Diversification VS Focus

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
Ongsa
Verified User
โพสต์: 135
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อยากทราบว่าพี่ๆและเพื่อนๆแต่ละท่านใช้หลักอะไรในการลงทุนบริหาร Portfolio ของตัวเอง แล้วประสบความสำเร็จ
ระหว่างการกระจายการลงทุน(Diversification) ในหุ้นหลายตัว กับ การเน้นหรือให้น้ำหนักไปที่หุ้นจำนวนน้อยตัว (Focus) เช่น 1-2 ตัว

ที่สงสัยเพราะเห็นบางท่านประสบความสำเร็จจากการลงทุนเน้นเพียงไม่กี่ตัว แต่บางท่านอย่าง ดร.นิเวศน์(ขออภัยที่เอ่ยนามครับ) ก็ประสบความสำเร็จเหมือนกันแต่ถือเป็นสิบตัว
เลยอยากให้พี่ๆให้คำแนะนำแนวทางสำหรับมือใหม่ครับ

:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 2

โพสต์

โดยส่วนตัวผมแล้ว เลือกมาตัวที่ผมสามารถเข้าใจมันได้ดี ตอนนี้อาจมีแค่สองสามตัว ต่อไปถ้ามากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี ผมคิดว่าถ้าคุณมีเงินไม่มากนัก แล้วถือหลายๆตัว อาจทำให้ผลตอบแทนที่ได้น้อยเกินไป ก็เป็นสิ่งที่จริงอยู่ แต่คุณอาจจะพอใจกับผลตอบแทนที่ได้คำนวณไว้ก่อนแล้ว ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ส่วนตัวผมเอง ก็วิเคราะห์หุ้นหลายตัวทีเดียว แต่เงินยังมีไม่มาก คงเลือกตัวที่สามารถจะซื้อได้ และซื้อไว้ ต่อไปอาจเป็นสิบตัวก็ได้ ถ้ามันยังดีอยู่ ดังนั้นการกระจายหรือเน้น คงอยู่ที่ตัวเรามากกว่า ว่ามีเวลาในการติดตามข้อมูลต่างๆได้ครบถ้วนมากน้อยกี่ตัวครับ
Expecto Patronum!!!!!!
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 3

โพสต์

สำหรับพอร์ตของรายย่อย (อย่างเราๆ)

ผมเห็นว่า ควรกระจายการลงทุนไปในหุ้นหลายๆ อุตสาหกรรม สักประมาณ 4-6 ตัว น่าจะกำลังดีครับ

เหตุผล

- ถ้า Focus แค่ 1 หรือ 2 ตัว เหมาะกับการลงทุนทำกิจการเองมากกว่า เพราะเรารู้ลึกรู้จริง (เหมือนที่โบราณว่า รู้กระจ่างเพียงอย่างเดียวแต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล) แต่ผมคิดว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มันมีข้อจำกัดบางประการ ที่ทำให้เราทราบข้อมูลของแต่ละบริษัทที่เข้าไปลงทุนอยู่เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ทำให้การลงทุนแบบ Focus เสี่ยงเกินไป

- แต่หากกระจายการลงทุนมากเกินไป เช่น 10-20 ตัว ก็จะเกินความสามารถของเราในการติดตามข้อมูลของแต่ละบริษัท รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นด้วย

*** ในการลงทุน ให้ใช้หลักการว่า ลงทุนด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุดครับ ***
Ongsa
Verified User
โพสต์: 135
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณสำหรับความเห็นจากคุณ Harry และ Financial Engineer ครับ
ผมเองก็ถือหุ้นจำนวนเท่ากับที่คุณ Financial Engineer แนะนำคือ 4-6 ตัวตลอด เพราะเห็นว่าหากถือมากไป เกรงจะดูแลไม่ไหวครับ
แต่แหมตลาดช่วงนี้ชวนให้อยากถือเพิ่มอีกหลายตัวจริงๆครับ 55
:D
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Ongsa เขียน:ขอบคุณสำหรับความเห็นจากคุณ Harry และ Financial Engineer ครับ
ผมเองก็ถือหุ้นจำนวนเท่ากับที่คุณ Financial Engineer แนะนำคือ 4-6 ตัวตลอด เพราะเห็นว่าหากถือมากไป เกรงจะดูแลไม่ไหวครับ
แต่แหมตลาดช่วงนี้ชวนให้อยากถือเพิ่มอีกหลายตัวจริงๆครับ 55
:D
ถ้าอยากซื้อหุ้นเพิ่ม ผมแนะนำอย่างนี้ครับ

ในแต่ละสภาวะของตลาด เราต้องวิเคราะห์ก่อนว่า ตอนนี้ สถานการณ์รอบด้านอย่างนี้ เราควรถือหุ้นกี่ % ของพอร์ต (หากช่วงไหนมั่นใจมากว่าเป็นกระทิง ก็ถือหุ้นมากหน่อย หากไม่มั่นใจก็ถือหุ้นน้อยหน่อย)

จากนั้นจึงค่อยลงมาดูรายตัว ว่า ณ ราคาหุ้นแต่ละตัวเท่านี้ เราควรถือหุ้นแต่ละตัวเป็นสัดส่วนมากน้อยเท่าไร ซึ่งก็ขึ้นกับความรู้และความมั่นใจในหุ้นแต่ละตัวของเรานั่นแหละครับ

การลงทุน หลักสำคัญอยู่ที่ "ความไม่เสี่ยง" และ "ความมีวินัย" ครับ

ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 6

โพสต์

คำแนะนำที่ผมใช้อยู่กับตัวเอง คือศึกษาหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะได้ แล้วก็คำนวณให้ได้ราคา ผลตอบแทน และอื่นๆตามที่เราต้องการและพอใจ จากนั้นก็ลองมาสอบถามกับพี่ๆในนี้หลายท่านเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมลูกหลานพระเจ้าตากครับ เน้นๆเนื้อๆ 4-5บริษัทพอดูแลไหวมากกว่านั้นม่ายหวาย
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เฮ้อ มีหุ้นตั้งเกือบ 20 ตัวแนะ มั่วจริงๆ เลยปีนี้เรา :oops: :cry:
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
edd
Verified User
โพสต์: 325
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เมื่อก่อนเคยถือสูงสุด 10 ตัว ดูแลไม่ค่อยไหว ตอนนี้มี ุ6 ตัว กำลังจีบอีก 1 ตัว แต่จีบไม่เคยติดเลย ถ้าจีบได้คงมี 7 ตัว แล้วก็เงินหมดพอดีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Muffin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 874
ผู้ติดตาม: 0

ของผม 12 ตัวครับ จะลดเหลือ 8

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เฮ้อ..ของผม 12 ตัวครับ 4 sector จะลดเหลือ 8 แล้ว ดูไม่ไหว
ไหนจะหุ้นที่พอร์ทในอเมริกาอีก 4 ตัว

มั่วกว่า :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ekasith
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 11

โพสต์

Peter Lynch แนะนำว่ารายย่อยๆ แบบเราน่าจะถือหุ้นประมาณ 5 ตัวครับ
sing
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 6
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เราถืออยู่ 19 ตัว รักพี่เสียดายน้อง , 4-5 ตัวคิดเก็งกำไรก็เลยติดสูง แต่ส่วนใหญ่ก็พืนฐานดีมีปันผล แต่ดูไม่ทันนะ คิดว่าจะลดเป็น 5-6 ตัว บางส่วนก็ไปลงกองทุนหุ้นแทน เล่นใหม่ๆจะใจร้อนเชื่อโบรกอยากได้ตัวไหนก็มักจะเอาเลยก็ได้ของแพงไป ต่อมาเริ่มเรียนรู้ใจเย็นลง กำลังพยายามฝึกดูผลประกอบการ/แนว vi /แนวทางจากที่นี่+ของโบรกด้วย ลงทุนมา 6-7 moก็เอากำไรออกไปแล้ว 6-7% port ที่เหลือถ้าขายหมดก็ได้ 10% แต่คิดว่าจะค่อยๆศึกษาและลงทุนต่อไป
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ถ้าเราวิเคราะห์ให้ลึกๆ เราก็จะสามารถบอกได้ว่าบริษัทไหนน่าลงทนที่สดครับ ซึ่งจะทำให้เราลงทนในจำนวนห้นที่ไม่มากนัก และถ้าการวิเคราะห์ของเราแม่นยำพอ เราก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ และเราก็จะลงทนอย่างสบายใจครับ

ผมไม่เคยลงทนเกิน 4 บริษัทเลยครับ ถ้าคณลงทนหลายบริษัท สัดส่วนในการลงทนของแต่ละบริษัทก็จะน้อย ห้นขึ้นเป็นเท่าตัว Port คณก็เพิ่มไม่มากครับ ถ้าลงทนมากบริษัทก็เหมือนกับลงทน SET ครับ โอกาสที่ PORT คณจะเพิ่มขึ้นมากๆก็ต้องพึ่งดัชนีพ่งแบบปีก่อนละครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 14

โพสต์

การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง (ที่มากเกินไป)
มีโอกาสมากที่หุ้นที่ถือตัวใดตัวหนึ่ง ราคาจะถีบตัวสูงขึ้นมาก
แต่ในทางกลับกัน ก็มีโอกาสมากที่ตัวใดตัวหนึ่งจะมีราคาลดลงมากเช่นกัน
หักกลบกันแล้ว ผลตอบแทนรวมจะไม่สูงมากครับ

แต่การลงทุนแบบ focused เน้นถือ 4-5 ตัว
ก็มีความเสี่ยงมาก หากหุ้นที่เราถือไม่ได้ดีอย่างแท้จริง
(เราวิเคราะห์แล้ว คิดว่าเป็นหุ้นดี แต่พอเวลาผ่านไป ผลประกอบการไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด)
ดังนั้นหากถือน้อยตัว เราควรมั่นใจ และมีความรู้ในการวิเ้คราะห์พอสมควรครับ.. :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 15

โพสต์

คุณ_ลูกอีสาน wrote:
การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง (ที่มากเกินไป)
มีโอกาสมากที่หุ้นที่ถือตัวใดตัวหนึ่ง ราคาจะถีบตัวสูงขึ้นมาก
แต่ในทางกลับกัน ก็มีโอกาสมากที่ตัวใดตัวหนึ่งจะมีราคาลดลงมากเช่นกัน
หักกลบกันแล้ว ผลตอบแทนรวมจะไม่สูงมากครับ

แต่การลงทุนแบบ focused เน้นถือ 4-5 ตัว
ก็มีความเสี่ยงมาก หากหุ้นที่เราถือไม่ได้ดีอย่างแท้จริง
(เราวิเคราะห์แล้ว คิดว่าเป็นหุ้นดี แต่พอเวลาผ่านไป ผลประกอบการไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด)
ดังนั้นหากถือน้อยตัว เราควรมั่นใจ และมีความรู้ในการวิเ้คราะห์พอสมควรครับ..
รับทราบขอรับกระผม จะรีบขายทิ้งพวกเด็กๆ ที่ซื้อมาเล่นๆ ลองวิชาเดี๋ยวนี้ขอรับ

อิอิ

คุณลูกอีสานนี่อยู่จังหวัดไหนในอีสานเหรอครับ แฟนผมเค้าโตเมืองอุดรนะ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
Joey
Verified User
โพสต์: 59
ผู้ติดตาม: 0

Diversification VS Focus

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ต้นปีที่แล้วถือประมาณ 30 ตัว หลังจากไปงาน TVI meeting ฟังคุณวิบูลย์แล้ว ก็พยายามจะโฟกัสลดจำนวน ลดไปลดมาตอนนี้มี 40 ตัว (ขายตัวไม่ดีทิ้ง แต่อดใจซื้อตัวใหม่เพิ่มไม่ได้ซักที) ติดอยู่ 4-5 ตัว, ถือมากกว่าปีประมาณสัก 10 ตัว
สงสัยจะวิเคราะห์ไม่ลึกพอ เลยไม่กล้าทุ่ม เห็นหลายตัวมันดีไปหมด

ผลตอบแทนก็สม่ำเสมอดีครับ ไม่ค่อยหวือหวามากตาม SET Index

ปีนี้จะพยายามลดให้ได้ครึ่งหนึ่ง น่าจะได้ผลตอบแทนดีขึ้นนะ
ล็อคหัวข้อ