หลักการที่ Buffet, P.Lynch, J.Neff ฯลฯ ใช้ เราสามารถนำมาใช้ในตลาดหุ้นไทยได้ขนาดไหนครับ
มีความแตกต่างข้อไหนที่เราต้องปรับเปลี่ยน และต้องระมัดระวังบ้าง
ยิ่งตลาดหุ้นไทยมี "เจ้า" ด้วย บรื๋อออ...
ขอบคุณครับ
การนำหลักการguru VI มาใช้กับ SET มีอะไรที่ปรับเปลี่ยนบ้าง...
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การนำหลักการguru VI มาใช้กับ SET มีอะไรที่ปรับเปลี่ยนบ้า
โพสต์ที่ 2
ถ้าเจ้ามีจริง
ก็ปล่อยเป็นเกมของเจ้า
เราก็เล่นเกมของเรา
ต่างคนต่างเล่น
ซุนวูว่า รู้เขารู้เรา
คือรู้ว่าแพ้แน่ไม่เล่น
รู้ว่าชนะแน่ถึงเล่น
ไม่เห็นต้องสนใจเลย
ว่าตลาดหุ้นไทยมีเจ้าหรือเปล่า
ก็ปล่อยเป็นเกมของเจ้า
เราก็เล่นเกมของเรา
ต่างคนต่างเล่น
ซุนวูว่า รู้เขารู้เรา
คือรู้ว่าแพ้แน่ไม่เล่น
รู้ว่าชนะแน่ถึงเล่น
ไม่เห็นต้องสนใจเลย
ว่าตลาดหุ้นไทยมีเจ้าหรือเปล่า
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การนำหลักการguru VI มาใช้กับ SET มีอะไรที่ปรับเปลี่ยนบ้า
โพสต์ที่ 3
มีเจ้าก็ดี ง่ายดี
เราไม่สนทิศทาง เราสนแต่ราคา
ถ้าการที่หุ้นถูกทุบทำให้ไหลลง ถ้ามันลงแล้ว มูลค่ามากกว่าราคาก็ซื้อ ถ้าไม่ก็ไม่สน
ถ้ามันโดนลากขึ้นไป ก็ดูว่าเกินมูลค่ายัง เกินก็ขาย จะลากต่อก็ชั่งมัน
ตลาดหุ้นไทยทั้งตลาดมีขนาดเล็กกว่าบริษัทแอปเปิ้ลด้วยซ้ำ(จากของ ดร.)
ใครมาซื้อนิดๆมันก็พุ่งแล้วครับ
กลับกัน ขายหน่อยๆมันก็ลงแล้ว
เราไม่สนทิศทาง เราสนแต่ราคา
ถ้าการที่หุ้นถูกทุบทำให้ไหลลง ถ้ามันลงแล้ว มูลค่ามากกว่าราคาก็ซื้อ ถ้าไม่ก็ไม่สน
ถ้ามันโดนลากขึ้นไป ก็ดูว่าเกินมูลค่ายัง เกินก็ขาย จะลากต่อก็ชั่งมัน
ตลาดหุ้นไทยทั้งตลาดมีขนาดเล็กกว่าบริษัทแอปเปิ้ลด้วยซ้ำ(จากของ ดร.)
ใครมาซื้อนิดๆมันก็พุ่งแล้วครับ
กลับกัน ขายหน่อยๆมันก็ลงแล้ว