ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตอนอ่านแรกๆก็งงๆ แต่อ่านไปอ่านมา นั่งอ่าน นอนอ่าน ตีลังกาอ่าน แล้วมาคิดๆดู ก็ขำอย่างแรง

ตลาดมันจะมีประสิทธิภาพได้ยังไง กร๊ากกกก

ในเมื่อในนั้นมันมีทั้ง
โบรกเกอร์ ที่เชียร์ให้ซื้อให้ขายตลอดเวลาเพื่อรับคอม ซิ้อสิ ขายสิ ซื้อสิ ขายสิ
(ยกเว้นโบรกดีๆนะ)

นักวิเคราะห์ ที่เชียร์ให้ซื้อและถือเป็นหลัก อันนี้ก็ได้คอมเล็กน้อย


แมงเม่า ที่ซื้อตามคนเชียร์สองคนข้างบน


สื่อ ที่ประโคมข่าวเกินจริงเพื่อเพิ่มเรตติ้งคนดู จะได้มีคนมาลงโฆษณาเยอะๆ


กองทุนต่างชาติ ที่บางทีเข้ามาจุดไฟล่อแมงเม่า


ผู้จัดการกองทุนรวม ที่โดนกดดันให้เทรดหรือทำอะไรบางอย่างกับกองทุนตลอดเวลา ทั้งๆที่บางครั้งทางที่ดีคืออยู่เฉยๆ


พวกแวลู่ ที่มักรอตะครุบของถูกอยู่ทุกลมหายใจ

เห็นจะๆเลยว่า ตลาดเต็มไปด้วยความสับสน จากสิ่งมีชีวิตข้างต้น


ตลาดจะมีประสิทธิภาพได้ถ้ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผล ซึ่งไอสไตน์ได้บอกไว้แล้วอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่

เหอๆๆๆ มาร่วมกันออกความเห็นเร้ว
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อ่อ อีกอย่าง ผมเห็นด้วยกับทฤษฏีตีแตกนะ (แต่วิชานี้ ถ้าตีพลาดก็แตกเอง5555)
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วันนึงคิดเป็นหมื่นเรื่อง  แต่ทำออกมาไม่มีดีซักเรื่อง

รู้ทฤษฎีเป็นหมื่นเรือนแสน  ฤาจะสู้รู้เท่าทันความคิดเรา

ทำใจให้สบาย เอนกายให้ผ่อนคลายเถิด....

:arrow:
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 4

โพสต์

อืม เห็นด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="]ทฤษฎีตลาดประสิทธิภาพจึงตั้งบนสมมุติฐานดังนี้
              1.จำนวนผู้ซื้อและผู้ขายมีมากรายจนกระทั่งไม่มีบุคลใดมีอำนาจในการกำหนดราคาหุ้นได้และราคาที่เกิดขึ้นจะเป็นราคาที่มีแนวโน้มเข้าสู่ดุลยภาพ
              2.ผู้ลงทุนแต่ละคนมีพื้นฐานในการประเมินมูลค่าหุ้นเหมือนกัน ซึ่งกำหนดขึ้นจากความน่าจะเป็น ของอัตราผลตอบแทน
              3.ผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดหลักทรัพย์มีความเกี่ยวข้องกับราคาและข่าวสารต่างๆของหุ้นอย่างสมบรูณ์
              4.ผู้ลงทุนทุกคนเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ก่อให้เกิดอรรถประโยชน์สูงสุด ณ ระดับราคาความเสี่ยงหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด[/quote]

สมมุติฐานข้างต้นแต่ละข้อเป็นจริงได้ยากจริงๆคับ
:wink:

ผมจำได้ว่าตอนผมเรียนเรื่องนี้เมื่อเทอมที่แล้ว
ทฤษฎีตลาดที่มีประสิทธิภาพมี 3 ขั้น
ซึ่งผมว่าขั้นที่ 1 แบบ weak-form efficiency
ก็อาจจะเกิดได้ในบางครั้งนะคับ
1. ตลาดหลักทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ  เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ราคามีการเคลื่อนไหวอย่างสุ่มและมีความยืดหยุ่นต่ำ เนื่องจากนักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลด้านราคาได้อย่างเท่าเทียมกันและข้อมูลด้านราคามีน้อยจึงไม่มีใครเอาเปรียบใครได้จากข้อมูลด้านราคา ทำให้การเปลี่ยนแปลงของราคาในอดีตเป็นไปโดยไม่อาจคาดคะเนได้ ราคาหุ้นในปัจจุบันจึงมีการเคลื่อนไหวแบบเชิงสุ่ม คือตลาดที่มี  ประสิทธิภาพในระดับต่ำนี้ถือว่าข้อมูลด้านราคาและปริมาณการ ซื้อขายหุ้นในอดีตไม่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการคาดคะเนแนวโน้มราคาหุ้นในอนาคตได้ ซึ่งตลาด ประเภทนี้เน้นให้นักลงทุนซื้อขายหุ้นโดยวิธีที่เรียกว่า buy and hold investment หมาย ถึงการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีราคาเท่าหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของตลาดที่มีการคาดคะเนไว้และถือหุ้นนั้นไว้รอให้ราคาสูงขึ้น
ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งนอกจากจะได้กำไรที่เรียกว่า กำไรจากการขายแล้วยังได้เงินปันผลอีกด้วย
การทดสอบความมีประสิทธภาพของตลาดในระดับนี้จึงเป็นการทดสอบว่าข้อมูลข่าว สารด้านราคาในอดีตสามารถที่จะใช้คาดคะเนราคาหุ้นในอนาคตได้หรือไม่โดยพิจารณาจากความคลาดเคลื่อนที่มีความสัมพันธ์กัน หรือวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาในลักษณะของช่วงวิ่ง
โดยสรุปผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับทฤษฎีนี้เท่าไหร่นัก
( ไม่เห็นด้วย 90% เห็นด้วย 10 % เฉพาะแบบ weak form )
เพราะมันไม่สามารถอธิบายครอบคลุมทุกสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าในบางครั้งมันจะดูเหมือนมีเหตุผลให้น่าเชื่อถือและดูเหมือน
ตลาดจะมีประสิทธิภาพก็ตาม
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ลืมขั้นต่อไปนิดครับ

5 ตลาดมีประสิทธิภาพ - > 6 คนรู้ข่าวในวงกว้าง - >  7 โบรคเริ่มเชียร์มันทุกตัว -> 8 เม่าเข้ามาทยอยเก็บ - > 9 ราคาหุ้นพุ่งสูงเกินพื้นฐาน - > 10 โบรคเชียร์กินค่าต๋งเยอะกว่าเดิมพร้อมบอกถึงอนาคตที่สดใสของตลาดหุ้น(สำหรับโบรคนะครับไม่ใช่สำหรับคนซื้อขายหุ้น เขาไม่ได้โกหกครับ แค่บอกไม่หมด) - >  11 กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าเซียน -> 12 ราคาหุ้นสูงจนเสียวไส้ - > 13 คนที่เก็บมาจากช่วงหนึ่งถึงห้าปล่อยของออกมาให้เซียนซื้อเก็บบางส่วน - > 14 ราคาเริ่มนิ่ง -> 15 บางเซียนใจแข็งกำไว้ซื้อเพิ่ม บางเซียนใจอ่อนขายโลด ราคาจึงเท่าเดิม ฮ่าฮ่าฮ่า -> 16 เมื่อเซียนส่วนใหญ่เริ่มหมดพลังตบะราคาก็เริ่มไหลลง -> 17 ตลาดมีประสิทธิภาพอีกครั้งแต่มันไร้ประสิทธิภาพสำหรับสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าเซียนและประสิทธิภาพนี้เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ - > 18 เซียนตายเกลือน จากการชันสูตรศพพบว่าเซียนบินเข้ากองไฟ (โบรคยังคงเชียร์ให้ซื้อเหมือนเดิม) - > 19 ความกลัวแพร่สะพัดราคาต่ำกว่าพื้นฐาน - > ตลาดขาดประสิทธิภาพอีกครา

อุอุอุ



จากยี่สิบขั้นตอนจากเรปบน จะเห็นว่า ตลาดมีประสิทธิภาพอยู่ 2 จากสิบช่วง โอเวอร์ 4 ช่วง อันเดอร์ 4 ช่วง

โบรกทำเงินได้ 8 ช่วง


สรุป

มาเป็นโบรกเกรอร์กันเถอะ กร๊ากกกกก จบข่าว
support
Verified User
โพสต์: 193
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 7

โพสต์

แต่ผมคิดว่าในระยะยาวตลาดจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะ เนื้องจากทฤษฏีการปรับตัว และ วิวัฒนาการ เราลองมองย้อนไปในอดีตจะเห็นได้ว่ามีตอนที่ประเทศยังไม่มีการศึกษาคนส่วนใหญ่จบ ป 4 ยังไม่รู้เลยว่าหุ้นคือะไร  คอมพิวเตอร์หน้าตาเป็นอย่างไร             สำหรับวงการหุ้นในเมืองไทยถึง
แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ ก็ยังอยู่ในช่วงต้น ๆ วิวัฒนาการโดยคนมีความรู้ความสามารถวิเคาระห์ ยังน้อยกว่าคนส่วนใหญ่      แต่เมื่อผ่านไปนาน ๆ เข้าไอ้คนที่เจ็บตัวมันจะจำโดยอัตโนมัติ และมีแนวโน้วเข้าสู่สภาวะมีเหตุผมมากยิ่งขึ้น
ipenema
Verified User
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฏี ตลาดมีประสิทธิภาพ?

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ตลาดมีประสิทธิภาพมันเปนอุดมคติมากครับ เกิดขึ้นได้ยากมาก ในไทยนี่ยังถือว่าไม่ใช่ ของต่างประเทศในเมกา ก้อพอเลียบๆ เคียงๆ ได้
โพสต์โพสต์