เอาบทความจาก Road to Billion มาฝากครับ "วิธีทำเงินแสนให้เป็นร้อยล้าน"...
ใครรู้บ้างครับถ้าเราลงทุนกับ Berkshire Hathaway ในปี 1965 ที่ Warren Buffett เข้าบริหาร จำนวน 100,000 บาท คุณจะมีเงินในปัจจุบันจำนวนเท่าไหร่? คำตอบคือ 769,471,219 บาท ใช่ครับเจ็ดร้อยหกสิบเก้าล้านบาท นี่คือฝีมือของนักลงทุนที่ถูกกล่าวขานว่าเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉลี่ย Buffett ทำผลตอบแทนได้ 22% ต่อปี ผิวเผินอาจจะฟังดูเหมือนไม่เยอะ แต่ผลตอบแทนที่ได้มานี่ผ่านช่วยวิกฤตเศรษฐกิจมาไม่รู้กี่ครั้งตั้งแต่ อเมริกาบุกอิรัก วิกฤตต้มยำกุ้ง เหตุการ์ตึกเวิล์ดเทรดถล่ม รวมถึงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2007 ถ้าเทียบกับผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 10% มาก ผลตอบแทนที่ Buffett ถือว่าเป็นขั้นเทพของจริง
ลงทุนแบบ Warren Buffett ทำอย่างไร
หลายคนมักจะพูดว่า Buffett เป็นนักลงทุนแบบคุณค่าหรือ Value Investor โดยหลักการวิเคราะห์แบบนี้ถูกคิดค้นโดยอาจารย์ของ Buffett คือ Benjamin Graham หมายถึงการซื้อหุ้นที่มีราคาถูก ตัวอย่างเช่นหุ้นที่มีสัดส่วนราคาต่อกำไร (Price/ Earning Ratio หรือ PE) หรือราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (Price / Book Value หรือ PB) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและหวังว่าตลาดจะรับรู้ว่าหุ้นตัวนี้ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) แล้วทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา
แต่ถ้าเราศึกษาการลงทุนของ Buffett จริงๆแล้วจะพบว่านั่นถูกเพียงแค่ครึ่งเดียวครับ เพราะ Buffett ได้นำหลักของ Graham มาประยุกต์และปรับปรุงกลายเป็นหลักที่ Buffett ชอบเรียกว่า Selective Contrarian Strategy ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ "กลยุทธ์ลงทุนแบบสวนกระแสอย่างคัดสรร" โดยหลักการนี้จะกล่าวว่าจะซื้อหุ้นก็ต่อเมื่อตลาดมองหุ้นตัวนั้นๆในแง่ลบกว่าความเป็นจริง หมายถึงการซื้อเมื่อคนอื่นไม่อยากจะซื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปฏิบัติจริงได้ยาก เพราะนอกจากจะอาศัยการทำการบ้านอย่างมาก ยังต้องอาศัยจิตใจที่มั่นคงไม่ไหวติงไปตามสภาวะตลาดด้วย
ยิ่งกว่านั้นการเข้าซื้อ “สวนกระแส” ต้องทำอย่าง “คัดสรร” หมายถึงไม่ใช่ว่าเห็นหุ้นตัวไหนปรับตัวลงมาเยอะก็เข้าไปซื้อ Buffett เป็นนักลงทุนที่เรื่องมากและอดทนที่สุดคนหนึ่ง ถ้าหุ้นตัวไหนไม่ผ่านเกณฑ์ที่ Buffett วางไว้เค้าจะไม่ลงทุนในหุ้นตัวนั้น ไม่แม้แต่หุ้นเดียว ถึงแม้ว่ามันจะถูกแค่ไหนก็ตาม
แล้ว Buffett มีหลักการในการคัดเลือกหุ้นดีออกจากหุ้นไม่ดีได้อย่างไร?
Buffett เชื่อว่าหุ้นที่ดีต้องมาจากบริษัทที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่ดี และธุรกิจที่ดีต้องมี “ความสามารถทางการแข่งขันที่คงทน” หรือ Durable Competitive Advantage ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะสามารถทำกำไรและสามารถเอาชนะ “ข่าวร้าย” ที่เกิดขึ้นกับบริษัทและกลับมาสร้างผลตอบแทนที่เติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับผู้ถือหุ้นได้ (ในส่วนนี้จะมีรายละเอียดค่อนข้างมากและซับซ้อน จึงขออนุญาตนำมาแชร์ให้ฟังในวันหลังนะครับ)
แต่จากประสบการณ์และการศึกษาของผมพบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโลกการเงินไม่จำเป็นต้องใช้หลักการแบบ Buffett เหมือนกันทั้งหมด แต่ที่สำคัญคือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จต้องมีหลักยึดในการลงทุนที่แน่นอน ไม่เปลี่ยนไปตามเวลาและสภาพแวดล้อมหรือที่เรียกว่า timeless principles ยิ่งกว่านั้นเป็นหลักการที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่แน่นอนได้จริงฉะนั้นเวลาคุณซื้อหุ้นคราวหน้า ถามตัวเองก่อนนะครับว่าเราเป็นนักลงทุนแบบไหน? แต่ถ้ายังตอบไม่ได้ จะลองเลียนแบบกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลกคนนี้ก็ได้นะครับ คุณปู่ Buffett แกไม่หวงวิชาอยู่แล้ว
ด้วยรักและพันล้าน
Road to Billion
แหล่งอ้างอิง: Wikipedia, New Bufettology by David Clark & Mary Buffett
ถอดรหัสเคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟต์ "Selective Contrarian Stra
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
ถอดรหัสเคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟต์ "Selective Contrarian Stra
โพสต์ที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 126
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถอดรหัสเคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟต์ "Selective Contrarian
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณมากๆครับที่แบ่งปันความรู้
สรุปคือเลือกซื้อหุ้นที่มี DCA แล้วอดทนรอซื้อช่วงที่ตลาดลดราคาให้
ตลาดลดราคาคราวนี้พิสูจน์ในกันน่าดูว่าเราจะหวั่นไหวกันรึปล่าว
สรุปคือเลือกซื้อหุ้นที่มี DCA แล้วอดทนรอซื้อช่วงที่ตลาดลดราคาให้
ตลาดลดราคาคราวนี้พิสูจน์ในกันน่าดูว่าเราจะหวั่นไหวกันรึปล่าว
- erickiros
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถอดรหัสเคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟต์ "Selective Contrarian
โพสต์ที่ 3
สรุปง่ายๆ อย่าสักแต่สวนกระแสแต่ต้องสวนกระแสอย่างมีสติ
พิจารณาว่าสวนกระแสแล้วคุ้มไหม ถ้าคิดว่าสวนแล้วไม่คุ้มการทำตามกระแสก็ไม่ได้ผิดอะไร
พิจารณาว่าสวนกระแสแล้วคุ้มไหม ถ้าคิดว่าสวนแล้วไม่คุ้มการทำตามกระแสก็ไม่ได้ผิดอะไร
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ