ช่วยสอนการลงทุนแบบ VI ให้ผมหน่อยเถอะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนการลงทุนแบบ VI ให้ผมหน่อยเถอะครับ
โพสต์ที่ 1
เดี๋ยวขอเกริ่นก่อน
ปกติแล้วผมเป็นพวกเล่นรอบครับ ไม่ถือยาวไป และสั้นไป
ผมจะเล่นรอบพวกหุ้น Blue-Chip ทั้งหลาย
แต่ตอนนี้อยากสยายปีก(แหมะ เท่ห์จริง ๆ คำนี้)มาที่ VI ครับ
แต่อ่านไปอ่านมา ก็ เ้ฮ้ออ งง :(
เท่าที่ผมเข้าใจเอาเอง
การลงทุนแบบ VI นั้นเราต้องเข้าไปดูตัวธุรกิจ
ซึ่งก็มีวิธีวัดมูลค่าหลายแบบ ทั้ง P/E ดูความถูกแพง
DCF เพื่อหาราคาที่เหมาะสม
และ Ratio ต่าง ๆ มากมาย
ตรงนี้ล่ะสำคัญ ที่ผมก็ค่อนข้างจะ งง และกลัว :(
จริง ๆ พวกนั้นมันก็คือ ตัวเลขที่บ่งบอกว่า บริษัทนี้ในปีที่ผ่าน ๆ มา เป็นบริษัทที่ดี แจ๋ว ทำกำไรได้
แต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่า ปีต่อ ๆ ไปนั้น...มันจะดี :?
แล้วงี้ควรทำไงอะครับ
อย่างตะกี๊ผมอ่านข่าว
CPN จะไปลงทุนในอินเดีย
TATA จะซื้อ นิคมอุสตาหกรรมจาก Hemraj
เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
ผมควรจะซื้อเลยทันทีมั้ยครับ?
ก็ไม่น่านะ เพราะก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะประสบควาสำเร็จ
แล้วตอนไหนควรจะซื้อครับ
ดูยังไง
ผมเข้าใจ VI พอไหวมั้ยครับ แล้วมีเรื่องไหนที่ควรจะแก้ รบกวนด้วยนะครับ
ปล ผมรู้สึกหวั่น ๆ ไงไม่รุ ถ้าต้องถือหุ้นยาวววววววววว
เพราะอนาคตมันไม่แน่นอนเหลือเกิน
เช่น ซื้อพัฒนาอสังหาเพราะคอนโดติดรถไฟฟ้าทุกทำเล
...มันก็ไม่แน่อีกเพราะการเมืองอาจจะทำใ้ห้ไม่มีรถไฟฟ้าก็ได้
แง้ว แล้วอันไหนคือหุ้นที่ควรซื้อล่ะ เพราะมันไม่แน่นอนจริง ๆ
ปกติแล้วผมเป็นพวกเล่นรอบครับ ไม่ถือยาวไป และสั้นไป
ผมจะเล่นรอบพวกหุ้น Blue-Chip ทั้งหลาย
แต่ตอนนี้อยากสยายปีก(แหมะ เท่ห์จริง ๆ คำนี้)มาที่ VI ครับ
แต่อ่านไปอ่านมา ก็ เ้ฮ้ออ งง :(
เท่าที่ผมเข้าใจเอาเอง
การลงทุนแบบ VI นั้นเราต้องเข้าไปดูตัวธุรกิจ
ซึ่งก็มีวิธีวัดมูลค่าหลายแบบ ทั้ง P/E ดูความถูกแพง
DCF เพื่อหาราคาที่เหมาะสม
และ Ratio ต่าง ๆ มากมาย
ตรงนี้ล่ะสำคัญ ที่ผมก็ค่อนข้างจะ งง และกลัว :(
จริง ๆ พวกนั้นมันก็คือ ตัวเลขที่บ่งบอกว่า บริษัทนี้ในปีที่ผ่าน ๆ มา เป็นบริษัทที่ดี แจ๋ว ทำกำไรได้
แต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่า ปีต่อ ๆ ไปนั้น...มันจะดี :?
แล้วงี้ควรทำไงอะครับ
อย่างตะกี๊ผมอ่านข่าว
CPN จะไปลงทุนในอินเดีย
TATA จะซื้อ นิคมอุสตาหกรรมจาก Hemraj
เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
ผมควรจะซื้อเลยทันทีมั้ยครับ?
ก็ไม่น่านะ เพราะก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะประสบควาสำเร็จ
แล้วตอนไหนควรจะซื้อครับ
ดูยังไง
ผมเข้าใจ VI พอไหวมั้ยครับ แล้วมีเรื่องไหนที่ควรจะแก้ รบกวนด้วยนะครับ
ปล ผมรู้สึกหวั่น ๆ ไงไม่รุ ถ้าต้องถือหุ้นยาวววววววววว
เพราะอนาคตมันไม่แน่นอนเหลือเกิน
เช่น ซื้อพัฒนาอสังหาเพราะคอนโดติดรถไฟฟ้าทุกทำเล
...มันก็ไม่แน่อีกเพราะการเมืองอาจจะทำใ้ห้ไม่มีรถไฟฟ้าก็ได้
แง้ว แล้วอันไหนคือหุ้นที่ควรซื้อล่ะ เพราะมันไม่แน่นอนจริง ๆ
- doodeemak
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนการลงทุนแบบ VI ให้ผมหน่อยเถอะครับ
โพสต์ที่ 4
มาแชร์ครับ...
แชร์ความเห็นส่วนตัวในส่วนของกลยุทธ์ที่ใช้ในปัจจุบันครับ ไม่รู้ว่าปล่อยไก่รึเปล่า ผมมีเกณฑ์การลงทุนส่วนตัวดังนี้ครับ
1. สามารถพยากรณ์อนาคตของธุรกิจได้ค่อนข้างแม่นยำ
2. สามารถประมาณการรายได้ รู้ว่ารายได้แปรผันกับปัจจัยอะไร และประมาณได้ค่อนข้างแม่นยำในแต่ละ Quarter
3. สามารถประมาณการค่าใช้จ่าย รู้ว่าปัจจัยใดที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายและประมาณได้ค่อนข้างแม่นยำในแต่ละ Quarter
4. ผู้บริหารไม่มีประวัติเสียหาย ตัวเลขการเงินในอดีตค่อนข้างน่าพอใจ
5. สามารถสร้าง Model การประมาณการงบการเงินแต่ละ Quarter ได้ค่อนข้างแม่นยำ โดยอาศัย Input เป็นปัจจัยต่างๆที่กระทบต่อรายได้และค่าใช้จ่าย
6. ตัดสินใจซื้อขายจากการประมาณราคาในใจโดยการนำเอา EPS ที่ได้ทั้งปีคูณกับ PE เฉลี่ยในอดีตของบริษัท เมื่อได้ราคาแล้ว ต่อราคาอีกอย่างน้อย 25%
ผม set criteria ให้เข้มๆเข้าไว้ ซึ่งสุดท้ายเลยอาจจะเหลือเพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถประมาณการทุกอย่างที่ว่ามาได้ข้างต้น เพราะว่าผมมีเวลาศึกษาบริษัทค่อนข้างจำกัด ซึ่งถ้าผมสามารถประมาณการทุกอย่าง 6 ข้อข้างบนได้ ผมก็ลงทุนแบบสบายใจดีน่ะครับ
ไม่รู้ว่าเป็นการลงทุนแบบ VI รึเปล่านะครับ :roll: :roll: :roll:
ปล. ในอดีตเคยใช้กลยุทธ์แบบนี้ครับ
1. ดูว่า ดร. นิเวศน์ซื้อหุ้นอะไร ดูงบคร่าวๆ ดู 56-1 ดู PE ว่าไม่เกิน 10-12 ถ้าถูกใจก็ซื้อโลด
2. ดูใน 59-2 ว่าหุ้นตัวไหนเจ้าของเริ่มเก็บในปริมาณเยอะๆ
3. กรองหุ้นโดยใช้ตัวเลขเชิงปริมาณพวก ROE, ROIC, Profit Margin แล้วอ่าน 56-1 ประกอบ ดู PE ว่าไม่เกิน 10-12 ถ้า ok ก็ซื้อโลด
4. เลือกหุ้นตามเซียน... อ่านจากที่เซียนโพสไว้ทั้งในห้องนี้และในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ประกอบกับอ่าน 56-1 ดู PE ว่าไม่เกิน 10-12 ถ้า ok ก็ซื้อโลด
แต่สุดท้ายก็ไม่สบายใจครับ เพราะว่าไม่รู้จักบริษัทดีพอ ไม่รู้ว่า PE ที่ถูกวันนี้จะแพงวันหน้ารึเปล่า
กรณีเลือกตามเซียน ก็ต้องคอยเข้ามา update ในร้อยคนร้อยหุ้นเสมอๆเพราะกลัวตกข่าว ทำให้เสียเวลาและไม่ค่อยสบายใจ
แชร์ความเห็นส่วนตัวในส่วนของกลยุทธ์ที่ใช้ในปัจจุบันครับ ไม่รู้ว่าปล่อยไก่รึเปล่า ผมมีเกณฑ์การลงทุนส่วนตัวดังนี้ครับ
1. สามารถพยากรณ์อนาคตของธุรกิจได้ค่อนข้างแม่นยำ
2. สามารถประมาณการรายได้ รู้ว่ารายได้แปรผันกับปัจจัยอะไร และประมาณได้ค่อนข้างแม่นยำในแต่ละ Quarter
3. สามารถประมาณการค่าใช้จ่าย รู้ว่าปัจจัยใดที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายและประมาณได้ค่อนข้างแม่นยำในแต่ละ Quarter
4. ผู้บริหารไม่มีประวัติเสียหาย ตัวเลขการเงินในอดีตค่อนข้างน่าพอใจ
5. สามารถสร้าง Model การประมาณการงบการเงินแต่ละ Quarter ได้ค่อนข้างแม่นยำ โดยอาศัย Input เป็นปัจจัยต่างๆที่กระทบต่อรายได้และค่าใช้จ่าย
6. ตัดสินใจซื้อขายจากการประมาณราคาในใจโดยการนำเอา EPS ที่ได้ทั้งปีคูณกับ PE เฉลี่ยในอดีตของบริษัท เมื่อได้ราคาแล้ว ต่อราคาอีกอย่างน้อย 25%
ผม set criteria ให้เข้มๆเข้าไว้ ซึ่งสุดท้ายเลยอาจจะเหลือเพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถประมาณการทุกอย่างที่ว่ามาได้ข้างต้น เพราะว่าผมมีเวลาศึกษาบริษัทค่อนข้างจำกัด ซึ่งถ้าผมสามารถประมาณการทุกอย่าง 6 ข้อข้างบนได้ ผมก็ลงทุนแบบสบายใจดีน่ะครับ
ไม่รู้ว่าเป็นการลงทุนแบบ VI รึเปล่านะครับ :roll: :roll: :roll:
ปล. ในอดีตเคยใช้กลยุทธ์แบบนี้ครับ
1. ดูว่า ดร. นิเวศน์ซื้อหุ้นอะไร ดูงบคร่าวๆ ดู 56-1 ดู PE ว่าไม่เกิน 10-12 ถ้าถูกใจก็ซื้อโลด
2. ดูใน 59-2 ว่าหุ้นตัวไหนเจ้าของเริ่มเก็บในปริมาณเยอะๆ
3. กรองหุ้นโดยใช้ตัวเลขเชิงปริมาณพวก ROE, ROIC, Profit Margin แล้วอ่าน 56-1 ประกอบ ดู PE ว่าไม่เกิน 10-12 ถ้า ok ก็ซื้อโลด
4. เลือกหุ้นตามเซียน... อ่านจากที่เซียนโพสไว้ทั้งในห้องนี้และในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ประกอบกับอ่าน 56-1 ดู PE ว่าไม่เกิน 10-12 ถ้า ok ก็ซื้อโลด
แต่สุดท้ายก็ไม่สบายใจครับ เพราะว่าไม่รู้จักบริษัทดีพอ ไม่รู้ว่า PE ที่ถูกวันนี้จะแพงวันหน้ารึเปล่า
กรณีเลือกตามเซียน ก็ต้องคอยเข้ามา update ในร้อยคนร้อยหุ้นเสมอๆเพราะกลัวตกข่าว ทำให้เสียเวลาและไม่ค่อยสบายใจ
Inactive investor
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 876
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนการลงทุนแบบ VI ให้ผมหน่อยเถอะครับ
โพสต์ที่ 6
แนะนำครับ
1. อ่านห้องคลังกระทู้คุณค่า ยิ่งเยอะยิ่งดี
2. อ่านกระทู้ตะแกรงร่อน
3. อ่านหนังสือเยอะๆ พวก Buffet, Lynch, Graham, ดร.นิเวศน์, รู้บัญชีมีประโยชน์
4. ถ้ามีงานสัมนาอย่างของ อ.มน ลงให้หมดทุกคอร์ส (ขอค่าโฆษณาด้วยนะพี่ :lol: )
จนความคิดตกผลึกเสียก่อนว่าคุณชอบการลงทุนแนวไหน Growth, ห่านทองคำ , ก้นบุหรี่ เข้าใจว่าแต่ละแนวทางแตกต่างกันอย่างไร วางแผนให้ดีๆ
เอาเงินมาลงทุนซัก 10% ก่อน หาหุ้นด้วยตัวเอง ตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าซื้อเพราะอะไร มูลค่ามันอยู่ที่ตรงไหน ทำไมมันถึงถูก
ค่อยๆประเมิณผลงานตัวเอง ให้เวลากับหุ้นที่เราเลือก ดูว่ามันเป็นอย่างที่เราวิเคราะห์หรือไม่ แล้วก็ค่อยๆปรับปรุงไปเรื่อยๆ ศึกษาเพิ่มไปเรื่อยๆ มั่นใจว่ามีความรู้พอแล้วค่อยลงทุนเต็มพอร์ท
หวังว่าจะช่วยได้นะครับ
1. อ่านห้องคลังกระทู้คุณค่า ยิ่งเยอะยิ่งดี
2. อ่านกระทู้ตะแกรงร่อน
3. อ่านหนังสือเยอะๆ พวก Buffet, Lynch, Graham, ดร.นิเวศน์, รู้บัญชีมีประโยชน์
4. ถ้ามีงานสัมนาอย่างของ อ.มน ลงให้หมดทุกคอร์ส (ขอค่าโฆษณาด้วยนะพี่ :lol: )
จนความคิดตกผลึกเสียก่อนว่าคุณชอบการลงทุนแนวไหน Growth, ห่านทองคำ , ก้นบุหรี่ เข้าใจว่าแต่ละแนวทางแตกต่างกันอย่างไร วางแผนให้ดีๆ
เอาเงินมาลงทุนซัก 10% ก่อน หาหุ้นด้วยตัวเอง ตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าซื้อเพราะอะไร มูลค่ามันอยู่ที่ตรงไหน ทำไมมันถึงถูก
ค่อยๆประเมิณผลงานตัวเอง ให้เวลากับหุ้นที่เราเลือก ดูว่ามันเป็นอย่างที่เราวิเคราะห์หรือไม่ แล้วก็ค่อยๆปรับปรุงไปเรื่อยๆ ศึกษาเพิ่มไปเรื่อยๆ มั่นใจว่ามีความรู้พอแล้วค่อยลงทุนเต็มพอร์ท
หวังว่าจะช่วยได้นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนการลงทุนแบบ VI ให้ผมหน่อยเถอะครับ
โพสต์ที่ 7
มาเสริมพี่หนึ่งครับ
อย่าลืม วินัยทางอารมณ์ด้วยนะครับ
ศึกษาธรรมะไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะใช้ได้กับทั้งชีวิตประจำวัน และอนาคตครับผม
มีความสุขกับการลงทุนนะครับ :D
อย่าลืม วินัยทางอารมณ์ด้วยนะครับ
ศึกษาธรรมะไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะใช้ได้กับทั้งชีวิตประจำวัน และอนาคตครับผม
มีความสุขกับการลงทุนนะครับ :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ