ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
- Kokoi
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 1
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่.................
1 แต่สินค้าไม่มีอะไรเด่น ถึงเด่นติดตลาดลูกค้าไม่ถึงกับติด ถ้ามีของใหม่ก่าวก้อพร้อมจะลอง
2 สินค้าเป็นสินค้าถูกควบคุมราคา
3 คู่แข่งเยอะคู่แข่งสามารถผลิตได้ใกล้เคียงแถมถูกกว่าเล็กน้อย
แต่............อีกนั่นแหละ
1 ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีและแน่นอน
2 เป็นเบอร์หนึ่งของสินค้านั้น
3 ผู้บริหารo.k.
เราจะถือว่าเป็นหุ้นห่านทองคำได้ไหมเรียนถามผู้มีความรู้ด้วยค่ะ
1 แต่สินค้าไม่มีอะไรเด่น ถึงเด่นติดตลาดลูกค้าไม่ถึงกับติด ถ้ามีของใหม่ก่าวก้อพร้อมจะลอง
2 สินค้าเป็นสินค้าถูกควบคุมราคา
3 คู่แข่งเยอะคู่แข่งสามารถผลิตได้ใกล้เคียงแถมถูกกว่าเล็กน้อย
แต่............อีกนั่นแหละ
1 ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีและแน่นอน
2 เป็นเบอร์หนึ่งของสินค้านั้น
3 ผู้บริหารo.k.
เราจะถือว่าเป็นหุ้นห่านทองคำได้ไหมเรียนถามผู้มีความรู้ด้วยค่ะ
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 2
ไม่มีความเห็นเรื่องห่าน
แต่มีความเห็นเรื่องการแข่งขัน
ในธุรกิจที่ผลิตสินค้า หรือ บริการ ที่ดูจะธรรมดา ว่า
แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร
3 - 5 ปี ฯลฯ
ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนในธุรกิจที่เป็นที่ 1 ก็ได้
แต่ผมชอบธุรกิจที่มีอะไรน่าสนใจ
เช่น จะเติบโตได้ตามภาวะอุตสาหกรรม ฯลฯ
และที่สำคัญ
ราคาหุ้นต้องไม่แพง
แต่มีความเห็นเรื่องการแข่งขัน
ในธุรกิจที่ผลิตสินค้า หรือ บริการ ที่ดูจะธรรมดา ว่า
แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร
3 - 5 ปี ฯลฯ
ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนในธุรกิจที่เป็นที่ 1 ก็ได้
แต่ผมชอบธุรกิจที่มีอะไรน่าสนใจ
เช่น จะเติบโตได้ตามภาวะอุตสาหกรรม ฯลฯ
และที่สำคัญ
ราคาหุ้นต้องไม่แพง
- Kokoi
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณมากค่ะส.สลึง เขียน:ไม่มีความเห็นเรื่องห่าน
แต่มีความเห็นเรื่องการแข่งขัน
ในธุรกิจที่ผลิตสินค้า หรือ บริการ ที่ดูจะธรรมดา ว่า
แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร
3 - 5 ปี ฯลฯ
ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนในธุรกิจที่เป็นที่ 1 ก็ได้
แต่ผมชอบธุรกิจที่มีอะไรน่าสนใจ
เช่น จะเติบโตได้ตามภาวะอุตสาหกรรม ฯลฯ
และที่สำคัญ
ราคาหุ้นต้องไม่แพง
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำ
โพสต์ที่ 4
ถ้าไม่มี competitive advantage หรือแม้แต่ barriers to entry ใดๆเลย เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะจ่ายปันผลได้ 8-10% ?Kokoi เขียน:ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่.................
1 แต่สินค้าไม่มีอะไรเด่น ถึงเด่นติดตลาดลูกค้าไม่ถึงกับติด ถ้ามีของใหม่ก่าวก้อพร้อมจะลอง
2 สินค้าเป็นสินค้าถูกควบคุมราคา
3 คู่แข่งเยอะคู่แข่งสามารถผลิตได้ใกล้เคียงแถมถูกกว่าเล็กน้อย
แต่............อีกนั่นแหละ
1 ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีและแน่นอน
2 เป็นเบอร์หนึ่งของสินค้านั้น
3 ผู้บริหารo.k.
เราจะถือว่าเป็นหุ้นห่านทองคำได้ไหมเรียนถามผู้มีความรู้ด้วยค่ะ
ถ้ารายใหม่เข้ามา dump ตลาด ด้วยอะไรนิดเดียวเช่นผลิตสินค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่กว่า ถูกกว่านิดนึง ทำให้สามารถขายได้ถูกกว่า market share ลด รายได้ลด จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายปันผลได้ตามที่คาดหละครับ หรือแม้แต่โดนกดราคาจากภาครัฐ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้าปันผล 8-10% "แน่นอน" จริงๆก็ต้องลองเทียบกันดูอีกหละครับว่า rating ที่ประมาณบริษัทนั้นได้ เทียบกับหุ้นกู้ของบริษัท rating เท่าๆกัน เป็นอย่างไร ลืมสภาพคล่องไปก่อน เพราะราคาหุ้นมันผันผวน ถึงจะขายเมื่อไรก็ได้ แต่ตลอดระยะเวลาที่เราอยากขายมันอาจจะต่ำกว่าทุนก็ได้
ผมเห็นเหมือนคุณ ส.สลึง ครับว่าลงทุนอะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นที่หนึ่งหรือที่เท่าไร เพียงแต่เราต้องรู้จักคำนวณว่าสิ่งที่เราลงทุนมีมูลค่าเท่าไรครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 648
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 5
ผมว่า K.Kokoi น่าจะดูถึง industry ที่บริษัทนี้ทำอยู่ครับว่าอยู่ใน S-Curve ช่วงไหน ถ้าบอกว่าปันผลได้เรื่อยๆปีละ 8-10 % อาจจะอยู่ในช่วง maturity stage หรือ อาจเป็น Cash Cow ไปแล้วหรือเปล่าครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าอยู่ในช่วง Maturity stage ผมคงต้องเริ่มดูแล้วครับว่า บริษัท มี R&D ที่แข็งแกร่งขนาดไหน มิฉะนั้นบริษัทจะไม่สามารถแข่งขันในธุรกิจในอีกไม่กีปี่ข้างหน้า
ที่คุณ Kokoi บอกว่าถูกควบคุมราคา แสดงว่าเป็น consumer product ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะทำให้ราคาถูกควบคุมโดยภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาได้ตามต้นทุนที่แท้จริงรึเปล่า หรือถ้าผู้บริหารเก่ง ก็อาจจะได้ในส่วนของ Stock Gain
ไม่แน่ใจว่าผมตอบได้ตรงกับสิ่่งที่ K. Kokoi อยากรู้รึเปล่านะครับ แต่ผมว่าปัจจัยข้างบนนี้เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาครับ
ปล บริษัทนี้ทำพวก น้ำมันพืช หรือน้ำตาลป่าวครับ :o
ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าอยู่ในช่วง Maturity stage ผมคงต้องเริ่มดูแล้วครับว่า บริษัท มี R&D ที่แข็งแกร่งขนาดไหน มิฉะนั้นบริษัทจะไม่สามารถแข่งขันในธุรกิจในอีกไม่กีปี่ข้างหน้า
ที่คุณ Kokoi บอกว่าถูกควบคุมราคา แสดงว่าเป็น consumer product ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะทำให้ราคาถูกควบคุมโดยภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาได้ตามต้นทุนที่แท้จริงรึเปล่า หรือถ้าผู้บริหารเก่ง ก็อาจจะได้ในส่วนของ Stock Gain
ไม่แน่ใจว่าผมตอบได้ตรงกับสิ่่งที่ K. Kokoi อยากรู้รึเปล่านะครับ แต่ผมว่าปัจจัยข้างบนนี้เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาครับ
ปล บริษัทนี้ทำพวก น้ำมันพืช หรือน้ำตาลป่าวครับ :o
- Kokoi
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 6
[quote="moonorway"]ผมว่า K.Kokoi น่าจะดูถึง industry ที่บริษัทนี้ทำอยู่ครับว่าอยู่ใน S-Curve ช่วงไหน ถ้าบอกว่าปันผลได้เรื่อยๆปีละ 8-10 % อาจจะอยู่ในช่วง maturity stage หรือ อาจเป็น Cash Cow ไปแล้วหรือเปล่าครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าอยู่ในช่วง Maturity stage ผมคงต้องเริ่มดูแล้วครับว่า บริษัท มี R&D ที่แข็งแกร่งขนาดไหน มิฉะนั้นบริษัทจะไม่สามารถแข่งขันในธุรกิจในอีกไม่กีปี่ข้างหน้า
ที่คุณ Kokoi บอกว่าถูกควบคุมราคา แสดงว่าเป็น consumer product ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะทำให้ราคาถูกควบคุมโดยภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาได้ตามต้นทุนที่แท้จริงรึเปล่า หรือถ้าผู้บริหารเก่ง ก็อาจจะได้ในส่วนของ Stock Gain
ไม่แน่ใจว่าผมตอบได้ตรงกับสิ่่งที่ K. Kokoi อยากรู้รึเปล่านะครับ แต่ผมว่าปัจจัยข้างบนนี้เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาครับ
ปล บริษัทนี้ทำพวก น้ำมันพืช หรือน้ำตาลป่าวครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าอยู่ในช่วง Maturity stage ผมคงต้องเริ่มดูแล้วครับว่า บริษัท มี R&D ที่แข็งแกร่งขนาดไหน มิฉะนั้นบริษัทจะไม่สามารถแข่งขันในธุรกิจในอีกไม่กีปี่ข้างหน้า
ที่คุณ Kokoi บอกว่าถูกควบคุมราคา แสดงว่าเป็น consumer product ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะทำให้ราคาถูกควบคุมโดยภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาได้ตามต้นทุนที่แท้จริงรึเปล่า หรือถ้าผู้บริหารเก่ง ก็อาจจะได้ในส่วนของ Stock Gain
ไม่แน่ใจว่าผมตอบได้ตรงกับสิ่่งที่ K. Kokoi อยากรู้รึเปล่านะครับ แต่ผมว่าปัจจัยข้างบนนี้เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาครับ
ปล บริษัทนี้ทำพวก น้ำมันพืช หรือน้ำตาลป่าวครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 8
Cash Cow เป็นศัพท์ทาง strategic management นะครับ ตั้งชื่อโดย BCG (Boston Consulting Group)
หมายถึง บริษัท ในอุตสาหกรรมที่เติบโตเต็มที่แล้ว พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี growth แต่จะสร้าง FCF เยอะ และจ่าย dividend ดี
หมายถึง บริษัท ในอุตสาหกรรมที่เติบโตเต็มที่แล้ว พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี growth แต่จะสร้าง FCF เยอะ และจ่าย dividend ดี
- luckyman
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2203
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 10
ksl & tvo ก็ถือว่าเป็นผู้นำตลาดอยู่นะครับ ทำไมถึงว่าไม่ใช่ผู้นำ
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
=> https://hoonapp.com
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 648
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 11
ไม่ถึงขนาดหุ้นคนแก่หรอกครับ เพียงแต่บริษัทมันอ้วนแล้ว จะหาทางรีดความอ้วนออกไปอย่างไร ทั้งส่วนของ R&D, แตก line ใหม่ๆ หรือ เอามาปันผล ผมว่ามันขึ้นอยู่กับ Strategy ของผู้บริหารครับ อาจจะแตกแบบ Horizontal หรือ Vertical ก็แล้วแต่วิสัยทัศน์ครับ อันนี้คงต้องเช็คผู้บริหารกันอีกทีนึงKokoi Posted: Mon Oct 18, 2010 9:29 pm Post subject:
ขอบคุณมากๆค่ะ คงคล้ายๆหุ้นคนแก่งั้นไหมคะ?
ไม่หวือหวา
ในส่วนของ น้ำตาลหรือน้ำมัน อาจจะบุกตลาดต่างประเทศหรืออาจจะลองทำสินค้าใหม่ๆขึ้นมาก็ได้ อย่างเช่น กลุ่มมิตรผล ผมเห็นเค้า promote น้ำเชื่อมแบบถุงอยู่ (เห็นแว้บๆเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว)
ปล คุณ Inertia หารูปจากไหนครับ ผมว่า วัวนี่อ้วนได้ใจจริงๆ :D
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 648
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 14
ผมว่าคงต้องดูที่ต้นทุนของ TVO ซึ่งเป็นสินค้าCommodities ว่าจะมีทิศทางไปยังไง ซึ่งผมว่าเป็นปัจจัยที่ทางบริษัทควบคุมได้ยากครับ แต่ถ้าถือตัวนี้เพื่อรับปันผล ผมว่าก็ Ok นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
วัวอ้วนๆ
โพสต์ที่ 15
Cashcow คือหุ้นที่มีเงินสดและกระแสเงินสดเหลือเฟือครับKokoi เขียน:Cash Cow คืออะไรคะ
ขอโทษค่ะ คือยังใหม่น่ะคะ ศัพท์ทางหุ้นบางคำยังไม่ค่อยรู้น่ะค่ะ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 16
BECLKokoi เขียน:Cash Cow คืออะไรคะ
ขอโทษค่ะ คือยังใหม่น่ะคะ ศัพท์ทางหุ้นบางคำยังไม่ค่อยรู้น่ะค่ะ
- Kokoi
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 19
แต่ถ้างบน้อย เราแบ่งส่วนจากส่วนนี้ไปหาตัวที่เพรียวกว่าจะดีกว่าไหมคะmoonorway เขียน:ผมว่าคงต้องดูที่ต้นทุนของ TVO ซึ่งเป็นสินค้าCommodities ว่าจะมีทิศทางไปยังไง ซึ่งผมว่าเป็นปัจจัยที่ทางบริษัทควบคุมได้ยากครับ แต่ถ้าถือตัวนี้เพื่อรับปันผล ผมว่าก็ Ok นะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 648
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 20
ขึ้นอยู่กับ style การลงทุนของเรานะครับ ว่าจะ manage port อย่างไร บางคนรับความเสี่ยงได้มาก ก็จะถือหุ้นที่ Aggressive และมีเวลาในการดูแลครับ แต่ถ้าบางคน defensive มากๆ ผมก็แนะนำให้ถือตัวที่มี beta ต่ำ แต่ให้ Dividend Yield ที่มากครับKokoi Posted: Wed Oct 20, 2010 10:41 pm Post subject:
--------------------------------------------------------------------------------
moonorway wrote:
ผมว่าคงต้องดูที่ต้นทุนของ TVO ซึ่งเป็นสินค้าCommodities ว่าจะมีทิศทางไปยังไง ซึ่งผมว่าเป็นปัจจัยที่ทางบริษัทควบคุมได้ยากครับ แต่ถ้าถือตัวนี้เพื่อรับปันผล ผมว่าก็ Ok นะครับ
แต่ถ้างบน้อย เราแบ่งส่วนจากส่วนนี้ไปหาตัวที่เพรียวกว่าจะดีกว่าไหมคะ
ถ้าเป็น port ที่ยังไม่ใหญ่มากนัก ผมจะไม่กระจายหลายตัวเกินไปครับ ถึงแม้ตาม research ถ้าเราแบ่งได้ถึง 20 ตัว ความเสี่ยงต่ำมาก แต่ผลตอบแทนก็จะไม่หวือหวาตามไปด้วยครับ :o
- aviruth
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 21
ผมว่า มือใหม่ พอร์ตไม่ใหญ่ ไม่ควรมองหาผลตอบแทนที่มากควรซื้อหุ้นหลายๆตัวเพื่อกระจายความเสี่ยง แม้ผลตอบแทนจะไม่มาก ถ้าเราอยู่ในตลาดมาพอสมควรสักสองปี ค่อยๆลดจำนวนหุ้นที่ถือลงเพราะเราเริ่มเก๋าเกมแล้ว ปีแรกๆประคองตัวอย่าให้ขาดทุนก็พอ
อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างด้วยการทำแบบเดิม
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 648
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 24
กว่าที่ problem child จะแก้ปัญหาได้ก็ใช้เวลามากครับ แต่ถ้าแก้ได้ก็เหมือนหุ้น turnaround เลยครับ
ส่วน Dog ผมว่ามันเป็นบริษัทที่อยู่ในช่วง decline stage แล้วอ่ะครับ รอวันหมดลมหายใจ (ถ้าไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นมา)
ผมว่า สนใจ rising star ไม่ดีกว่าหรอครับ :D
ส่วน Dog ผมว่ามันเป็นบริษัทที่อยู่ในช่วง decline stage แล้วอ่ะครับ รอวันหมดลมหายใจ (ถ้าไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นมา)
ผมว่า สนใจ rising star ไม่ดีกว่าหรอครับ :D
- Kokoi
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 25
[quote="moonorway"]กว่าที่ problem child จะแก้ปัญหาได้ก็ใช้เวลามากครับ แต่ถ้าแก้ได้ก็เหมือนหุ้น turnaround เลยครับ
ส่วน Dog ผมว่ามันเป็นบริษัทที่อยู่ในช่วง decline stage แล้วอ่ะครับ รอวันหมดลมหายใจ (ถ้าไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นมา)
ผมว่า สนใจ rising star ไม่ดีกว่าหรอครับ
ส่วน Dog ผมว่ามันเป็นบริษัทที่อยู่ในช่วง decline stage แล้วอ่ะครับ รอวันหมดลมหายใจ (ถ้าไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นมา)
ผมว่า สนใจ rising star ไม่ดีกว่าหรอครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 648
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีหุ้นปันผลดี 8-10% ทุกปีแต่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะทำไงดี
โพสต์ที่ 26
ผมก็เป็นครับ บางทีกว่าจะวิเคราะห์งบเสร็จ ราคาไปซะแล้ว :lol:
แต่ผมจะมันใจมากขึ้นครับหากเห็นงบของบริษัทก่อนที่ลงทุนครับ เหมือนเราเห็นของก่อนซื้อ ไม่ได้จ่ายเงินก่อนแล้วค่อยได้ของครับ
ส่วนเรื่องงบผมว่า ลองอ่านหลายๆบริษัทจะพอเข้าใจได้ว่า pattern ของบริษัทในindustry เดียวกันจะคล้ายครับ (จากประสบการณ์ที่ผมเห็นนะครับ) แล้วค่อยไปลงเรียน course น่าจะเข้าใจได้ดีขึ้นครับ (เหมือนเราได้ฝึกก่อน)
ผิดถูกอย่างไร comment ได้เลยครับ
แต่ผมจะมันใจมากขึ้นครับหากเห็นงบของบริษัทก่อนที่ลงทุนครับ เหมือนเราเห็นของก่อนซื้อ ไม่ได้จ่ายเงินก่อนแล้วค่อยได้ของครับ
ส่วนเรื่องงบผมว่า ลองอ่านหลายๆบริษัทจะพอเข้าใจได้ว่า pattern ของบริษัทในindustry เดียวกันจะคล้ายครับ (จากประสบการณ์ที่ผมเห็นนะครับ) แล้วค่อยไปลงเรียน course น่าจะเข้าใจได้ดีขึ้นครับ (เหมือนเราได้ฝึกก่อน)
ผิดถูกอย่างไร comment ได้เลยครับ