Mint - Asset Light

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
ler109
Verified User
โพสต์: 241
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมรบกวนขอความเห็นจากพี่ ๆ Thaivi เกี่ยวกับกลยุทธ์ Asset-Light ของ Mint ด้วยครับ ผมยังมือใหม่อยู่ครับ คือว่ากำลังศึกษาตัวนี้อยู่ครับ คือถ้าไม่ติดว่าราคาหุ้นที่ดูเหมือนจะสูงเกินไป (แต่หุ้นตัวนี้ก็ไม่เคยราคาถูก  :roll: ) ผมก็คงซื้อไปแล้วครับ (ตอนนี้มีแค่ 2,000 หุ้น) อยากถามพี่ ๆ ในประเด็นดังต่อไปนี้ครับ....
1. Asset Light บริษัทวางแผนไว้ว่าในอีก 4-5 ปี ข้างหน้า การขยายสาขาในส่วนที่เป็น Chain อาหารก็จะเน้นไปที่การขาย Franchise มากขึ้น ให้ได้สัดส่วนประมาณ 50:50 กับส่วนที่เป็น Own Equity และในส่วนธุรกิจโรงแรมก็จะเน้นไปที่การรับจ้างบริหารภายใต้ Brand Anantara และการไป Joint venture โดยจะลงทุนเองในเฉพาะจุดที่เป็น Strategic location เท่านั้น  
1.1 กลยุทธ์แบบนี้จะทำให้ต่อไปในอนาคตบริษทไม่จำเป็นที่จะต้องการเงินลงทุนสูง ๆ เหมือนในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่?
1.2 Margin จะดีขึ้นกว่าเดิมจริงหรือไม่?
1.3 จะทำให้การขยายตัวของรายได้เป็นไปในอัตราที่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาหรือไม่?
1.4 ถ้าเป็นอย่าง 3 ข้อข้างบนจริง จะทำให้ ROA และ ROE สูงขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ครับ?
2. ธุรกิจอาหารของ Mint ยังสามารถจะเติบโตได้อีกมากหรือไม่ โดยเฉพาะโอกาสในต่างประเทศ เช่น จีน อินเดีย เป็นต้น แน่นอนผมมองว่าการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในต่างประเทศนั้นยากกว่าในประเทศหลายเท่า
3. กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจแบบ Acquisition คือไปซื้อ Brand อาหารที่ดี ๆ มาบริหารต่อ มีบริษัทไหนในต่างประเทศที่ทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จมาก ๆ มีหรือเปล่าครับ แล้วถ้า Mint จะไปในแนวนี้โอกาสมีมากแค่ไหนครับ
4. ถ้าผมมองว่า Mint เป็นหุ้นแบบวัฐจักร(ธุรกิจโรงแรม) การซื้อใน PE สูง ๆ เช่นนี้ (ตามที่ Peter Lynch บอก) นั้นถูกต้องหรือเปล่าครับ?
5. ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์แบบ M&A ในการเติบโต โดยปกตินั้นตลาดจะให้ PE ที่สูงกว่าบริษัทแบบปกติหรือเปล่าครับ?(อันนี้รวมถึงในตลาดต่างประเทศด้วยครับ)

รบกวนขอความเห็นจากพี่ ๆ ด้วยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2203
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 2

โพสต์

จาก ประสบการณ์อันน้อยนิดของผม

1. Asset Light บริษัทวางแผนไว้ว่าในอีก 4-5 ปี ข้างหน้า การขยายสาขาในส่วนที่เป็น Chain อาหารก็จะเน้นไปที่การขาย Franchise มากขึ้น ให้ได้สัดส่วนประมาณ 50:50 กับส่วนที่เป็น Own Equity และในส่วนธุรกิจโรงแรมก็จะเน้นไปที่การรับจ้างบริหารภายใต้ Brand Anantara และการไป Joint venture โดยจะลงทุนเองในเฉพาะจุดที่เป็น Strategic location เท่านั้น…  
1.1 กลยุทธ์แบบนี้จะทำให้ต่อไปในอนาคตบริษทไม่จำเป็นที่จะต้องการเงินลงทุนสูง ๆ เหมือนในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่?
แม่นแล้ว เพราะ ขายแฟรนไชส์ บริษัทลงทุนส่วนนึง คนซื้อแฟรนไชลงทุนด้วยส่วนนึงครับ หลักๆ บริษัทจะลงทุนด้านการบริหารเอง ส่วนค่าพนักงาน  ค่าสินค้า น่าจะเป็นคนซื้อแฟรนไช จ่ายนะ แต่ไม่ชัวนะครับ รอท่านอื่นเสนอความคิด

1.2 Margin จะดีขึ้นกว่าเดิมจริงหรือไม่?
ต้องดูว่า พวกค่าสินค้า ค่าพิซซ่า ใครลงทุนอ่ะครับ เพราะ สินค้านี้จะมาร์จิ้นต่ำ

1.3 จะทำให้การขยายตัวของรายได้เป็นไปในอัตราที่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาหรือไม่?
สูงกว่าครับ ดู ตย จาก 7-11 โตเร็วมาก

1.4 ถ้าเป็นอย่าง 3 ข้อข้างบนจริง จะทำให้ ROA และ ROE สูงขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ครับ?
ไม่ทราบครับ

2. ธุรกิจอาหารของ Mint ยังสามารถจะเติบโตได้อีกมากหรือไม่ โดยเฉพาะโอกาสในต่างประเทศ เช่น จีน อินเดีย เป็นต้น แน่นอนผมมองว่าการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในต่างประเทศนั้นยากกว่าใน ประเทศหลายเท่า
น่าจะโตได้อีกมากนะ จากจำนวนสาขาซึ่งยังมีอยู่น้อย

3. กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจแบบ Acquisition คือไปซื้อ Brand อาหารที่ดี ๆ มาบริหารต่อ มีบริษัทไหนในต่างประเทศที่ทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จมาก ๆ มีหรือเปล่าครับ แล้วถ้า Mint จะไปในแนวนี้โอกาสมีมากแค่ไหนครับ
ไม่ทราบเลย

4. ถ้าผมมองว่า Mint เป็นหุ้นแบบวัฐจักร(ธุรกิจโรงแรม) การซื้อใน PE สูง ๆ เช่นนี้ (ตามที่ Peter Lynch บอก) นั้นถูกต้องหรือเปล่าครับ?
เป็นวัฎจักครับ เพราะ กำไรหลักมาจากโรงแรม

5. ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์แบบ M&A ในการเติบโต โดยปกตินั้นตลาดจะให้ PE ที่สูงกว่าบริษัทแบบปกติหรือเปล่าครับ?(อันนี้รวมถึงในตลาดต่างประเทศด้วย ครับ)

รบกวนขอความเห็นจากพี่ ๆ ด้วยนะครับ
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1522
ผู้ติดตาม: 1

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ก่อนที่จะดูกลยุทธ์ ดูหัวใจของกลยุทธ์ก่อนครับ

ความเป็นจริงแล้ว franschise (เดี๋ยวนี้เรียก asset light เท่ห์มากๆ  :lol: )กับ ขยายสาขาเอง
เป็นอะไรที่กลับไปกลับมา เหมือนแฟชั่น มานานมากแล้วครับ

สภาวะแวดล้อม ต้นทุนทางการเงิน งบดุลของบริษัท แนวทางการเติบโต เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์นี้

แต่ความเป็นจริง ความสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้เท่าไหร่ครับ

สิ่งที่สำคัญคือความสามารถในการแข่งขันต่างหาก ถ้าแบรนด์เข้มแข็ง จะเอาวิธีไหนก็ได้ครับ

ยิ่งไปกว่านั้น กำไรที่ได้เหนือจากต้นทุนทางการเงินจะเท่ากับความสามารถในการแข่งขัน ถ้าแบรนด์ไม่แข็ง ใช้วิธีไหน ส่วนต่างนี้ก็น้อยมาก

คำตอบเรื่องความสามารถในการแข่งขัน สามารถตอบคำถามที่เหลือได้ทั้งหมดเลยครับ

อยากให้ MINT โตมาก ๆ อีก คงต้องอัพไปเทียบกับกลุ่ม Starwood ซึ่งแข่งกันกันได้แค่ไหน ที่ตลาดไหนคงต่างกันอีก

ราคาที่เหมาะสม เป็นศิลปะครับ การดู PE การสรุปว่าเป็นวัฎจักร น่าจะไม่เพียงพอครับ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไม่บังอาจ
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 4

โพสต์

1.1 กลยุทธ์แบบนี้จะทำให้ต่อไปในอนาคตบริษทไม่จำเป็นที่จะต้องการเงินลงทุนสูง ๆ เหมือนในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่?

ตอบ: ใช่

1.2 Margin จะดีขึ้นกว่าเดิมจริงหรือไม่?

ตอบ: ถ้าปัจจัยอื่นๆคงที่ ส่วนที่เติบโตจาก asset light จะทำให้ margin ดีขึ้น

1.3 จะทำให้การขยายตัวของรายได้เป็นไปในอัตราที่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาหรือไม่?

ตอบ: ไม่แน่นอนว่าอัตราการขยายตัวจะสูงกว่า เพราะค่า fee เป็นเงินก้อนไม่ใหญ่ เพียงแต่มีมาร์จินดี

1.4 ถ้าเป็นอย่าง 3 ข้อข้างบนจริง จะทำให้ ROA และ ROE สูงขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ครับ?

ตอบ: ถ้าปัจจัยอื่นๆคงที่  ส่วนที่เติบโตจาก asset light ทำให้ ROA ROE ดีขึ้น

2. ธุรกิจอาหารของ Mint ยังสามารถจะเติบโตได้อีกมากหรือไม่ โดยเฉพาะโอกาสในต่างประเทศ เช่น จีน อินเดีย เป็นต้น แน่นอนผมมองว่าการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในต่างประเทศนั้นยากกว่าในประเทศหลายเท่า

ตอบ: โอกาสมี แต่เราจะชนะหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้

3. กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจแบบ Acquisition คือไปซื้อ Brand อาหารที่ดี ๆ มาบริหารต่อ มีบริษัทไหนในต่างประเทศที่ทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จมาก ๆ มีหรือเปล่าครับ แล้วถ้า Mint จะไปในแนวนี้โอกาสมีมากแค่ไหนครับ

ตอบ: มีครับ ส่วน mint จะใช้แนวนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องดูกระแสเงินสดจากส่วนโรงแรม

4. ถ้าผมมองว่า Mint เป็นหุ้นแบบวัฐจักร(ธุรกิจโรงแรม) การซื้อใน PE สูง ๆ เช่นนี้ (ตามที่ Peter Lynch บอก) นั้นถูกต้องหรือเปล่าครับ?

ตอบ:ในส่วนของธุรกิจโรงแรม จะว่าเป็นธุรกิจวัฏจักร ผมก็ไม่เห็นด้วย แต่เป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อ uncertainty เท่านั้นเอง การเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ PE สูง ก็ต้องมั่นใจก่อนว่าโรงแรมที่เราจะซื้อนั้นเข้มแข็งพอที่จะผ่านช่วงเลวร้ายนี้ไปได้ (สามารถบริหารจัดการ ADR และ Occupancy Rate ให้ได้ RevPAR ในระดับที่ไม่ขาดทุนได้) และมั่นใจว่า uncertainty ที่เกิดขึ้นมานั้น ใกล้จะจบ


5. ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์แบบ M&A ในการเติบโต โดยปกตินั้นตลาดจะให้ PE ที่สูงกว่าบริษัทแบบปกติหรือเปล่าครับ?(อันนี้รวมถึงในตลาดต่างประเทศด้วยครับ)

ตอบ: หลายบริษัททำ M&A แล้วเจ๊งเยอะครับ แต่ที่ไปได้ดีก็มีให้เห็น อย่าง InterContinental Hotel Group ซึ่งเป็นเครือโรงแรมใหญ่ที่สุดในโลก (มีโรงแรมเกือบจะ 4,400 แห่ง มีห้องพักเกือบจะ 650,000 ห้อง) ก็ไปได้ดี เฉพาะไตรมาส 3 ปีนี้ operating profit จากโรงแรมที่เป็นเจ้าของ มีแค่ 20 ล้านเหรียญ แต่operating profit จากการรับจ้างบริหารและแฟรนไชส์  143 ล้านเหรียญ ตอนนี้ IHG ซื้อขายกัน P/E 21 เท่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2203
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 5

โพสต์

การขยายด้วยแฟรนไชส์ พวกต้นทุนค่าอาหาร ค่าไฟ ค่าพนักงานนี่
คนซื้อแฟรนไชสรับผิดชอบปะครับ
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไม่บังอาจ
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ต้นทุนค่าอาหาร ค่าไฟ ค่าพนักงาน คนซื้อแฟรนไชส์เป็นคนรับผิดชอบ แต่ในส่วนเงินเดือนผู้บริหารที่บริษัทเจ้าของสิทธิ์ส่งมาดูแล บริษัทเจ้าของสิทธิ์เป็นคนจ่ายเอง (แต่ก็ไปเรียกเก็บจากคนซื้อแฟรนไชส์อยู่ใน management fee)
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2203
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 7

โพสต์

thanks kub
so expanding the business via franchises will increase net profit margin.
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
ler109
Verified User
โพสต์: 241
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 8

โพสต์

Big thank kub :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
aodetmat
Verified User
โพสต์: 79
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 9

โพสต์

รายได้หลักมาจากอาหารเป็นส่วนมากถึง60%
ช้าๆ แต่ ชัวร์ 不要担心
ภาพประจำตัวสมาชิก
zesar
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 10

โพสต์

aodetmat เขียน:รายได้หลักมาจากอาหารเป็นส่วนมากถึง60%
อ้าว ไม่ใช่โรงแรมแล้วเหรอ  :twisted:
เหยี่ยวเดือน9
Verified User
โพสต์: 276
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 11

โพสต์

zesar เขียน:
อ้าว ไม่ใช่โรงแรมแล้วเหรอ
เหยี่ยวเดือน9
Verified User
โพสต์: 276
ผู้ติดตาม: 0

Mint - Asset Light

โพสต์ที่ 12

โพสต์

1.1 ใช่ และ D/E จะลดลงมากด้วย
1.2 ใช่  ถ้า sssg ไม่ตก  แนวโน้มจะเป็นอย่างนั้น
1.3 เหมือน 1.2 (รายได้เป็น fee + ส่วนแบ่งซึ่ง base on เป็นเปอร์เซนต์ของรายได้)
1.4 ใช่ ถ้าเป็นอย่าง 1.1 - 1.3
2. เห็นด้วยครับ
3.มี แต่ถ้าใช้แนวทางนี้มากๆ ก็ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ซึ่งจะขัดกับ แผนการลดเงินลงทุน
4. ผมคิดว่าไม่ถึงกับเป็นวัฏจักร  (แล้วถ้าเป็นวัฏจักร แล้ว pe เท่าไรจึงเรียกว่าสูง )
ตอนนี้ pe 27 เท่า  สูงกว่าตอนต้นปี ซึ่งต้นปีมี pe ประมาณ 14 เท่า จะบอกว่าซื้อตอนนี้ดีกว่าต้นปี หรือไม่
โพสต์โพสต์