ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
-
- Verified User
- โพสต์: 297
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 1
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง ค่า P/E 15 เท่า P/BV 2.5
กับหุ้นอีกตัวหนึ่ง กำไรน้อยกว่า แต่ราคาตลาดต่ำกว่า ค่า P/E 4 เท่า P/BV 0.7
ยอดขายพอ ๆ กัน อุตสาหกรรมเดียวกัน กำไรต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน ควรเลือกตัวไหน
กับหุ้นอีกตัวหนึ่ง กำไรน้อยกว่า แต่ราคาตลาดต่ำกว่า ค่า P/E 4 เท่า P/BV 0.7
ยอดขายพอ ๆ กัน อุตสาหกรรมเดียวกัน กำไรต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน ควรเลือกตัวไหน
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 4
ตัวไหน กำไรเพ่ิมได้มากกว่า(เทียบต่อหุ้น) แล้วมีโอกาสโตมากกว่า
ก็เลือกอันนั้นแหละครับ
ก็เลือกอันนั้นแหละครับ
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 6
ผมว่าการถามว่าบริษัท A หรือ B ดีกว่ากัน โดยให้ข้อมูลบางส่วน และไม่เอ่ยชื่อบริษัทลักษณะนี้ คงได้ไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรมากนักinvestor9000 เขียน:ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง ค่า P/E 15 เท่า P/BV 2.5
กับหุ้นอีกตัวหนึ่ง กำไรน้อยกว่า แต่ราคาตลาดต่ำกว่า ค่า P/E 4 เท่า P/BV 0.7
ยอดขายพอ ๆ กัน อุตสาหกรรมเดียวกัน กำไรต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน ควรเลือกตัวไหน
เนื่องจากการตัดสินใจเลือกลงทุนในบริษัทไหนนั้น เราคงไม่พิจารณาข้อมูลแต่ข้อมูลเชิงประมาณอย่างเดียว
และถึงแม้จะพิจารณาข้อมูลเชิงปริมาณ เราก็ต้องการข้อมูลดิบมากกว่านี้มากครับ ผมคงต้องวิเคราะห์งบการเงินทั้งฉบับย้อนหลังรายไตรมาสไปอย่างน้อย 3 ถึง 5 ปี
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 7
กำไรต่อหุ้น มันจะทำให้ค่า BV เพิ่มขึ้นเองครับ
ดังนั้น เลือกตัวที่กำไรดีกว่า growth มากกว่าในวันนี้ เพื่ออนาคต
ตัวที่ PE น้อย เพราะตลาดให้มูลค่าต่ำ
อาจเป็นเพราะความสามารถในการทำกำไรต่ำก็ได้ แสดงว่า growth มีไม่มาก
ถ้ามีข้อมูลแค่ที่ให้มา ก็ต้องเลือกตัว PE สูง กำไรดีกว่า growth ดีกว่า อยู่แล้ว
ดังนั้น เลือกตัวที่กำไรดีกว่า growth มากกว่าในวันนี้ เพื่ออนาคต
ตัวที่ PE น้อย เพราะตลาดให้มูลค่าต่ำ
อาจเป็นเพราะความสามารถในการทำกำไรต่ำก็ได้ แสดงว่า growth มีไม่มาก
ถ้ามีข้อมูลแค่ที่ให้มา ก็ต้องเลือกตัว PE สูง กำไรดีกว่า growth ดีกว่า อยู่แล้ว
- killyz
- Verified User
- โพสต์: 409
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 8
PS กับ SIRI ใช่ไหมครับ
กิจการที่อยู่อุตสาหกรรมเดียวกัน ยอดขายใกล้กัน
ใช่ว่าจะทำกำไรได้เท่ากันและมีอัตราเติบโตของกำไรเท่ากัน
ดูทรัพย์สินรวม หนี้สินและส่วนผู้ถือหุ้นด้วยน่ะครับ
กิจการลงทุนเยอะแต่กำไรน้อยกว่ากิจการที่ลงทุนน้อย
กิจการที่อยู่อุตสาหกรรมเดียวกัน ยอดขายใกล้กัน
ใช่ว่าจะทำกำไรได้เท่ากันและมีอัตราเติบโตของกำไรเท่ากัน
ดูทรัพย์สินรวม หนี้สินและส่วนผู้ถือหุ้นด้วยน่ะครับ
กิจการลงทุนเยอะแต่กำไรน้อยกว่ากิจการที่ลงทุนน้อย
การลงทุนมีความเสียว โปรดใช้วิจารณญาณในการลอก
-
- Verified User
- โพสต์: 297
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 10
แม่นยังกับตาเห็น ผมมองสองตัวนี้จริง ๆchinn เขียน:ถ้าหลับตาจิ้มก็ต้องบอกว่าเลือก SIRIi
แต่เทียบ LH กับ SIRI ก็คิดหนัก
เลยไม่เลือกทั้งคู่ครับ
เพราะไม่ชอบอุตสาหกรรมนี้
LH ROS สูงกว่าก็จริง แต่มีหนี้สินมากกว่า แต่ก็มี Land Bank มากกว่า
เลยไม่รู้ว่ามันจะดีกว่าไหม
SIRI มีต้นทุนการขายที่สูงกว่า ซึ่งไม่รู้ทำไม
ถ้าพูดถึง Brand ผมมองว่า Sansiri เหนือกว่านิดหน่อย
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 11
แม่นยังกับตาเห็น ผมมองสองตัวนี้จริง ๆinvestor9000 เขียน:
LH
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่างหุ้น 2 ตัว ตัวหนึ่งกำไรดีกว่า แต่ราคาตลาดแพง
โพสต์ที่ 13
ผมว่าที่เทพๆเจตนาจะบอกก็คือไม่มีหุ้นตัวไหนทุกอย่างเหมือนกันแต่ต่างกันแค่นั้นหรอกครับ....
ซึ่งจากคำถามหากหลายๆใกล้เคียงกันผมมองการได้ผลตอบแทนเป้นสองส่วนครับ
1.ผลตอบแทนปกติ
-ถ้ามองมุมนี้ผมชอบตัวกำไรเยอะๆมากกว่าครับ ลองแทนค่าดูครับหากPEเท่าเดิม เอากำไรมาแบ่งเป็นส่วนปันผลและส่วนที่ใส่ลงในBV หากROEเท่าเดิมจะพบว่า หุ้นที่ROEสูงกว่าUpsideจะมากกว่าครับ ลองแทนค่าดู
อันนี้ได้ชัวร์ๆได้เรื่อยๆครับ
2.ผลตอบแทนจากการเปลี่ยนPE
-มองในมุมเรื่องการเปลี่ยนPE เช่นจาก4วิ่งไป15 ก็จะมีUpsideมากมายครับ
แต่เราไม่รู้ว่าตลาดจะให้ปรับPEให้เมื่อไหร่ก็ต้องรอหน่อยครับ แต่ก็ต้องคิดให้ดีๆว่าหุ้นที่PE4ตัวนนี้มีความเหมาะสมที่จะหรับPEเป็น15ได้จริงหรือไม่?
ซึ่งผมมมองว่าการเข้าหุ้นทุกครั้งต้องแน่ชัดว่าเราเข้าเพราะอะไร หวังกำไรปกติ หรือจากการปรับPEครับ ถ้าทางที่ดีในพอรืทควรมีหุ้นทั้งสองแนวนะครับแนวรับและรุกครับ อิอิ
ซึ่งจากคำถามหากหลายๆใกล้เคียงกันผมมองการได้ผลตอบแทนเป้นสองส่วนครับ
1.ผลตอบแทนปกติ
-ถ้ามองมุมนี้ผมชอบตัวกำไรเยอะๆมากกว่าครับ ลองแทนค่าดูครับหากPEเท่าเดิม เอากำไรมาแบ่งเป็นส่วนปันผลและส่วนที่ใส่ลงในBV หากROEเท่าเดิมจะพบว่า หุ้นที่ROEสูงกว่าUpsideจะมากกว่าครับ ลองแทนค่าดู
อันนี้ได้ชัวร์ๆได้เรื่อยๆครับ
2.ผลตอบแทนจากการเปลี่ยนPE
-มองในมุมเรื่องการเปลี่ยนPE เช่นจาก4วิ่งไป15 ก็จะมีUpsideมากมายครับ
แต่เราไม่รู้ว่าตลาดจะให้ปรับPEให้เมื่อไหร่ก็ต้องรอหน่อยครับ แต่ก็ต้องคิดให้ดีๆว่าหุ้นที่PE4ตัวนนี้มีความเหมาะสมที่จะหรับPEเป็น15ได้จริงหรือไม่?
ซึ่งผมมมองว่าการเข้าหุ้นทุกครั้งต้องแน่ชัดว่าเราเข้าเพราะอะไร หวังกำไรปกติ หรือจากการปรับPEครับ ถ้าทางที่ดีในพอรืทควรมีหุ้นทั้งสองแนวนะครับแนวรับและรุกครับ อิอิ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ