียงลำดับให้ผมหน่อยครับ
TMB
SHIN
SC
Sattel
ITV
_________________
TMB SHIN SC นัย คือ สามตัวนี้ยังอยู่ใน " ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้หรือไม่" ส่วน SATTEL ขอตัดออก แม้จะมีปัญหาอยู่ แต่ ราคาขยับขึ้นมาพอสมควรแล้ว ส่วน ITV ตัดออกเช่นกัน เพราะ คดีถึงที่สุดแล้ว
ถ้าจะเรียงธุรกิจสำคัญ คงเรียงตามความสนใจแล้วกัน เพราะไม่สามารถเทียบความสำคัญได้
1 SC ปัญหา อยู่ตรง ความเสี่ยง ค่าปรับที่ Worst case คือ โดนปรับเต็มเพดาน 2 เท่า มูลค่าipo 19000 ล้าน ผมว่าเป็นไปได้น้อย
2 SHIN ปัญหามันอยู่กับบริษัทย่อย กับการเมือง
3 TMB ปัญหา เพิ่มทุนสำเร็จหรือไม่ แต่ผมชอบน้อย เพราะถึงเพิ่มทุนสำเร็จ ก็ไม่ได้กลายเป็นผู้นำในsector ได้
- path2544
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
ผมว่านะครับ...
โพสต์ที่ 19
ในความเห็นผมนั้น ผมเห็นแย้งกับคุณ Oatarm นะครับTMB SHIN SC นัย คือ สามตัวนี้ยังอยู่ใน " ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้หรือไม่" ส่วน SATTEL ขอตัดออก แม้จะมีปัญหาอยู่ แต่ ราคาขยับขึ้นมาพอสมควรแล้ว ส่วน ITV ตัดออกเช่นกัน เพราะ คดีถึงที่สุดแล้ว
ถ้าจะเรียงธุรกิจสำคัญ คงเรียงตามความสนใจแล้วกัน เพราะไม่สามารถเทียบความสำคัญได้
1 SC ปัญหา อยู่ตรง ความเสี่ยง ค่าปรับที่ Worst case คือ โดนปรับเต็มเพดาน 2 เท่า มูลค่าipo 19000 ล้าน ผมว่าเป็นไปได้น้อย
2 SHIN ปัญหามันอยู่กับบริษัทย่อย กับการเมือง
3 TMB ปัญหา เพิ่มทุนสำเร็จหรือไม่ แต่ผมชอบน้อย เพราะถึงเพิ่มทุนสำเร็จ ก็ไม่ได้กลายเป็นผู้นำในsector ได้
ผมคงต้องบอกงี้ก่อนนะครับ ทุกตัวเกี่ยวพันกับการเมืองทั้งหมดนะครับ
แต่กรณีนี้สำหรับผมๆ จะมองว่า ธุรกิจไหน มีความสำคัญกับมีความสำคัญกับเศรษฐกิจ หรือจำเป็นต่อประเทศโดยรวมมากกว่ากัน
กรณี SC กับ Shin นั้น ธุรกิจไม่ความสำคัญอะไรเลย อันนี้ผมว่า จบแบบ ศพไม่สวยเท่าไรแน่ หากจะเก็งกำไร เล่นไปเถอะ แต่หากจะถือยาว แนวไหนก็ตาม คิดดีๆๆ แล้วกัน
กรณี ITV จบ แล้ว
กรณี SATTEL,TMB มีผลกับเศรษฐกิจ และประเทศโดยรวมครับ ต้องจบสวยครับ SATTEL เป็นธุรกิจที่สำคัญมากนะครับ
ส่วน TMB เป็นธุรกิจที่สำคัญ นะครับ ต้องจบดีๆๆ ครับ ไม่ว่าขายหรือ เพิ่มทุน ยกเว้นอย่างเดยว พรบ. ประกันเงินฝากจะออกมาได้
ไม่เก่งทั้งวิเคราะห์เทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน แต่เราก็ยังรั้นที่จะรวยเพราะหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
"ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้"
โพสต์ที่ 22
แต่ถึงเรื่องยาว ผมว่า ITV มันไม่มีอะไรเหลือพอที่จะดำเนินกิจการต่อได้แล้วครับKB เขียน:ITV ยังไม่จบครับ เรื่องตอนนี้อยู่ที่คณะอนุญาโต พิจารณาเรื่องค่าปรับว่าคำนวนแล้วแสนล้านรึเปล่า กับอีกคดีที่ศาลปกครองกลาง ฟ้อง สปน. บกพร่องต่อหน้าที่ ที่ไม่เอาเข้า ครม. ครับ ผมว่าเรื่องยังอีกยาวนะ
ต่อให้ชนะในอนุญาโตตุลาการ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เงิน เพราะมันมีแค่เสียน้อย (คือไม่กี่ร้อยล้าน) กับเสียมาก (แสนล้าน) แม้จะเสียน้อย ก็ยังเสียอยู่ดี ทรัพย์สินของ ITV ก็ไม่พอจ่าย เพราะอุปกรณ์อะไรต่อมิอะไรตกเป็นสมบัติของ สน. แล้วหลังบอกเลิกสัญญา
แล้วถึงชนะ สน.เขาก็คงอุทธรณ์ ฎีกา ต่อในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐที่ต้องทำตามหน้าที่ รักษาผลประโยชน์ให้ถึงที่สุด
ยาวยังไง จบก็ไม่ happy ending อยู่ดี