คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
- doodeemak
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 1
เห็นช่วงนี้มีน้องใหม่เอี่ยมเข้ามาโพสต์เยอะ น้องใหม่ปานกลางเลยอยากแนะนำ
แบ่งเงินออมออกมา 20% ของเงินออมรวมเพื่อลงทุนหุ้นในปีแรกก่อน
จากนั้นก็แบ่งเป็น 5 ก้อนครับ
1) เงินประมาณ 20% ให้กันไว้ลงทุนหุ้นฮิตที่เราคิดว่าดี หรือเล่นตามเซียน
เช่น SMT, HEMRAJ, JMART ในตอนนี้
2) เงินประมาณ 20% ให้ลงทุนกับหุ้นที่เรามองว่าอัตราส่วนต่างๆจูงใจมากๆ เช่น
ROE ดี ROA ดี ปันผลสม่ำเสมอ PE ไม่สูงเกินไป โดยดูเอาจากหนังสือพิมพ์ก็ได้ครับ
3) เงินประมาณ 20% ให้ลงทุนในหุ้นที่เรามองว่าอนาคตดีมาก พื้นฐานดี โดยไม่เกี่ยง
ราคา เช่น CPALL
4) เงินประมาณ 20% ให้ลงทุนในหุ้นที่เราคิดว่ามี asset แฝงเยอะ เช่นพวก
ที่ดิน
5) เงินที่เหลือเก็บเป็นเงินสด รอในพอร์ต (ไม่แนะนำให้เล่นหุ้นปั่นครับ..แฮ่)
จากนั้นก็ซื้อแหลกเลยครับ ไม่ต้องคิดมาก
แล้วลองนั่งสังเกตสิ่งที่มันวิ่งวนในหัวตัวเองทุกๆวันครับ
จากประสบการณ์ตรง จะมีความคิดของตัวเองวิ่งในหัวประมาณนี้นะครับ
หุ้นกลุ่มที่ 1
ตื่นเช้ามา เมื่อเข้า Internet ได้
"วันนี้เซียนโพสอะไรใหม่ๆป่าววะ ไปดูในร้อยคน ร้อนหุ้นก่อน"
5 นาทีผ่านไป
เฮ้ย ลอง refresh ดูหน่อยซิ เผื่อมีข่าวอะไรใหม่ๆ
15 นาทีผ่านไป
ลอง pm ถามเลยดีกว่า ว่าราคานี้ยังถือต่อได้ไหม
หุ้นกลุ่มที่ 2 กับ 4
ทำไมราคาไม่วิ่งเลยวะ ตัวอื่นเค้าวิ่งกันฉิวๆ
ขายทิ้งก่อนดีมั๊ยเนี่ย เสียโอกาสทำกำไรหมด
อ่า ราคาเริ่มขยับละ
เอ้า... ราคากลับมาที่เดิมอีกละ ถ้าขึ้นมาอีกแม่จะขายทิ้งซะเลยนี่
ทำไมกระทู้เงียบฉี่เลยฟะ ไม่มีใครมา update เลย
หุ้นกลุ่ม 3 (ราคามักเปลี่ยนแปลงบ่อยกว่ากลุ่มที่ 2, 4)
พอราคาขึ้น: เป็นไงล่ะ ดีนะที่ซื้อก่อน..เหอะๆๆ
พอราคาลง: เฮ้ย ลงเพราะอะไรเนี่ย ฝรั่งขายป่าว มีข่าวใหม่ๆมะนี่
พอเริ่มชิน: เดี๋ยวถ้ามันขึ้น ลองขายไปก่อนดีกว่า แล้วค่อยซื้อคืนตอนลง...อิอิ
หุ้นกลุ่มที่ 5 (เงินสด): มักจะหายไปในวันแรกกับหุ้นกลุ่มที่ 1 หลังจากอ่านกระทู้ใหม่ๆ
ลองฝึกประมาณ 1 ปีครับ จากนั้นก็ขายทิ้งให้หมด ส่วนตัวคิดว่าผลตอบแทน
น่าจะอยู่ที่ -15% ถึง +5%
แล้วกลับไปอ่านหนังสือลงทุนหรือคลังกระทู้คุณค่าหรือห้องบทความ ใน web
แล้วดูว่า เรามีวิธีคิดในการเลือกหุ้น ซื้อหุ้นหรือขายหุ้นเปลี่ยนไปไหม
ตอนนี้ผมเพิ่งเริ่มเปลี่ยนครับ เลยโพสได้แค่นี้ อิอิ
แบ่งเงินออมออกมา 20% ของเงินออมรวมเพื่อลงทุนหุ้นในปีแรกก่อน
จากนั้นก็แบ่งเป็น 5 ก้อนครับ
1) เงินประมาณ 20% ให้กันไว้ลงทุนหุ้นฮิตที่เราคิดว่าดี หรือเล่นตามเซียน
เช่น SMT, HEMRAJ, JMART ในตอนนี้
2) เงินประมาณ 20% ให้ลงทุนกับหุ้นที่เรามองว่าอัตราส่วนต่างๆจูงใจมากๆ เช่น
ROE ดี ROA ดี ปันผลสม่ำเสมอ PE ไม่สูงเกินไป โดยดูเอาจากหนังสือพิมพ์ก็ได้ครับ
3) เงินประมาณ 20% ให้ลงทุนในหุ้นที่เรามองว่าอนาคตดีมาก พื้นฐานดี โดยไม่เกี่ยง
ราคา เช่น CPALL
4) เงินประมาณ 20% ให้ลงทุนในหุ้นที่เราคิดว่ามี asset แฝงเยอะ เช่นพวก
ที่ดิน
5) เงินที่เหลือเก็บเป็นเงินสด รอในพอร์ต (ไม่แนะนำให้เล่นหุ้นปั่นครับ..แฮ่)
จากนั้นก็ซื้อแหลกเลยครับ ไม่ต้องคิดมาก
แล้วลองนั่งสังเกตสิ่งที่มันวิ่งวนในหัวตัวเองทุกๆวันครับ
จากประสบการณ์ตรง จะมีความคิดของตัวเองวิ่งในหัวประมาณนี้นะครับ
หุ้นกลุ่มที่ 1
ตื่นเช้ามา เมื่อเข้า Internet ได้
"วันนี้เซียนโพสอะไรใหม่ๆป่าววะ ไปดูในร้อยคน ร้อนหุ้นก่อน"
5 นาทีผ่านไป
เฮ้ย ลอง refresh ดูหน่อยซิ เผื่อมีข่าวอะไรใหม่ๆ
15 นาทีผ่านไป
ลอง pm ถามเลยดีกว่า ว่าราคานี้ยังถือต่อได้ไหม
หุ้นกลุ่มที่ 2 กับ 4
ทำไมราคาไม่วิ่งเลยวะ ตัวอื่นเค้าวิ่งกันฉิวๆ
ขายทิ้งก่อนดีมั๊ยเนี่ย เสียโอกาสทำกำไรหมด
อ่า ราคาเริ่มขยับละ
เอ้า... ราคากลับมาที่เดิมอีกละ ถ้าขึ้นมาอีกแม่จะขายทิ้งซะเลยนี่
ทำไมกระทู้เงียบฉี่เลยฟะ ไม่มีใครมา update เลย
หุ้นกลุ่ม 3 (ราคามักเปลี่ยนแปลงบ่อยกว่ากลุ่มที่ 2, 4)
พอราคาขึ้น: เป็นไงล่ะ ดีนะที่ซื้อก่อน..เหอะๆๆ
พอราคาลง: เฮ้ย ลงเพราะอะไรเนี่ย ฝรั่งขายป่าว มีข่าวใหม่ๆมะนี่
พอเริ่มชิน: เดี๋ยวถ้ามันขึ้น ลองขายไปก่อนดีกว่า แล้วค่อยซื้อคืนตอนลง...อิอิ
หุ้นกลุ่มที่ 5 (เงินสด): มักจะหายไปในวันแรกกับหุ้นกลุ่มที่ 1 หลังจากอ่านกระทู้ใหม่ๆ
ลองฝึกประมาณ 1 ปีครับ จากนั้นก็ขายทิ้งให้หมด ส่วนตัวคิดว่าผลตอบแทน
น่าจะอยู่ที่ -15% ถึง +5%
แล้วกลับไปอ่านหนังสือลงทุนหรือคลังกระทู้คุณค่าหรือห้องบทความ ใน web
แล้วดูว่า เรามีวิธีคิดในการเลือกหุ้น ซื้อหุ้นหรือขายหุ้นเปลี่ยนไปไหม
ตอนนี้ผมเพิ่งเริ่มเปลี่ยนครับ เลยโพสได้แค่นี้ อิอิ
Inactive investor
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 2
-15 - 5 % เหรอครับ
:shock: :shock:
:shock: :shock:
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- doodeemak
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 5
ผมคิดว่าเป็นวิธีการเรียนแนวใหม่น่ะครับ
คิดว่าทุกท่านที่เป็น VI มานานคงจะผ่านประสบการณ์แนวนี้มามาก
เลยอยากแนะนำมือใหม่เอี่ยมให้ลองทำดู
แต่แทนที่จะลองแต่หุ้นกลุ่ม 1 ร้อยเปอร์เซนต์ และใช้เงินออม
ทั้ง 100% มาลงทุนหุ้น
ก็ให้แบ่งเงินออมออกมาแค่ 20% น่ะครับ
แล้วก็กระจายลงในหุ้นที่ VI ทั้งหลายเคยผ่านมาก่อนพร้อมๆกัน
เพื่อประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูก
ผมคิดว่ามือใหม่เอี่ยม หากจัดพอร์ตแบบนี้ ก็จะเจ็บตัวไม่มาก
และได้เรียนรู้ค่อนข้างเร็ว แต่ที่สำคัญต้องคอยสังเกต
การเคลื่อนไหวของจิตใจเรา กับหุ้นแบบต่างๆน่ะครับ :D
คิดว่าทุกท่านที่เป็น VI มานานคงจะผ่านประสบการณ์แนวนี้มามาก
เลยอยากแนะนำมือใหม่เอี่ยมให้ลองทำดู
แต่แทนที่จะลองแต่หุ้นกลุ่ม 1 ร้อยเปอร์เซนต์ และใช้เงินออม
ทั้ง 100% มาลงทุนหุ้น
ก็ให้แบ่งเงินออมออกมาแค่ 20% น่ะครับ
แล้วก็กระจายลงในหุ้นที่ VI ทั้งหลายเคยผ่านมาก่อนพร้อมๆกัน
เพื่อประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูก
ผมคิดว่ามือใหม่เอี่ยม หากจัดพอร์ตแบบนี้ ก็จะเจ็บตัวไม่มาก
และได้เรียนรู้ค่อนข้างเร็ว แต่ที่สำคัญต้องคอยสังเกต
การเคลื่อนไหวของจิตใจเรา กับหุ้นแบบต่างๆน่ะครับ :D
Inactive investor
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 244
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 6
ถ้ามือใหม่ผมว่าไปอ่าน little book แล้วทำตามนั้นเลยดีกว่า เท่าทีลองมา มันชนะตลาดและชนะไม่น้อยด้วย สำหรับคนที่ไม่มีเวลาติดตามหรืออ่านงบไม่ออก
- kin
- Verified User
- โพสต์: 668
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 8
ผมว่าทำตามความเห็นของคุณ doodeemak มันก็มีข้อดีหลายอย่างนะครับ เช่น
1. การใช้เงินจริงในการศึกษาลองผิดลองถูก แม้ไม่ใช่จำนวนมาก แต่จะทำให้เรามีแนวโน้มจะจริงจังมากกว่า เพราะมันมีการได้เสียเกิดขึ้นจริงๆ ผมว่ามันทำให้เราเรียนรู้เร็วกว่านะครับ คล้ายๆ ตอนเด็กๆ เล่นพนันบอลกับเพื่อนเล็กๆ น้อยๆ มันทำให้เราดูฟุตบอลสนุกขึ้น และแทบจะเรียกว่าลุ้นและเชียร์ขาดใจ
2. การทดลองและศึกษาแบบนี้ ทำให้เราฝึกที่จะเรียนรู้ว่า ความเจ็บปวดจากการผิดพลาดเป็นอย่างไร มันช่วยได้ในอนาคตว่าถ้าทำแบบไหนจะเจ็บ ไม่งั้นบางคนแขนขาดยังไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ว่าเจ็บก็แทบขาดใจ
3. มันช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งถึงสิ่งที่เราอ่านในตำรา ทำให้เราเชื่อและมั่นใจว่าแนวทางที่เราศึกษานั้นเป็นของจริง ถ้าเราเชื่อแต่แรกและเดินตาม บางคนผมว่ามีไขว้เขวและชอบมีคำถามในใจ เวลาผลตอบแทนแย่ๆ และอาจตัดสินใจอะไรผิดไปเพราะเสียศรัทธาไปแล้ว แต่ถ้าเราพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อน เราจะไม่ไขว้เขวเมื่อเหตุการณ์คับขันมาถึง เราจะยึดมั่นหลักการเดิมอยู่เสมอเพราะเรามั่นใจแล้ว
1. การใช้เงินจริงในการศึกษาลองผิดลองถูก แม้ไม่ใช่จำนวนมาก แต่จะทำให้เรามีแนวโน้มจะจริงจังมากกว่า เพราะมันมีการได้เสียเกิดขึ้นจริงๆ ผมว่ามันทำให้เราเรียนรู้เร็วกว่านะครับ คล้ายๆ ตอนเด็กๆ เล่นพนันบอลกับเพื่อนเล็กๆ น้อยๆ มันทำให้เราดูฟุตบอลสนุกขึ้น และแทบจะเรียกว่าลุ้นและเชียร์ขาดใจ
2. การทดลองและศึกษาแบบนี้ ทำให้เราฝึกที่จะเรียนรู้ว่า ความเจ็บปวดจากการผิดพลาดเป็นอย่างไร มันช่วยได้ในอนาคตว่าถ้าทำแบบไหนจะเจ็บ ไม่งั้นบางคนแขนขาดยังไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ว่าเจ็บก็แทบขาดใจ
3. มันช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งถึงสิ่งที่เราอ่านในตำรา ทำให้เราเชื่อและมั่นใจว่าแนวทางที่เราศึกษานั้นเป็นของจริง ถ้าเราเชื่อแต่แรกและเดินตาม บางคนผมว่ามีไขว้เขวและชอบมีคำถามในใจ เวลาผลตอบแทนแย่ๆ และอาจตัดสินใจอะไรผิดไปเพราะเสียศรัทธาไปแล้ว แต่ถ้าเราพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อน เราจะไม่ไขว้เขวเมื่อเหตุการณ์คับขันมาถึง เราจะยึดมั่นหลักการเดิมอยู่เสมอเพราะเรามั่นใจแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1223
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 9
พี่ดูดีมากมีตัวอย่างหุ้นประกอบให้ด้วยใช้ได้เลยครับ
แต่สิ่งสำคัญหากน้องใหม่ๆจะทดลองจริงๆ
ผมว่าต้องเข้าใจแต่ละบริษัทให้ดีครับ
เพราะคนที่ไม่เข้าใจว่าบริษัทนั้นๆทำอะไร
มีปัจจัยอะไรที่จะกระทบกับผลประกอบการณ์บ้าง
เมื่อราคาหุ้นขึ้นหรือลงจะสับสนจนทำอะไรไม่ถูกครับ
ยิ่งถ้าก่อนซื้อสามารถประเมินมูลค่าหุ้นคร่าวๆ ไว้ด้วยนี่ยิ่งดีครับ
หุ้นจะขึ้นจะลงเราจะได้ไม่หวั่นไหวเวลาถือครับ
พยายามเลือกเอาบริษัทที่เราเข้าใจ และให้คิดในแนวร่วมหุ้นทำธุระกิจไปกับเค้าน๊ะครับ
จะลงทุนได้อย่างมีความสุขครับ
แต่สิ่งสำคัญหากน้องใหม่ๆจะทดลองจริงๆ
ผมว่าต้องเข้าใจแต่ละบริษัทให้ดีครับ
เพราะคนที่ไม่เข้าใจว่าบริษัทนั้นๆทำอะไร
มีปัจจัยอะไรที่จะกระทบกับผลประกอบการณ์บ้าง
เมื่อราคาหุ้นขึ้นหรือลงจะสับสนจนทำอะไรไม่ถูกครับ
ยิ่งถ้าก่อนซื้อสามารถประเมินมูลค่าหุ้นคร่าวๆ ไว้ด้วยนี่ยิ่งดีครับ
หุ้นจะขึ้นจะลงเราจะได้ไม่หวั่นไหวเวลาถือครับ
พยายามเลือกเอาบริษัทที่เราเข้าใจ และให้คิดในแนวร่วมหุ้นทำธุระกิจไปกับเค้าน๊ะครับ
จะลงทุนได้อย่างมีความสุขครับ
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 10
อ่านตอนแรกก็งง ๆว่าทำไมถึงแนะนำแบบนั้น อ่านต่อไปก็ get แล้ว ซื้อบทเรียนด้วยราคาไม่แพงมาก :o
แต่ก็มีข้อคิดจาก Charlie Munger
" You Don't Have to Pee on an Electric Fence to Learn Not to Do It "
แต่ก็มีข้อคิดจาก Charlie Munger
" You Don't Have to Pee on an Electric Fence to Learn Not to Do It "
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 11
เห็นด้วยกับจขกท.ครับ
ให้ดีควรระบุให้ชัดตอนซื้อว่าเข้ากลุ่มไหน
เป็นการฝึกจากของจริง ได้อารมณ์ร่วม และประสบการณ์จริง
สุดท้ายผลเป็นอย่างไร หลังจากประเมินแล้วน่าจะหาหนทางที่เหมาะกับตัวเองเจอ
ถ้าเป็นไปได้ เพิ่มกลุ่มหุ้นเล่นตามกราฟ กับหุ้นปั่นเล่นตามข่าวด้วย นี่ครบวงจรเลย
ให้ดีควรระบุให้ชัดตอนซื้อว่าเข้ากลุ่มไหน
เป็นการฝึกจากของจริง ได้อารมณ์ร่วม และประสบการณ์จริง
สุดท้ายผลเป็นอย่างไร หลังจากประเมินแล้วน่าจะหาหนทางที่เหมาะกับตัวเองเจอ
ถ้าเป็นไปได้ เพิ่มกลุ่มหุ้นเล่นตามกราฟ กับหุ้นปั่นเล่นตามข่าวด้วย นี่ครบวงจรเลย
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 12
[quote="unnop.t"]อ่านตอนแรกก็งง ๆว่าทำไมถึงแนะนำแบบนั้น อ่านต่อไปก็ get แล้ว ซื้อบทเรียนด้วยราคาไม่แพงมาก
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 14
แล้วมีคนว่ายน้ำเป็น ขี่จักรยานเป็น จากการเรียนรู้ประสบการณ์คนอื่นมั้ยครับ :8)unnop.t เขียน: แต่ก็มีข้อคิดจาก Charlie Munger
" You Don't Have to Pee on an Electric Fence to Learn Not to Do It "
- Jazzman
- Verified User
- โพสต์: 388
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 16
-_-" ได้แต่อ้าปาก หวอ
การลงทุนที่ดีที่สุด คือ ลงทุนในสิ่งที่รู้และเข้าใจ และอย่าขาดทุน สิ่งแรก สำหรับน้องใหม่ คือ อ่านหนังสือ ปูพื้นฐาน คับ ตลาดหุ้นเปิดทุกวัน เด้อ
เงินไม่ได้หาง่ายๆ แต่ถ้า รวยก็มะว่ากัน เด้อ
ปล. ผมก็มือ ใหม่ แอบแนะนำมือใหม่ด้วย กัน คงไม่ว่ากัน
การลงทุนที่ดีที่สุด คือ ลงทุนในสิ่งที่รู้และเข้าใจ และอย่าขาดทุน สิ่งแรก สำหรับน้องใหม่ คือ อ่านหนังสือ ปูพื้นฐาน คับ ตลาดหุ้นเปิดทุกวัน เด้อ
เงินไม่ได้หาง่ายๆ แต่ถ้า รวยก็มะว่ากัน เด้อ
ปล. ผมก็มือ ใหม่ แอบแนะนำมือใหม่ด้วย กัน คงไม่ว่ากัน
ลงทุนในสิ่งที่เพิ่ม " ค่า " ไปเรื่อยๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 17
[quote="unnop.t"]
ไม่เป็นแน่นอนครับ ถ้าเอาแต่ดูไม่ลงมือทำ ผมไม่ได้ค้าน จขกท แต่ผมกำลังบอกว่า Munger ต้องการสื่อคือ ประสบการณ์เลวร้ายบางอย่างเรียนรู้ได้ มันไม่คุ้มหรอกที่จะทำถ้ามันมีบทเรียนให้เห็นอยู่ ยกตัวอย่างเช่น หลาย ๆท่านในเวป TVI บอกเล่าประสบการณ์ข้อผิดพลาดในอดีต ไว้เป็นบทเรียน เราสามารถเรียนรู้ได้ตรงนั้น มันช่วยลดการสูญเสียได้
ไม่เป็นแน่นอนครับ ถ้าเอาแต่ดูไม่ลงมือทำ ผมไม่ได้ค้าน จขกท แต่ผมกำลังบอกว่า Munger ต้องการสื่อคือ ประสบการณ์เลวร้ายบางอย่างเรียนรู้ได้ มันไม่คุ้มหรอกที่จะทำถ้ามันมีบทเรียนให้เห็นอยู่ ยกตัวอย่างเช่น หลาย ๆท่านในเวป TVI บอกเล่าประสบการณ์ข้อผิดพลาดในอดีต ไว้เป็นบทเรียน เราสามารถเรียนรู้ได้ตรงนั้น มันช่วยลดการสูญเสียได้
Speculators deal with greed.
Investors deal with fear.
Investors deal with fear.
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 20
- ลงทุนในหุ้นที่เราเข้าใจ และรู้จักกิจการ และแนวโน้มการทำกำไรในอนาคตของเค้า
- รักษาระยะห่างจากตลาด กับตัวเราให้เหมาะสม
- มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับ
- รักษาระยะห่างจากตลาด กับตัวเราให้เหมาะสม
- มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 24
Four things that are true about value investors is that:
1 They only invest in business they understand.
2 They get excited when equity prices are declining.
3 They first think about the probability of capital loss before thinking about tha capital gain.
4 They tend to find great bargains in unloved areas of the market.
1 They only invest in business they understand.
2 They get excited when equity prices are declining.
3 They first think about the probability of capital loss before thinking about tha capital gain.
4 They tend to find great bargains in unloved areas of the market.
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 25
แจ่มจริง ๆ ครับ ... ท่านพี่เข้ามาให้คำแนะนำเองเลยIMAGINATION เขียน:Four things that are true about value investors is that:
1 They only invest in business they understand.
2 They get excited when equity prices are declining.
3 They first think about the probability of capital loss before thinking about tha capital gain.
4 They tend to find great bargains in unloved areas of the market.
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 26
ช่วงต้นๆ ที่ผมเป็นมือใหม่ ผมซื้อกองทุนครับ น้อยๆ ก็ซื้อได้chotipat เขียน:น้องใหม่นะครับ
เงินเดือนเดือนแรก 12000 จะเก็บ 3000
แบ่ง 5 ก้อนยังไงดีละครับ
ถ้าจำไม่ผิดลงทุนผ่านกองทุนไปประมาณสักประมาณครึ่งปีถึง 1 ปี ได้ จึงเริ่ม มีความรู้ระดับหนึ่ง จึงเริ่มทะยอยขายกองทุนมาซื้อหุ้น ก็เจ๊งบ้าง กำไรบ้าง ค่อยๆ ลดพอร์ตกองทุนลงเรื่อยๆ กว่าจะกลายเป็นหุ้นทั้งหมดรู้สึกว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีได้ครับ
- หมีบึงกุ่ม
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 28
ขอแชร์รูปแบบมือใหม่ของผมเพิ่มเติมครับ...
ยุค 1. เคยดูเรื่อง "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" แค่ไม่กี่ตอน บวกกับเคยไปห้องค้าแค่ทีสองที ตั้งแต่เด็ก เลยติดความทรงจำเป็นภาพมาว่าเล่นหุ้นให้รวยต้องไปห้องค้า เฝ้าดูราคา อาศัย sense + ดวง มาซื้อขายบ่อยๆ ลงมือเร็วๆ แล้วจะรวย มาตั้งแต่เด็ก
ติดอาวุธความรู้แรกๆ เพียงแค่จากหนังสือ SET เกี่ยวกับพื้นฐานการเงินเล็กๆ น้อย พอไปคุยกับแม่ได้ว่าฝากเงินกินดอกเนียะไม่รวย ซื้อที่ดินก็รวยช้ารอนาน ซื้อขายยาก ไม่มีปันผล ซื้อทองก็ราคานิ่งๆ (ตอนนั้นนะ) อะไรประมาณนี้ เรียนจบก็อาสาเอาเงินแม่มาลุย (ก็เงินตัวเองยังหาได้ไม่เท่าไร) กำหนดกลยุทธขึ้นเองคือจะซื้อหุ้นตัวแรกเอาราคาถูกๆ เวลามันเด้ง 1 ช่องจะได้ดูแล้วเป็นเปอร์เซ็นต์เยอะหน่อย (ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าแต่ละราคามันเด้งช่องหนึ่งไม่เท่ากัน ยิ่งไม่เคยสังเกตเลยว่า ถ้าซื้อที่ราคา 1, 5, 10, 25...etc. บาท เวลาเด้ง 1 ช่องจะขึ้น 1% เท่ากัน) ซื้อตัวแรกก็ RAIMON ซื้อปุบขึ้นปั๊ป (โชดดีของมือใหม่) แป็บเดียวไม่ถึงครึ่งชั่วโมงได้กำไร 3 ช่องขายเลยเอาแบบเจ้าพ่อตลาดหุ้น ทำกำไรได้พันต้นๆ ดีใจมากหาเงินง่าย ได้ไว เริ่มคิด ทำแบบนี้ได้บ่อยๆ วันละ 1200 * 30วัน เดือนละ 36,000 :ep: อย่ากระนั้นเลยนี่แค่ 30 นาทีนะ ถ้ามีเวลานั่งเฝ้า+อาศัยมือไวสั่งซื้อขายไวต้องรวยแน่ๆ (ตอนนั้นเริ่มต้นผมก็ใช้บัญชีอินเตอร์เน็ตซื้อขายเองแล้ว) พวกห้องค้าที่ไม่ได้กำไรคงจะช้าเงอะๆ งะๆ (เพราะภาพเก่าตอนเด็กที่เคยเห็นมีแต่คนแก่นั่ง และยังไม่มีเน็ตต้องสั่งซื้อขายจากโบรก) ดั้นลืมคิดถึงตอนลง (ดูหนังมาแค่ตอนขึ้น) ก็...เจ๊งตามระเบียบ
ยุค 2 หลังจากนั้นก็พยายามเที่ยวคิดเองเออเองเกี่ยวกับกลยุทธต่างๆ อีกหลายแบบเพื่อเอาให้ได้อยากจะเป็น เจ้าพ่อตลาดหุ้น ประมาณว่าลองซื้อพวกที่เป็น TOP Looser (%) เอาที่ลงหนักๆ เลยยิ่งดีซื้อวันนี้ พรุ่งนี้ต้องขึ้นแน่เพราะหุ้นมันมีลงก็ต้องมีขึ้น ดีว่าไม่ได้ลงเงินจริง (ไม่ชัวร์และกลัว) จดซื้อขายในกระดาษ ทำไป ทำไป ไม่เวิร์ค เจ๊งในกระดาษ เลยชักสำนึกว่าชีวิตการลงทุนหุ้นจริง ไม่ยักเหมือนใน TV สงสัยว่าที่เคยดูคงจะเป็นเกมการปั่นหุ้นกันมากกว่า ก็เราเงินไม่เยอะ และไม่อยากทำผิดกฎหมายแบบนั้น (และก็ไม่มีพวกด้วย :lol:)
ก็เริ่มออกหาข้อมูลว่าพวกที่ไม่ปั่น เงินเริ่มต้นน้อย แล้วมาตั้งตัวได้จากตลาดหุ้นจริงๆ น่ะมีมั้ย ก็เริ่มอ่านหนังสือบ้าง ยุคนี้ผมเลยรู้ว่าหุ้นถูกหุ้นแพงไม่ได้ดูจากราคาอย่างเดียวแต่ดู P/E อ้ออย่างนี้นี่เอง...พอล่ะ...มาลุยใหม่ ดูจาก settrade เลือกสักกลุ่มเอา P/E ต่ำเลย ได้เงินแน่ เลยเอากลุ่มฮ็อต สื่อสาร (ได้ JAS มา) และพลังงาน (SUSCO)...เลยมาติดเอากับดัก P/E เพราะลืมคิดไปว่าหากเลือกหุ้นกันง่ายอย่างนั้นเขาก็รวยกันหมดแล้ว (ตอนนั้นคิดว่านักลงทุนคนอื่นยังมองไม่เห็น :lovl: so naive)...ก็เจ็งอีกละครับ และยังเป็นเงินแม่อยู่ ติดอยู่จนทุกวันนี้ก็ยังมี...เฮ้อได้ผมเป็นลูกประเสริฐจริงๆ ไม่เหลือลายที่เคยคุยไว้เลย
สำหรับมือใหม่ระวังนะครับหุ้นถูกเพราะไม่ดี ไม่โต ก็มีนะ จะให้ดีก็ต้องดู ROE ROA เป็นแบบที่ 2 ที่คุณ doodeemak แนะนำ ให้ดีกว่านั้นต้องเข้าใจด้วยว่ามันคืออะไรและดูความสม่ำเสมอย้อนหลัง
ยุค 3 หลังจาก 2 ยุคแล้วก็ยังเจ๊งอยู่ ก็เริ่มศึกษาจริงจังเพิ่มขึ้นหาข้อมูลและอ่านหนังสือมากขึ้น เริ่มรู้จัก แนว vi เริ่มจาก ดร.นิเวศน์ buffet และเว็บ Thaivi นี้ ที่ถูกโฉลกเพราะรู้สึกว่าเป็นเหตุเป็นผลดี ไม่ใช่ใช้ sense ดวง ความไว เงินเยอะ และพวกร่วมปั่นหุ้น และเราก็น่าจะเข้าข่ายทำได้ แต่ยังไม่เชื่อมั่นมากนัก ยังลังเลกลัวว่าแนวนี้จะอืด ยังติดนิสัยจะเอาเร็วอยู่ ตอนนี้เริ่มรู้จักอัตราส่วนต่างๆ มากขึ้น แต่ก็ยังไปติดกับดัก P/E กับพวกหุ้นวัฎจักร โดยเฉพาะพวกเรือ ธุรกิจอาไร้น่าเป็นเจ้าของกำไรดีระเบิด ก็เข้าไปเต็มๆ ตอน P/E ต่ำๆ ยังงงว่าทำไมเขาปล่อยให้ต่ำกันแบบนั้น จะว่านักลงทุนยังไม่เห็นอีกก็คงไม่ใช่เพราะติดอันดับซื้อขายสูง ศึกษาแล้วก็ดีครับมีเศษๆ กำไรแพลมๆ ออกมาให้เห็นบ้าง แต่ 3 ยุคแรกนี้ผมก็ค่อนข้างคิดเองเออเองอยู่คนเดียวไม่ค่อยเหลือบดูใครเท่าไร
ยุค 4 ยุคดู money talk และ มั่นใจใน Thaivi เพราะเห็นคนจริงมีความคิดและหลักการที่ดีได้กำไรกันจริง ตามอ่าน post ใน Thaivi มากขึ้นโดยเฉพาะจากนักลงทุนที่ออกรายการ และใครก็ตามที่ดูโพสต์แล้วมีแนวความคิดดีก็ตามอ่านเพื่อเก็บแนวคิดไปใช้ต่อ (เปลี่ยนจากเหลือบดูเป็นเหลือกดูเลยแหละ) ตามไปตามมาก็กลายเป็น "เหาฉลามอีแอบ" ลอกหุ้นเขาไปบ้าง เริ่มได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเพราะวิเคราะห์เองบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ลอกเขา + พิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อตัวลอกเอง จึงกำไรคืนคุณแม่พร้อมดอกเบื้ยไปได้
(พูดแบบนี้แล้วยังแอบต่อก็น่าเกลียดครับ ขอขอบคุณ คุณลูกอิสาน จาก "TR" คุณ "Naris" จาก ILINK, SIS และ TNH "หมอสามัญชน" จาก STPI และ SAT, คุณ "Sai" และ "Picatos" จาก SMT, คุณ "Yoyo" และ "Leksmile" จาก Spali และคุณ "Power Investor" จาก "Hemraj")
หลักๆ ยุคนี้ก็ออกแนวเก็งกำไรรายไตรมาส ประเมินผลประกอบการจากแหล่งต่างๆ บทวิเคราะห์ ผู้บริหารให้ข่าว opp day เท่าที่จะหาได้เพราะเรียนรู้ว่า P/E ต่ำนี่ควรเป็น P/E ในอนาคตที่ได้จากการคาดการกำไร ไม่ใช่ P/E ในอดีตของกำไรที่เคยเป็นซึ่งผ่านมาแล้ว ความไวที่ผมเอามาใช้ในยุคนี้ก็คือซื้อให้ไวใกล้ราคาเซียน (ก็เทียบได้เฉพาะที่เขายอมบอกล่ะครับ) ที่ผมเรียนรู้เพิ่มในยุคนี้ก็คือ ซึ้งมากขึ้นกับคำว่า "Buy right and hold tight" และหมั่นติดตามผลประกอบการของบริษัท
ยุค 5 คือยุคในอนาคตที่ผมอยากเป็นครับ คืออ่านงบการเงินเอง ศึกษาบริษัทเยอะๆ แบบคุณ Fon ที่กำลังดัง และเซียน vi หลายๆคน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเมื่อเจอราคา และโอกาสที่ดีก็จะได้ไขว่คว้าไว้ อยากมีความสามารถในการหาและแลกเปลี่ยนข้อมูล และหลักการลงทุนกับเพื่อนในเว็บมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาอ่าน+ post ไร้สาระเป็นหลัก เพราะไม่มีอะไรจะให้ เป้าหมายยุคต่อไปของผมก็อยากเพิ่มจำนวนความสำเร็จที่ได้จากการวิเคราะห์เองครับ หากผิดพลาดก็จะพยายามจดจำไว้และเรียนรู้จากมัน แนวนี้ถ้าทำได้ผมว่าเท่ห์ และภูมิใจกว่ากันเยอะเลย :8)
ยุค 1. เคยดูเรื่อง "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" แค่ไม่กี่ตอน บวกกับเคยไปห้องค้าแค่ทีสองที ตั้งแต่เด็ก เลยติดความทรงจำเป็นภาพมาว่าเล่นหุ้นให้รวยต้องไปห้องค้า เฝ้าดูราคา อาศัย sense + ดวง มาซื้อขายบ่อยๆ ลงมือเร็วๆ แล้วจะรวย มาตั้งแต่เด็ก
ติดอาวุธความรู้แรกๆ เพียงแค่จากหนังสือ SET เกี่ยวกับพื้นฐานการเงินเล็กๆ น้อย พอไปคุยกับแม่ได้ว่าฝากเงินกินดอกเนียะไม่รวย ซื้อที่ดินก็รวยช้ารอนาน ซื้อขายยาก ไม่มีปันผล ซื้อทองก็ราคานิ่งๆ (ตอนนั้นนะ) อะไรประมาณนี้ เรียนจบก็อาสาเอาเงินแม่มาลุย (ก็เงินตัวเองยังหาได้ไม่เท่าไร) กำหนดกลยุทธขึ้นเองคือจะซื้อหุ้นตัวแรกเอาราคาถูกๆ เวลามันเด้ง 1 ช่องจะได้ดูแล้วเป็นเปอร์เซ็นต์เยอะหน่อย (ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าแต่ละราคามันเด้งช่องหนึ่งไม่เท่ากัน ยิ่งไม่เคยสังเกตเลยว่า ถ้าซื้อที่ราคา 1, 5, 10, 25...etc. บาท เวลาเด้ง 1 ช่องจะขึ้น 1% เท่ากัน) ซื้อตัวแรกก็ RAIMON ซื้อปุบขึ้นปั๊ป (โชดดีของมือใหม่) แป็บเดียวไม่ถึงครึ่งชั่วโมงได้กำไร 3 ช่องขายเลยเอาแบบเจ้าพ่อตลาดหุ้น ทำกำไรได้พันต้นๆ ดีใจมากหาเงินง่าย ได้ไว เริ่มคิด ทำแบบนี้ได้บ่อยๆ วันละ 1200 * 30วัน เดือนละ 36,000 :ep: อย่ากระนั้นเลยนี่แค่ 30 นาทีนะ ถ้ามีเวลานั่งเฝ้า+อาศัยมือไวสั่งซื้อขายไวต้องรวยแน่ๆ (ตอนนั้นเริ่มต้นผมก็ใช้บัญชีอินเตอร์เน็ตซื้อขายเองแล้ว) พวกห้องค้าที่ไม่ได้กำไรคงจะช้าเงอะๆ งะๆ (เพราะภาพเก่าตอนเด็กที่เคยเห็นมีแต่คนแก่นั่ง และยังไม่มีเน็ตต้องสั่งซื้อขายจากโบรก) ดั้นลืมคิดถึงตอนลง (ดูหนังมาแค่ตอนขึ้น) ก็...เจ๊งตามระเบียบ
ยุค 2 หลังจากนั้นก็พยายามเที่ยวคิดเองเออเองเกี่ยวกับกลยุทธต่างๆ อีกหลายแบบเพื่อเอาให้ได้อยากจะเป็น เจ้าพ่อตลาดหุ้น ประมาณว่าลองซื้อพวกที่เป็น TOP Looser (%) เอาที่ลงหนักๆ เลยยิ่งดีซื้อวันนี้ พรุ่งนี้ต้องขึ้นแน่เพราะหุ้นมันมีลงก็ต้องมีขึ้น ดีว่าไม่ได้ลงเงินจริง (ไม่ชัวร์และกลัว) จดซื้อขายในกระดาษ ทำไป ทำไป ไม่เวิร์ค เจ๊งในกระดาษ เลยชักสำนึกว่าชีวิตการลงทุนหุ้นจริง ไม่ยักเหมือนใน TV สงสัยว่าที่เคยดูคงจะเป็นเกมการปั่นหุ้นกันมากกว่า ก็เราเงินไม่เยอะ และไม่อยากทำผิดกฎหมายแบบนั้น (และก็ไม่มีพวกด้วย :lol:)
ก็เริ่มออกหาข้อมูลว่าพวกที่ไม่ปั่น เงินเริ่มต้นน้อย แล้วมาตั้งตัวได้จากตลาดหุ้นจริงๆ น่ะมีมั้ย ก็เริ่มอ่านหนังสือบ้าง ยุคนี้ผมเลยรู้ว่าหุ้นถูกหุ้นแพงไม่ได้ดูจากราคาอย่างเดียวแต่ดู P/E อ้ออย่างนี้นี่เอง...พอล่ะ...มาลุยใหม่ ดูจาก settrade เลือกสักกลุ่มเอา P/E ต่ำเลย ได้เงินแน่ เลยเอากลุ่มฮ็อต สื่อสาร (ได้ JAS มา) และพลังงาน (SUSCO)...เลยมาติดเอากับดัก P/E เพราะลืมคิดไปว่าหากเลือกหุ้นกันง่ายอย่างนั้นเขาก็รวยกันหมดแล้ว (ตอนนั้นคิดว่านักลงทุนคนอื่นยังมองไม่เห็น :lovl: so naive)...ก็เจ็งอีกละครับ และยังเป็นเงินแม่อยู่ ติดอยู่จนทุกวันนี้ก็ยังมี...เฮ้อได้ผมเป็นลูกประเสริฐจริงๆ ไม่เหลือลายที่เคยคุยไว้เลย
สำหรับมือใหม่ระวังนะครับหุ้นถูกเพราะไม่ดี ไม่โต ก็มีนะ จะให้ดีก็ต้องดู ROE ROA เป็นแบบที่ 2 ที่คุณ doodeemak แนะนำ ให้ดีกว่านั้นต้องเข้าใจด้วยว่ามันคืออะไรและดูความสม่ำเสมอย้อนหลัง
ยุค 3 หลังจาก 2 ยุคแล้วก็ยังเจ๊งอยู่ ก็เริ่มศึกษาจริงจังเพิ่มขึ้นหาข้อมูลและอ่านหนังสือมากขึ้น เริ่มรู้จัก แนว vi เริ่มจาก ดร.นิเวศน์ buffet และเว็บ Thaivi นี้ ที่ถูกโฉลกเพราะรู้สึกว่าเป็นเหตุเป็นผลดี ไม่ใช่ใช้ sense ดวง ความไว เงินเยอะ และพวกร่วมปั่นหุ้น และเราก็น่าจะเข้าข่ายทำได้ แต่ยังไม่เชื่อมั่นมากนัก ยังลังเลกลัวว่าแนวนี้จะอืด ยังติดนิสัยจะเอาเร็วอยู่ ตอนนี้เริ่มรู้จักอัตราส่วนต่างๆ มากขึ้น แต่ก็ยังไปติดกับดัก P/E กับพวกหุ้นวัฎจักร โดยเฉพาะพวกเรือ ธุรกิจอาไร้น่าเป็นเจ้าของกำไรดีระเบิด ก็เข้าไปเต็มๆ ตอน P/E ต่ำๆ ยังงงว่าทำไมเขาปล่อยให้ต่ำกันแบบนั้น จะว่านักลงทุนยังไม่เห็นอีกก็คงไม่ใช่เพราะติดอันดับซื้อขายสูง ศึกษาแล้วก็ดีครับมีเศษๆ กำไรแพลมๆ ออกมาให้เห็นบ้าง แต่ 3 ยุคแรกนี้ผมก็ค่อนข้างคิดเองเออเองอยู่คนเดียวไม่ค่อยเหลือบดูใครเท่าไร
ยุค 4 ยุคดู money talk และ มั่นใจใน Thaivi เพราะเห็นคนจริงมีความคิดและหลักการที่ดีได้กำไรกันจริง ตามอ่าน post ใน Thaivi มากขึ้นโดยเฉพาะจากนักลงทุนที่ออกรายการ และใครก็ตามที่ดูโพสต์แล้วมีแนวความคิดดีก็ตามอ่านเพื่อเก็บแนวคิดไปใช้ต่อ (เปลี่ยนจากเหลือบดูเป็นเหลือกดูเลยแหละ) ตามไปตามมาก็กลายเป็น "เหาฉลามอีแอบ" ลอกหุ้นเขาไปบ้าง เริ่มได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเพราะวิเคราะห์เองบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ลอกเขา + พิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อตัวลอกเอง จึงกำไรคืนคุณแม่พร้อมดอกเบื้ยไปได้
(พูดแบบนี้แล้วยังแอบต่อก็น่าเกลียดครับ ขอขอบคุณ คุณลูกอิสาน จาก "TR" คุณ "Naris" จาก ILINK, SIS และ TNH "หมอสามัญชน" จาก STPI และ SAT, คุณ "Sai" และ "Picatos" จาก SMT, คุณ "Yoyo" และ "Leksmile" จาก Spali และคุณ "Power Investor" จาก "Hemraj")
หลักๆ ยุคนี้ก็ออกแนวเก็งกำไรรายไตรมาส ประเมินผลประกอบการจากแหล่งต่างๆ บทวิเคราะห์ ผู้บริหารให้ข่าว opp day เท่าที่จะหาได้เพราะเรียนรู้ว่า P/E ต่ำนี่ควรเป็น P/E ในอนาคตที่ได้จากการคาดการกำไร ไม่ใช่ P/E ในอดีตของกำไรที่เคยเป็นซึ่งผ่านมาแล้ว ความไวที่ผมเอามาใช้ในยุคนี้ก็คือซื้อให้ไวใกล้ราคาเซียน (ก็เทียบได้เฉพาะที่เขายอมบอกล่ะครับ) ที่ผมเรียนรู้เพิ่มในยุคนี้ก็คือ ซึ้งมากขึ้นกับคำว่า "Buy right and hold tight" และหมั่นติดตามผลประกอบการของบริษัท
ยุค 5 คือยุคในอนาคตที่ผมอยากเป็นครับ คืออ่านงบการเงินเอง ศึกษาบริษัทเยอะๆ แบบคุณ Fon ที่กำลังดัง และเซียน vi หลายๆคน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเมื่อเจอราคา และโอกาสที่ดีก็จะได้ไขว่คว้าไว้ อยากมีความสามารถในการหาและแลกเปลี่ยนข้อมูล และหลักการลงทุนกับเพื่อนในเว็บมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาอ่าน+ post ไร้สาระเป็นหลัก เพราะไม่มีอะไรจะให้ เป้าหมายยุคต่อไปของผมก็อยากเพิ่มจำนวนความสำเร็จที่ได้จากการวิเคราะห์เองครับ หากผิดพลาดก็จะพยายามจดจำไว้และเรียนรู้จากมัน แนวนี้ถ้าทำได้ผมว่าเท่ห์ และภูมิใจกว่ากันเยอะเลย :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 29
เยี่ยมครับ คุณหมีบึงกุ่ม จี๊ดเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
โพสต์ที่ 30
[quote="หมีบึงกุ่ม"](พูดแบบนี้แล้วยังแอบต่อก็น่าเกลียดครับ ขอขอบคุณ คุณลูกอิสาน จาก "TR" คุณ "Naris" จาก ILINK, SIS และ TNH "หมอสามัญชน" จาก STPI และ SAT, คุณ "Sai" และ "Picatos" จาก SMT, คุณ "Yoyo" และ "Leksmile" จาก Spali และคุณ "Power Investor" จาก "Hemraj")