คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
-
- Verified User
- โพสต์: 375
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 1
ในปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไปเข้าสู่ยุคของความผันผวน การเงินทั่วโลกเชื่อมต่อกัน คุณเคยสงสัยไหมว่าใครเป็นคนกำหนดราคาของหุ้นในตลาดemerging market ใครเป็นคนกำหนดว่าpe ควรจะเท่าไหร่(ซึ่งเป็นปัญญาของตลาดหุ้นทั่วโลก)
เพราะว่าเงินทุนของต่างชาตินั้นใหญ่มาก สามารถควบคุมหุ้นของเราได้หมด
ผ่านเงินทุนอันมหาศาล และสายป่านที่ยาวมาก ดังนั้นถึงจะต้องติดหุ้นไปเป็นสิบปีก็ไม่ได้ทำให้กองทุนของพวกเขาสะเทือน
***ตามassumptionนี้***
ดังนั้นการลงทุนหุ้นในset50 จึงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป เพราะว่าราคานั้นสามารถถูกควบคุมได้โดยต่างชาติ
แล้วอะไรคือคำตอบล่ะ
การหันมาลงทุนหุ้นที่ไม่ใช่อยู่ในset50 น่าจะเป็นคำตอบหรือเปล่า เช่นหุ้นที่มีfreefloatมากๆ หุ้นขนาดเล็ก เพียงเพื่อหลีกหนีจากเจ้ามือต่างชาติเพื่อมาเจอเจ้ามือคนไทย
ขอเสนอideaไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ขอเรียบเรียงต่อก่อน
เพราะว่าเงินทุนของต่างชาตินั้นใหญ่มาก สามารถควบคุมหุ้นของเราได้หมด
ผ่านเงินทุนอันมหาศาล และสายป่านที่ยาวมาก ดังนั้นถึงจะต้องติดหุ้นไปเป็นสิบปีก็ไม่ได้ทำให้กองทุนของพวกเขาสะเทือน
***ตามassumptionนี้***
ดังนั้นการลงทุนหุ้นในset50 จึงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป เพราะว่าราคานั้นสามารถถูกควบคุมได้โดยต่างชาติ
แล้วอะไรคือคำตอบล่ะ
การหันมาลงทุนหุ้นที่ไม่ใช่อยู่ในset50 น่าจะเป็นคำตอบหรือเปล่า เช่นหุ้นที่มีfreefloatมากๆ หุ้นขนาดเล็ก เพียงเพื่อหลีกหนีจากเจ้ามือต่างชาติเพื่อมาเจอเจ้ามือคนไทย
ขอเสนอideaไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ขอเรียบเรียงต่อก่อน
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 2
หุ้นทุกตัวมันปั่นหมดแหละ ไม่งั้นไม่ขึ้นหรอกเพียงแต่
ขอให้เราซื้อก่อนมันปั่นก็พอ ขายก่อนทุบ
หุ้นพื้นฐานเวลามันปั่นมันยังมีstory กําไร ปันผลรองรับไม่ใช่หุ้นพวก
emc live bnt ewc ไรพวกนี้ ที่กําไรบ่มี ราคาวิ่งๆลงๆหลอกๆล่อๆ
ขอให้เราซื้อก่อนมันปั่นก็พอ ขายก่อนทุบ
หุ้นพื้นฐานเวลามันปั่นมันยังมีstory กําไร ปันผลรองรับไม่ใช่หุ้นพวก
emc live bnt ewc ไรพวกนี้ ที่กําไรบ่มี ราคาวิ่งๆลงๆหลอกๆล่อๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 3
มุมมองของคุณถูกจำกัดอยู่แค่กรอบของ "ราคาหุ้น"
แต่คุณยังลืมความจริงที่ว่า ผลตอบแทนที่ส่งมายังผู้ถือหุ้นยังมี "ปันผล" อีกอย่าง
สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing นั้น "ราคาหุ้น" ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญอะไร หรืออาจจะไม่สำคัญเลย สำหรับบางคน
ตราบเท่าที่บริษัทยังสามารถ return ผลประกอบการออกมาได้ในรูปแบบผลตอบแทนอื่น นอกเหนือจาก Capital Gain
ในทางกลับกัน กองทุน หรือรายใหญ่ ที่มีความประสงค์จะกดราคาหุ้นของบริษัทหนึ่ง ๆ เพียงเพื่อต้องการควบคุมราคาหุ้น
โดยไม่ได้ดูเลยว่า ผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ ดีขนาดไหน
ไม่มีทางต้านทาน purchasing demand ของหุ้นตัวนั้น ๆ ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร ปริมาณหุ้น "มีจำกัด"
ในสุดท้ายแล้ว ราคาหุ้นก็จะถูกซื้อ และซื้อ และซื้อ จนไปอยู่ที่จุดสมดุลของความต้องการซื้อ และขาย
แต่หากกองทุนบอก เลือก Short Sell ก็ได้ บอกได้เลยว่า โง่มาก ๆ และเป็นการฆ่าตัวตายชัด ๆ
เป็นการสร้างผลขาดทุนแบบ Infinity - มีความหมายอย่างไรให้คุณไปศึกษาเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร การควบคุมราคาหุ้น เป็น effect ที่สามารถทำได้ ในระยะสั้นเท่านั้น
ไม่สามารถทำได้ ในระยะยาว หรือในภาวะที่มี demand ในการซื้อมาก อันเนื่องมาจากผลประกอบการ
ลองศึกษา Game Theory ดูครับ ว่าถ้าในภาวะบริษัทมีผลประกอบการดี
ถ้าคุณเป็นกองทุน แล้วต้องการกดราคาหุ้น จะทำได้หรือไม่ และผู้เล่นอื่นในตลาด เค้าจะทำอย่างไร
การควบคุมราคาหุ้นนั้น จะทำได้ ต้องมีปัจจัยสนับสนุน จาก 2 ทางคือ
1. ของกองทุน หรือผู้ที่ต้องการกดราคาหุ้น
2. นับสนุนของฝ่ายบริหารของบริษัทนั้น ๆ
ซึ่งถ้าบริษัทไหน เข้าข่ายนี้ ก็จะไม่เป็นทางเลือกของผู้ที่ลงทุนแบบ Value Investing อีกต่อไป เนื่องจากธรรมมาภิบาลของฝ่ายบริหาร เป็นปัจจัยที่การลงทุนแบบ Value Investing ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ หรืออาจจะมากที่สุด
การที่คุณบอกว่า "คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
"
ส่วนตัวผมแล้วต้องบอกว่า ทำได้แน่นอนครับ และพิสูจน์มาแล้วจากผลการลงทุนของผมเอง
ที่ไม่เคยขาดทุนเลยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากมายในตลาดกระทิง)
จริงอยู่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนในตลาดที่ Crash แบบสมบูรณ์แบบ
แต่อย่างว่า ไม่มีการลงทุนแบบไหนที่จะได้ หรือจะเสียไปตลอด
ของแบบนี้มันอยู่ที่การตัดสินใจ ความถนัด และวินัยในการลงทุนมากกว่า
แต่คุณยังลืมความจริงที่ว่า ผลตอบแทนที่ส่งมายังผู้ถือหุ้นยังมี "ปันผล" อีกอย่าง
สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing นั้น "ราคาหุ้น" ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญอะไร หรืออาจจะไม่สำคัญเลย สำหรับบางคน
ตราบเท่าที่บริษัทยังสามารถ return ผลประกอบการออกมาได้ในรูปแบบผลตอบแทนอื่น นอกเหนือจาก Capital Gain
ในทางกลับกัน กองทุน หรือรายใหญ่ ที่มีความประสงค์จะกดราคาหุ้นของบริษัทหนึ่ง ๆ เพียงเพื่อต้องการควบคุมราคาหุ้น
โดยไม่ได้ดูเลยว่า ผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ ดีขนาดไหน
ไม่มีทางต้านทาน purchasing demand ของหุ้นตัวนั้น ๆ ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร ปริมาณหุ้น "มีจำกัด"
ในสุดท้ายแล้ว ราคาหุ้นก็จะถูกซื้อ และซื้อ และซื้อ จนไปอยู่ที่จุดสมดุลของความต้องการซื้อ และขาย
แต่หากกองทุนบอก เลือก Short Sell ก็ได้ บอกได้เลยว่า โง่มาก ๆ และเป็นการฆ่าตัวตายชัด ๆ
เป็นการสร้างผลขาดทุนแบบ Infinity - มีความหมายอย่างไรให้คุณไปศึกษาเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร การควบคุมราคาหุ้น เป็น effect ที่สามารถทำได้ ในระยะสั้นเท่านั้น
ไม่สามารถทำได้ ในระยะยาว หรือในภาวะที่มี demand ในการซื้อมาก อันเนื่องมาจากผลประกอบการ
ลองศึกษา Game Theory ดูครับ ว่าถ้าในภาวะบริษัทมีผลประกอบการดี
ถ้าคุณเป็นกองทุน แล้วต้องการกดราคาหุ้น จะทำได้หรือไม่ และผู้เล่นอื่นในตลาด เค้าจะทำอย่างไร
การควบคุมราคาหุ้นนั้น จะทำได้ ต้องมีปัจจัยสนับสนุน จาก 2 ทางคือ
1. ของกองทุน หรือผู้ที่ต้องการกดราคาหุ้น
2. นับสนุนของฝ่ายบริหารของบริษัทนั้น ๆ
ซึ่งถ้าบริษัทไหน เข้าข่ายนี้ ก็จะไม่เป็นทางเลือกของผู้ที่ลงทุนแบบ Value Investing อีกต่อไป เนื่องจากธรรมมาภิบาลของฝ่ายบริหาร เป็นปัจจัยที่การลงทุนแบบ Value Investing ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ หรืออาจจะมากที่สุด
การที่คุณบอกว่า "คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
"
ส่วนตัวผมแล้วต้องบอกว่า ทำได้แน่นอนครับ และพิสูจน์มาแล้วจากผลการลงทุนของผมเอง
ที่ไม่เคยขาดทุนเลยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากมายในตลาดกระทิง)
จริงอยู่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนในตลาดที่ Crash แบบสมบูรณ์แบบ
แต่อย่างว่า ไม่มีการลงทุนแบบไหนที่จะได้ หรือจะเสียไปตลอด
ของแบบนี้มันอยู่ที่การตัดสินใจ ความถนัด และวินัยในการลงทุนมากกว่า
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 4
akekarat เขียน:มุมมองของคุณถูกจำกัดอยู่แค่กรอบของ "ราคาหุ้น"
แต่คุณยังลืมความจริงที่ว่า ผลตอบแทนที่ส่งมายังผู้ถือหุ้นยังมี "ปันผล" อีกอย่าง
สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing นั้น "ราคาหุ้น" ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญอะไร หรืออาจจะไม่สำคัญเลย สำหรับบางคน
ตราบเท่าที่บริษัทยังสามารถ return ผลประกอบการออกมาได้ในรูปแบบผลตอบแทนอื่น นอกเหนือจาก Capital Gain
ในทางกลับกัน กองทุน หรือรายใหญ่ ที่มีความประสงค์จะกดราคาหุ้นของบริษัทหนึ่ง ๆ เพียงเพื่อต้องการควบคุมราคาหุ้น
โดยไม่ได้ดูเลยว่า ผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ ดีขนาดไหน
ไม่มีทางต้านทาน purchasing demand ของหุ้นตัวนั้น ๆ ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร ปริมาณหุ้น "มีจำกัด"
ในสุดท้ายแล้ว ราคาหุ้นก็จะถูกซื้อ และซื้อ และซื้อ จนไปอยู่ที่จุดสมดุลของความต้องการซื้อ และขาย
แต่หากกองทุนบอก เลือก Short Sell ก็ได้ บอกได้เลยว่า โง่มาก ๆ และเป็นการฆ่าตัวตายชัด ๆ
เป็นการสร้างผลขาดทุนแบบ Infinity - มีความหมายอย่างไรให้คุณไปศึกษาเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร การควบคุมราคาหุ้น เป็น effect ที่สามารถทำได้ ในระยะสั้นเท่านั้น
ไม่สามารถทำได้ ในระยะยาว หรือในภาวะที่มี demand ในการซื้อมาก อันเนื่องมาจากผลประกอบการ
ลองศึกษา Game Theory ดูครับ ว่าถ้าในภาวะบริษัทมีผลประกอบการดี
ถ้าคุณเป็นกองทุน แล้วต้องการกดราคาหุ้น จะทำได้หรือไม่ และผู้เล่นอื่นในตลาด เค้าจะทำอย่างไร
การควบคุมราคาหุ้นนั้น จะทำได้ ต้องมีปัจจัยสนับสนุน จาก 2 ทางคือ
1. ของกองทุน หรือผู้ที่ต้องการกดราคาหุ้น
2. นับสนุนของฝ่ายบริหารของบริษัทนั้น ๆ
ซึ่งถ้าบริษัทไหน เข้าข่ายนี้ ก็จะไม่เป็นทางเลือกของผู้ที่ลงทุนแบบ Value Investing อีกต่อไป เนื่องจากธรรมมาภิบาลของฝ่ายบริหาร เป็นปัจจัยที่การลงทุนแบบ Value Investing ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ หรืออาจจะมากที่สุด
การที่คุณบอกว่า "คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
"
ส่วนตัวผมแล้วต้องบอกว่า ทำได้แน่นอนครับ และพิสูจน์มาแล้วจากผลการลงทุนของผมเอง
ที่ไม่เคยขาดทุนเลยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากมายในตลาดกระทิง)
จริงอยู่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนในตลาดที่ Crash แบบสมบูรณ์แบบ
แต่อย่างว่า ไม่มีการลงทุนแบบไหนที่จะได้ หรือจะเสียไปตลอด
ของแบบนี้มันอยู่ที่การตัดสินใจ ความถนัด และวินัยในการลงทุนมากกว่า
พี่เอกรัตน์ ก็กําลังมี ประสบการณ์ลงทุนในตลาดCrash แบบสมบูรณ์แบบร่วมกับผมและVIทุกท่านแล้วไงครับ ตลาดหุ้นล่วง28%แล้วนะคร๊าบบบบบ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 6
ผมคิดว่า set50 ไม่ได้เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี 50 ตัวแบบที่บางคนเข้าใจ
ผมก็ยังคิดว่า เราซื้อหุ้นเพราะเราอยากร่วมทำธุรกิจกับเค้าครับ
ผมก็ยังคิดอีกว่า ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่ถูกทำราคา/ควบคุมราคา...
หุ้นแต่ละตัว มีเอกลักษณ์ เฉพาะของเค้าครับ
แม้บางครั้ง เราอาจใช้ fund flow / อารมณ์ของตลาดเข้ามาเพื่อใช้พิจารณาในการซื้อ-ขาย-ถือ หุ้น
...แต่คผมแน่ใจว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของผมทำให้เกิดกำไรได้ครับ
ทั้งกำไรที่เป็นตัวเงิน
และกำไรที่เป็นความสุขใจในการลงทุนครับ
รออ่านต่อเหมือนกันนะครับ คุยกันหลายๆมุม พบความเห็นที่ต่างกันบ้าง
แล้วจะเกิดองค์ความรู้&ความคิดใหม่ๆครับ
มาshare กันนะครับ
ผมก็ยังคิดว่า เราซื้อหุ้นเพราะเราอยากร่วมทำธุรกิจกับเค้าครับ
ผมก็ยังคิดอีกว่า ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่ถูกทำราคา/ควบคุมราคา...
หุ้นแต่ละตัว มีเอกลักษณ์ เฉพาะของเค้าครับ
แม้บางครั้ง เราอาจใช้ fund flow / อารมณ์ของตลาดเข้ามาเพื่อใช้พิจารณาในการซื้อ-ขาย-ถือ หุ้น
...แต่คผมแน่ใจว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของผมทำให้เกิดกำไรได้ครับ
ทั้งกำไรที่เป็นตัวเงิน
และกำไรที่เป็นความสุขใจในการลงทุนครับ
รออ่านต่อเหมือนกันนะครับ คุยกันหลายๆมุม พบความเห็นที่ต่างกันบ้าง
แล้วจะเกิดองค์ความรู้&ความคิดใหม่ๆครับ
มาshare กันนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 7
Crash สมบูรณ์แบบในความหมายผมคือแบบปี 40 ครับRocker เขียน: พี่เอกรัตน์ ก็กําลังมี ประสบการณ์ลงทุนในตลาดCrash แบบสมบูรณ์แบบร่วมกับผมและVIทุกท่านแล้วไงครับ ตลาดหุ้นล่วง28%แล้วนะคร๊าบบบบบ
ปัจจุบันผมคิดว่ามันเป็นผลกระทบระยะสั้นจากปัจจัยทางการเมือง เป็นระดับมหภาค
สถานการณ์แค่ตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับเมื่อต้นปี 47-48 ครับ แค่เจ็บ ๆ คัน ๆ
ผมคิดว่าประเด็นของคุณ econometrica คือ ผู้มีเงินมาก สามารถควบคุมราคาหุ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ตามทฤษฏีเกมแล้ว ถ้าผลประกอบการดีซะอย่าง ผู้บริหารไม่เล่นด้วยซะอย่าง มีเงินไปก็เท่านั้นครับ มีแต่จะเจ็บตัว....
จะว่าไป ตลาดแบบนี้ ผลตอบแทนการลงทุนของผมกลับดีกว่าเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาแล้วอีกแฮะ
สงสัย Value Investing คงมีประสิทธิภาพในตลาดขาลง มากกว่าขาขึ้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 8
ลองนึกดูนะ
บริษัท A ราคาหุ้น 10 บาท จ่ายปันผลหุ้นละ 1 บาท บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง
เวลาผ่านไป 5 ปี บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นปีละ 20% และจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นปีละ 20% เช่นกัน จนสิ้นปีที่ 5 บริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 2.50 บาท
ราคาสิ้นปีที่ 5 ราคาหุ้นจะมีโอกาสอยู่ที่ 10 บาทหรือต่ำกว่ามากน้อยแค่ไหนครับ
และถ้าผ่านไปอีก 5 ปี ผลการดำเนินงานและเงินปันผลก็ยังคงโตเพิ่มขึ้นปีละ 20% เช่นเดิม จนเงินปันผลเพิ่มเป็น 6.25 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นจะยังคงอยู่ที่ 10 บาทหรือครับ
ปัญหาคือ เราลงทุนในบริษัทที่ดีมากน้อยแค่ไหน และราคาที่เราลงทุนเหมาะสมเพียงใด
บริษัท A ราคาหุ้น 10 บาท จ่ายปันผลหุ้นละ 1 บาท บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง
เวลาผ่านไป 5 ปี บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นปีละ 20% และจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นปีละ 20% เช่นกัน จนสิ้นปีที่ 5 บริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 2.50 บาท
ราคาสิ้นปีที่ 5 ราคาหุ้นจะมีโอกาสอยู่ที่ 10 บาทหรือต่ำกว่ามากน้อยแค่ไหนครับ
และถ้าผ่านไปอีก 5 ปี ผลการดำเนินงานและเงินปันผลก็ยังคงโตเพิ่มขึ้นปีละ 20% เช่นเดิม จนเงินปันผลเพิ่มเป็น 6.25 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นจะยังคงอยู่ที่ 10 บาทหรือครับ
ปัญหาคือ เราลงทุนในบริษัทที่ดีมากน้อยแค่ไหน และราคาที่เราลงทุนเหมาะสมเพียงใด
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 9
ถ้าดัชนีหุ้นตกจากจุดสูงสุด 30% โดยทั่วไปก็จะบอกว่าตลาดเป็น Bear MarketRocker เขียน:พี่เอกรัตน์ ก็กําลังมี ประสบการณ์ลงทุนในตลาดCrash แบบสมบูรณ์แบบร่วมกับผมและVIทุกท่านแล้วไงครับ ตลาดหุ้นล่วง28%แล้วนะคร๊าบบบบบ
ถ้าถึงขนาด Crash ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้น่าจะใกล้เคียงกว่านะ เพราะเหลือแค่ประมาณ 30 ถึง 40% จากจุดสูงสุด เมื่อปลายปีก่อน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 10
ตลาดหุ้นก็เหมือนกับภาพนาซคาครับ
ถ้าเรามองแค่ใกล้ ๆ ตัว เราก็จะเห็นแค่ต้นหญ้าที่แหว่ง ๆ ไป
แต่ถ้ามองจากที่สูง ๆ ไกล ก็จะเห็นภาพที่สมบูณร์ และมหัศจรรย์ครับ
ถ้าเรามองแค่ใกล้ ๆ ตัว เราก็จะเห็นแค่ต้นหญ้าที่แหว่ง ๆ ไป
แต่ถ้ามองจากที่สูง ๆ ไกล ก็จะเห็นภาพที่สมบูณร์ และมหัศจรรย์ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 12
แนวทางการลงทุนมันเป็นเรื่องของรสนิยมครับ ไม่มีใครถูกหรือผิดไปตลอด (ขึ้นอยู่กับนิยาม ถูก/ผิด อย่างไรด้วย)
ถ้าแนวทางการลงทุนทำให้ตนเองมีความสุขและหลับฝันดี ก็อันนั้นแหละครับที่เหมาะกับคุณ
ถ้าแนวทางการลงทุนทำให้ตนเองมีความสุขและหลับฝันดี ก็อันนั้นแหละครับที่เหมาะกับคุณ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 14
คุณROCKERเปลี่ยนแค่แนวคิด จะเล่นหุ้น หรือ ลงทุน เพียงเท่านี้ก็พอครับ
เพียงแต่ว่าถ้าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องมองแต่ตัวกำไรและเงินสดที่ได้มาจากธุรกิจที่จะส่งผ่านมาหาเรา อย่าไปมองราคาหุ้นครับ
เพียงแต่ว่าถ้าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องมองแต่ตัวกำไรและเงินสดที่ได้มาจากธุรกิจที่จะส่งผ่านมาหาเรา อย่าไปมองราคาหุ้นครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 15
chatchai เขียน:
ปัญหาคือ เราลงทุนในบริษัทที่ดีมากน้อยแค่ไหน และราคาที่เราลงทุนเหมาะสมเพียงใด
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 347
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 16
ส่วนตัวถึงแม้ว่าประสบการณ์การลงทุนยังน้อยนิด และลงทุนโดยเน้นแนวปัจจัยพื้นฐานเห็นว่า ถ้าบริษัทที่เราลงทุนมีกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่อง มีผลกำไรเติบโต มีการวางรูปแบบทางธุรกิจที่ดีเยี่ยม และมีผู้บริหารที่ดีมีวิสัยทัศน์และธรรมาภิบาลที่ดี บริษัทสามารถผลิตกระแสเงินสดได้ดีเยี่ยม ผมว่าต่อให้โดนทุบ โดนกดยังไง ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นของบริษัทนั้นจะสะท้อนกลับไปยังผลประกอบการอยู่ดีครับ
ส่วนเรานักลงทุนแต่ละคนก็ต้องพยายามหาบริษัทที่ดีเหล่านี้ให้พบ และซื้อในราคาที่มีส่วนลดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
ส่วนเรานักลงทุนแต่ละคนก็ต้องพยายามหาบริษัทที่ดีเหล่านี้ให้พบ และซื้อในราคาที่มีส่วนลดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 17
ได้แน่นอนครับ หุ้นในset50คุณแน่ใจหรือครับว่าเป็นแนวVI ผมคิดว่าหุ้นในแนววีไอตามทที่บัฟเฟตต์ได้กล่าวไว้คือ
1เป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย(แม้แต่คนที่ไม่ฉลาดก็บริหารได้)หรืออยู่ในขอบเขตความใจของนักลงทุน
2ผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ
3อนาคตระยะยาวสดใส
1เป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย(แม้แต่คนที่ไม่ฉลาดก็บริหารได้)หรืออยู่ในขอบเขตความใจของนักลงทุน
2ผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ
3อนาคตระยะยาวสดใส
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
โพสต์ที่ 21
แน่ใจแค่ไหนไม่ทราบครับ :x
แต่ว่าตั้งแต่เริ่มมาลงทุนในแนว VI ก็กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ต้องคอยเช็คราคาหุ้นทุก 5 นาที 10 นาที
กำไรชีวิตแค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
ส่วนเรื่องผลตอบแทน ที่ผ่านมายังไม่เคยขาดทุนครับ >>> เพราะยังไม่ได้ขาย :lol: :lol:
แต่ว่าตั้งแต่เริ่มมาลงทุนในแนว VI ก็กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ต้องคอยเช็คราคาหุ้นทุก 5 นาที 10 นาที
กำไรชีวิตแค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
ส่วนเรื่องผลตอบแทน ที่ผ่านมายังไม่เคยขาดทุนครับ >>> เพราะยังไม่ได้ขาย :lol: :lol: