ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 1
ผมลองนึกดูเล่น ๆ
ว่าทุกวันนี้แนวทางการลงทุนก็มีหลากหลาย
ทั้งแนว Fundamental analysis, Technical analysis
เล่นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ระยะยาวมาก
แต่ถ้าหากว่าคนส่วนใหญ่ หรือ เกือบทุกคนหันมาใช้แนวทาง VI เหมือนกันหมด มันจะเป็นยังงัย
จะหาหุ้นได้ยากขึ้นไหม
ราคาจะผันผวนน้อยลงไหม
ผลตอบแทนของนักลงทุน VI จะดีเหมือนที่ผ่านมาไหม
เชิญร่วม discuss กันครับ
ว่าทุกวันนี้แนวทางการลงทุนก็มีหลากหลาย
ทั้งแนว Fundamental analysis, Technical analysis
เล่นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ระยะยาวมาก
แต่ถ้าหากว่าคนส่วนใหญ่ หรือ เกือบทุกคนหันมาใช้แนวทาง VI เหมือนกันหมด มันจะเป็นยังงัย
จะหาหุ้นได้ยากขึ้นไหม
ราคาจะผันผวนน้อยลงไหม
ผลตอบแทนของนักลงทุน VI จะดีเหมือนที่ผ่านมาไหม
เชิญร่วม discuss กันครับ
- Joga Bonito
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 278
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 2
ตลาดจะเป็นตลาดประสิทธิภาพสูงสุด
ทีนี้ อัตราการทำกำไร ของวีไอก็จะลดลง
เหมือนอย่างที่ วอเร็น บอกว่า ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพตลอดเวลา เขาคงต้องไปขอทานครับ
ทีนี้ อัตราการทำกำไร ของวีไอก็จะลดลง
เหมือนอย่างที่ วอเร็น บอกว่า ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพตลอดเวลา เขาคงต้องไปขอทานครับ
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 3
ข้อมูลของแต่ละคนที่ได้รับไม่เท่ากัน
มุมมองของแต่ละคนต่อข้อมูลไม่เหมือนกัน
น้ำหนักที่ให้กับข้อมูลแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน
ต้นทุนทางการเงินแต่ละคนไม่เท่ากัน
ความเสี่ยงแต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน
...ยังมีความต่างอีกมากมาย
จึงมีคนซื้อขายตลอดเวลา ความตอบแทนไม่มีทางเท่ากัน
มุมมองของแต่ละคนต่อข้อมูลไม่เหมือนกัน
น้ำหนักที่ให้กับข้อมูลแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน
ต้นทุนทางการเงินแต่ละคนไม่เท่ากัน
ความเสี่ยงแต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน
...ยังมีความต่างอีกมากมาย
จึงมีคนซื้อขายตลอดเวลา ความตอบแทนไม่มีทางเท่ากัน
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
-
- Verified User
- โพสต์: 447
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 4
คล้ายกับคำถามที่ว่า
ถ้าทุกคนไปบวชหมด ใครจะเป็นคนใส่บาตรกันล่ะ
ใจคนไม่แน่นอน แปรเปลี่ยนหมุนเวียนไม่รู้จบ
ฉะนั้น คงไม่มีทางหนึ่ง ทางเดียวที่คนจะเดินไปสู่จุดหมาย
เหมือนกันทุกคน
ถ้าทุกคนไปบวชหมด ใครจะเป็นคนใส่บาตรกันล่ะ
ใจคนไม่แน่นอน แปรเปลี่ยนหมุนเวียนไม่รู้จบ
ฉะนั้น คงไม่มีทางหนึ่ง ทางเดียวที่คนจะเดินไปสู่จุดหมาย
เหมือนกันทุกคน
จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้
-
- Verified User
- โพสต์: 251
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 6
ถึงทุกคนจะเป็น VI หมด ก็ยังคงเกิดการซื้อขายอยู่ดี
เพราะคนเรามีมุมมอง ทัศนคติ การรับข้อมูลข่าวสารต่างกัน
ดังนั้นการประเมินมูลค่าก็ต่างกันไปครับ
อย่างผมถามพี่ๆที่รู้จักกันว่า ตัวนี้พี่ให้ pe เท่าไหร่ ราคาเหมาะสมเท่าไหร่
ปรากฏว่าคำตอบก็ไม่ค่อยจะตรงกัน แล้วแต่คนจะประเมินไปครับ
เพราะคนเรามีมุมมอง ทัศนคติ การรับข้อมูลข่าวสารต่างกัน
ดังนั้นการประเมินมูลค่าก็ต่างกันไปครับ
อย่างผมถามพี่ๆที่รู้จักกันว่า ตัวนี้พี่ให้ pe เท่าไหร่ ราคาเหมาะสมเท่าไหร่
ปรากฏว่าคำตอบก็ไม่ค่อยจะตรงกัน แล้วแต่คนจะประเมินไปครับ
มโนปุพพังคมาธัมมา - ในตัวของเรามีใจเป็นใหญ่
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 7
เมื่อก่อนผมก็เคยคิดแบบนี้หล่ะครับ ว่าถ้าเกิดคนในตลาด หันมาลงทุนในแนว VI กันทั้งหมด แล้วเราจะยังหาหุ้นที่ under value ได้หรือเปล่า
หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือการลงทุนแบบ value แล้วก็พบว่า นี่คือแนวทางการลงทุนที่มีเหตุผลที่สุด make sense ที่สุดแล้ว พบกับแสงสว่างในแนวทางแล้ว แล้วก็คิดว่า มันก็เป็นแนวทางง่ายๆ หลายคน ถ้าได้อ่าน ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก และจะปฏิบัติไปในแนวนี้ได้ทั้งหมด
แต่ไม่ใช่ครับ การลงทุนแบบ VI คืออะไรที่ต้องฝืนธรรมชาติ เหมือนอย่างที่พี่โจลูกอิสานว่าไว้ ต้องควบคุมความโลภ ต้องกันตัวเองออกจากตัวเลขเขียวๆ แดงๆ หรือข่าวสารมากมาย ที่เข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน บางคนถึงจะอ่านแนวทางการลงทุนแบบ VI ได้เข้าใจลึกซึ้งแล้ว แต่มาอยู่ในตลาดได้ไม่นาน ก็ถูกราคาๆเขียวๆแดงๆ ลากพาไปกับอารมณ์ของตลาดไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
สรุปว่า เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ทุกคนจะมาเป็น VI กันหมด
ได้แค่ 10% ของนักเล่นหุ้นในตลาด ผมก็ว่าเยอะมากแล้ว
หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือการลงทุนแบบ value แล้วก็พบว่า นี่คือแนวทางการลงทุนที่มีเหตุผลที่สุด make sense ที่สุดแล้ว พบกับแสงสว่างในแนวทางแล้ว แล้วก็คิดว่า มันก็เป็นแนวทางง่ายๆ หลายคน ถ้าได้อ่าน ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก และจะปฏิบัติไปในแนวนี้ได้ทั้งหมด
แต่ไม่ใช่ครับ การลงทุนแบบ VI คืออะไรที่ต้องฝืนธรรมชาติ เหมือนอย่างที่พี่โจลูกอิสานว่าไว้ ต้องควบคุมความโลภ ต้องกันตัวเองออกจากตัวเลขเขียวๆ แดงๆ หรือข่าวสารมากมาย ที่เข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน บางคนถึงจะอ่านแนวทางการลงทุนแบบ VI ได้เข้าใจลึกซึ้งแล้ว แต่มาอยู่ในตลาดได้ไม่นาน ก็ถูกราคาๆเขียวๆแดงๆ ลากพาไปกับอารมณ์ของตลาดไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
สรุปว่า เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ทุกคนจะมาเป็น VI กันหมด
ได้แค่ 10% ของนักเล่นหุ้นในตลาด ผมก็ว่าเยอะมากแล้ว
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 9
ลองดูหุ้นที่ VI ถือกันมากๆสิครับ เช่น WG IT SE-ED TNHpanupongsk เขียน: แต่ถ้าหากว่าคนส่วนใหญ่ หรือ เกือบทุกคนหันมาใช้แนวทาง VI เหมือนกันหมด มันจะเป็นยังงัย
น่าจะพอเป็นคำตอบได้
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 11
อิอิ มันเป็นคำถามที่เป็นไปไม่ได้ครับ
ยังไงๆก็ไม่มีทางแน่ๆ100% ไม่ต้องคิดหาคำตอบครับ
ผมว่าเอาสมองและเวลามาหาหุ้นที่เหมาะสมกับตัวเราเองดีกว่านะครับ
ไม่ได้มากวนนะครับ เพียงแต่อยากให้เราตั้งคำถามกันใหม่ดีกว่าครับ :)
ยังไงๆก็ไม่มีทางแน่ๆ100% ไม่ต้องคิดหาคำตอบครับ
ผมว่าเอาสมองและเวลามาหาหุ้นที่เหมาะสมกับตัวเราเองดีกว่านะครับ
ไม่ได้มากวนนะครับ เพียงแต่อยากให้เราตั้งคำถามกันใหม่ดีกว่าครับ :)
- ball048
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 12
คงเหมือนกับการลดความอ้วนล่ะครับ ผมว่าทุกคนรู้วิธีดีกว่าแนวทาง VI ซะอีก
แต่พอจะลดจริงๆ ต้องกินให้น้อยลงนะ ออกกำลังกายด้วยล่ะ กลับเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
เหมือนกับแนวทาง VI ล่ะครับ เข้าใจกันเกือบทุกคนล่ะครับ แต่จะมีสักกี่คนที่ปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างจริงจัง
สรุปก็คือใครลดความสำเร็จก็น่าจะประสบความสำเร็จในการลทุนแนว VI :lol:
แต่พอจะลดจริงๆ ต้องกินให้น้อยลงนะ ออกกำลังกายด้วยล่ะ กลับเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
เหมือนกับแนวทาง VI ล่ะครับ เข้าใจกันเกือบทุกคนล่ะครับ แต่จะมีสักกี่คนที่ปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างจริงจัง
สรุปก็คือใครลดความสำเร็จก็น่าจะประสบความสำเร็จในการลทุนแนว VI :lol:
กำลังฝึกให้ปอดแข็งแรงอยู่ครับ
- kmphol
- Verified User
- โพสต์: 417
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 16
ด้วยเหตุนี้แหละครับdensin เขียน:ข้อมูลของแต่ละคนที่ได้รับไม่เท่ากัน
มุมมองของแต่ละคนต่อข้อมูลไม่เหมือนกัน
น้ำหนักที่ให้กับข้อมูลแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน
ต้นทุนทางการเงินแต่ละคนไม่เท่ากัน
ความเสี่ยงแต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน
...ยังมีความต่างอีกมากมาย
จึงมีคนซื้อขายตลอดเวลา ความตอบแทนไม่มีทางเท่ากัน
VI จึงมีทั้งกำไรและขาดทุน
ไม่ใช่เป็น VI แล้วจะมีแต่กำไรลูกเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 430
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 19
ถ้าใช้แนวvi กันหมด จะมีหุ้นหายไปจากตลาดมากมาย(เพราะไม่มีใครซื้อ) :lol:
พวกแรก ๆ เลย ก็พวก ขาดทุนตลอดปีและหลายปี วันดีคืนร้ายก็เพิ่มทุน
พวกถัดมา ก็ pe มีค่าอนันต์ (หาค่ามิได้)55.
ถัดมาอีก พวกราคาต่ำพาร์มั้ง
พวกแรก ๆ เลย ก็พวก ขาดทุนตลอดปีและหลายปี วันดีคืนร้ายก็เพิ่มทุน
พวกถัดมา ก็ pe มีค่าอนันต์ (หาค่ามิได้)55.
ถัดมาอีก พวกราคาต่ำพาร์มั้ง
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 20
ถ้าภถามว่าเป้นอย่างนั้นแล้วจะมีผลอย่างไร คิดว่ามีผลกระทบทุกอย่างตามที่ จขกท โพสมาครับ ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง แต่ก็มีผลดีคือคนขาดทุนก็จะน้อยลงเช่นกันครับ อิอิ
แต่โดยส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสเพราะเหมือนกับที่หลายๆคนกล่าวมามันเป็นไปได้ไหมก็คงตอบว่าได้แต่น้อยนะครับ มีชาวVIเพิ่มมา1คนคงไม่ต่างกับผีเสื้อ1ตัวกระพือปีก และถามว่าโลกจะสะเทือนไหม?ซึ่งคงสะเทือนครับ แต่คงน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ ยกเว้นแต่VIค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเป้นกันแทบทุกคน ซึ่งคงยากครับ555+
ผมรู้จักกับดร.คนหนึ่ง เขาเล่นแนวเทรดเดอร์ ซึ่งแนวเดียวกับผมเมื่อก่อน พอวันนี้ผมเปลี่ยนแนวแล้วคยกับแกว่าเปลี่ยนเหอะ ผลคือพูดปากแทยฉีกก็ไม่เชื่อครับ จึงรู้ว่าความเชื่อของคนเรามันเปลี่ยนกันยากมากๆๆๆๆครับ แม้นจะบออกว่าVIดี มีคนสำเร็จเยอะ วิจัยแล้วสมเหตุสมผล จาสถิติVIผลตอบแทนมากกว่า แต่คนมันจะไม่เชื่อนะครับ มองว่าเชื่องช้า ทำไงได้ อิอิ
ปล.หรือว่าผมอาจจะอธิบายความเป็นVIกับดร.คนนั้นไม่เก่งพอก็ได้นะครับแฮ๊ะๆ....
แต่โดยส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสเพราะเหมือนกับที่หลายๆคนกล่าวมามันเป็นไปได้ไหมก็คงตอบว่าได้แต่น้อยนะครับ มีชาวVIเพิ่มมา1คนคงไม่ต่างกับผีเสื้อ1ตัวกระพือปีก และถามว่าโลกจะสะเทือนไหม?ซึ่งคงสะเทือนครับ แต่คงน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ ยกเว้นแต่VIค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเป้นกันแทบทุกคน ซึ่งคงยากครับ555+
ผมรู้จักกับดร.คนหนึ่ง เขาเล่นแนวเทรดเดอร์ ซึ่งแนวเดียวกับผมเมื่อก่อน พอวันนี้ผมเปลี่ยนแนวแล้วคยกับแกว่าเปลี่ยนเหอะ ผลคือพูดปากแทยฉีกก็ไม่เชื่อครับ จึงรู้ว่าความเชื่อของคนเรามันเปลี่ยนกันยากมากๆๆๆๆครับ แม้นจะบออกว่าVIดี มีคนสำเร็จเยอะ วิจัยแล้วสมเหตุสมผล จาสถิติVIผลตอบแทนมากกว่า แต่คนมันจะไม่เชื่อนะครับ มองว่าเชื่องช้า ทำไงได้ อิอิ
ปล.หรือว่าผมอาจจะอธิบายความเป็นVIกับดร.คนนั้นไม่เก่งพอก็ได้นะครับแฮ๊ะๆ....
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 21
เป้าหมายในการลงทุนไม่เหมือนกัน ก็ต้องใช้วิธีการที่ิแตกต่างกัน
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 22
และแม้เป้าหมายจะเหมือนกัน แต่บางคนก็ชอบนั่งรถไฟ บางคนรถทัวร์ บางคนขับรถไปเอง บางคนเดินเอา บางคนเกาะรถ บางคนก็ชอบรถไฟเหาะ
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 24
ผมว่า ถ้า เป็น vi กันหมด ผลตอบแทนของหุ้นทุกตัวก็จะวัดกันที่ ปันผลครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 25
ขอร่วมแสดงความเห็นครับ
ถ้าทุกคนเป็น VI ทั้งหมด
1. ตลาดจะไม่ใช่ที่เก็งกำไรต่อไป แต่จะเป็นที่เก็งผลประกอบการณ์แทน
2. ผู้บริหารต้องทำตามสัญญาให้ได้
3. การประเมินบริษัทถึงจะใช้วิธีเดียวกันแต่ค่าที่ได้ต่างกันนะครับ
4. หุ้นเก็บได้ยากขึ้น
5. โอกาสที่จะเกิด panic sale น้อยลง (หรือเปล่า)
6. ที่พูดมาโอกาสเป็นไปได้น้อยมากครับ
เพราะการลงทุนไม่ได้ขึ้นกับความรู้อย่างเดียว แต่มันขึ้นกับความรู้สึกด้วยครับ
ถ้าทุกคนเป็น VI ทั้งหมด
1. ตลาดจะไม่ใช่ที่เก็งกำไรต่อไป แต่จะเป็นที่เก็งผลประกอบการณ์แทน
2. ผู้บริหารต้องทำตามสัญญาให้ได้
3. การประเมินบริษัทถึงจะใช้วิธีเดียวกันแต่ค่าที่ได้ต่างกันนะครับ
4. หุ้นเก็บได้ยากขึ้น
5. โอกาสที่จะเกิด panic sale น้อยลง (หรือเปล่า)
6. ที่พูดมาโอกาสเป็นไปได้น้อยมากครับ
เพราะการลงทุนไม่ได้ขึ้นกับความรู้อย่างเดียว แต่มันขึ้นกับความรู้สึกด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด
โพสต์ที่ 26
เหมือนๆกับที่ผมเคยถามตัวเองว่า ถ้าทุกคนถือศีลห้ากันหมด โลกนี้จะเป็นยังไงน้อ เพราะผมรู้ทั้งรู้ว่าถ้าถือศีลห้าแล้วมันทำให้จิตใจสงบร่มเย็น แต่ทำไม่เคยได้ครบซะที