ผมเห็นด้วยกับ ดร.นิเวศน์ ที่ว่า....

[nita]

"ผมชอบภาวการณ์ซื้อขายหุ้นที่เงียบเหงานั้นเป็นเพราะในภาวะอย่างนั้นมักจะมี หุ้นดีราคาถูก มากกว่าปกติ การซื้อหุ้นก็ง่าย หลายครั้งเราเป็นคนที่เสนอซื้ออยู่คนเดียว การรวบรวมหุ้นที่ดีเยี่ยมให้ได้จำนวนมากทำได้ง่ายกว่าในช่วงที่ตลาดคึกคักซึ่งมักจะมีคนมา แย่งซื้อ ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนในอนาคตของเราต่ำลง"

ใครมีความเห็นอย่างไร ขอเชิญร่วมวงอภิปราย ให้เกิดความรู้ขึ้นในวงกว้าง ขอรับ จะได้เกิดประโยชน์สูงสุด

nita

[Solo]

มีความเห็นเช่นเดียวกันครับ

[chatchai]

ถ้าคณ nita ผ่านช่วงดัชนีที่ 204 จดมาก่อน ก็อาจจะมีความคิดเหมือนผมว่าตอนนี้ก็ยังไม่ถกเท่าไรครับ

[Penguins]

ขึ้นอยู่กับการ วางแผนการลงทุน ของแต่ละบุคคลครับ
ไม่จำเป็นที่จะหาซื้อหุ้นที่ถูกที่สุดแต่จำเป็นต้องค้นหาหุ้นที่ดีและขายหุ้นให้ได้ราคาสูงกว่าที่ซื้อมา รวมทั้ง ทำตามแผนที่วางไว้แล้วจะประสบผลสำเร็จ

แต่คำว่า หุ้นดี หุ้นไม่ดี ราคาแพง ราคาถูก ฯลฯ เป็นคำพูดที่คลุมเครือไม่สามารถวัดได้ ต้องเป็นการบ้านสำหรับนักลงทุนผู้นั้น

[nita]

ถ้าคณ nita ผ่านช่วงดัชนีที่ 204 จดมาก่อน ก็อาจจะมีความคิดเหมือนผมว่าตอนนี้ก็ยังไม่ถกเท่าไรครับ

ผมก็เคยผ่าน ช่วงดัชนีที่ 204 จุดมาแล้วครับ แต่ตอนนั้น
กำลังง่วนอยู่กับการเอาตัวให้รอดครับ (ดาวน์ทาวเฮ้าไว้ แต่ไม่มีเงินไปทำสัญญา แต่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเริ่มสนใจ ข่าวเศรษกิจ แล้วตามมาด้วยตลาดหุ้น) ผมเริ่มสนใจจริงจังตอน ที่หุ้น ปตท.เปิดให้จอง รู้สึกที่ราคา 35 หรือ 38 บาท ถ้าจำไม่ผิด บังเอิญมีญาติเพื่อนเขาเป็นพนักงาน ปตท.เขาได้โควต้า 3,000 หุ้น เขาอยากจะขายให้
แต่น่าเสียดายมาก ผมไม่มีเงินครับ เวรกรรม จริง ๆ นึกแล้วเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้