NOPAT ?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
hardchi
Verified User
โพสต์: 346
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถามหน่อยครับเรื่องการหา NOPAT เพราะว่าตามสูตรนั้นหาได้ทั้งสองสูตร

1. EBIT *(1-Tax)
2. NI +  Interest expense  - after tax Interest Income

แต่ในความเป็นจริงคิดสองวิธีนี้ไม่เคยได้ NOPAT ที่เท่ากันเลยสักครั้ง เลยอยากถามว่ามีใครใช้วิธีใหนมากกว่ากันครับ เห็นในหนังสือคุณสุมาอี้ใช้วิธีที่ 2.
.....โลกนี้ยังมีอันใดเร้าใจกว่าชีวิตผู้คน และความหมายของชีวิตเกิดจากประสบการณ์และช่วงเวลาอันเร้าใจ ......
.....สำเร็จล้มเหลวไม่สำคัญ ขั้นตอนของการต่อสู้ดิ้นรนจึงเร้าใจที่สุด ......
ภาพประจำตัวสมาชิก
hardchi
Verified User
โพสต์: 346
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่มีใครช่วยตอบเลยเหรอครับเนี่ย
.....โลกนี้ยังมีอันใดเร้าใจกว่าชีวิตผู้คน และความหมายของชีวิตเกิดจากประสบการณ์และช่วงเวลาอันเร้าใจ ......
.....สำเร็จล้มเหลวไม่สำคัญ ขั้นตอนของการต่อสู้ดิ้นรนจึงเร้าใจที่สุด ......
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ที่ผมเรียนมาผมใช้ NOPLAT ครับ (Net Operating Profit Less Adjusted Tax)

เอา Operating Profit มาลบกับ cashed tax ครับ เนื่องจากจะคิดเฉพาะเงินสดที่จ่ายภาษีครับ
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมว่ามันเท่ากันนะครับ

after tax interest ในสูตรที่สองน่าจะเป็น after tax interest expense นะครับ เป็นการมองว่าการมีหนี้จะทำให้เราสามารถลดส่วนของการจ่ายภาษีได้เท่าไหร่

ลองดูตัวอย่างจริง เอางบของ TCB ก็ได้ครับ เพิ่งออกสดๆ ร้อนๆ ของไตรมาสสองปีนี้ครับ

กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้นิติบุคคล (EBIT) =  453,405.00 (พัน) บาท (เงินทั้งหมดเป็น พันบาท)
ดอกเบี้ยจ่าย 6,237.00 บาท
ภาษีเงินได้นิติบุคคล 44,224.00 บาท
กำไรสุทธิ คือ  402,944 บาท
อัตราภาษีก็ต้องเอา ส่วนของการเสียภาษี/(EBIT - ดอกเบี้ยจ่าย) คือ ประมาณ 10% = 44224/(453405-6237)ครับ

NOPAT แบบที่ 1 = EBIT * (1-Tax rate)
 = 453405 * (1-0.1) =  408,564.17 บาท
NOPAT แบบที่ 2 = NI + interest expense - after tax interest expense
 =  402944 + 6237 - (6237 * 10%)
 = 408,564.17 บาท

เท่ากันครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
Verified User
โพสต์: 1141
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="ayethebing"]ผมว่ามันเท่ากันนะครับ

after tax interest ในสูตรที่สองน่าจะเป็น after tax interest expense นะครับ เป็นการมองว่าการมีหนี้จะทำให้เราสามารถลดส่วนของการจ่ายภาษีได้เท่าไหร่

ลองดูตัวอย่างจริง เอางบของ TCB ก็ได้ครับ เพิ่งออกสดๆ ร้อนๆ ของไตรมาสสองปีนี้ครับ

กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้นิติบุคคล (EBIT) =
Timing is everything, no matter what you do.

CAGR of 34% in the past 15 years of investment
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 6

โพสต์

NOPLAT เท่ากับ NOPAT ครับ (ทำมัยต้องมีสองศัพท์ให้เรางงเล่นเนี่ย) เป็นผลลัพท์จากการดำเนินงานที่ตัดเอาปัจจัยจากโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ก็คือหนี้มากหนี้น้อยไม่มีส่วนกับการดำเนินงาน (ยกเว้น tax shield ที่เกิดจาก interest expense นั่นเองที่ต้องเอามาคำนวณกลับเข้าไป)

ถ้าเอา NOPAT ไปลบจากต้นทุนทางการเงินก็ได้ Economic add valued ของกิจการแล้วครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hardchi
Verified User
โพสต์: 346
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณมากครับ คุณ ayethebing
พอดีผมไปเอาอัตราภาษีของบริษัทมาใช้เลย โดยไม่ได้ดูว่ามีรายละเอียดข้างในอีก ทำให้อัตราภาษีเป็นค่าเฉลี่ย อย่างงี้ ใช้วิธีที่ 2 น่าจะง่ายกว่าใช้มั้ยครับ
.....โลกนี้ยังมีอันใดเร้าใจกว่าชีวิตผู้คน และความหมายของชีวิตเกิดจากประสบการณ์และช่วงเวลาอันเร้าใจ ......
.....สำเร็จล้มเหลวไม่สำคัญ ขั้นตอนของการต่อสู้ดิ้นรนจึงเร้าใจที่สุด ......
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

NOPAT ?

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อัตราภาษีของบริษัทมันซับซ้อนครับ เพราะมีทั้ง BOI ไม่ BOI อัตราภาษีไม่เท่ากันในบริษัทเดียวกันอีกต่างหาก งงครับ

ถนัดแบบไหนใช้แบบนั้นครับ

ลองดูค่าอะไรหนุกๆ อีกตัวคือ ROIC (Return on Invested capital) ครับ

ROIC = NOPAT/Invested capital

       = (Revenue - Costs)/Invested capital
       = (Revenue - Costs)/revenue/Invested capital/revenue

       = (1 - Costs/Revenue)*Capital turnover
       = Operating margin*capital Turnover

แปลว่าการทำให้มูลค่าของกิจการเพิ่มขึ้นทำได้จากการเพิ่ม margin และการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพครับ

เอาเจ้า ROIC ไปลบกับ WACC แล้วไปคูณ invested capital ก็ได้ Economic value add เหมือนกัน
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
โพสต์โพสต์