เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 1
คือเอาประมาณการ เฉลี่ยนะครับ เพราะไม่งั้น ผมเชื่อว่าหลายๆคน จะบอกว่า ขึ้นอยู่กับ จังหวะเวลาและ mos ของหุ้นแต่ละตัวในช่วงนั้นๆ
แต่อยากรู้ว่า ในความคิด คิดว่า ควรจะเฉลี่ยพอร์ทถือหุ้นซักกี่ตัวจึงจะเหมาะสมครับ
แต่อยากรู้ว่า ในความคิด คิดว่า ควรจะเฉลี่ยพอร์ทถือหุ้นซักกี่ตัวจึงจะเหมาะสมครับ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 2
ของผมตอนนี้มี 3 ตัว...
มันยุบๆ พองๆ ยุบๆ จาก 3 ตัว ไป 5 ตัว แล้วกลับมา 3 ตัว...
คราวนี้หวังว่าจะถือยาวไป โดยไม่ต้องปรับพอร์ตสักปีนึงเป็นอย่างน้อย... แล้วหวังว่าจะสามารถเลิกดูราคาหุ้น เลิกเข้าเว็บ ThaiVI ได้สักระยะ... ใจจะได้ไม่กระเพื่อม... กิเลสจะได้ไม่เกิดมากนัก...
แต่ท่าทางจะทำได้ยากอยู่เหมือนกัน...คงต้องค่อยๆ ทำไปทีละวัน วินาทีละวินาที...
มันยุบๆ พองๆ ยุบๆ จาก 3 ตัว ไป 5 ตัว แล้วกลับมา 3 ตัว...
คราวนี้หวังว่าจะถือยาวไป โดยไม่ต้องปรับพอร์ตสักปีนึงเป็นอย่างน้อย... แล้วหวังว่าจะสามารถเลิกดูราคาหุ้น เลิกเข้าเว็บ ThaiVI ได้สักระยะ... ใจจะได้ไม่กระเพื่อม... กิเลสจะได้ไม่เกิดมากนัก...
แต่ท่าทางจะทำได้ยากอยู่เหมือนกัน...คงต้องค่อยๆ ทำไปทีละวัน วินาทีละวินาที...
- โอบาน่า
- Verified User
- โพสต์: 257
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 3
ครั้งล่าสุดผมทำได้ไม่เกิน 3 เดือน ^_^!picatos เขียน:ของผมตอนนี้มี 3 ตัว...
มันยุบๆ พองๆ ยุบๆ จาก 3 ตัว ไป 5 ตัว แล้วกลับมา 3 ตัว...
คราวนี้หวังว่าจะถือยาวไป โดยไม่ต้องปรับพอร์ตสักปีนึงเป็นอย่างน้อย... แล้วหวังว่าจะสามารถเลิกดูราคาหุ้น เลิกเข้าเว็บ ThaiVI ได้สักระยะ... ใจจะได้ไม่กระเพื่อม... กิเลสจะได้ไม่เกิดมากนัก...
แต่ท่าทางจะทำได้ยากอยู่เหมือนกัน...คงต้องค่อยๆ ทำไปทีละวัน วินาทีละวินาที...
*
*
*
จะรวยต้อง เก่ง+เฮง ที่สำคัญต้องมีเมียดี
*
*
จะรวยต้อง เก่ง+เฮง ที่สำคัญต้องมีเมียดี
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 5
ทำไมไม่ถือตัวแค่ตัวเดียวครับjek ae เขียน:มี2ตัวในพอร์ตครับ ตัวหลักมี 95%
ลงทุนเพื่อชีวิต
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 6
ปกติผมจะมี 4-5 ตัว ตลอดเวลา
ให้น้ำหนักตามความมั่นใจ+Upside
ให้น้ำหนักตามความมั่นใจ+Upside
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 9
จริงๆแล้วก็ถือเพียงตัวเดียวครับ แต่พอได้เงินปันผลมาก็เอามาซื้อหุ้นอีกตัวนึง ตามนั้นครับthaloengsak เขียน:ทำไมไม่ถือตัวแค่ตัวเดียวครับjek ae เขียน:มี2ตัวในพอร์ตครับ ตัวหลักมี 95%
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 10
ไม่ได้ครับ น้องตี่ พี่ไม่อนุญาตครับ :mrgreen:picatos เขียน:ของผมตอนนี้มี 3 ตัว...
มันยุบๆ พองๆ ยุบๆ จาก 3 ตัว ไป 5 ตัว แล้วกลับมา 3 ตัว...
คราวนี้หวังว่าจะถือยาวไป โดยไม่ต้องปรับพอร์ตสักปีนึงเป็นอย่างน้อย... แล้วหวังว่าจะสามารถเลิกดูราคาหุ้น เลิกเข้าเว็บ ThaiVI ได้สักระยะ... ใจจะได้ไม่กระเพื่อม... กิเลสจะได้ไม่เกิดมากนัก...
แต่ท่าทางจะทำได้ยากอยู่เหมือนกัน...คงต้องค่อยๆ ทำไปทีละวัน วินาทีละวินาที...
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 11
อาเจ็กเอ๋ เด็ดจริงๆjek ae เขียน:จริงๆแล้วก็ถือเพียงตัวเดียวครับ แต่พอได้เงินปันผลมาก็เอามาซื้อหุ้นอีกตัวนึง ตามนั้นครับthaloengsak เขียน:ทำไมไม่ถือตัวแค่ตัวเดียวครับjek ae เขียน:มี2ตัวในพอร์ตครับ ตัวหลักมี 95%
ผมถือตัวนั้น 50%ของพอร์ตนี่
ถือว่าเยอะที่สุดแล้วนะ ตั้งแต่เริ่มลงทุนมา
อีก 50% กระจายอยู่อีก 5 ตัวครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 12
2 ตัวถือยาว
1 ตัวซื้อสับเปลี่ยนในกลุ่มที่เล็งไว้ครับ(แต่มีใน List 6 ตัวและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)
พยายามไม่ให้เกิน 3 ครับเพราะ Port เล็กถ้ากระจายมากไปแล้วรู้สึกพอร์ตไม่โตครับ ส่วนที่มีถือสับเปลี่ยนไปมา 1 ตัวเพราะใจยังไม่นิ่งครับ
1 ตัวซื้อสับเปลี่ยนในกลุ่มที่เล็งไว้ครับ(แต่มีใน List 6 ตัวและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)
พยายามไม่ให้เกิน 3 ครับเพราะ Port เล็กถ้ากระจายมากไปแล้วรู้สึกพอร์ตไม่โตครับ ส่วนที่มีถือสับเปลี่ยนไปมา 1 ตัวเพราะใจยังไม่นิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 19
ตอนนี้ห้าตัว มาจากการสนใจหุ้นนั้น ๆ แต่ผลที่ตามกลับกลายเป็นว่าตัวเองไม่สามารถจะติดตามหุ้นแต่ละตัวได้ดี คงต้องปรับลดแล้วครับ
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 21
dome@perth เขียน:อาเจ็กเอ๋ เด็ดจริงๆjek ae เขียน:จริงๆแล้วก็ถือเพียงตัวเดียวครับ แต่พอได้เงินปันผลมาก็เอามาซื้อหุ้นอีกตัวนึง ตามนั้นครับthaloengsak เขียน:ทำไมไม่ถือตัวแค่ตัวเดียวครับjek ae เขียน:มี2ตัวในพอร์ตครับ ตัวหลักมี 95%
ผมถือตัวนั้น 50%ของพอร์ตนี่
ถือว่าเยอะที่สุดแล้วนะ ตั้งแต่เริ่มลงทุนมา
อีก 50% กระจายอยู่อีก 5 ตัวครับ
ก่อนหน้านั้นก็ถือมา4-5ตัวครับ คุณโดม แต่สุดท้ายเมื่อคิดว่าเรามีความเข้าใจในธุรกิจตัวนี้มากกว่าธุรกิจตัวอื่นที่มีอยู่ในมือ ก็เลยปรับการลงทุนมาเหลือเพียงตัวเดียว
พอดีหลังจากนั้นมีหุ้นแอบชอบอยากเก็บอยู่ตัวนึง แต่หน้าตักหมด พอได้ปันผลจากหุ้นหลักก็เลยมาได้ซื้อตัวนี้ครับ
- VSนักลงทุนอริยะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 22
ขอออกความคิดเห็นด้วยคนนะครับ
ในฐานะที่ผมเป็น ceo ของกลุ่มบริษัทของผมนะครับ :lol: :lol: :lol: :lol: และแน่นอนว่า ในสังคมผมก็มีเพื่อนนักธุรกิจเยอะแยะไปหมด ผมสังเกตุและสามารถวิเคราะห์ได้ว่า
มีแค่หนึ่งกิจการก็สามารถรวยได้แล้วครับ ไม่ต้องทำมากเกินหลายกิจการ เพราะเราจะควบคุมดูแลไม่ไหว โดยเฉพาะการรั่วไหลครับ เจอทุกกิจการจริง ๆ แม้แต่กิจการเราเอง ก็ต้องไล่ออกกันไปหลายคนแล้วครับ ไหนจะเรื่องการดูแลลูกค้าอีก แล้วคู่แข่งก็ปรับตัวตลอดเวลา ถ้าแผลอก็ถูกแย่ง share ไปอีก
ผมว่า ทำกิจการเดียวให้ดีที่สุด ก็พอแล้วครับ หลายคนย่ิ่งขยาย กลับกลายเปลี่ยนความสำเร็จเป็นความล้มเหลวในที่สุด
แต่ KSF ที่สำคัญก็คือ ระยะเวลาที่ยาวนาน เพื่อพิสูจน์ ปรับตัว และเก็บเกี่ยว ครับ
แต่ใจลึก ๆ นะครับ ผมต้องขยายกิจการเพื่อลดความเสี่ยงครับ เพราะมันจะเสี่ยงกว่าถ้าเรายังอยู่กิจการเดี่ยว ๆ (แต่ถ้าขยายไม่ดี ดูแลไม่ทั่วถึง เราก็จำต้อง อย่าขยาย และหยุด เพื่อเวลาที่เต็มที่ต่อหนึ่งกิจการดีกว่าครับ)
แต่ถ้าในฐานะที่ผมเป็นนักลงทุน :o :o :o :o
ผมไม่ลงทุนหุ้นตัวเดียว แน่นอนครับ ผมจะเลือกกิจการสักหลายตัวหน่อย ผมมีข้อคิดดังต่อไปนี้ครับ
1. ภาคอุตสาหกรรมสำคัญมาก เพราะในฐานะนักธุรกิจ ผมจะย้ายอุตสาหกรรมไม่ได้ครับ แม้เราจะรู้ว่าอุตสาหกรรมนั้น ๆ กำลังจะฟื้นหรือมาแรง แต่ผมไปสู้เค้าไม่ได้ เพราะผมไม่ชำนาญเรื่องใหม่ ๆ
ผมจึงใช้ ฐานะ นักลงทุน ในการย้ายอุตสาหกรรมของผมครับ
2. กิจการที่ดีที่สุดในอุสาหกรรมนั้น ๆ ครับ เราอยู่ในตลาด เรารู้เลยว่า คนที่ได้เปรียบก็จะยิ่งได้เปรียบครับ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง supplier, ลูกค้า หรือ แม้กระทัง ลูกน้องเราครับ
3. รอราคาที่เหมาะสม และ ถือในระยะเวลาที่ยาวนาน จะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมครับ ถ้าปราศจากเวลาแล้ว เราจะเก็บเกี่ยวได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยครับ (แต่ถ้าเราผูกพันกับกิจการนั้น ๆ เวลาที่ยาวนาน จะตามมาเองครับ)
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
ในฐานะที่ผมเป็น ceo ของกลุ่มบริษัทของผมนะครับ :lol: :lol: :lol: :lol: และแน่นอนว่า ในสังคมผมก็มีเพื่อนนักธุรกิจเยอะแยะไปหมด ผมสังเกตุและสามารถวิเคราะห์ได้ว่า
มีแค่หนึ่งกิจการก็สามารถรวยได้แล้วครับ ไม่ต้องทำมากเกินหลายกิจการ เพราะเราจะควบคุมดูแลไม่ไหว โดยเฉพาะการรั่วไหลครับ เจอทุกกิจการจริง ๆ แม้แต่กิจการเราเอง ก็ต้องไล่ออกกันไปหลายคนแล้วครับ ไหนจะเรื่องการดูแลลูกค้าอีก แล้วคู่แข่งก็ปรับตัวตลอดเวลา ถ้าแผลอก็ถูกแย่ง share ไปอีก
ผมว่า ทำกิจการเดียวให้ดีที่สุด ก็พอแล้วครับ หลายคนย่ิ่งขยาย กลับกลายเปลี่ยนความสำเร็จเป็นความล้มเหลวในที่สุด
แต่ KSF ที่สำคัญก็คือ ระยะเวลาที่ยาวนาน เพื่อพิสูจน์ ปรับตัว และเก็บเกี่ยว ครับ
แต่ใจลึก ๆ นะครับ ผมต้องขยายกิจการเพื่อลดความเสี่ยงครับ เพราะมันจะเสี่ยงกว่าถ้าเรายังอยู่กิจการเดี่ยว ๆ (แต่ถ้าขยายไม่ดี ดูแลไม่ทั่วถึง เราก็จำต้อง อย่าขยาย และหยุด เพื่อเวลาที่เต็มที่ต่อหนึ่งกิจการดีกว่าครับ)
แต่ถ้าในฐานะที่ผมเป็นนักลงทุน :o :o :o :o
ผมไม่ลงทุนหุ้นตัวเดียว แน่นอนครับ ผมจะเลือกกิจการสักหลายตัวหน่อย ผมมีข้อคิดดังต่อไปนี้ครับ
1. ภาคอุตสาหกรรมสำคัญมาก เพราะในฐานะนักธุรกิจ ผมจะย้ายอุตสาหกรรมไม่ได้ครับ แม้เราจะรู้ว่าอุตสาหกรรมนั้น ๆ กำลังจะฟื้นหรือมาแรง แต่ผมไปสู้เค้าไม่ได้ เพราะผมไม่ชำนาญเรื่องใหม่ ๆ
ผมจึงใช้ ฐานะ นักลงทุน ในการย้ายอุตสาหกรรมของผมครับ
2. กิจการที่ดีที่สุดในอุสาหกรรมนั้น ๆ ครับ เราอยู่ในตลาด เรารู้เลยว่า คนที่ได้เปรียบก็จะยิ่งได้เปรียบครับ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง supplier, ลูกค้า หรือ แม้กระทัง ลูกน้องเราครับ
3. รอราคาที่เหมาะสม และ ถือในระยะเวลาที่ยาวนาน จะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมครับ ถ้าปราศจากเวลาแล้ว เราจะเก็บเกี่ยวได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยครับ (แต่ถ้าเราผูกพันกับกิจการนั้น ๆ เวลาที่ยาวนาน จะตามมาเองครับ)
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
ความสุขสงบและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น คือคุณค่าในชีวิตของผมครับ
- HARINLUX
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 23
ผมชอบคำกล่าวที่ว่า ถ้าคุณพบบริษัทที่เหมาะสม ซึ่งมีแนวโน้มกิจการที่ดีและมีผู้บริหารชั้นยอด และกำลังลดราคา จงตีให้สุดแรงเกิด คำกล่าวนี้ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นคำกล่าวของวอเรนต์ บัพเฟตต์
แนวการลงทุนของผมจะลงแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น แต่หุ้นที่มั่นใจมากๆอาจจะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุนครับ
------------------------------
ความรู้ คู่คุณธรรม
แนวการลงทุนของผมจะลงแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น แต่หุ้นที่มั่นใจมากๆอาจจะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุนครับ
------------------------------
ความรู้ คู่คุณธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 24
คุณ kensorat ที่เขียนว่า
"2. กิจการที่ดีที่สุดในอุสาหกรรมนั้น ๆ ครับ เราอยู่ในตลาด เรารู้เลยว่า คนที่ได้เปรียบก็จะยิ่งได้เปรียบครับ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง supplier, ลูกค้า หรือ แม้กระทัง ลูกน้องเราครับ"
เป็นข้อคิดที่เยี่ยมมาก
"2. กิจการที่ดีที่สุดในอุสาหกรรมนั้น ๆ ครับ เราอยู่ในตลาด เรารู้เลยว่า คนที่ได้เปรียบก็จะยิ่งได้เปรียบครับ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง supplier, ลูกค้า หรือ แม้กระทัง ลูกน้องเราครับ"
เป็นข้อคิดที่เยี่ยมมาก
Blueplanet
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 25
จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังเชื่อว่าถ้าเรามีหุ้นที่วิเคราะห์มาดีที่สุด รู้ความเสี่ยงทั้งหลายดีแล้ว เราสามารถถือตัวเดียวได้ครับ แต่เพิ่มอีกเงื่อนไขนึงซึ่งเมื่อก่อนผมไม่ได้ให้ความสำคัญมากคือสภาพคล่องต้องเพียงพอโดยส่วนตัวผมมองว่าควรที่จะขายให้หมดได้ภายในวันเดียวโดยที่ราคาหุ้นไม่ลดลงมาก เช่น เกิน 5% ครับ ถ้าสภาพคล่องไม่เพียงพอจึงจะเริ่มกระจายพอร์ตไปตัวที่สองที่ดีที่สุดถัดมา ถ้ากระจายไปตัวที่สองแล้วยังมีเงินเหลือจากปัญหาสภาพคล่องของหุ้นตัวนี้อีกก็ค่อยกระจายไปตัวที่สามอย่างนี้ไปเรื่อยๆครับ
ป.ล. แต่ถ้าช่วงเวลาใดหาหุ้นที่ดีที่สุดตัวเดียวไม่ได้แต่เจอหลายๆตัวความเสี่ยงและผลตอบแทนพอๆกัน ก็กระจายได้ครับ
ป.ล. แต่ถ้าช่วงเวลาใดหาหุ้นที่ดีที่สุดตัวเดียวไม่ได้แต่เจอหลายๆตัวความเสี่ยงและผลตอบแทนพอๆกัน ก็กระจายได้ครับ
It's earnings that count
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 1
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 26
ผมมีตั้ง 9 ตัว แต่เป็นกองหน้าหลักๆ 3 ตัวคิดเป็น 50% ของพอร์ต
ผมเป็นพวกหลายใจครับ (เฉพาะเรื่องหุ้นนะ เดี๋ยวซวย:lol:)
ตัวเก่าๆที่ถืออยู่บางคร้ังพอราคาขึ้นไปถึงเป้าหมายแล้ว ก็เกิดเสียดายไม่อยากขายหมด เลยขายแบบลดสัดส่วนลงมามากกว่า
อาจเป็นเพราะอุตส่าห์วิเคราะห์ไว้เยอะแล้ว อยู่ดีๆก็จะทิ้งไปก็กลัวเค้าจะน้อยใจ
ผมเป็นพวกหลายใจครับ (เฉพาะเรื่องหุ้นนะ เดี๋ยวซวย:lol:)
ตัวเก่าๆที่ถืออยู่บางคร้ังพอราคาขึ้นไปถึงเป้าหมายแล้ว ก็เกิดเสียดายไม่อยากขายหมด เลยขายแบบลดสัดส่วนลงมามากกว่า
อาจเป็นเพราะอุตส่าห์วิเคราะห์ไว้เยอะแล้ว อยู่ดีๆก็จะทิ้งไปก็กลัวเค้าจะน้อยใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 28
จำนวนหุ้นที่ถือ ไม่เกี่ยวอะไรกับความเหมาะสมในการลงทุน
แต่ละคนมีสไตล์การลงทุนแตกต่างกัน ทำไมต้องจำกัดว่าถือเกินกี่ตัว หรือน้อยกว่ากี่ตัว จึงจะดี
ถือน้อยตัว แสดงว่าผู้นั้นมั่นใจในการลงทุนของตน และมั่นใจในหุ้นที่ถือมาก
ถือมากตัว แสดงว่าต้องการกระจายความเสี่ยง และเน้นความปลอดภัยของตน
แต่ไม่ว่าจะถือกี่ตัว .. สิ่งสำคัญของนักลงทุนคือ หุ้นที่คุณถืออยู่ทุกตัว มันดี หรือไม่ดียังไง ต่างหาก
ลองถามคำถามนี้กับตัวเอง แทนถามเรื่องจำนวนหุ้นที่ถือบ้างหรือยัง
แต่ละคนมีสไตล์การลงทุนแตกต่างกัน ทำไมต้องจำกัดว่าถือเกินกี่ตัว หรือน้อยกว่ากี่ตัว จึงจะดี
ถือน้อยตัว แสดงว่าผู้นั้นมั่นใจในการลงทุนของตน และมั่นใจในหุ้นที่ถือมาก
ถือมากตัว แสดงว่าต้องการกระจายความเสี่ยง และเน้นความปลอดภัยของตน
แต่ไม่ว่าจะถือกี่ตัว .. สิ่งสำคัญของนักลงทุนคือ หุ้นที่คุณถืออยู่ทุกตัว มันดี หรือไม่ดียังไง ต่างหาก
ลองถามคำถามนี้กับตัวเอง แทนถามเรื่องจำนวนหุ้นที่ถือบ้างหรือยัง
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 29
ขึ้นอยู่กับเงินลงทุนด้วยครับ ถ้าพอร์ตมีเงินสดมาก ๆ ก็น่าจะกระจายเยอะ ๆ หน่อย แต่ถ้าพอร์ตมีเงินน้อย ๆ แค่แสนเดียว ก็จะกระจายสัก 3 ตัว กระจายมากเวลาปรับพอร์ตซื้อขายหุ้น จะเสียค่านายหน้าเยอะครับ เพราะค่านายหน้าขั้นต่ำ 53.5 บาท และมันจะดูลงทุนแต่ละตัวจิ๊บ ๆ จ๊อย ๆ แค่ตัวละหมื่อนบาท ถ้ากระจายสักสิบตัว มันแลเป็นเบี้ยหัวแตก อย่างไรก็ไม่รู้ ไม่ชวนให้ติดตามดูแลหุ้นเลย
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ
โพสต์ที่ 30
เห็นด้วยทุกประการครับ :DBlueblood เขียน:จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังเชื่อว่าถ้าเรามีหุ้นที่วิเคราะห์มาดีที่สุด รู้ความเสี่ยงทั้งหลายดีแล้ว เราสามารถถือตัวเดียวได้ครับ แต่เพิ่มอีกเงื่อนไขนึงซึ่งเมื่อก่อนผมไม่ได้ให้ความสำคัญมากคือสภาพคล่องต้องเพียงพอโดยส่วนตัวผมมองว่าควรที่จะขายให้หมดได้ภายในวันเดียวโดยที่ราคาหุ้นไม่ลดลงมาก เช่น เกิน 5% ครับ ถ้าสภาพคล่องไม่เพียงพอจึงจะเริ่มกระจายพอร์ตไปตัวที่สองที่ดีที่สุดถัดมา ถ้ากระจายไปตัวที่สองแล้วยังมีเงินเหลือจากปัญหาสภาพคล่องของหุ้นตัวนี้อีกก็ค่อยกระจายไปตัวที่สามอย่างนี้ไปเรื่อยๆครับ
ป.ล. แต่ถ้าช่วงเวลาใดหาหุ้นที่ดีที่สุดตัวเดียวไม่ได้แต่เจอหลายๆตัวความเสี่ยงและผลตอบแทนพอๆกัน ก็กระจายได้ครับ