ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ
ผมนึกอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไร ผมไม่ได้เขียนนานจนไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรแล้ว วินาทีนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า นั่นละเป็นหัวข้อของวันนี้ ผมจะเขียนเรื่องที่ถนัดที่สุดคือเรื่องความไม่รู้
ผมควรพูดว่า ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้ ต่อให้เรียนมาก รู้มากแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้ารับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่เป็นเลย ที่รับมือไม่ได้ เพราะเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าถูกต้องแล้ว ผมอยู่กับไม่รู้แล้วยังสบายใจกว่าอยู่ความรู้ ผมไม่กลัวที่ตัวเองไม่รู้อะไรเลย ผมกลัวที่ตัวเองที่รู้แล้วแต่สิ่งนั้นอาจไม่ใช่ที่ผมคิดตั้งแต่แรกก็ได้
เมื่อก่อนอ่านหนังสืออย่างน้อยเดือนละ 4-5 เล่ม เดี๋ยวนี้ไม่ได้อ่านอะไรอีกแล้ว ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านตัวเอง ผมอ่านสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าถูกต้องแล้ว แล้วผมก็หาทางจับผิดตัวเองว่าสิ่งที่ผมเชื่อนั้นมันผิดเพราะว่าอะไรบ้าง หรือพูดอีกอย่างได้ว่า ผมจะถูกก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น
บทความนี้จึงเกี่ยวกับความไม่รู้มากกว่าความรู้เหมือนบทความอื่นที่เคยเขียนมา ซึ่งความไม่รู้นี้จะไม่กลายเป็นความรู้ตามที่ผมคาดคิดตั้งแต่แรก แต่ความไม่รู้นี้ถึงผ่านช่วงการทดลองและแก้ไขแล้วก็ยังกลายเป็นความไม่รู้เหมือนเดิม ซึ่งมาเข้าใจทีหลังว่านั่นเป็นเรื่องที่ใช้ได้ดีในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและใช้ได้ดีในเวลาปัจจุบันที่ความไม่แน่นอนนั้นมีบทบาทในชีวิตผมมากขึ้นทุกวันที่แก่ตัวมากขึ้น
ผมจะถูกก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น ผมจะยกตัวอย่างให้ดูครับ เมื่อผมข้ามถนนนั้นผมคิดแต่ว่าผมต้องถูกรถชนตายแน่ๆ ผมจึงจับผิดตัวเองและมองว่าผมจะต้องตายแน่ๆ ผมคิดแต่สิ่งที่ทำให้ผมตายได้ในขณะนั้น เมื่อข้ามพ้นไปแล้วผมกลับไม่เป็นอะไรเลย ผมจึงผิดที่คาดการณ์ตัวเองตายตั้งแต่แรก แต่ในกรณีนี้ ผมผิดกลับเป็นผลดี เพราะถ้าผมถูกผมต้องหาทางประกันความเสี่ยงไว้ตั้งแต่แรก สถานการณ์นี้ตรงกับประโยคที่แรบไบโซรอสเคยพูดไว้ว่า I'm only rich because I know when I'm wrong หรือ แปลแบบผมว่า ผมจะรวยก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น
ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความสามารถในการจัดการกับความรู้ จึงสำคัญอย่างมาก ความรู้นั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับความไม่รู้ที่อยู่รอบตัวเรา ยิ่งเป็นความไม่รู้ที่เกิดจากคนอื่นแล้ว ยิ่งมีผลกระทบทางลบไปในทางตรงกันข้าม
คนทุกคนไมได้ตัดสินใจด้วยเหตุและผลเหมือนอย่างที่แรบไบโซรอสพูดไว้จริงๆ คนที่อยู่ในสถานการณ์หรือเกมนั้นๆ อาจไม่เข้าใจและตัดสินใจด้วยเหตุและผลเหมือนอย่างที่ผมเข้าใจ พลังของความไม่รู้ในตัวอย่างนี้ของคนอื่นนั้นมีผลกระทบร้ายแรงมากและมันส่งผลต่อรูปเกมให้ผิดคาดจากที่เข้าใจตั้งแต่แรกเริ่ม
ตอนนี้เวลาใครมาถามว่าผม ผมผิดพลาดอย่างไรในการลงทุนที่ผ่านมา ผมจะบอกว่าผมอ่านหนังสือมาก แต่ผมไม่เคยอ่านตัวเองเลย แม้แต่ในตลาดหุ้นเองก็ไม่ใช่เกมที่เพอร์แฟคเลย ยังมีคนที่ไม่รู้มากมายอยู๋ในนั้นและพวกเขายังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองนั้นยังไม่รู้ เวลามีอะไรเกิดขึ้นจากที่คิด พวกเขาจึงรับมือกับความรู้ของตัวเองไม่เป็นและอาจตัดสินใจโดยไม่ใช้เหตุและผล
เคยมีคนสอนผมว่า จงใช้ชีวิตเหมือนกับว่าทุกขณะนั้นมันเป็นประสบการณ์ครั้งที่สองของคุณที่เคยผ่านมาแล้ว แต่ครั้งแรกนั้นคุณได้ทำผิดพลาด และครั้งนี้คุณกำลังจะทำผิดอีกครั้ง ถึงแม้ผมคาดเดาอารมณ์ของตลาดไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมต้องถนัดที่สุด ถึงขนาดเป็นผู้เชี่ยวชาญนั่นก็คือการจับผิดตนเองนั่นเอง
สวัสดีครับ
ผมนึกอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไร ผมไม่ได้เขียนนานจนไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรแล้ว วินาทีนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า นั่นละเป็นหัวข้อของวันนี้ ผมจะเขียนเรื่องที่ถนัดที่สุดคือเรื่องความไม่รู้
ผมควรพูดว่า ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้ ต่อให้เรียนมาก รู้มากแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้ารับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่เป็นเลย ที่รับมือไม่ได้ เพราะเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าถูกต้องแล้ว ผมอยู่กับไม่รู้แล้วยังสบายใจกว่าอยู่ความรู้ ผมไม่กลัวที่ตัวเองไม่รู้อะไรเลย ผมกลัวที่ตัวเองที่รู้แล้วแต่สิ่งนั้นอาจไม่ใช่ที่ผมคิดตั้งแต่แรกก็ได้
เมื่อก่อนอ่านหนังสืออย่างน้อยเดือนละ 4-5 เล่ม เดี๋ยวนี้ไม่ได้อ่านอะไรอีกแล้ว ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านตัวเอง ผมอ่านสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าถูกต้องแล้ว แล้วผมก็หาทางจับผิดตัวเองว่าสิ่งที่ผมเชื่อนั้นมันผิดเพราะว่าอะไรบ้าง หรือพูดอีกอย่างได้ว่า ผมจะถูกก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น
บทความนี้จึงเกี่ยวกับความไม่รู้มากกว่าความรู้เหมือนบทความอื่นที่เคยเขียนมา ซึ่งความไม่รู้นี้จะไม่กลายเป็นความรู้ตามที่ผมคาดคิดตั้งแต่แรก แต่ความไม่รู้นี้ถึงผ่านช่วงการทดลองและแก้ไขแล้วก็ยังกลายเป็นความไม่รู้เหมือนเดิม ซึ่งมาเข้าใจทีหลังว่านั่นเป็นเรื่องที่ใช้ได้ดีในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและใช้ได้ดีในเวลาปัจจุบันที่ความไม่แน่นอนนั้นมีบทบาทในชีวิตผมมากขึ้นทุกวันที่แก่ตัวมากขึ้น
ผมจะถูกก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น ผมจะยกตัวอย่างให้ดูครับ เมื่อผมข้ามถนนนั้นผมคิดแต่ว่าผมต้องถูกรถชนตายแน่ๆ ผมจึงจับผิดตัวเองและมองว่าผมจะต้องตายแน่ๆ ผมคิดแต่สิ่งที่ทำให้ผมตายได้ในขณะนั้น เมื่อข้ามพ้นไปแล้วผมกลับไม่เป็นอะไรเลย ผมจึงผิดที่คาดการณ์ตัวเองตายตั้งแต่แรก แต่ในกรณีนี้ ผมผิดกลับเป็นผลดี เพราะถ้าผมถูกผมต้องหาทางประกันความเสี่ยงไว้ตั้งแต่แรก สถานการณ์นี้ตรงกับประโยคที่แรบไบโซรอสเคยพูดไว้ว่า I'm only rich because I know when I'm wrong หรือ แปลแบบผมว่า ผมจะรวยก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น
ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความสามารถในการจัดการกับความรู้ จึงสำคัญอย่างมาก ความรู้นั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับความไม่รู้ที่อยู่รอบตัวเรา ยิ่งเป็นความไม่รู้ที่เกิดจากคนอื่นแล้ว ยิ่งมีผลกระทบทางลบไปในทางตรงกันข้าม
คนทุกคนไมได้ตัดสินใจด้วยเหตุและผลเหมือนอย่างที่แรบไบโซรอสพูดไว้จริงๆ คนที่อยู่ในสถานการณ์หรือเกมนั้นๆ อาจไม่เข้าใจและตัดสินใจด้วยเหตุและผลเหมือนอย่างที่ผมเข้าใจ พลังของความไม่รู้ในตัวอย่างนี้ของคนอื่นนั้นมีผลกระทบร้ายแรงมากและมันส่งผลต่อรูปเกมให้ผิดคาดจากที่เข้าใจตั้งแต่แรกเริ่ม
ตอนนี้เวลาใครมาถามว่าผม ผมผิดพลาดอย่างไรในการลงทุนที่ผ่านมา ผมจะบอกว่าผมอ่านหนังสือมาก แต่ผมไม่เคยอ่านตัวเองเลย แม้แต่ในตลาดหุ้นเองก็ไม่ใช่เกมที่เพอร์แฟคเลย ยังมีคนที่ไม่รู้มากมายอยู๋ในนั้นและพวกเขายังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองนั้นยังไม่รู้ เวลามีอะไรเกิดขึ้นจากที่คิด พวกเขาจึงรับมือกับความรู้ของตัวเองไม่เป็นและอาจตัดสินใจโดยไม่ใช้เหตุและผล
เคยมีคนสอนผมว่า จงใช้ชีวิตเหมือนกับว่าทุกขณะนั้นมันเป็นประสบการณ์ครั้งที่สองของคุณที่เคยผ่านมาแล้ว แต่ครั้งแรกนั้นคุณได้ทำผิดพลาด และครั้งนี้คุณกำลังจะทำผิดอีกครั้ง ถึงแม้ผมคาดเดาอารมณ์ของตลาดไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมต้องถนัดที่สุด ถึงขนาดเป็นผู้เชี่ยวชาญนั่นก็คือการจับผิดตนเองนั่นเอง
สวัสดีครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1046
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 2
สงสัยผมไม่รู้เจตนาพี่จริงๆว่าจะสื่ออะไร งั้นเราก็ไม่รู้อะไรกันต่อไป
อย่าว่าผมเลยนะครับ ไม่ได้เข้ามากวน ผมไม่รู้จริงๆ
อย่าว่าผมเลยนะครับ ไม่ได้เข้ามากวน ผมไม่รู้จริงๆ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 3
คุณhumdrum สนใจรับผมเป็นศิษย์ไหมครับ พูดจริงๆนะครับ
อยากศึกษาขั้นลึกเรื่องพวกนี้จริงๆเลย รู้สึกอิ่มเมื่อได้อ่านบทความจริงๆ
ชอบอย่างบอกไม่ถูก และบทความนี้มันหมัดตรงเข้ากลางใจผมเลย
"อ่านมากแต่ไม่เคยอ่านตัวเอง"ประโยคที่แทบจะไม่อยากอ่านออกเสียงหรือแม้แต่ดูให้จบประโยค
อยากศึกษาขั้นลึกเรื่องพวกนี้จริงๆเลย รู้สึกอิ่มเมื่อได้อ่านบทความจริงๆ
ชอบอย่างบอกไม่ถูก และบทความนี้มันหมัดตรงเข้ากลางใจผมเลย
"อ่านมากแต่ไม่เคยอ่านตัวเอง"ประโยคที่แทบจะไม่อยากอ่านออกเสียงหรือแม้แต่ดูให้จบประโยค
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 5
เหนือกว่าปรัชญา คือ ธรรมะ ครับ^^ เขียน:คุณhumdrum สนใจรับผมเป็นศิษย์ไหมครับ พูดจริงๆนะครับ
อยากศึกษาขั้นลึกเรื่องพวกนี้จริงๆเลย รู้สึกอิ่มเมื่อได้อ่านบทความจริงๆ
ชอบอย่างบอกไม่ถูก และบทความนี้มันหมัดตรงเข้ากลางใจผมเลย
"อ่านมากแต่ไม่เคยอ่านตัวเอง"ประโยคที่แทบจะไม่อยากอ่านออกเสียงหรือแม้แต่ดูให้จบประโยค
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณครับ สำหรับบทความของพี่ humdrum
ไม่ได้อ่านบทความของพี่มานานแล้ว ดีใจที่เห็นพี่กลับมา post ให้อ่านอีกครั้งครับ
อ่านบทความของพี่แล้วทำให้ได้กลับมาครุ่นคิดทบทวน ซึ่งดีมากๆครับ
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
ไม่ได้อ่านบทความของพี่มานานแล้ว ดีใจที่เห็นพี่กลับมา post ให้อ่านอีกครั้งครับ
อ่านบทความของพี่แล้วทำให้ได้กลับมาครุ่นคิดทบทวน ซึ่งดีมากๆครับ
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
-
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 7
ถ้าจะซื้อให้ลองขาย ถ้าจะขายให้ลองซื้อ : reflexivityhumdrum เขียน:
จงใช้ชีวิตเหมือนกับว่าทุกขณะนั้นมันเป็นประสบการณ์ครั้งที่สองของคุณที่เคยผ่านมาแล้ว แต่ครั้งแรกนั้นคุณได้ทำผิดพลาด และครั้งนี้คุณกำลังจะทำผิดอีกครั้ง
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 8
โซรอสเคยพูดไว้ว่า I'm only rich because I know when I'm wrong หรือ แปลแบบผมว่า ผมจะรวยก็ต่อเมื่อผมผิดเท่านั้น
+1ให้นะครับ แต่ผมขอเพิ่มว่า คนที่คิดจะรวยเมื่อทำผิด ก้จะแก้ไขและไม่เดินไปผิดซ้ำครับ
หลายคนบอกว่า ความผิดนั้นหากเรายอมรับว่าความผิดของเรา
แสดงว่าเราก้เข้าใกล้ความร่ำรวยไปอีกก้าวแล้วครับ
การที่คนรวยได้ เพราะไม่กลัวว่าจะทำผิด เช่น มิสเตอร์ฮอนด้า ทำอย่างอื่นล้มเหลวมา95
เปอเซ็นต์ ก่อนจะมาประสบความสำเร็จกับฮอนด้า
ผู้พันแซนเดอร์ ถูกปฎิเสธจากร้านขายไก่ทอดนับพัน ก่อนที่จะขายให้แก่เคเอฟซี
ผมว่า ความคิดคือพลัง แค่คิดว่าอ่อนแอ จะหยิบอะไรก้ไม่มีแรงแล้วครับ
แต่คนส่วนมากไม่กล้าเสี่ยง เกลียดการโทษตัวเอง และชอบเข้าข้างตัวเอง
จึงไม่มีการพัฒนาตัวเอง เพราะ คิดว่า ตัวเองถูกเสมอ
ผมว่า การเดินพลาดไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะมันคือครูที่ดีในชีวติของเรา แต่การ
ไม่รับความผิดพลาดของตัวเอง มันน่าอายกว่า
ดีใจที่ได้อ่านบทความดีๆๆจากพี่ขอบคุณมากครับ
+1ให้นะครับ แต่ผมขอเพิ่มว่า คนที่คิดจะรวยเมื่อทำผิด ก้จะแก้ไขและไม่เดินไปผิดซ้ำครับ
หลายคนบอกว่า ความผิดนั้นหากเรายอมรับว่าความผิดของเรา
แสดงว่าเราก้เข้าใกล้ความร่ำรวยไปอีกก้าวแล้วครับ
การที่คนรวยได้ เพราะไม่กลัวว่าจะทำผิด เช่น มิสเตอร์ฮอนด้า ทำอย่างอื่นล้มเหลวมา95
เปอเซ็นต์ ก่อนจะมาประสบความสำเร็จกับฮอนด้า
ผู้พันแซนเดอร์ ถูกปฎิเสธจากร้านขายไก่ทอดนับพัน ก่อนที่จะขายให้แก่เคเอฟซี
ผมว่า ความคิดคือพลัง แค่คิดว่าอ่อนแอ จะหยิบอะไรก้ไม่มีแรงแล้วครับ
แต่คนส่วนมากไม่กล้าเสี่ยง เกลียดการโทษตัวเอง และชอบเข้าข้างตัวเอง
จึงไม่มีการพัฒนาตัวเอง เพราะ คิดว่า ตัวเองถูกเสมอ
ผมว่า การเดินพลาดไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะมันคือครูที่ดีในชีวติของเรา แต่การ
ไม่รับความผิดพลาดของตัวเอง มันน่าอายกว่า
ดีใจที่ได้อ่านบทความดีๆๆจากพี่ขอบคุณมากครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 9
ผมต้องอ่านทุกครั้งที่คุณ humdrum โพส์ตครับ ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
ตัวผมเองชอบเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง ตำราเป็นเรื่องรอง
แล้วก็อย่าให้ความผิดพลาดเกิดซ้ำ
ขอบคุณมาก
ตัวผมเองชอบเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง ตำราเป็นเรื่องรอง
แล้วก็อย่าให้ความผิดพลาดเกิดซ้ำ
ขอบคุณมาก
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 10
อยากรู้จักพี่จริงๆ
อ่านบทความกี่ครั้งๆ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
อ่านบทความกี่ครั้งๆ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ลงทุนเพื่อชีวิต
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 11
ตอนเข้ามาในเวปแรกๆผมยอมรับแบซื่อๆเลยครับว่า
บทความท่านพี่ humdrum ลึกซึ้งเกินผมจะเข้าใจได้
ไม่รู้ว่าผมเริ่มพัฒนาแล้ว หรือว่าท่านพี่เขียนบทความง่ายขึ้น
วันนี้ผมเข้าใจบทความท่านพี่แล้วครับ
ขอบคุณมากๆครับสำหรับบทความดีๆ
บทความท่านพี่ humdrum ลึกซึ้งเกินผมจะเข้าใจได้
ไม่รู้ว่าผมเริ่มพัฒนาแล้ว หรือว่าท่านพี่เขียนบทความง่ายขึ้น
วันนี้ผมเข้าใจบทความท่านพี่แล้วครับ
ขอบคุณมากๆครับสำหรับบทความดีๆ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- waririn
- Verified User
- โพสต์: 80
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณค่ะ เป็นบทความที่ดีมากๆ ค่ะ
ได้ความรู้สึกเหมือนพี่มาเตือนน้อง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
การจับผิดตัวเองเป็นเรื่องยากยิ่งค่ะ เพราะเรามักคิดกันว่า
"ความผิดของคนอื่นเท่าผู้เขา ความผิดของเราเท่าเส้นผม"
แนวคิดนี้ขอรับไปใช้ต่อนะคะ
ได้ความรู้สึกเหมือนพี่มาเตือนน้อง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
การจับผิดตัวเองเป็นเรื่องยากยิ่งค่ะ เพราะเรามักคิดกันว่า
"ความผิดของคนอื่นเท่าผู้เขา ความผิดของเราเท่าเส้นผม"
แนวคิดนี้ขอรับไปใช้ต่อนะคะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 13
...................................... ....................................humdrum เขียน: ตอนนี้เวลาใครมาถามว่าผม ผมผิดพลาดอย่างไรในการลงทุนที่ผ่านมา ผมจะบอกว่าผมอ่านหนังสือมาก แต่ผมไม่เคยอ่านตัวเองเลย แม้แต่ในตลาดหุ้นเองก็ไม่ใช่เกมที่เพอร์แฟคเลย ยังมีคนที่ไม่รู้มากมายอยู๋ในนั้นและพวกเขายังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองนั้นยังไม่รู้ เวลามีอะไรเกิดขึ้นจากที่คิด พวกเขาจึงรับมือกับความรู้ของตัวเองไม่เป็นและอาจตัดสินใจโดยไม่ใช้เหตุและผล
เคยมีคนสอนผมว่า จงใช้ชีวิตเหมือนกับว่าทุกขณะนั้นมันเป็นประสบการณ์ครั้งที่สองของคุณที่เคยผ่านมาแล้ว แต่ครั้งแรกนั้นคุณได้ทำผิดพลาด และครั้งนี้คุณกำลังจะทำผิดอีกครั้ง ถึงแม้ผมคาดเดาอารมณ์ของตลาดไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมต้องถนัดที่สุด ถึงขนาดเป็นผู้เชี่ยวชาญนั่นก็คือการจับผิดตนเองนั่นเอง
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 14
ชอบบทความนี้มากครับ
เพราะผมเป็นคนประเภทที่
เกือบจะรู้ทุกเรื่องมาตลอด
แต่แย่ตรงที่ผมเชื่อจริงๆว่าผมรู้
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ผมจึงรู้ว่ามีเรื่องนึงที่ผมเข้าใจผิดมาตลอดร่วมปี
ซึ่งทำให้portของผมอยู่ในอันตรายแบบโง่ๆ
มีอีกหลายเรื่องละครับ ที่ผมเข้าใจว่ารู้จริงแต่มันอาจจะไม่จริง
เพราะผมเป็นคนประเภทที่
เกือบจะรู้ทุกเรื่องมาตลอด
แต่แย่ตรงที่ผมเชื่อจริงๆว่าผมรู้
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ผมจึงรู้ว่ามีเรื่องนึงที่ผมเข้าใจผิดมาตลอดร่วมปี
ซึ่งทำให้portของผมอยู่ในอันตรายแบบโง่ๆ
มีอีกหลายเรื่องละครับ ที่ผมเข้าใจว่ารู้จริงแต่มันอาจจะไม่จริง
Blueplanet
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความสามารถในการจัดการกับความไม่รู้นั้นสำคัญกว่าความรู้
โพสต์ที่ 15
humdrum กับ ดร.โหน่ง Login เก่า นี่คนเดียวกันไหมครับ
บทความดีครับ + Like ให้ละ แต่อ่านแล้วปวดหัว ไม่สนุกครับ
แต่จะดีกว่านี้ ถ้าเขียนอะไรที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายกว่านี้ครับ
คนเก่งจริง ต้องสามารถทําเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่ายได้ครับ เขียนเรื่องยากให้เข้าใจง่าย ครับ
แบบ พี่ สุมาอี้ ครับ เขียน Economic , Competitive Advantage ปรัชญาต่างจาก ยากเป็นง่าย อ่านแล้วสนุกครับ
บทความดีครับ + Like ให้ละ แต่อ่านแล้วปวดหัว ไม่สนุกครับ
แต่จะดีกว่านี้ ถ้าเขียนอะไรที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายกว่านี้ครับ
คนเก่งจริง ต้องสามารถทําเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่ายได้ครับ เขียนเรื่องยากให้เข้าใจง่าย ครับ
แบบ พี่ สุมาอี้ ครับ เขียน Economic , Competitive Advantage ปรัชญาต่างจาก ยากเป็นง่าย อ่านแล้วสนุกครับ