เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
วันนี้ Mr. market มาฉีกแบงค์ขายให้กระผม ผมตัดสินใจไม่ถูกเลย ดูแล้วๆ มูลค่าที่แท้จริงของแบงค์แต่ละใบเป้นเท่าไร ใครรู้ช่วยทีครับ
1. เขาเอาแบงค์ 20 บาท ฉีกออกเป้นสองท่อน ขายใบละ 10 บาท
2. เขาฉีกแบงค์ 100 ขายใบละ 50 บาท
3. เขาฉีกแบงค์ 500 ฉีกเป็นสองท่อน ขายใบละ 250
4. เขาฉีกแบงค์ 1000 ออกเป็นสองท่อน ขาย 500
** บ้านกระผมอยู่ลาดพร้าว 71 คำนวณมูลค่าที่แท้จริงของแบงค์แต่ละใบแล้ว ควรเลือกข้อไหนดี
1. เขาเอาแบงค์ 20 บาท ฉีกออกเป้นสองท่อน ขายใบละ 10 บาท
2. เขาฉีกแบงค์ 100 ขายใบละ 50 บาท
3. เขาฉีกแบงค์ 500 ฉีกเป็นสองท่อน ขายใบละ 250
4. เขาฉีกแบงค์ 1000 ออกเป็นสองท่อน ขาย 500
** บ้านกระผมอยู่ลาดพร้าว 71 คำนวณมูลค่าที่แท้จริงของแบงค์แต่ละใบแล้ว ควรเลือกข้อไหนดี
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
ข้อ 2 ครับ
เขาฉีกแบงค์ 100 ขายใบละ 50 บาท
ไม่ได้บอกว่า ฉีกเป็นสองท่อน ฉะนั้นมันยังอยู่ครบ
มูลค่า 100 บาทเหมือนเดิม กำไร 50 บาทครับ :lol:
เขาฉีกแบงค์ 100 ขายใบละ 50 บาท
ไม่ได้บอกว่า ฉีกเป็นสองท่อน ฉะนั้นมันยังอยู่ครบ
มูลค่า 100 บาทเหมือนเดิม กำไร 50 บาทครับ :lol:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
โพสต์ที่ 4
ขึ้นอยู่กะว่า ฉีกสองท่อน ถ้าเอาต่อกันสนิทได้ แล้วแบงค์บอกว่ารับได้ตามกฏหมาย
ต้องเลือกแบงค์พันค่ะ
เพราะทุกข้อ ไม่ว่าจะจ่ายออกไป 10 บาท หรือ 500 แต่ส่วนนี้ได้คืนแน่ๆ เงินในกระเป๋าของเก่าเท่าเดิม
แต่ข้อ 4 เงินจะเพิ่มขึ้นมากำไรเฉยๆ 500 บาท
เยอะสุด เหอเหอ
:lol:
แต่คำถามกำกวมนะคะ แบ่บ ฉีกออกเป็นสองท่อน ขายใบละ..
คือ ไม่รู้ว่าฉีกออกเป็นสองท่อนนี่นับเป็นสองใบ แล้วขายใบละ.. หรือยังไง :lol:
ถ้านับงี้ก็...
อยู่ที่ว่าข้อสี่ นับว่าฉีกสองท่อนแล้วนับเป็นสองใบ หรือไง เพราะบอกแค่ขาย 500 เฉยๆ
แต่ข้อสองนี่ ฉีกเฉยๆ ไม่เป็นสองท่อน ดังนั้นขายใบละร้อยที่ฉีกไม่ขาดสองท่อน ในราคา 50 แน่นอน ...ก็ต้องควรเลือกข้อนี้
แต่ถ้าข้อสี่ ขายเหมาสองท่อน 500 ต้องขอดูสภาพสองท่อนก่อนว่าต่อสนิทมั้ย
เพราะเคยเห็นแบงค์บางทีที่ถูกฉีกขาดเขาเอา สก๊อตช์เทปใสมาแปะต่อกันสนิท ก็ยังเห็นว่าใช้ได้ เช่นพวกใบที่ขาดสองท่อนตรงมุมๆ เห็นบ่อยว่ามีต่อแปะกัน
:lol: คำถามไรเนี่ย รอฟังคำตอบค่ะ
ต้องเลือกแบงค์พันค่ะ
เพราะทุกข้อ ไม่ว่าจะจ่ายออกไป 10 บาท หรือ 500 แต่ส่วนนี้ได้คืนแน่ๆ เงินในกระเป๋าของเก่าเท่าเดิม
แต่ข้อ 4 เงินจะเพิ่มขึ้นมากำไรเฉยๆ 500 บาท
เยอะสุด เหอเหอ
:lol:
แต่คำถามกำกวมนะคะ แบ่บ ฉีกออกเป็นสองท่อน ขายใบละ..
คือ ไม่รู้ว่าฉีกออกเป็นสองท่อนนี่นับเป็นสองใบ แล้วขายใบละ.. หรือยังไง :lol:
ถ้านับงี้ก็...
อยู่ที่ว่าข้อสี่ นับว่าฉีกสองท่อนแล้วนับเป็นสองใบ หรือไง เพราะบอกแค่ขาย 500 เฉยๆ
แต่ข้อสองนี่ ฉีกเฉยๆ ไม่เป็นสองท่อน ดังนั้นขายใบละร้อยที่ฉีกไม่ขาดสองท่อน ในราคา 50 แน่นอน ...ก็ต้องควรเลือกข้อนี้
แต่ถ้าข้อสี่ ขายเหมาสองท่อน 500 ต้องขอดูสภาพสองท่อนก่อนว่าต่อสนิทมั้ย
เพราะเคยเห็นแบงค์บางทีที่ถูกฉีกขาดเขาเอา สก๊อตช์เทปใสมาแปะต่อกันสนิท ก็ยังเห็นว่าใช้ได้ เช่นพวกใบที่ขาดสองท่อนตรงมุมๆ เห็นบ่อยว่ามีต่อแปะกัน
:lol: คำถามไรเนี่ย รอฟังคำตอบค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
ตอบข้อ 4 ครับ
ข้อแรก fair ในราคาครับ แต่ไปขาดทุนเอาตอนค่าเดินทางไปแลก
ข้อสอง ฉีกนี่อาจจะไม่ได้ฉีกแยกเป็นส่วนก็ได้ หรืออาจจะฉีกแยกเป็นสิบส่วนเลยก็ได้
ข้อสามเหมือนข้อแรกครับ
เลือกข้อสี่ เพราะตีความได้ว่า เขาฉีกออกเป็นสองท่อน แล้วขายทั้งสองท่อนในราคา 500
ข้อแรก fair ในราคาครับ แต่ไปขาดทุนเอาตอนค่าเดินทางไปแลก
ข้อสอง ฉีกนี่อาจจะไม่ได้ฉีกแยกเป็นส่วนก็ได้ หรืออาจจะฉีกแยกเป็นสิบส่วนเลยก็ได้
ข้อสามเหมือนข้อแรกครับ
เลือกข้อสี่ เพราะตีความได้ว่า เขาฉีกออกเป็นสองท่อน แล้วขายทั้งสองท่อนในราคา 500
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
โพสต์ที่ 7
ข้อที่ 1 ขาย 20 บาท
ข้อที่ 2 ไม่รู้ เพราะไม่รู้ว่าฉีกออกมากี่ชิ้น
ข้อที่ 3 ขาย 500 บาท
ข้อที่ 4 ขาย 500 เท่าข้อ 3
แต่จะขายราคาเท่าไหร่ก็คงไม่มีความหมาย
เพราะในอนาคตผมไม่รู้ว่าจะมีคนมารับซื้อแบงค์ชำรุดอย่างที่ต้องการจะขายจริงๆ หรือเปล่า..?
ข้อที่ 2 ไม่รู้ เพราะไม่รู้ว่าฉีกออกมากี่ชิ้น
ข้อที่ 3 ขาย 500 บาท
ข้อที่ 4 ขาย 500 เท่าข้อ 3
แต่จะขายราคาเท่าไหร่ก็คงไม่มีความหมาย
เพราะในอนาคตผมไม่รู้ว่าจะมีคนมารับซื้อแบงค์ชำรุดอย่างที่ต้องการจะขายจริงๆ หรือเปล่า..?
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกข้อไหนดี ช่วยหน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
ขอมาลอกคำตอบจากทุกท่านครับ ความคิดดี ๆ กันทั้งนั้นเลยครับ
เรื่องโจทย์ฉีกแบงค์คิดได้ตอนที่ไปจองโรมแรมงาน thailand sales โรงแรมนั้นมัน first class มากในความคิดเรา เขามีภาพให้ดู โห....สวยๆ สมองมันคำนวณหา face value มาเสร็จสรรพ มาดูราคาแล้ว คุ้มๆ ..อย่างนี้จองเลย แล้วซื้อมาในราคา Third class ด้วย คือ คิดว่าตัวเองซือของ grade A ได้ ในราคา grade C โห....เท่มากเลย ตอนนั้นคิดอย่างนี้ แต่พอไปแล้ว ตอนหลังมารู้ว่าที่เรามองนั้นมันผิดหมดเลย รอบ ๆ โรงแรมเหมือนเขาไปเบียดที่ชาวบ้านเพื่อสร้าง resort มองไปข้างหลังเต็มไปด้วยบ้านคนอื่นเต็มไปหมด แล้วจ้องมาที่เรา เหมือนเรามาทำความลำบากให้เขา ต้องมองไปข้างหน้าอย่างเดียว มองไปเป็นเขา เป็นน้ำ มันสวยมาก มองข้างหลังไมได้ มันคนละภาพเลย ต้องมองไปข้างหน้า ที่นี่พอไปเข้าห้อง มันเป็นแพ มันก้แกว่งตลอดตามคลื่นลม ข้างบน มีหลังคามุง แต่หน้าจั่วมันมีช่องให้ลมเข้า เย้นดี แต่ยุงมันมาขออยู่ด้วย ยุงเต็มไปหมด เขาเอามุ้งมาให้ ผมนอนแล้วเงยหน้าขึ้นไป มันนอนไมได้จริงๆ เหมือนเข้าห้องน้ำ แล้ว ผนังด้านข้างมันปิดไม่หมด ราคาข้าว ส้มตำปูจานละ 120 แล้วเราไม่มีทางเลือกเลย เรื่อง management เหมือนกับว่า เราต้องพึ่งเขาทุกอย่าง ไม่ขอก็ไม่ให้ ขออะไรก็จะบวกผมตลอด เขาขายห้องพักถูก แต่มาบวกค่าอาหาร ค่าอย่างอื่นเราอีกบาน ผมเข้าเที่ยง บ่าย 3 เช๊คออกเลย
งานนี้มันกลายเป้นว่าเรามาซือห้องพัก grade C ในราคา grade A มาด้วยซ้ำ คือ ซื้อหุ้นไม่ดีมา ในราคาที่แพง
และแพงเพราะ management ด้วย เราไมได้คิดตอนแรกว่า management มันคิดเป้น cost ได้
management cost นี่ละครับ ทำผมเจ็บปวดจริงๆ
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า ของที่มีคุณภาพที่ดี แตราคาแพงหน่อย ผมยอมจ่ายดีกว่าครับ ถ้าเป็น good business ก็ต้องมี good management ด้วย
-----------
เรื่องโจทย์ฉีกแบงค์คิดได้ตอนที่ไปจองโรมแรมงาน thailand sales โรงแรมนั้นมัน first class มากในความคิดเรา เขามีภาพให้ดู โห....สวยๆ สมองมันคำนวณหา face value มาเสร็จสรรพ มาดูราคาแล้ว คุ้มๆ ..อย่างนี้จองเลย แล้วซื้อมาในราคา Third class ด้วย คือ คิดว่าตัวเองซือของ grade A ได้ ในราคา grade C โห....เท่มากเลย ตอนนั้นคิดอย่างนี้ แต่พอไปแล้ว ตอนหลังมารู้ว่าที่เรามองนั้นมันผิดหมดเลย รอบ ๆ โรงแรมเหมือนเขาไปเบียดที่ชาวบ้านเพื่อสร้าง resort มองไปข้างหลังเต็มไปด้วยบ้านคนอื่นเต็มไปหมด แล้วจ้องมาที่เรา เหมือนเรามาทำความลำบากให้เขา ต้องมองไปข้างหน้าอย่างเดียว มองไปเป็นเขา เป็นน้ำ มันสวยมาก มองข้างหลังไมได้ มันคนละภาพเลย ต้องมองไปข้างหน้า ที่นี่พอไปเข้าห้อง มันเป็นแพ มันก้แกว่งตลอดตามคลื่นลม ข้างบน มีหลังคามุง แต่หน้าจั่วมันมีช่องให้ลมเข้า เย้นดี แต่ยุงมันมาขออยู่ด้วย ยุงเต็มไปหมด เขาเอามุ้งมาให้ ผมนอนแล้วเงยหน้าขึ้นไป มันนอนไมได้จริงๆ เหมือนเข้าห้องน้ำ แล้ว ผนังด้านข้างมันปิดไม่หมด ราคาข้าว ส้มตำปูจานละ 120 แล้วเราไม่มีทางเลือกเลย เรื่อง management เหมือนกับว่า เราต้องพึ่งเขาทุกอย่าง ไม่ขอก็ไม่ให้ ขออะไรก็จะบวกผมตลอด เขาขายห้องพักถูก แต่มาบวกค่าอาหาร ค่าอย่างอื่นเราอีกบาน ผมเข้าเที่ยง บ่าย 3 เช๊คออกเลย
งานนี้มันกลายเป้นว่าเรามาซือห้องพัก grade C ในราคา grade A มาด้วยซ้ำ คือ ซื้อหุ้นไม่ดีมา ในราคาที่แพง
และแพงเพราะ management ด้วย เราไมได้คิดตอนแรกว่า management มันคิดเป้น cost ได้
management cost นี่ละครับ ทำผมเจ็บปวดจริงๆ
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า ของที่มีคุณภาพที่ดี แตราคาแพงหน่อย ผมยอมจ่ายดีกว่าครับ ถ้าเป็น good business ก็ต้องมี good management ด้วย
-----------