MBA Finance กับการลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน เออผมมีคำถามอะคับ
หากจะถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องเรียน MBA Finance แล้วถึงลงทุนให้หุ้นได้ดี คำตอบคงจะชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่จำเป็น แต่หากถามว่ามันคุ้มค่าไหม ผมมองว่าการศึกษาก็เป็นการลงทุนแบบหนึ่ง มีทั้งแบบที่คุ้มค่ามากๆ คุ้มค่าน้อยๆ หรือไม่คุ้มค่าเลย เนื่องจากในการเล่าเรียนแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายทั้งเงินและเวลา ยกตัวอย่างเช่นการเรียน MBA ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยน่าจะประมาณ 300000 บาทต่อหลักสูตร และเวลาในการเรียนประมาณ 2 ปี (ในช่วงเสาร์-อาทิตย์) เหตุผลที่ออกมาถามคืออยากให้เพื่อนๆ พี่ มีเคยเรียนผ่านมาแล้ว หรือกำลังเรียนอยู่ ออกมาแชร์ความคิดเห็นหน่อยคับว่าคิดเห็นประการใด โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นวิศวกร จบโททางวิศวะมาแล้วใบหนึ่ง งานที่ทำอยู่ก็ไม่หนักมากนักคิดว่ามีเวลาเรียนพอ เหตุผลที่อยากเรียนคงเป็นที่ตัววิชาล้วนๆ และได้เอามาใช้กับตัวเองมากกว่า มองว่างานหลังจบ MBA ยังเป็นเรื่องรอง ยังไงก็รบกวนพี่ๆเพื่อนด้วยนะคับ ขอบพระคุณล่วงหน้าคับ
หากจะถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องเรียน MBA Finance แล้วถึงลงทุนให้หุ้นได้ดี คำตอบคงจะชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่จำเป็น แต่หากถามว่ามันคุ้มค่าไหม ผมมองว่าการศึกษาก็เป็นการลงทุนแบบหนึ่ง มีทั้งแบบที่คุ้มค่ามากๆ คุ้มค่าน้อยๆ หรือไม่คุ้มค่าเลย เนื่องจากในการเล่าเรียนแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายทั้งเงินและเวลา ยกตัวอย่างเช่นการเรียน MBA ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยน่าจะประมาณ 300000 บาทต่อหลักสูตร และเวลาในการเรียนประมาณ 2 ปี (ในช่วงเสาร์-อาทิตย์) เหตุผลที่ออกมาถามคืออยากให้เพื่อนๆ พี่ มีเคยเรียนผ่านมาแล้ว หรือกำลังเรียนอยู่ ออกมาแชร์ความคิดเห็นหน่อยคับว่าคิดเห็นประการใด โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นวิศวกร จบโททางวิศวะมาแล้วใบหนึ่ง งานที่ทำอยู่ก็ไม่หนักมากนักคิดว่ามีเวลาเรียนพอ เหตุผลที่อยากเรียนคงเป็นที่ตัววิชาล้วนๆ และได้เอามาใช้กับตัวเองมากกว่า มองว่างานหลังจบ MBA ยังเป็นเรื่องรอง ยังไงก็รบกวนพี่ๆเพื่อนด้วยนะคับ ขอบพระคุณล่วงหน้าคับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
Re: MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 2
ความเห็นผมการเรียน MBA นั้นมีประโยชน์กับการลงทุนครับ
แต่ควรเรียนเป็นแนว MBA Marketing หรือ Strategy เป็นหลักมากกว่า
เพราะว่า Finance ที่สอนใจในมหาลัยนั้นขัดกับหลักการแบบ VI หลายจุดเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเรื่องหลักของ Finance
เค้ามีการตั้งสมมติฐานเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ Model ต่างๆทางการเงินนั้นสามารถคำนวณได้
ทีนี้ไอ้ตลาดมีประสิทธิภาพนั้นมันบอกว่าราคาหุ้นนั้นอยู่ในภาวะราคาเหมาะสมอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้ามันต่ำกว่ามูลก็จะมีคนมาซื้อจนราคาเข้าหาจุดเหมาะสม ถ้าเกินมูลค่าคนก็จะขายจนราคาลงมาจุดเหมาะสม แล้วทีนี้สูตรการคำนวณต่างๆที่ใช้ หลักการที่เรียนทั้งหลายก็ใช้สมมติฐานนี้กันทั้งนั้น
แต่ vi นั้นใช้ประโยชน์จากความไม่มีประสิทธิภาพของตลาดในบางจังหวะ เพื่อหาโอกาสในการซื้อหุ้นที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ความเชื่อมันต่างกันมาก ผมเรียนไปก็รู้สึกเลยว่าเอาไปใช้งานได้น้อยจริงๆ
ใน mba วิชาทางด้านการเงินที่ดี ก็จะเป็น วิชาบัญชี การอ่านงบการเงิน บัญชีสำหรับการบริหารธุรกิจ อะไรพวกนี้เอามาใช้ลงทุนได้ครับ
แต่ควรเรียนเป็นแนว MBA Marketing หรือ Strategy เป็นหลักมากกว่า
เพราะว่า Finance ที่สอนใจในมหาลัยนั้นขัดกับหลักการแบบ VI หลายจุดเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเรื่องหลักของ Finance
เค้ามีการตั้งสมมติฐานเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ Model ต่างๆทางการเงินนั้นสามารถคำนวณได้
ทีนี้ไอ้ตลาดมีประสิทธิภาพนั้นมันบอกว่าราคาหุ้นนั้นอยู่ในภาวะราคาเหมาะสมอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้ามันต่ำกว่ามูลก็จะมีคนมาซื้อจนราคาเข้าหาจุดเหมาะสม ถ้าเกินมูลค่าคนก็จะขายจนราคาลงมาจุดเหมาะสม แล้วทีนี้สูตรการคำนวณต่างๆที่ใช้ หลักการที่เรียนทั้งหลายก็ใช้สมมติฐานนี้กันทั้งนั้น
แต่ vi นั้นใช้ประโยชน์จากความไม่มีประสิทธิภาพของตลาดในบางจังหวะ เพื่อหาโอกาสในการซื้อหุ้นที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ความเชื่อมันต่างกันมาก ผมเรียนไปก็รู้สึกเลยว่าเอาไปใช้งานได้น้อยจริงๆ
ใน mba วิชาทางด้านการเงินที่ดี ก็จะเป็น วิชาบัญชี การอ่านงบการเงิน บัญชีสำหรับการบริหารธุรกิจ อะไรพวกนี้เอามาใช้ลงทุนได้ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย yoyo เมื่อ เสาร์ พ.ย. 13, 2010 10:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 3
สุดยอดครับ คุณ Yoyo ผมเพิ่งคิดได้เมื่อไมนานมานี้เอง ผมไปเรียนวิชา finance มา แล้วก้อฝังใจกับคำว่า ตลาดประสิทธิภาพ มานาน ทำให้เสียโอกาสดีดี ไปเยอะเลย ไม่ได้เรียน strategic ทำให้มองอนาคตของธุรกิจ ไม่ค่อยออก มองการบริหารงานในภาพรวมขององค์กรไม่ออก เท่าที่ควร ซึ่งตรงนี้สำคัญมากครับ
- Highway_Star
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 452
- ผู้ติดตาม: 1
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 4
กำลังเรียน MBA อยู่ครับ เคยถามพี่โยโย่ก่อนมาเรียนเหมือนกัน
หลังจากเรียนมาเทอมนึงแล้ว ก็พบว่ามีวิชาหลายวิชามากๆ ที่เป็นประโยชน์กับการวิเคราะห์ธุรกิจ
เพราะที่เค้าสอนให้ เป็นหลักการของการบริหารและจัดการตัวธุรกิจ รวมถึงวิธีคิดต่างๆ ด้วย
ิวิชาที่มีประโยชน์ก็ตามที่พี่โยบอกครับ พวกบัญชี อ่านงบการเงิน
ตอนนี้ก็อ่านงบได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนพอสมควร แต่ก็ยังมีหลายๆ เรื่องที่จำไม่เคยได้ซักที ก็คิดว่าต้องใช้เวลาในการซึมซับพอควร
ถ้ามีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว เวลาเรียนก็คิดตามเทียบๆ กันระหว่างหนังสือ กับสิ่งที่เคยทำงานมา พบเลยว่ามีหลายอย่างมากที่ประยุกต์ได้
แล้วก็เนื่องจากเวลาเล่นหุ้น เราไม่ต้องไปลงมือเอง ให้บริษัททำ พวกผู้บริหารเก่งๆ นี่เราแค่จับเอาสิ่งที่เราเรียนมา ใส่ลงไปเทียบๆ กับสิ่งที่เค้าทำ ก็ได้ภาพพอสมควรครับ ว่าควรจะซื้อหุ้น หรือว่าขายทิ้ง
หลังจากเรียนมาเทอมนึงแล้ว ก็พบว่ามีวิชาหลายวิชามากๆ ที่เป็นประโยชน์กับการวิเคราะห์ธุรกิจ
เพราะที่เค้าสอนให้ เป็นหลักการของการบริหารและจัดการตัวธุรกิจ รวมถึงวิธีคิดต่างๆ ด้วย
ิวิชาที่มีประโยชน์ก็ตามที่พี่โยบอกครับ พวกบัญชี อ่านงบการเงิน
ตอนนี้ก็อ่านงบได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนพอสมควร แต่ก็ยังมีหลายๆ เรื่องที่จำไม่เคยได้ซักที ก็คิดว่าต้องใช้เวลาในการซึมซับพอควร
ถ้ามีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว เวลาเรียนก็คิดตามเทียบๆ กันระหว่างหนังสือ กับสิ่งที่เคยทำงานมา พบเลยว่ามีหลายอย่างมากที่ประยุกต์ได้
แล้วก็เนื่องจากเวลาเล่นหุ้น เราไม่ต้องไปลงมือเอง ให้บริษัททำ พวกผู้บริหารเก่งๆ นี่เราแค่จับเอาสิ่งที่เราเรียนมา ใส่ลงไปเทียบๆ กับสิ่งที่เค้าทำ ก็ได้ภาพพอสมควรครับ ว่าควรจะซื้อหุ้น หรือว่าขายทิ้ง
- Visute
- Verified User
- โพสต์: 55
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 5
ความเห็นของผม การลงทุนแนว VI เป็นแนวการลงทุนที่ต้องวิเคราะห์กิจการ เพื่อร่วมทำธุรกิจ ซึ่งการเรียน MBA ทำให้มีความรู้พื้นฐานในการบริหารกิจการครอบคลุมกลยุทธ์ที่กิจการต้องดำเนินการเช่น การตลาด การเงิน บัญชี บุคคล การผลิต การบริหารต้นทุน กลยุทธ์ จะทำให้ช่วยให้เราลดความเสี่ยงในการลงทุน และประสบความสำเร็จได้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 11
ส่วนตัวที่เรียน MBA มา นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้(กล้า)เริ่มลงทุนครับ ซึ่งมาจากหลายปัจจัย วิชาที่เรียน + ได้พูดคุยเพื่อนที่ลงทุนมาก่อน + เพื่อนที่เป็นโบรคเกอร์
สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนเลย หรือมีน้อยมาก(อย่างผม) นับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยครับ บวกกับสิ่งอื่นๆ ที่ได้รับนอกเหนือจากการลงทุน คุ้มมากครับ
สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนเลย หรือมีน้อยมาก(อย่างผม) นับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยครับ บวกกับสิ่งอื่นๆ ที่ได้รับนอกเหนือจากการลงทุน คุ้มมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 12
+1 กับมุมมองคุณ yoyo
ผมมีมุมมองเกี่ยวกับ mba ดังนี้
1. หลักสูตรคล้ายกับ bba (ป ตรี บริหารธุรกิจ) ถ้าเคยเรียนได้ดี ประโยชน์เรียนต่อ mba จะไม่มากนัก
2. ให้ความรู้ที่ดีกับผู้จบปริญญาสาขาอื่น ๆ เป็นการซื้อ(เรียนรู้)ประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจในราคาที่ถูก ผู้ที่ตั้งใจจะมีหรือประกอบธุรกิจอยู่แล้วสมควรเรียนอย่างยิ่ง เพราะว่าทำให้ได้ความรู้เบื้องต้นในทุกศาสตร์ที่เกี่ยวกับธุรกิจ
3. เป็น stepping stone ทำให้ชีวิตมีคุณภาพและก้าวหน้ามากขึ้น
ทั้งหมดที่ว่าจะเกิดจริงสำหรับผู้หวังความรู้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการรับรองวุฒิ (ปริญญา)
สำหรับประโยชน์ mba ต่อการลงทุนนั้น ที่จะได้ประโยชน์จริง ๆ จาก คือ basic knowledge คือ ช่วยทำให้ตรวจสุขภาพบริษัทได้(อ่านงบการเงินเป็น) เข้าใจวิธีการคิด ประเมินการบริหารจัดการได้ดีขึ้น
กล่าวแบบกว้าง ๆนะครับ ผู้ที่สามารถลงทุนได้ดี ต้องเข้าใจหลักการลงทุนครับ และมีความรู้รอบด้านประกอบ มากกว่า และตัดสินใจที่ดี
ส่วนตัวยังเชื่อว่า ผู้จบ mba finance ไม่น่าจะมีความสามารถในการลงทุนมากกว่า ผู้ mba ทั่วไป หรือ สาขาใด
สำหรับการตัดสินใจเลือกเรียน mba หรือไม่ ผมว่าควร แต่ก็ขึ้นกับความความพร้อมแต่นะท่านครับ ว่ามีเงินและความจำเป็นต้องใช้เงินอย่างไร จังหวะเหมาะสมเมื่อไร
อีกอย่างจบ mba อาจทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้า มีเงินเดือนมากขึ้น
ผมมีมุมมองเกี่ยวกับ mba ดังนี้
1. หลักสูตรคล้ายกับ bba (ป ตรี บริหารธุรกิจ) ถ้าเคยเรียนได้ดี ประโยชน์เรียนต่อ mba จะไม่มากนัก
2. ให้ความรู้ที่ดีกับผู้จบปริญญาสาขาอื่น ๆ เป็นการซื้อ(เรียนรู้)ประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจในราคาที่ถูก ผู้ที่ตั้งใจจะมีหรือประกอบธุรกิจอยู่แล้วสมควรเรียนอย่างยิ่ง เพราะว่าทำให้ได้ความรู้เบื้องต้นในทุกศาสตร์ที่เกี่ยวกับธุรกิจ
3. เป็น stepping stone ทำให้ชีวิตมีคุณภาพและก้าวหน้ามากขึ้น
ทั้งหมดที่ว่าจะเกิดจริงสำหรับผู้หวังความรู้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการรับรองวุฒิ (ปริญญา)
สำหรับประโยชน์ mba ต่อการลงทุนนั้น ที่จะได้ประโยชน์จริง ๆ จาก คือ basic knowledge คือ ช่วยทำให้ตรวจสุขภาพบริษัทได้(อ่านงบการเงินเป็น) เข้าใจวิธีการคิด ประเมินการบริหารจัดการได้ดีขึ้น
กล่าวแบบกว้าง ๆนะครับ ผู้ที่สามารถลงทุนได้ดี ต้องเข้าใจหลักการลงทุนครับ และมีความรู้รอบด้านประกอบ มากกว่า และตัดสินใจที่ดี
ส่วนตัวยังเชื่อว่า ผู้จบ mba finance ไม่น่าจะมีความสามารถในการลงทุนมากกว่า ผู้ mba ทั่วไป หรือ สาขาใด
สำหรับการตัดสินใจเลือกเรียน mba หรือไม่ ผมว่าควร แต่ก็ขึ้นกับความความพร้อมแต่นะท่านครับ ว่ามีเงินและความจำเป็นต้องใช้เงินอย่างไร จังหวะเหมาะสมเมื่อไร
อีกอย่างจบ mba อาจทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้า มีเงินเดือนมากขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 13
ตอนผมเรียนโทบริหารจัดการ ผมเคยคิดว่าวิชาสำคัญที่สุดคือพวกการเงิน
แต่พอเรียน ๆ ไป ผมกลับรู้สึกว่า วิชาที่มีประโยชน์ที่สุด คือ Marketing กับเศรษฐศาสตร์มหภาค
วิชาด้านการเงิน ค่อนข้างจะเป็นศาสตร์เกินไป ในขณะที่ความเป็นจริง หลาย ๆ อย่างถูก control ด้วยอำนาจเงิน
แต่พอเรียน ๆ ไป ผมกลับรู้สึกว่า วิชาที่มีประโยชน์ที่สุด คือ Marketing กับเศรษฐศาสตร์มหภาค
วิชาด้านการเงิน ค่อนข้างจะเป็นศาสตร์เกินไป ในขณะที่ความเป็นจริง หลาย ๆ อย่างถูก control ด้วยอำนาจเงิน
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 14
เห็นด้วยกับพี่โยครับ ผมเองไม่ได้เรียน MBA แต่ก็จบ Finance มาครับ ไม่นานมานี้เคย comment เกี่ยวกับการเรียน Finance กับ การลงทุนVI เอาไว้ น่าจะเกี่ยวกับคำถามของคุณkasemsun อยู่บ้าง ยังไงขอ Quote มาลงเอาไว้ในกระทู้นี้เลยนะครับ
ถ้าหวังจะเรียน "Finance" เพื่อศึกษา Value Investment นี่ ขอบอกก่อนว่า ไม่มีสอนนะครับ... ทฤษฏี VI นั้น ในหลายๆจุดยังขัดกับหลัก Modern Finance Theory (เช่น Efficient Market Hypothesis, Portfolio Optimization, CAPM)อยู่ครับ ดังนั้นในทางวิชาการนั้น การลงทุนแนว VI ยังถูกมองว่าเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ครับ ในบางตำราบอกว่าการที่ Buffett หรือ Lynch มีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงติดต่อกันเป็นเวลานานได้เป็นเพราะ "โชค" เท่านั้นเองด้วยซ้ำไป ซึ่งผมมองว่าทฤษฏีการเงินที่จะมาอธิบาย VI ได้ก็คือ Behavioral Fiannce (จิตวิทยาการลงทุนคือแขนงหนึ่งของ BF ครับ)ครับ แต่ทั่วโลกเองก็ยังกลับไม่ยอมรับทฤษฏีตัวนี้ซะงั้น
ดังนั้นสิ่งที่ได้จากการเรียน "Finance" ที่ถ้าจะมาใช้กับการลงทุนแบบ VI ก็คือ "พื้นฐานทางการเงิน" เท่านั้นเองครับ(เช่นบัญชี, การอ่านงบการเงิน, discounted cash flow model, business cycle, ฯลฯ) ซึ่งมันจะช่วยได้ตรงที่ว่าถ้าเรามาศึกษาการลงทุนแบบ VI แล้วเราอาจจะเข้าใจได้ง่ายกว่าคนอื่นที่ไม่ได้จบ "Finance" มาเท่านั้นเองครับ แต่ไม่ได้ประกันว่าเราจะต้องลงทุนเก่งกว่าแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้อยู่ที่เราจะนำพืนฐานที่มีมา Apply กับเข้า VI ได้ดีแค่ไหนครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
- Hisoka
- Verified User
- โพสต์: 175
- ผู้ติดตาม: 1
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 16
ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ควบสองไปเลยสิครับ Finance กับ Marketing แต่หนักหน่อยนะครับ ได้ข่าวว่าที่นั้นชอบให้งานเยอะ :lol: :lol: :lol:cntclub เขียน:ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นี้ พอดีอาทิตย์หน้าผมกำลังจะไปสมัครเรียนที่ นิด้าพอดี กำลังจะเลือก MBA Finance แล้วสิ เพราะจะนำมาใช้กับการลงทุนอย่างเดียว เลยได้ความกระจ่างเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 17
ผมเพิ่งจบ จาก MBA young ex จุฬา ได้เกรด 3.97
ลองเอาไปใช้ สมัครงาน
รู้สึกว่า ฝ่ายบุคคลของ นายจ้าง สนใจมากขึ้นครับ
แต่ที่ภูมิใจมากกว่า คือ ค่าเทอมทั้งหมด ผมใช้กำไรจาก ตลาดหุ้นไปจ่ายครับ
หลักๆ มาจาก ตัวที่ เคยลงไป 100 กว่า แล้ว ขึ้นไป 300 กว่าๆ
เสียดาย ขายไปจ่ายค่าเทอม ตอน 200 กว่าๆ
อาจารย์ บ. อยู่แถว ศรีราชา
ผู้ที่สอนผมรู้จักหุ้น ท่านจบตรี วิศวะ ไม่เรียนโท
เพราะ บอกว่า ท่าน คงไม่ต้องใช้ใบปริญญา ไปเบิกทางที่ไหน
ลองเอาไปใช้ สมัครงาน
รู้สึกว่า ฝ่ายบุคคลของ นายจ้าง สนใจมากขึ้นครับ
แต่ที่ภูมิใจมากกว่า คือ ค่าเทอมทั้งหมด ผมใช้กำไรจาก ตลาดหุ้นไปจ่ายครับ
หลักๆ มาจาก ตัวที่ เคยลงไป 100 กว่า แล้ว ขึ้นไป 300 กว่าๆ
เสียดาย ขายไปจ่ายค่าเทอม ตอน 200 กว่าๆ
อาจารย์ บ. อยู่แถว ศรีราชา
ผู้ที่สอนผมรู้จักหุ้น ท่านจบตรี วิศวะ ไม่เรียนโท
เพราะ บอกว่า ท่าน คงไม่ต้องใช้ใบปริญญา ไปเบิกทางที่ไหน
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- donrak
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 18
ร่วมแชร์ด้วยคนครับ ผมจบตรี บริหารการเงินครับ แล้วต่อ MBA การตลาดครับในความเห็นผมโดยเนื้อหาวิชาต่างกันเยอะครับ Financeจะออกแนวจบไปเป็นนายแบงค์ครับ เรื่องหุ้นจะเน้นไปทางกราฟครับ ส่วนMKT จะเน้นไปทางวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาด น่าจะเกี่ยวกับแนงVI เรามากกว่านะครับ ส่วนวิชาพื้นฐานของMBA อย่างAccounting management กับ Strategic management และอื่นๆ น่าจะพอเพียงต่อการลงทุนนะครับเพราะมันจะได้ภาพกว้างๆของการทำธุรกิจครับ
ส่วนท่านที่เห็นว่าค่าใช้จ่ายไม่คุ้มเพราะว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเอาวุฒิไปใช้อะไร พี่โจ ลูกอีสาน เคยแนะนำไว้ให้ลองเรียนตรีบริหารของ ม.ราม น่าจะช่วยเรื่องความรู้ด้านการลงทุนได้พอสมควรครับ(ประมาณว่าถูกและดีครับ)
ส่วนท่านที่เห็นว่าค่าใช้จ่ายไม่คุ้มเพราะว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเอาวุฒิไปใช้อะไร พี่โจ ลูกอีสาน เคยแนะนำไว้ให้ลองเรียนตรีบริหารของ ม.ราม น่าจะช่วยเรื่องความรู้ด้านการลงทุนได้พอสมควรครับ(ประมาณว่าถูกและดีครับ)
ถ้าเรายังเอาชนะ"ใจ"ตัวเองไม่ได้
เราก็"ชนะ"ตลาดหุ้นไม่ได้
เราก็"ชนะ"ตลาดหุ้นไม่ได้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 19
ขออนุญาตให้ข้อมูลนะครับFinanceจะออกแนวจบไปเป็นนายแบงค์ครับ เรื่องหุ้นจะเน้นไปทางกราฟครับ ส่วนMKT จะเน้นไปทางวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาด น่าจะเกี่ยวกับแนงVI เรามากกว่านะครับ ส่วนวิชาพื้นฐานของMBA อย่างAccounting management กับ Strategic management
เรียน finance แล้วแต่จะเน้นไปทางไหนนะครับ
เลือกเรียนออกไปได้หลายแนวทาง
การลงทุน การบริหารความเสี่ยง fund management หรืออื่นๆ
เรื่องหุ้นก็จะมีวิชาเฉพาะ และแฝงอยู่ในวิชาการเงินอื่่นๆ
เป็นแนวทางของ fundamental และ efficient market ครับ
ซึ่งแนว vi กับ fundamental นี้แนวเดียวกันนะครับ
ส่วนกราฟ ไม่มีสอนครับ ถ้ามี บางที่ก็อาจจะแตะๆหน่อยๆ ครับ ไม่มีการสอนเป็นเรื่องเป็นราว
ยิ่งบอกว่าเน้นไปทางกราฟ ข้อมูลนี้น่าจะไม่ถูกต้องครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 21
ขอบคุณ พี่ๆเพื่อนๆมากๆคับ ที่มาให้ความเห็นในกระทู้นี้ ที่สรุปๆได้จากข้อมูลคือ ถ้าต้องการเรียนไปลงทุนแบบ VI คงต้องเรียนพวก Marketing มากกว่า Finance ส่วนเรื่องที่ว่าควรเรียนไม่เรียนนั้นตอบยากจริงๆ มันต้องถามว่าประสิทธิภาพในการวิเคราะห์หลักทรัพย์นั้นแบบเรียนในระบบ กับเรียนนอกระบบ เราเรียนแบบไหนให้ประสิทธิภาพมากกว่ากัน เฮ้อ เครียด งง
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 22
ผมเองจบ MBE มา แต่ขอให้มุมมองการเรียนต่อ MBA เป็นข้อมูล
ผมคิดว่าพื้นฐานทาง MBA ให้ความรู้เบื้องต้นต่อการลงทุนในแง่ การวิเคราะห์งบ
การเงิน การเข้าใจพื้นฐานของธุรกิจ (กลยุทธ์กิจการ การตลาด เศรษฐศาสตร์
พื้นฐาน) ผมเชื่อว่าทุกวิชามีประโยชน์หมด เพียงแต่ว่าเราต้องจับประเด็น แนว
ความคิดให้ออก การจะเป็นนักลงทุนที่ดีได้ "ควรต้องคิดให้เหมือน
เจ้าของธุรกิจ" เรื่องนี้ MBA ช่วยได้
สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้จากการเีรียนต่อ คือ Connection ในรุ่นครับ มันอาจจะมีประโยชน์ต่อเรา ในการทำงาน การลงทุนได้
ผมคิดว่าพื้นฐานทาง MBA ให้ความรู้เบื้องต้นต่อการลงทุนในแง่ การวิเคราะห์งบ
การเงิน การเข้าใจพื้นฐานของธุรกิจ (กลยุทธ์กิจการ การตลาด เศรษฐศาสตร์
พื้นฐาน) ผมเชื่อว่าทุกวิชามีประโยชน์หมด เพียงแต่ว่าเราต้องจับประเด็น แนว
ความคิดให้ออก การจะเป็นนักลงทุนที่ดีได้ "ควรต้องคิดให้เหมือน
เจ้าของธุรกิจ" เรื่องนี้ MBA ช่วยได้
สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้จากการเีรียนต่อ คือ Connection ในรุ่นครับ มันอาจจะมีประโยชน์ต่อเรา ในการทำงาน การลงทุนได้
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: MBA Finance กับการลงทุน
โพสต์ที่ 23
การใช้กราฟ ตั้งอยู่ในสมมุติฐานที่ว่า
ปัจจุบันทำตัวเหมือนอดีิตที่ผ่านมา
อดีตที่เกิดมาแล้ว ย้อนกลับมาเกิดอีกครั้งในปัจจุบัน
ส่วน MBA รู้กว้างกว่า Finance เพียวแน่นอน
เพราะ วิชาการลงทุนมีน้อยกว่า กว้างกว่า
ส่วน Finance ก็ลงลึกมาก
ต้อง Trade off ว่าคุณเลือกที่รู้กว้างหรือรู้ลึก
แล้วขยายจากลึกไปสู่กว้าง หรือ กว้างเข้าหาลึก
มันแล้วแต่ล่ะครับ
ปัจจุบันทำตัวเหมือนอดีิตที่ผ่านมา
อดีตที่เกิดมาแล้ว ย้อนกลับมาเกิดอีกครั้งในปัจจุบัน
ส่วน MBA รู้กว้างกว่า Finance เพียวแน่นอน
เพราะ วิชาการลงทุนมีน้อยกว่า กว้างกว่า
ส่วน Finance ก็ลงลึกมาก
ต้อง Trade off ว่าคุณเลือกที่รู้กว้างหรือรู้ลึก
แล้วขยายจากลึกไปสู่กว้าง หรือ กว้างเข้าหาลึก
มันแล้วแต่ล่ะครับ