ขออนุญาตโพสบทความของคุณเทพ รุ่ง เกี่ยวกับประชุมผู้ถือหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
ขออนุญาตโพสบทความของคุณเทพ รุ่ง เกี่ยวกับประชุมผู้ถือหุ้น
โพสต์ที่ 1
เป็นบทความที่ดีมากลงใน settrade web blog เผื่อเพื่อนๆยังไม่ได้อ่านกันครับ
Monday, 16 August 2010
ตอนที่ 24 ศักดิ์ศรีของมดงาน
« ตอนที่ 23 เป็นเจ้าของกิจการ ดีอย่างไร? | Main
ทันทีที่ซื้อหุ้นนักลงทุนก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้น มีศักดิ์และสิทธเป็นเจ้าของกิจการ ง่ายๆแค่นี้ เป็นเจ้าของแล้ว แม้จะเพียงส่วนเดียว ไม่ใช่ทั้งหมด
ก็มีสิทธิที่สำคัญ โดยเฉพาะจะได้รับไข่ทองคำ (คือเงินปันผล) และการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น
นักลงทุนที่ถือหุ้นไม่เยอะ มักจะเรียกตัวเองว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อย เวลาที่อยู่ในที่ประชุมใหญ่ จริงๆแล้ว ไม่ต้องบอกว่ารายย่อยก็ได้ เพราะในวันนั้น
ผู้ถือหุ้น ก็คือ ผู้ถือหุ้น จะใหญ่หรือเล็กแค่ไหน ก็มีสิทธิเข้าประชุมเหมือนๆกัน ทีนี้ พอเข้ามาแล้ว ต้องอย่าให้เสียโอกาส เพราะการจะได้ซักถาม
หรือให้ข้อเสนอแนะ ต่อสภาสงครามหรือ คณะกรรมการบริษัท มักจะมีแค่ปีละหนเท่านั้น
บริษัทที่มีสภาสงครามหุ้นที่ดี จะรับฟังคำถามหรือข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ อย่างตั้งอกตั้งใจ ถ้าตั้งคำถามดีๆ พวกเราชาวมดงาน
นักลงทุนรายย่อย) ก็จะได้รับการชี้แจง ที่ชัดเจน และทำให้จับทางได้ว่าสภาสงครามของบริษัท มีเจตนาจริงจังแค่ไหน ในการสร้างมูลค่า ให้กับกิจการ
เพราะหน้าที่ของสภาสงคราม คือ การทำให้รายได้เติบโต คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ดี เพื่อให้กำไรออกมาแล้ว เติบโตเร็วกว่ารายได้
ในระยะยาว ถ้าสภาสงครามเอาแต่แก้ตัว ไม่ยอมจัดการแก้ไข ออกจากที่ประชุมแล้ว ขายหุ้นทิ้งได้ ไปหาหุ้นตัวอื่น
ที่มีสภาสงคราม ทั้งดีทั้งเก่งกว่า จะดีที่สุด
ขณะเดียวกัน มดงานก็ต้องทำให้ สถาบันมดงาน ดูน่านับถือไปด้วย
ประการแรก ควรแต่งกายให้เรียบร้อย เลี่ยงการใส่เสื้อยืดและรองเท้าแตะ เข้าไปประชุม
ประการที่สอง อย่าถามอะไรที่เกี่ยวกับราคาหุ้นราคาหุ้นจะขึ้นจะตก เป็นเรื่องของอารมณ์ตลาดหุ้น
อยู่นอกเหนือการควบคุม ของสภาสงครามหุ้น ถ้าจะถาม ขอให้เน้นถามถึงผลประกอบการ รวมทั้งแนวโน้ม เพราะนี่คือหน้าที่เต็มๆ ของสภาสงครามหุ้นเลยครับ
ประการที่สาม กรุณาอย่าถามหรือต่อว่าเกี่ยวกับของว่างเลยครับ บางที มีคนมาประชุมกันมากเกิน
ของว่างเลยไม่พอ ก็ต้องให้อภัย เพราะบริษัทที่เขาจัดให้ก็เป็นเรื่องของน้ำใจ จะไปทวงเขา มันจะดูไม่ดีนะครับ
ประการสุดท้าย เป็นเรื่องเกี่ยวกับของชำรวยนี่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำใจ ของบริษัทเหมือนกัน
บางแห่งถือเป็นโอกาสดี เอาสินค้ามาให้ผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะ ที่ได้สละเวลามาประชุม ได้ทดลองใช้สักชิ้นสองชิ้น
ต้องถือเป็นของแถมพิเศษ เล็กๆน้อยๆ ตรงนี้สำคัญมาก ต้องขอเน้น เพราะมีบางคนไปต่อว่าหรือถามของชำร่วย กับสภาสงคราม
ทำให้ภาพพจน์ของมดงาน ดูไม่ดีเลย ดังนั้นนะครับ ถ้านักลงทุนมดงานทำให้ถูกต้องทั้ง 4 ข้อนี้ สถาบันมดงานก็จะกลายเป็น สถาบันที่มีความหมาย
เพราะเราแต่งตัวเรียบร้อย ไม่ถามถึงราคาหุ้น ไม่พูดถึงของว่างหรือของชำร่วย แต่ เราจะเน้นถามเฉพาะในเรื่อง
เกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ทีนี้ สภาสงครามจะต้องเกรงใจเรา จะฟังเรามากขึ้นเพราะถ้าผลงานดี เราก็ชม ผลงานแย่ เราก็ถาม พร้อมทั้งขอทราบแนวทางการแก้ไข
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ประชาธิปไตยของชาวหุ้น ก็จะเบ่งบานขึ้นอย่างมีคุณภาพ สภาสงครามก็จะเร่ง สร้างผลงานผ่านแม่ทัพใหญ่
คือ CEO แล้วอย่างนี้ ราคาหุ้นในระยะยาว ไม่ไปโลดได้ไง ใช่ไหมครับ?
อยากให้คนไทยเป็นมดงานคุณภาพกันเยอะๆและมีโอกาสถาม ส.ส หรือ ส.ว ซึ่งก็คือสภาสงครามหุ้นประเทศไทย
ได้เหมือนตอนประชุมบริษัทจัง ถ้าฝันนี้เป็นจริง หุ้นบริษัทประเทศไทยจำกัด (มหาชน)จะเป็นหุ้นที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยอานิสงค์ของธรรมาภิบาล
อย่างแน่นอนครับ
เทพ รุ่งธนาภิรมย์
Monday, 16 August 2010
ตอนที่ 24 ศักดิ์ศรีของมดงาน
« ตอนที่ 23 เป็นเจ้าของกิจการ ดีอย่างไร? | Main
ทันทีที่ซื้อหุ้นนักลงทุนก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้น มีศักดิ์และสิทธเป็นเจ้าของกิจการ ง่ายๆแค่นี้ เป็นเจ้าของแล้ว แม้จะเพียงส่วนเดียว ไม่ใช่ทั้งหมด
ก็มีสิทธิที่สำคัญ โดยเฉพาะจะได้รับไข่ทองคำ (คือเงินปันผล) และการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น
นักลงทุนที่ถือหุ้นไม่เยอะ มักจะเรียกตัวเองว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อย เวลาที่อยู่ในที่ประชุมใหญ่ จริงๆแล้ว ไม่ต้องบอกว่ารายย่อยก็ได้ เพราะในวันนั้น
ผู้ถือหุ้น ก็คือ ผู้ถือหุ้น จะใหญ่หรือเล็กแค่ไหน ก็มีสิทธิเข้าประชุมเหมือนๆกัน ทีนี้ พอเข้ามาแล้ว ต้องอย่าให้เสียโอกาส เพราะการจะได้ซักถาม
หรือให้ข้อเสนอแนะ ต่อสภาสงครามหรือ คณะกรรมการบริษัท มักจะมีแค่ปีละหนเท่านั้น
บริษัทที่มีสภาสงครามหุ้นที่ดี จะรับฟังคำถามหรือข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ อย่างตั้งอกตั้งใจ ถ้าตั้งคำถามดีๆ พวกเราชาวมดงาน
นักลงทุนรายย่อย) ก็จะได้รับการชี้แจง ที่ชัดเจน และทำให้จับทางได้ว่าสภาสงครามของบริษัท มีเจตนาจริงจังแค่ไหน ในการสร้างมูลค่า ให้กับกิจการ
เพราะหน้าที่ของสภาสงคราม คือ การทำให้รายได้เติบโต คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ดี เพื่อให้กำไรออกมาแล้ว เติบโตเร็วกว่ารายได้
ในระยะยาว ถ้าสภาสงครามเอาแต่แก้ตัว ไม่ยอมจัดการแก้ไข ออกจากที่ประชุมแล้ว ขายหุ้นทิ้งได้ ไปหาหุ้นตัวอื่น
ที่มีสภาสงคราม ทั้งดีทั้งเก่งกว่า จะดีที่สุด
ขณะเดียวกัน มดงานก็ต้องทำให้ สถาบันมดงาน ดูน่านับถือไปด้วย
ประการแรก ควรแต่งกายให้เรียบร้อย เลี่ยงการใส่เสื้อยืดและรองเท้าแตะ เข้าไปประชุม
ประการที่สอง อย่าถามอะไรที่เกี่ยวกับราคาหุ้นราคาหุ้นจะขึ้นจะตก เป็นเรื่องของอารมณ์ตลาดหุ้น
อยู่นอกเหนือการควบคุม ของสภาสงครามหุ้น ถ้าจะถาม ขอให้เน้นถามถึงผลประกอบการ รวมทั้งแนวโน้ม เพราะนี่คือหน้าที่เต็มๆ ของสภาสงครามหุ้นเลยครับ
ประการที่สาม กรุณาอย่าถามหรือต่อว่าเกี่ยวกับของว่างเลยครับ บางที มีคนมาประชุมกันมากเกิน
ของว่างเลยไม่พอ ก็ต้องให้อภัย เพราะบริษัทที่เขาจัดให้ก็เป็นเรื่องของน้ำใจ จะไปทวงเขา มันจะดูไม่ดีนะครับ
ประการสุดท้าย เป็นเรื่องเกี่ยวกับของชำรวยนี่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำใจ ของบริษัทเหมือนกัน
บางแห่งถือเป็นโอกาสดี เอาสินค้ามาให้ผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะ ที่ได้สละเวลามาประชุม ได้ทดลองใช้สักชิ้นสองชิ้น
ต้องถือเป็นของแถมพิเศษ เล็กๆน้อยๆ ตรงนี้สำคัญมาก ต้องขอเน้น เพราะมีบางคนไปต่อว่าหรือถามของชำร่วย กับสภาสงคราม
ทำให้ภาพพจน์ของมดงาน ดูไม่ดีเลย ดังนั้นนะครับ ถ้านักลงทุนมดงานทำให้ถูกต้องทั้ง 4 ข้อนี้ สถาบันมดงานก็จะกลายเป็น สถาบันที่มีความหมาย
เพราะเราแต่งตัวเรียบร้อย ไม่ถามถึงราคาหุ้น ไม่พูดถึงของว่างหรือของชำร่วย แต่ เราจะเน้นถามเฉพาะในเรื่อง
เกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ทีนี้ สภาสงครามจะต้องเกรงใจเรา จะฟังเรามากขึ้นเพราะถ้าผลงานดี เราก็ชม ผลงานแย่ เราก็ถาม พร้อมทั้งขอทราบแนวทางการแก้ไข
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ประชาธิปไตยของชาวหุ้น ก็จะเบ่งบานขึ้นอย่างมีคุณภาพ สภาสงครามก็จะเร่ง สร้างผลงานผ่านแม่ทัพใหญ่
คือ CEO แล้วอย่างนี้ ราคาหุ้นในระยะยาว ไม่ไปโลดได้ไง ใช่ไหมครับ?
อยากให้คนไทยเป็นมดงานคุณภาพกันเยอะๆและมีโอกาสถาม ส.ส หรือ ส.ว ซึ่งก็คือสภาสงครามหุ้นประเทศไทย
ได้เหมือนตอนประชุมบริษัทจัง ถ้าฝันนี้เป็นจริง หุ้นบริษัทประเทศไทยจำกัด (มหาชน)จะเป็นหุ้นที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยอานิสงค์ของธรรมาภิบาล
อย่างแน่นอนครับ
เทพ รุ่งธนาภิรมย์
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
ขออนุญาตโพสบทความของคุณเทพ รุ่ง เกี่ยวกับประชุมผู้ถือหุ้น
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณ คุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์ ที่เขียนบทความดีๆนี้ครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต