Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เนื่องจากข้อความนี้
naris เขียน:ใครไปvisitมาแล้วเงียบนี่ จะแช่งให้อุจาระราดนะครับ รีบมาดัพเดทข้อมูลเร็วๆครับ อยากรู้ :P


ผมเลยต้องรีบมา update ข้อมูลก่อน อีก 11 คนที่เหลือระวังตัวดีๆนะครับ ไม่มาช่วยกัน udapte เดี๋ยวเจอคุณไสยจากเมืองเลยเล่นงานเอา
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

- Backlog ตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธ.ค. 50 มีอยู่ 1096 ล้านบาทเทียบกับปี 49 ที่ 654 ล้านบาท
- หลังการจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่นาน งานที่ยื่นเสนอไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็ทยอยเซ็นสัญญาเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ Backlog เพิ่มจาก 1100 > 1300 > 1600 > 2000 จนล่าสุด ณ วันนี้ก็มีเพิ่มจากที่ประกาศ 2000 ครั้งก่อนไปนิดหน่อย แต่ยังไม่ถึงกับมีนัยสำคัญ เพราะฉะนั้นยังคงตัวเลข Backlog ไว้ที่ประมาณ 2000 ล้านก่อน
- Backlog ข้างต้นนี่นับเฉพาะบริษํท AIT เท่านั้น ไม่ได้รวมบ.ลูกอีก 3 แห่งที่เดี๋ยวจะพูดถึงต่อไป
- Backlog ข้างต้นรวมงานให้เช่าแล้วมูลค่า 142 ล้านบาทซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด งานเช่านี้เดิมทำสัญญามา 3 ปี ซึ่งค่าเสื่อมราคาก็บันทึกเป็น 3 ปีเช่นกัน แต่บางส่วนจะมีการต่อสัญญาเพิ่มเข้ามา ซึ่งส่วนนี้จะบันทึกเป็นรายได้ต่อไป แต่ค่าใช้จ่ายจะลดเหลือเฉพาะค่าบริการเท่านั้น ค่าเสื่อมไม่เหลือแล้วเพราะตัดไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามถ้าไม่ได้ต่อสัญญาครบทั้งหมด อุปกรณ์ที่ให้เช่าไปก็ยังมีเอาไปขายได้โดยที่ไม่มีต้นทุน
- Voice Mail System ที่ทำร่วมกับ True ได้ตั้งสำรองไปในปีที่แล้ว 40 ล้านบาท แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับรายการเมื่อรายได้เป็นไปตามเป้า แต่จะเมื่อไหร่นั้นบริษัทไม่สามารถบอกได้ครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

บ.ย่อยมี 3 แห่ง
1. เมเปิ้ลพลัส: ทำ GIS Solution (เกี่ยวกับระบบแผนที่) AIT ถือ 55% เป็นส่วนที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมากเพราะระบบแผนที่สามารถเอาไปประยุกต์ได้อีกกว้างหลายรูปแบบ เช่น การขอโทรศํพท์ ประปา ไฟฟ้า โรงพยาบาล ท่องเที่ยว ภาษีป้าย ฯลฯ แต่ปัจจุบันบ. ยัง Focus อยู่ที่งานของ TOT อยู่เพราะขนาดยังอีกใหญ่มาก บ.ได้ทำไปแล้ว 6-7 จังหวัดมูลค่าประมาณ 190 ล้าน (รับรู้ไปแล้ว) ซึ่งโอกาสที่จะได้งานทั้งประเทศก็สูงมาก เพราะว่าการทำงานที่ดีระบบมันควรจะเชื่อมต่อกันได้ เพราะงั้นได้งานมาแล้วก็น่าจะได้หมด มูลค่าส่วนนี้ถ้าคิดทั้งประเทศน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2000 ล้าน +- นิดหน่อย
2. BAN C-serve: ทำ Banking Solution AIT ถือ 80% เน้นลูกค้ากลุ่มแบงค์ เพราะมีขนาดตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ AIT ไปร่วมทุนเพราะว่าเป็นกลุ่มงานที่ไม่ได้ถนัดเท่าไหร่นัก คู่แข่งหลักคือ IBM ส่วนนี้รายละเอียดยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เปิดเป็นบริษัทได้ต้นปี 51 (เข้าใจว่าเปิดไปแล้ว)
3. Service Pro ส่วนทุกกับ SOJITZ ซึ่งเป็นบ.ญี่ปุ่น AIT คือ 70% ทำธุรกิจ Service ด้าน IT รวมถึงงาน Out source และ Data Center การได้ SOJITZ ช่วยให้การเข้าถึงลูกค้าญี่ป่นนั้นง่ายขึ้น ล่าสุดก็มีลูกค้าญี่ปุ่นส่งงานมาให้ลองทำมีมูลค่าประมาณ 10 ล้าน บ. น่าจะเริ่ม Generate รายได้จริงๆประมาณช่วงกลางปีเป็นต้นไป ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ประมาณ 200 ล้าน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

- ปี 51 ยังเสียภาษี 25% อยู่ (ประมาณการณ์เดิมผมคิดว่า 30%)
- SG&A ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับรายได้ เพราะฉะนั้น NPM ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้จากปีก่อน
- ตัวเลขเป้าหมาย 3000 ล้านบาท ไม่น่าจะยาก และตัวเลขนี้นับเฉพาะบ.แม่เท่านั้น ไม่รวมพวก บ.ย่อยทั้งหลาย แต่ไอ้เป้าหมาย 6by9 หรือ 6000 ล้านในปีหน้านั้นนับรวมรายได้ทั้งหมด... แต่อย่างไรก็ตามเป้า 6by9 นั้นไม่อยากให้ยึดติดอะไรมากนัก เพราะนั้นคือเป้าหมายที่บริษัทอยากทำให้ได้ ซึ่งก็ต้องพยายามสูงพอควร
- ในอนาคตคาดหวังว่าธุรกิจ Service และ Outsource นั้นจะมาเป็นฐานรายได้ที่เป็น Repeat Order เพื่อลดความผันผวนของรายได้ในอนาคตของบ.

รอท่านอื่นมาช่วย Update ต่อครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
investment biker
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1284
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

yoyo เขียน:- ปี 51 ยังเสียภาษี 25% อยู่ (ประมาณการณ์เดิมผมคิดว่า 30%)
- SG&A ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับรายได้ เพราะฉะนั้น NPM ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้จากปีก่อน
- ตัวเลขเป้าหมาย 3000 ล้านบาท ไม่น่าจะยาก และตัวเลขนี้นับเฉพาะบ.แม่เท่านั้น ไม่รวมพวก บ.ย่อยทั้งหลาย แต่ไอ้เป้าหมาย 6by9 หรือ 6000 ล้านในปีหน้านั้นนับรวมรายได้ทั้งหมด... แต่อย่างไรก็ตามเป้า 6by9 นั้นไม่อยากให้ยึดติดอะไรมากนัก เพราะนั้นคือเป้าหมายที่บริษัทอยากทำให้ได้ ซึ่งก็ต้องพยายามสูงพอควร
- ในอนาคตคาดหวังว่าธุรกิจ Service และ Outsource นั้นจะมาเป็นฐานรายได้ที่เป็น Repeat Order เพื่อลดความผันผวนของรายได้ในอนาคตของบ.

รอท่านอื่นมาช่วย Update ต่อครับ
คุณ yo yo ครับ ปัจจุบัน รายได้ที่เป็น Repeat Order เป็นกี่ % ของรายได้รวมครับ
In search of super stocks
ภาพประจำตัวสมาชิก
little wing
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 187
ผู้ติดตาม: 0

Re: Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

รายได้ของบริษัทแบ่งตามกลุ่มลูกค้าได้ 3 กลุ่ม
1.Telecom G1 ได้แก่ CAT,DTAC,HUTCH,AIS(พวกไร้สาย)
2.Telecom G2 ได้แก่ TOT,TT&T,TRUE
สัดส่วนรายได้ทั้งสองกลุ่ม ประมาณ 56%
3.Enterprise ได้แก่ หน่วยราชการ การไฟฟ้า ประปา ธนาคารออมสิน ธ.อ.ส. BMW HOMPRO TOYOTA กร,ที่ดิน เสริมสุข
สัดส่วนรายได้ 44%
ช่วย UPDATE ตามที่ผมพอจะเข้าใจนะครับ รอท่านอื่นมาต่อละกัน
leksmile
Verified User
โพสต์: 2126
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

โยพูดไปเยอะแล้ว

เอาเป็นว่าเสริมล่ะกันครับ

NPM น่าจะรักษาได้ในระดับไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจาก sale ที่รับรู้กำไรใหญ่กว่าปีที่แล้ว ทำให้ถึง SG&A เพิ่มขึ้นแต่ในอัตราส่วนที่น้อยกว่า

backlog ที่ กระโดด 1300 1600 2000 ล้านนี่มาจาก order ใหญ่ๆ ก็เลยถามว่าแล้วในช่วง 3 เดือนนี้จะมี order ระดับนนี้อีกไหม คำตอบคืออาจจะมี เพราะส่งซองไปแล้ว รอผลอยู่ว่าได้หรือไม่ได้ แล้วหลังจากนี้ทางรัฐและหน่วยงานต่างๆก็น่าจะมีงานออกมาเรื่อยๆ

เดี๋ยวถ้านึกออกเพิ่มเติมจะมาต่อ
GTA
Verified User
โพสต์: 170
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ใครที่ไม่ได้ไปก็ไม่ต้องเสียใจ
อ่านที่พี่ๆเพื่อนๆเขียนข้างบนก็เกือบเหมือนไปฟังเองแล้วครับ
ยกเว้นอดกินซาลาเปากับได้ของที่ระลึก :D
050001999
Verified User
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ซาลาเปา อร่อยมากครับ แต่ไม่ค่อยมีใครทานเลยเหลือบานเลย อิอิ  yoyo สรุปได้ดีมากครับ ตามนั้น
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

Re: Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

yoyo เขียน:เนื่องจากข้อความนี้

ผมเลยต้องรีบมา update ข้อมูลก่อน อีก 11 คนที่เหลือระวังตัวดีๆนะครับ ไม่มาช่วยกัน udapte เดี๋ยวเจอคุณไสยจากเมืองเลยเล่นงานเอา
:shock:  ตอนแรกอ่านโยสรุปแล้วก็แทบไม่มีอะไรเสริม แต่อ่านข้อความพี่นริศแล้วน่ากลัวจริงๆ ต้องรีบตามมาช่วยเพิ่มเติมหน่อย :)

- SG&A นั้นหลักๆคือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานครับ ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 220 คนเป็นพนักงานประจำ 210 คน temp. 10 คน( temp. นี่จะจ้างแบบปีต่อปี ใช้เมื่อมีงานโหลดเข้ามามากเป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระระยะยาว) บริษัทค่อนข้างระมัดระวังในการเพิ่มคนเป็นอย่างมากครับ เพราะค่าใช้จ่ายส่วนนี้ถ้าเป็นพนักงานประจำแล้ว ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็เพิ่มทุกปี ปี 51 บริษัทมีแผนจะรับคนเพิ่ม 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่าง เพื่อรองรับงานที่จะเข้ามามากขึ้น แต่ถึงปัจจุบัน(11 มี.ค. 51)เพิ่งรับเพิ่มไป 3 คน

- บริษัทลูกที่จะตั้ง service pro นั้น จะเป็นบริษัทที่รับทำเกี่ยวกับ service & maintenance โดยจะรับโอนพนักงานช่างจาก ait ไป โดยจะบุกลูกค้าญี่ปุ่นเป็นหลัก และจะรับ outsource งาน service จาก ait มา โดยสัดส่วนจะประมาณว่าถ้า AIT มีรายได้ 2000 ล้าน บริษัทนี้จะได้งาน service จาก AIT ประมาณ 10% คือ 200 ล้าน ปีแรกตั้งเป้า 200 ล้านบาท และในอนาคตถ้ารายได้ขึ้นไปถึง 500-600 ล้านก็อาจจะเอาเข้าตลาดด้วย บริษัท service pro นี้คุณศิริพงศ์ จะนั่งเป็นประธานเองครับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นบริษัทที่มีอนาคตดีมาก จะเริ่ม run ได้คงกลางๆปีไปแล้ว และน่าจะมีกำไรตั้งแต่ปีแรก ... อ้อ อีกนิดครับ งาน service นี่ margin ดีครับ แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่ :)

- เพิ่มเติม service pro อีกนิดครับ เพราะผมว่าบริษัทนี้จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของ AIT เลย เพราะรายได้พวกนี้เป็นรายได้ที่เข้ามาเรื่อยๆ ไม่เหมือนงานประมูล ซึ่ง yoyo ได้พูดถึงไปบ้างแล้วว่า AIT ต้องการสร้าง recurring income ให้มากขึ้น โดยอนาคต AIT อาจจะหดเหลือเป็นแค่ holding company ก็เป็นได้ ไอเดียที่คุณศิริพงศ์แยก service pro ออกมาจาก ait นั้นเพื่อต้องการให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่าเดิม คล้ายๆเป็น profit center เกี่ยวกับ service & maintenance ซึ่งถ้ารวมอยู่ใน AIT ก็คุมต้นทุนยาก และเป็นการบุกตลาดอื่นๆด้วย

- ค่าแรงของช่างจะอยู่ใน Cost of goods sold ดังนั้นถ้าบริษัท service pro จัดตั้งขึ้นและ AIT outsource งาน service ไปให้ก็จะทำให้ AIT มี gpm ลดลงบ้างเพราะเป็นการให้กำไรกับบริษัทลูก แต่ก็ไปได้ชดเชยจากกำไรจากบริษัทลูกแทน

- เงินลงทุนในหนึ่งถึงสองปีข้างหน้าคงไม่มีอะไรหนักๆ จะมีก็แค่เงินร่วมลงทุนตั้งบริษัทย่อยเพิ่มเติมอีก 2-3 แห่ง ซึ่งเงินลงทุนคงไม่เกินรายละ 20 ล้านบาท และนโยบายจ่ายเงินปันผลก็สามารถทำได้แน่นอน แต่จะจ่ายเป็นอะไรเท่านั้นเอง (คุณศิริพงศ์บอกให้ไปคิดกันเองครับ :P)

- สถานะการแข่งขันงานประมูลในปัจจุบันก็มี 4-5 ราย บางทีก็ 2-3 รายแย่งกันประมูล แต่งานภาครัฐยังมีออกมาอีกเยอะ และแต่ละเจ้าก็มีช่องทางของตัวเองก็คงแบ่งๆกันไปครับ

- ข้อสังเกตุเรื่อง SG&A ครับ ปีที่แล้วสิ้นปีมีพนักงานประมาณ 220 คนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 230 ล้าน ก็ตีซะว่าคนละล้านง่ายๆ ปีนี้ถ้าเพิ่มอีก 30 คน และให้พนักงานเดิมเงินเดือนขึ้นซัก 10% ก็ 283 ล้านหรืออย่างมากไม่น่าเกิน 300 ล้าน gpm ประมาณ 25% บวกลบเล็กน้อย ก็ลองไปคำนวณๆกันต่อเองนะครับ :)

- ลืมเรื่องสำคัญ คุณศิริพงศ์บอกว่าปี 2551 นี้ AIT คงมีรายได้และกำไรมากสุดของ AIT ซึ่งเท่าที่ผมมีขัอมูลปี 2549 ที่เยอะๆนั้นทำรายได้ 2278 ล้าน กำไร 197 ล้านบาทครับ :P

เดี๋ยวถ้านึกอะไรได้เพิ่มจะมาใส่เพิ่มนะครับ ตอนนี้เอาแค่ให้พ้นคำสาปพี่นริศไปก่อน  :P
It's earnings that count
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 0

Re: Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

yoyo เขียน:เนื่องจากข้อความนี้

ผมเลยต้องรีบมา update ข้อมูลก่อน อีก 11 คนที่เหลือระวังตัวดีๆนะครับ ไม่มาช่วยกัน udapte เดี๋ยวเจอคุณไสยจากเมืองเลยเล่นงานเอา
กลัวโดนสาป เช่นกัน

มาอัปเดตข้อมูลที่ขาดไปน้อยนิดมากๆ คนอื่นอัพเดตไปหมดแล้ว คิดว่ามาอ่านก็พอๆ กับไปเองแล้วครับ

ส่วนของพนักงาน
ทาง AIT จะคงพนักงานที่เป็นในส่วนของ certified engineer ไว้และ ค่อยทะยอยโอนพนักงานในส่วนของช่างไปที่ฝั่ง Service Pro

บริษัท service Pro ปัจจุบันลูกค้าหลักๆคือ ลูกค้าของ AIT เอง และ เริ่มมีลูกค้าเป็นของตัวเองแล้ว
พนักงานของบริษัทประมาณ 90คน

ยอด back log
31 Dec 07 : 1096 ล้านบาท
11 Mar 07 : 2xxx ล้านบาท

ปัจจุบัน มีมูลค่ามากกว่ารายได้ทั้งปี ของปี 50 ( 1646.60ล้านบาท) เสียอีก
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณพี่ yoyo พี่บลูเลือดปู มากเลยครับ  :cheers:  :cheers:
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

:cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:
รูปภาพ..เงินทองร้อยล้าน ยังน้อยกว่าน้ำใจร้อยดวง...รูปภาพ
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

Backlogของระบบ IT ต้องถามเรื่องความล่าช้าของงานประกอบด้วย
เนื่องจากเป็นงานโครงการ
หากปิดไม่ลงงานนี้ก็สนุกน่าครับ

:)
:)
shyklang
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 43
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ล่าสุด เอไอที ไม่ได้งานศูนย์ ราชการที่แจ้งวัฒนะ นะครับ โครงการนี้ ประมาณ สามร้อยล้าน แต่ เค้าบอกว่า ปีนี้ ยอดขาย ของเอไอที จะสูงที่สุด ตั้ง แต่เปิด บริษัทมา

อ๊อด สั่งลุย
ภาพประจำตัวสมาชิก
jung_oh
Verified User
โพสต์: 734
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

miracle เขียน:Backlogของระบบ IT ต้องถามเรื่องความล่าช้าของงานประกอบด้วย
เนื่องจากเป็นงานโครงการ
หากปิดไม่ลงงานนี้ก็สนุกน่าครับ

:)
Project IT จะมีเรื่องความล่าช้าค่อนข้างสูงนะครับ (เท่าที่ผมประสบกับตัวเอง ประมาณ 80% ส่งงานช้า แต่จะโดนปรับหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตกลง แต่ที่แน่ๆ ได้เงินช้า)

ยิ่งถ้าเกีย่วกับงานราชการด้วย จะยิ่ง ช้าไปกันใหญ่

อย่าง ผมทำโปรเจ็คที่มีทั้ง software + Hardware ให้ราชการที่นึง

มันต้องเสร็จตั้งแต่ ปีที่แล้ว(ปี 50) แล้วครับ แต่นี่ ก็เลื่อน มาถึง ณ. ปัจจุบัน ไม่รู้จะยาวถึง ปีหน้าหรือป่าว

ส่วนเงิน ก็ยังเก็บได้ไม่ครบ Back log ก็ยังเป็น Back lock อยู่ ข้ามปีซะงั้น
shyklang
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 43
ผู้ติดตาม: 0

Update ข้อมูลจากการไป Visit AIT ครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ส่วนใหญ่ เอไอที ไม่ค่อยทำงาน ทางด้าน แอพพิเคชั่น ทำ ฮารด์ แวร์ กับ เนทเวรค์ เป็นหลัก แล้วเค้ายังมี แผนกบริหารความเสี่ยงอีก คือ ถ้า จะมีคนที่คอย ตรวจสอบว่า งาน ที่กำลังจะเข้าประมูล มีความเสี่ยงมากกว่า กำไรที่จะได้ ก็ จะไม่เข้า
โพสต์โพสต์