ตลาดหลักทรัพย์กำลังตั้งกองทุนผลกระทบ...........
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหลักทรัพย์กำลังตั้งกองทุนผลกระทบ...........
โพสต์ที่ 2
มีผลน่ะมีแน่ครับ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม และยังมีผลในทาง "การเมือง" หลายอย่างทีเดียว
ผลทางตรงผมพอจะพูดถึงได้บางอย่าง ผลทางการเมืองคงจะพูดไม่ได้ในที่นี้ เดี๋ยวจะถูกถล่มติดดินอีก
ผลทางตรงคือเม็ดเงินในตลาดหุ้นจะมากขึ้น return สำหรับหุ้นมาร์เก็ตแค๊บใหญ่ๆ (ในรูปปันผล) คงจะต่ำลง แต่ในแง่ capital gain คงจะมากขึ้นไปด้วยครับ
ผลทางตรงอีกอย่างคือด้านจิตวิทยาครับ ทำให้คนส่วนมากเชื่อว่าหุ้นจะขึ้นไปอีกใกล อาจจะได้ 800 จุดในไม่เกิน 2 ปี
ผลกระทบกับหุ้นเล็กๆที่ VI ส่วนใหญ่เล่นอยู่คงไม่กระทบมากครับ เพราะกองทุนใหญ่ไม่สามารถเล่นหุ้น free float ต่ำเกินไปได้ ทำให้ราคาเสียหมด
ส่วนว่าจะลากหรือไม่ลากคงขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นสำคัญครับ โดยปกติ (ขอย้ำว่าปกติ) กองทุนจะไม่ลากหุ้นเด็ดขาด ถ้าไม่ใช่ตอนปิดบัญชีให้สวยหรู (หรือเหตุผลทางการเมือง) เพราะมันไม่มีประโยชน์กับกองทุนเองในภาพรวมและในระยะยาว ถ้าจะอธิบายคงนาน เอาเป็นว่ากองทุนในประเทศมีข้อจำกัดมากกว่า Hedge Fund ต่างประเทศเยอะ เพราะทิศทางการไหลของเงินถูกจำกัดให้อยู่ในประเทศ
พูดง่ายๆคือถ้าขายแล้วยังไงก็ต้องซื้อคืนอยู่ดี ถ้าซื้อถูกไม่ได้ก็ต้องซื้อแพง ในขณะที่กองทุนต่างประเทศสามารถขายแล้วเอาเงินไปลงที่อื่นได้อย่างเสรี ซึ่งมีทั้งตลาดขนาดมหึมาอย่าง US หรือ EU และตลาดขนาดเล็กอย่างไทยหรือประเทศยากจนทั้งหลาย มีทั้ง stocks, bonds, treasury bonds, currencies, derivatives ทั้งหลาย, etc. เครื่องมือสารพัดที่จะบริหารเงินได้อย่างมีศักยภาพ
นี่คือความได้เปรียบอันใหญ่หลวงของกองทุนต่างชาติ หรือ Hedge Fund ครับ
ผลทางตรงผมพอจะพูดถึงได้บางอย่าง ผลทางการเมืองคงจะพูดไม่ได้ในที่นี้ เดี๋ยวจะถูกถล่มติดดินอีก
ผลทางตรงคือเม็ดเงินในตลาดหุ้นจะมากขึ้น return สำหรับหุ้นมาร์เก็ตแค๊บใหญ่ๆ (ในรูปปันผล) คงจะต่ำลง แต่ในแง่ capital gain คงจะมากขึ้นไปด้วยครับ
ผลทางตรงอีกอย่างคือด้านจิตวิทยาครับ ทำให้คนส่วนมากเชื่อว่าหุ้นจะขึ้นไปอีกใกล อาจจะได้ 800 จุดในไม่เกิน 2 ปี
ผลกระทบกับหุ้นเล็กๆที่ VI ส่วนใหญ่เล่นอยู่คงไม่กระทบมากครับ เพราะกองทุนใหญ่ไม่สามารถเล่นหุ้น free float ต่ำเกินไปได้ ทำให้ราคาเสียหมด
ส่วนว่าจะลากหรือไม่ลากคงขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นสำคัญครับ โดยปกติ (ขอย้ำว่าปกติ) กองทุนจะไม่ลากหุ้นเด็ดขาด ถ้าไม่ใช่ตอนปิดบัญชีให้สวยหรู (หรือเหตุผลทางการเมือง) เพราะมันไม่มีประโยชน์กับกองทุนเองในภาพรวมและในระยะยาว ถ้าจะอธิบายคงนาน เอาเป็นว่ากองทุนในประเทศมีข้อจำกัดมากกว่า Hedge Fund ต่างประเทศเยอะ เพราะทิศทางการไหลของเงินถูกจำกัดให้อยู่ในประเทศ
พูดง่ายๆคือถ้าขายแล้วยังไงก็ต้องซื้อคืนอยู่ดี ถ้าซื้อถูกไม่ได้ก็ต้องซื้อแพง ในขณะที่กองทุนต่างประเทศสามารถขายแล้วเอาเงินไปลงที่อื่นได้อย่างเสรี ซึ่งมีทั้งตลาดขนาดมหึมาอย่าง US หรือ EU และตลาดขนาดเล็กอย่างไทยหรือประเทศยากจนทั้งหลาย มีทั้ง stocks, bonds, treasury bonds, currencies, derivatives ทั้งหลาย, etc. เครื่องมือสารพัดที่จะบริหารเงินได้อย่างมีศักยภาพ
นี่คือความได้เปรียบอันใหญ่หลวงของกองทุนต่างชาติ หรือ Hedge Fund ครับ