การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 1
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
ผมเริ่มสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงกลางปี 54
เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย จนได้มารู้จัก web thaivi
ก็ได้เริ่มทำตามคำแนะนำคือศึกษาภาคทฤษฐีก่อนลงสนามจริง
เริ่มจากการซื้อหนังสือแนว vi มานั่งอ่าน โชคดีที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ
ใช้เวลาศึกษาอยู่ประมาณ 2 เดือน จนเริ่มรู้สึกว่าพอจะเข้าใจศัทพ์เฉพาะ
และแนวทาง vi มานิดหน่อยแล้วจึงเข้า trade ในตลาดตอนต้นเดือน กย.
หลังจากเข้ามาในตลาด เป็นมือใหม่ถอดด้าม ผมก็เริ่มสะสมหุ้นเข้าพอร์ตทีละน้อย
เนื่องจากเงินทุนเริ่มต้นน้อย(เดือนละประมาณ 5,000) แต่ก็พยายามจะเก็บให้ได้ในทุกๆเดือน
แต่แม้จะสะสมเงินต้นทุกเดือนก็พยายามศึกษาพฤติกรรมของตลาดหุ้น(mr.market)
เข้ามาตลาดยังไม่ทันครบเดือนก็เจอเหตุการณ์ ตลาดตกหนักจนเกือบต้องใช้ circuit breaker
ในช่วงปลายเดือน กย. ทำให้พอร์ตขาดทุนแดงแป๊ดในทันที
แต่ส่วนตัวแล้วผมถือว่าโชคดีนะ ที่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเป็นโอกาสในการซื้อ
หุ้นตัวที่ถูกๆ และยังทำให้ได้เจอเหตุการณ์ที่ตลาดตกหนักๆด้วยตนเอง
ผมว่าของแบบนี้ ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองจะไม่ได้ซึมซับประสบการณ์ สิ่งนี้ผมว่าสำคัญมาก
เพราะถ้าเจออีกจะได้ทำใจได้ ได้รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร และไม่ตกใจเทขายแบบไร้เหตุผล
ช่วงนั้นผมก็ไม่ได้ขายออกเลย พยายามทำตามตำราคือเอาเวลามาวิเคราะห์เพิ่มเติม หาหุ้นที่ตกแรงๆ
แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ทำได้ไม่ดีมาก เพราะพึ่งเข้าตลาดมา เป็นมือใหม่ถอดด้าม
ถือว่าเสียโอกาสไปพอสมควร
แต่ถ้ามองอีกมุมนึงก็จะได้รู้ว่า เราควรหาความรู้ ควรศึกษาให้พร้อมตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้หรอก
ว่าจะเกิดวิกฤตตอนไหน แต่เราสามารถเตรียมพร้อมเพื่อรอวิกฤตเวลามันเกิด เราจะได้พร้อมที่จะช้อนซื้อได้
สรุปว่าช่วงที่หุ้นตกไป 870 จุดก็ไม่ได้ซื้อมากมาย ผมพยายามใช้วิธีการที่ว่า พยายามจะไม่ให้ขาดทุนในช่วง
2 ปีแรกที่เข้าตลาด เพราะว่าจากที่ศึกษาประวัติของนักลงทุนส่วนใหญ่ จะขาดทุนในช่วง 1-2 ปีแรกเยอะพอควร
แล้วจึงมากำไรในตอนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การจะมาเป็นนักลงทุน vi มืออาชีพนั้น ไม่ได้มาจาก"พรสวรรค์"
เป็น"ปัจจัยหลัก"เหมือนกับอาชีพบางอาชีพ หากแต่อยุ่ที่"ประสบการณ์"บวกกับ"ความขยัน" ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
จากการวิเคราะห์ข้อมูล ผมจึงอาศัยในช่วงที่พอร์ตของผมยังเล็ก(มาก)อยู่ ในการเก็บประสบการณ์ ให้เต็มที่ และ
พยายามที่จะไม่ให้พอร์ตขาดทุน
เมื่อถึงวันสิ้นสุดปี 2554 ก็ครบเวลาที่ผมเข้าตลาดมาได้ครบสี่เดือนพอดี สรุปว่าพอร์ตโดยรวมกำไรประมาณ 6-8%
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็พอใจมากเลยทีเดียว เพราะหุ้นตัวหลักกำไรถึง 20%กว่า มีแค่หุ้นอสังหาซื้อดังที่ตกไป 20% กว่าเช่นกัน
(แต่ % ในพอร์ต น้อย) แล้วก็ยังมีบางตัวที่ "มองถูก" มี upside ขึ้นมา เกือบๆ 20% แต่ว่าไม่ได้ซื้อ เพราะในช่วงเวลานั้น
ยังไม่แน่ใจกับข้อมูล แต่ผมก็ถือว่า มาถูกทางแล้ว ไว้รอโอกาสหน้า
กลยุทธในการเลือกหุ้นของมือใหม่อย่างผมก็คือ ผมจะเลือกหุ้นตัวใหญ่ๆ ส่วนมากจะอยู่ใน SET 50 กับ SET 100
เพราะว่า ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ไม่พอที่จะวิเคราะห์หุ้นตัวเล็กๆ มีการแอบลอกการบ้านของเซียนหุ้นมาบ้าง
แต่ทุกครั้ง ต้องมาทำ"การบ้าน" เพิ่มเติมด้วย ว่าที่เซียนวิเคราะห์มานั้นถูกต้องไหม และเราเข้าใจทั้งหมดไหม
ซึ่งก็ทำให้ลดความเสี่ยงสำหรับมือใหม่ไปได้เยอะเลยทีเดียว
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเอง สี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทำให้สรุปได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
ทุกคนต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งในการศึกษา การทำการบ้าน การวิเคราะห์ และที่สำคัญคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น เพื่อที่จะได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองในการซื้อ-ขาย ให้เป็นไปตามเหตุผลและตามแผนการที่วางไว้ ไม่ใช่ตามอารมณ์(ทั้งอารมณ์ตัวเอง และอารมณ์ตลาด)
ทุกๆคนในตลาดหุ้นเริ่มต้นจากจุด start เดียวกัน แต่ว่ามี"ถนน" หลายเส้นให้เลือกเดิน เช่น vi , เก็งกำไร , เทคนิค 9ล9
ซึ่งทุกเส้นทางต้องใช้เวลาในการเดินด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีทางลัดที่จะให้เราไปถึงปลายทางได้เร็วกว่าคนอื่น วิธีการเดียวที่จะช่วยให้เราถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นก็คือ ความขยันในการหาความรู้ เปรียบเสมือนกับการเดินบนถนน ถ้าเราหยุดพักบ่อย เราก็จะไปถึงช้า แต่ถ้าเราขยันกว่าคนอื่น เดินไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เราก็จะสามารถย่นเวลาในการไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเราได้เร็วขึ้น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
ผมเริ่มสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงกลางปี 54
เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย จนได้มารู้จัก web thaivi
ก็ได้เริ่มทำตามคำแนะนำคือศึกษาภาคทฤษฐีก่อนลงสนามจริง
เริ่มจากการซื้อหนังสือแนว vi มานั่งอ่าน โชคดีที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ
ใช้เวลาศึกษาอยู่ประมาณ 2 เดือน จนเริ่มรู้สึกว่าพอจะเข้าใจศัทพ์เฉพาะ
และแนวทาง vi มานิดหน่อยแล้วจึงเข้า trade ในตลาดตอนต้นเดือน กย.
หลังจากเข้ามาในตลาด เป็นมือใหม่ถอดด้าม ผมก็เริ่มสะสมหุ้นเข้าพอร์ตทีละน้อย
เนื่องจากเงินทุนเริ่มต้นน้อย(เดือนละประมาณ 5,000) แต่ก็พยายามจะเก็บให้ได้ในทุกๆเดือน
แต่แม้จะสะสมเงินต้นทุกเดือนก็พยายามศึกษาพฤติกรรมของตลาดหุ้น(mr.market)
เข้ามาตลาดยังไม่ทันครบเดือนก็เจอเหตุการณ์ ตลาดตกหนักจนเกือบต้องใช้ circuit breaker
ในช่วงปลายเดือน กย. ทำให้พอร์ตขาดทุนแดงแป๊ดในทันที
แต่ส่วนตัวแล้วผมถือว่าโชคดีนะ ที่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเป็นโอกาสในการซื้อ
หุ้นตัวที่ถูกๆ และยังทำให้ได้เจอเหตุการณ์ที่ตลาดตกหนักๆด้วยตนเอง
ผมว่าของแบบนี้ ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองจะไม่ได้ซึมซับประสบการณ์ สิ่งนี้ผมว่าสำคัญมาก
เพราะถ้าเจออีกจะได้ทำใจได้ ได้รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร และไม่ตกใจเทขายแบบไร้เหตุผล
ช่วงนั้นผมก็ไม่ได้ขายออกเลย พยายามทำตามตำราคือเอาเวลามาวิเคราะห์เพิ่มเติม หาหุ้นที่ตกแรงๆ
แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ทำได้ไม่ดีมาก เพราะพึ่งเข้าตลาดมา เป็นมือใหม่ถอดด้าม
ถือว่าเสียโอกาสไปพอสมควร
แต่ถ้ามองอีกมุมนึงก็จะได้รู้ว่า เราควรหาความรู้ ควรศึกษาให้พร้อมตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้หรอก
ว่าจะเกิดวิกฤตตอนไหน แต่เราสามารถเตรียมพร้อมเพื่อรอวิกฤตเวลามันเกิด เราจะได้พร้อมที่จะช้อนซื้อได้
สรุปว่าช่วงที่หุ้นตกไป 870 จุดก็ไม่ได้ซื้อมากมาย ผมพยายามใช้วิธีการที่ว่า พยายามจะไม่ให้ขาดทุนในช่วง
2 ปีแรกที่เข้าตลาด เพราะว่าจากที่ศึกษาประวัติของนักลงทุนส่วนใหญ่ จะขาดทุนในช่วง 1-2 ปีแรกเยอะพอควร
แล้วจึงมากำไรในตอนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การจะมาเป็นนักลงทุน vi มืออาชีพนั้น ไม่ได้มาจาก"พรสวรรค์"
เป็น"ปัจจัยหลัก"เหมือนกับอาชีพบางอาชีพ หากแต่อยุ่ที่"ประสบการณ์"บวกกับ"ความขยัน" ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
จากการวิเคราะห์ข้อมูล ผมจึงอาศัยในช่วงที่พอร์ตของผมยังเล็ก(มาก)อยู่ ในการเก็บประสบการณ์ ให้เต็มที่ และ
พยายามที่จะไม่ให้พอร์ตขาดทุน
เมื่อถึงวันสิ้นสุดปี 2554 ก็ครบเวลาที่ผมเข้าตลาดมาได้ครบสี่เดือนพอดี สรุปว่าพอร์ตโดยรวมกำไรประมาณ 6-8%
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็พอใจมากเลยทีเดียว เพราะหุ้นตัวหลักกำไรถึง 20%กว่า มีแค่หุ้นอสังหาซื้อดังที่ตกไป 20% กว่าเช่นกัน
(แต่ % ในพอร์ต น้อย) แล้วก็ยังมีบางตัวที่ "มองถูก" มี upside ขึ้นมา เกือบๆ 20% แต่ว่าไม่ได้ซื้อ เพราะในช่วงเวลานั้น
ยังไม่แน่ใจกับข้อมูล แต่ผมก็ถือว่า มาถูกทางแล้ว ไว้รอโอกาสหน้า
กลยุทธในการเลือกหุ้นของมือใหม่อย่างผมก็คือ ผมจะเลือกหุ้นตัวใหญ่ๆ ส่วนมากจะอยู่ใน SET 50 กับ SET 100
เพราะว่า ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ไม่พอที่จะวิเคราะห์หุ้นตัวเล็กๆ มีการแอบลอกการบ้านของเซียนหุ้นมาบ้าง
แต่ทุกครั้ง ต้องมาทำ"การบ้าน" เพิ่มเติมด้วย ว่าที่เซียนวิเคราะห์มานั้นถูกต้องไหม และเราเข้าใจทั้งหมดไหม
ซึ่งก็ทำให้ลดความเสี่ยงสำหรับมือใหม่ไปได้เยอะเลยทีเดียว
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเอง สี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทำให้สรุปได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
ทุกคนต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งในการศึกษา การทำการบ้าน การวิเคราะห์ และที่สำคัญคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น เพื่อที่จะได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองในการซื้อ-ขาย ให้เป็นไปตามเหตุผลและตามแผนการที่วางไว้ ไม่ใช่ตามอารมณ์(ทั้งอารมณ์ตัวเอง และอารมณ์ตลาด)
ทุกๆคนในตลาดหุ้นเริ่มต้นจากจุด start เดียวกัน แต่ว่ามี"ถนน" หลายเส้นให้เลือกเดิน เช่น vi , เก็งกำไร , เทคนิค 9ล9
ซึ่งทุกเส้นทางต้องใช้เวลาในการเดินด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีทางลัดที่จะให้เราไปถึงปลายทางได้เร็วกว่าคนอื่น วิธีการเดียวที่จะช่วยให้เราถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นก็คือ ความขยันในการหาความรู้ เปรียบเสมือนกับการเดินบนถนน ถ้าเราหยุดพักบ่อย เราก็จะไปถึงช้า แต่ถ้าเราขยันกว่าคนอื่น เดินไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เราก็จะสามารถย่นเวลาในการไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเราได้เร็วขึ้น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 2
marcus147 เขียน:จากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเอง สี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทำให้สรุปได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ ทุกคนต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งในการศึกษา การทำการบ้าน การวิเคราะห์ และที่สำคัญคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น เพื่อที่จะได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองในการซื้อ-ขาย ให้เป็นไปตามเหตุผลและตามแผนการที่วางไว้ ไม่ใช่ตามอารมณ์(ทั้งอารมณ์ตัวเอง และอารมณ์ตลาด)
ขอเป็นความรู็ครับ
ผมควบคลุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้เลย
เห้นหุ้นที่ตัวเองสนใจอยู๋ ราคามันขยับขึ้น
ต้องซื้อตามทุกที แล้วต้องติดราคาที่สูงของวันนั้นอยู๋ประจำเลยครับ
ไม่ทราบ ขอคำแนะนำด้วยครับ ว่าต้องทำอย่างไรถึงเอาชนะตัวเองในข้อนี้ได้ครับ
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 3
วิธีของผมคือ วันที่หุ้นขึ้นแรงๆ ผมจะนั่งดูอย่างเดียว จะไม่ซื้อเลย (แต่ก็จะศึกษาพฤติกรรมการขึ้นลงของหุ้นตัวนั้นๆ)humdrum เขียน:marcus147 เขียน:จากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเอง สี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทำให้สรุปได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ ทุกคนต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งในการศึกษา การทำการบ้าน การวิเคราะห์ และที่สำคัญคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น เพื่อที่จะได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองในการซื้อ-ขาย ให้เป็นไปตามเหตุผลและตามแผนการที่วางไว้ ไม่ใช่ตามอารมณ์(ทั้งอารมณ์ตัวเอง และอารมณ์ตลาด)
ขอเป็นความรู็ครับ
ผมควบคลุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้เลย
เห้นหุ้นที่ตัวเองสนใจอยู๋ ราคามันขยับขึ้น
ต้องซื้อตามทุกที แล้วต้องติดราคาที่สูงของวันนั้นอยู๋ประจำเลยครับ
ไม่ทราบ ขอคำแนะนำด้วยครับ ว่าต้องทำอย่างไรถึงเอาชนะตัวเองในข้อนี้ได้ครับ
แต่จะซื้อเฉพาะวันที่หุ้นตก และจะแบ่งไม้ซื้อ ไม่ซื้อทีเดียวหนักๆ
อาจจะไม่ได้กำไรสูงสุดครับ แต่ก็ลดความเครียด และความคันมือได้ระดับนึง
ไม่รู้เหมือนกันว่าเหมาะสมหรือเปล่า ขอคำแนะนำด้วยครับ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 4
คือผมมีคำถามครับ
ต้องมีวินัยในการลงทุนใช่ไหมครับ
เห้นเขาบอกว่า วินัยสำคัญที่สุดเลย
จำเป็นมากใช่ไหมครับ
อย่างนี้นี่ ในชีวิตด้านอื่นๆ ท่านก็ต้องมีวินัยกับตัวเองด้วยใช่ไหมครับ
ความมีวินัยอย่างนี้เกิดจากการฝึกฝนหรือว่าการเลี้ยงจากครอบครัวหรือปล่าวครับ
ถ้าเพิ้อนผมเป็นทหาร เขาก็ฝีกความมีวินัยมา
แนะนำเขามาลงทุนได้ไหมครับ
เขาจะทำได้ดีกว่าคนอื่นที่ไม่มีวินัยหรือไม่ครับ
ต้องมีวินัยในการลงทุนใช่ไหมครับ
เห้นเขาบอกว่า วินัยสำคัญที่สุดเลย
จำเป็นมากใช่ไหมครับ
อย่างนี้นี่ ในชีวิตด้านอื่นๆ ท่านก็ต้องมีวินัยกับตัวเองด้วยใช่ไหมครับ
ความมีวินัยอย่างนี้เกิดจากการฝึกฝนหรือว่าการเลี้ยงจากครอบครัวหรือปล่าวครับ
ถ้าเพิ้อนผมเป็นทหาร เขาก็ฝีกความมีวินัยมา
แนะนำเขามาลงทุนได้ไหมครับ
เขาจะทำได้ดีกว่าคนอื่นที่ไม่มีวินัยหรือไม่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 5
เข้ามาคารวะเจ้าของกระทู้ในความเยี่ยมยอด อดทนและแน่วแน่ ผมก็เริ่มลงทุนปีนี้เหมือนกันครับ เจ้าของกระทู้เขียนได้ดีมาก การลงทุนไม่มีทางลัด เราต้องฝึกฝนวิทยายุทธในวิชาการลงทุนอยู่เสมอ และค้นหาแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าสภาวะตลาดเป็นอย่างไร แต่เราจะสนใจเป็นพิเศษเมื่อตลาดเกิดตกใจ ขอคารวะอีกครั้งครับ เยี่ยมจริงๆ
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 6
ผมว่าที่ควบคุมยากสุด คือ อารมณ์ ครับhumdrum เขียน:คือผมมีคำถามครับ
ต้องมีวินัยในการลงทุนใช่ไหมครับ
เห้นเขาบอกว่า วินัยสำคัญที่สุดเลย
จำเป็นมากใช่ไหมครับ
อย่างนี้นี่ ในชีวิตด้านอื่นๆ ท่านก็ต้องมีวินัยกับตัวเองด้วยใช่ไหมครับ
ความมีวินัยอย่างนี้เกิดจากการฝึกฝนหรือว่าการเลี้ยงจากครอบครัวหรือปล่าวครับ
ถ้าเพิ้อนผมเป็นทหาร เขาก็ฝีกความมีวินัยมา
แนะนำเขามาลงทุนได้ไหมครับ
เขาจะทำได้ดีกว่าคนอื่นที่ไม่มีวินัยหรือไม่ครับ
ต้องพยายามไม่ใช้อารมณ์เวลาซื้อขาย แต่ให้ใช้เหตุผล
พูดง่าย แต่ทำยากครับ ผมว่าเวลา+ประสบการณ์เท่านั้นที่จะช่วยได้
ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของการมีวินัยในการลงทุนครับ
ปล. ผมว่าถ้าเป็นทหารมานี่ น่าจะลำบากมากกว่านะครับ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องการลงทุน
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 7
เห็นด้วยครับviim เขียน:เข้ามาคารวะเจ้าของกระทู้ในความเยี่ยมยอด อดทนและแน่วแน่ ผมก็เริ่มลงทุนปีนี้เหมือนกันครับ เจ้าของกระทู้เขียนได้ดีมาก การลงทุนไม่มีทางลัด เราต้องฝึกฝนวิทยายุทธในวิชาการลงทุนอยู่เสมอ และค้นหาแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าสภาวะตลาดเป็นอย่างไร แต่เราจะสนใจเป็นพิเศษเมื่อตลาดเกิดตกใจ ขอคารวะอีกครั้งครับ เยี่ยมจริงๆ
ตอนนี้ผมก็กำลังหาแนวทางที่ตนเองถนัดอยู่เหมือนกันครับ
ตอนนี้คิดว่าแนว vi + ดูพื้นฐาน พอได้แล้ว ปีนี้อาจจะศึกษาพวกหุ้นแนว turn around เพิ่มเติม
ส่วนการดูหุ้นรายตัว ตอนนี้ดูเป็นแค่ค้าปลีกครับ พวกพลังงาน อสังหา สื่อสาร นี่อ่อนด้อยมาก
ต้องศึกษาเพิ่มอีกเช่นกันครับ
ขอให้โชคดีกับการลงทุนทุกคนครับ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 8
คุณ marcus มีวิธีเริ่มศึกษาหุ้นแต่ละตัวยังไงครับ ของผมก็ดู opp day clip ฟังเสร็จก็ไปอ่าน 56-1 ตามมาอ่านร้อยคนร้อยหุ้น ย้อนหลังไปหลายๆหน้าหน่อย และนั่งดูงบการเงิน มีทั้งเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง จริงๆเรามาช่วยกันศึกษา ช่วยกันค้น ช่วยกันแกะก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะเริ่มต้นลงทุนไล่เลี่ยกัน สองหัวดีกว่าหัวเดียว มีข้อมูลอะไรก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ pm ก็ได้นะครับ ผมเองก็ชอบอ่านหนังสือ หนังสือของคุณโจ๊ก สุมาอี้ผมก็อ่าน เล่มใหม่ที่จะวางขายก็กะจะไปซื้อเหมือนกันกลางเดือนนี้
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 9
อ้าว แฟนหนังสือคุณ สุมาอี้เหมือนกันครับviim เขียน:คุณ marcus มีวิธีเริ่มศึกษาหุ้นแต่ละตัวยังไงครับ ของผมก็ดู opp day clip ฟังเสร็จก็ไปอ่าน 56-1 ตามมาอ่านร้อยคนร้อยหุ้น ย้อนหลังไปหลายๆหน้าหน่อย และนั่งดูงบการเงิน มีทั้งเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง จริงๆเรามาช่วยกันศึกษา ช่วยกันค้น ช่วยกันแกะก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะเริ่มต้นลงทุนไล่เลี่ยกัน สองหัวดีกว่าหัวเดียว มีข้อมูลอะไรก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ pm ก็ได้นะครับ ผมเองก็ชอบอ่านหนังสือ หนังสือของคุณโจ๊ก สุมาอี้ผมก็อ่าน เล่มใหม่ที่จะวางขายก็กะจะไปซื้อเหมือนกันกลางเดือนนี้
ผมมีครบทุกเล่มเลย นี่ก็พึ่งสั่งซื้อเล่มใหม่ไป (20 บริษัทจดทะเบียน)
จริงๆก็มีแอบลอกโพยของคุณสุมาอี้มาลงทุนบ้าง (7thLTG)
วิธีเลือกหุ้นก็คล้ายๆกันเลยครับ มีดูจากรายการ money talk
opp day และไล่อ่านจากร้อยคนร้อยหุ้น ถ้าตัวไหนสนใจมากก็จะไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรกเลย
ผมว่าเพื่อนๆนักลงทุนใน web thai vi นี่หละวิเคราะห์หุ้นได้น่าสนใจมากเลย
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 10
เหมือนกันเลยครัีบ ตอนนี้ผมมี port ลงทุน 2 แบบ คือ แนวคิด 7thltg ออมหุ้นทุกเดือนและพอร์ตลงทุนเอง รู้สึกว่า 7thltg จะชนะพอร์ตเล่นเองอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าปีนี้เป็นปีของ หุ้น big cap ก็ได้ โดยเฉพาะกลุ่ม รพ. ค้าปลีก นี่หลายเปอร์เซ็นต์เลย
-
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 11
ขอผมเป็นหัวที่สามได้มั๊ย แต่ผมเน้นแนวลอลอกนะครับviim เขียน:คุณ marcus มีวิธีเริ่มศึกษาหุ้นแต่ละตัวยังไงครับ ของผมก็ดู opp day clip ฟังเสร็จก็ไปอ่าน 56-1 ตามมาอ่านร้อยคนร้อยหุ้น ย้อนหลังไปหลายๆหน้าหน่อย และนั่งดูงบการเงิน มีทั้งเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง จริงๆเรามาช่วยกันศึกษา ช่วยกันค้น ช่วยกันแกะก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะเริ่มต้นลงทุนไล่เลี่ยกัน สองหัวดีกว่าหัวเดียว มีข้อมูลอะไรก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ pm ก็ได้นะครับ ผมเองก็ชอบอ่านหนังสือ หนังสือของคุณโจ๊ก สุมาอี้ผมก็อ่าน เล่มใหม่ที่จะวางขายก็กะจะไปซื้อเหมือนกันกลางเดือนนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 216
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 12
ลงทุนมาสี่เดือน แต่สามารถถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ได้ขนาดนี้ถือว่าสุดยอดครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนครับmarcus147 เขียน:การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
ผมเริ่มสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงกลางปี 54
เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย จนได้มารู้จัก web thaivi
ก็ได้เริ่มทำตามคำแนะนำคือศึกษาภาคทฤษฐีก่อนลงสนามจริง
เริ่มจากการซื้อหนังสือแนว vi มานั่งอ่าน โชคดีที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ
ใช้เวลาศึกษาอยู่ประมาณ 2 เดือน จนเริ่มรู้สึกว่าพอจะเข้าใจศัทพ์เฉพาะ
และแนวทาง vi มานิดหน่อยแล้วจึงเข้า trade ในตลาดตอนต้นเดือน กย.
หลังจากเข้ามาในตลาด เป็นมือใหม่ถอดด้าม ผมก็เริ่มสะสมหุ้นเข้าพอร์ตทีละน้อย
เนื่องจากเงินทุนเริ่มต้นน้อย(เดือนละประมาณ 5,000) แต่ก็พยายามจะเก็บให้ได้ในทุกๆเดือน
แต่แม้จะสะสมเงินต้นทุกเดือนก็พยายามศึกษาพฤติกรรมของตลาดหุ้น(mr.market)
เข้ามาตลาดยังไม่ทันครบเดือนก็เจอเหตุการณ์ ตลาดตกหนักจนเกือบต้องใช้ circuit breaker
ในช่วงปลายเดือน กย. ทำให้พอร์ตขาดทุนแดงแป๊ดในทันที
แต่ส่วนตัวแล้วผมถือว่าโชคดีนะ ที่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเป็นโอกาสในการซื้อ
หุ้นตัวที่ถูกๆ และยังทำให้ได้เจอเหตุการณ์ที่ตลาดตกหนักๆด้วยตนเอง
ผมว่าของแบบนี้ ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองจะไม่ได้ซึมซับประสบการณ์ สิ่งนี้ผมว่าสำคัญมาก
เพราะถ้าเจออีกจะได้ทำใจได้ ได้รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร และไม่ตกใจเทขายแบบไร้เหตุผล
ช่วงนั้นผมก็ไม่ได้ขายออกเลย พยายามทำตามตำราคือเอาเวลามาวิเคราะห์เพิ่มเติม หาหุ้นที่ตกแรงๆ
แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ทำได้ไม่ดีมาก เพราะพึ่งเข้าตลาดมา เป็นมือใหม่ถอดด้าม
ถือว่าเสียโอกาสไปพอสมควร
แต่ถ้ามองอีกมุมนึงก็จะได้รู้ว่า เราควรหาความรู้ ควรศึกษาให้พร้อมตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้หรอก
ว่าจะเกิดวิกฤตตอนไหน แต่เราสามารถเตรียมพร้อมเพื่อรอวิกฤตเวลามันเกิด เราจะได้พร้อมที่จะช้อนซื้อได้
สรุปว่าช่วงที่หุ้นตกไป 870 จุดก็ไม่ได้ซื้อมากมาย ผมพยายามใช้วิธีการที่ว่า พยายามจะไม่ให้ขาดทุนในช่วง
2 ปีแรกที่เข้าตลาด เพราะว่าจากที่ศึกษาประวัติของนักลงทุนส่วนใหญ่ จะขาดทุนในช่วง 1-2 ปีแรกเยอะพอควร
แล้วจึงมากำไรในตอนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การจะมาเป็นนักลงทุน vi มืออาชีพนั้น ไม่ได้มาจาก"พรสวรรค์"
เป็น"ปัจจัยหลัก"เหมือนกับอาชีพบางอาชีพ หากแต่อยุ่ที่"ประสบการณ์"บวกกับ"ความขยัน" ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
จากการวิเคราะห์ข้อมูล ผมจึงอาศัยในช่วงที่พอร์ตของผมยังเล็ก(มาก)อยู่ ในการเก็บประสบการณ์ ให้เต็มที่ และ
พยายามที่จะไม่ให้พอร์ตขาดทุน
เมื่อถึงวันสิ้นสุดปี 2554 ก็ครบเวลาที่ผมเข้าตลาดมาได้ครบสี่เดือนพอดี สรุปว่าพอร์ตโดยรวมกำไรประมาณ 6-8%
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็พอใจมากเลยทีเดียว เพราะหุ้นตัวหลักกำไรถึง 20%กว่า มีแค่หุ้นอสังหาซื้อดังที่ตกไป 20% กว่าเช่นกัน
(แต่ % ในพอร์ต น้อย) แล้วก็ยังมีบางตัวที่ "มองถูก" มี upside ขึ้นมา เกือบๆ 20% แต่ว่าไม่ได้ซื้อ เพราะในช่วงเวลานั้น
ยังไม่แน่ใจกับข้อมูล แต่ผมก็ถือว่า มาถูกทางแล้ว ไว้รอโอกาสหน้า
กลยุทธในการเลือกหุ้นของมือใหม่อย่างผมก็คือ ผมจะเลือกหุ้นตัวใหญ่ๆ ส่วนมากจะอยู่ใน SET 50 กับ SET 100
เพราะว่า ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ไม่พอที่จะวิเคราะห์หุ้นตัวเล็กๆ มีการแอบลอกการบ้านของเซียนหุ้นมาบ้าง
แต่ทุกครั้ง ต้องมาทำ"การบ้าน" เพิ่มเติมด้วย ว่าที่เซียนวิเคราะห์มานั้นถูกต้องไหม และเราเข้าใจทั้งหมดไหม
ซึ่งก็ทำให้ลดความเสี่ยงสำหรับมือใหม่ไปได้เยอะเลยทีเดียว
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเอง สี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทำให้สรุปได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
ทุกคนต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งในการศึกษา การทำการบ้าน การวิเคราะห์ และที่สำคัญคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น เพื่อที่จะได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองในการซื้อ-ขาย ให้เป็นไปตามเหตุผลและตามแผนการที่วางไว้ ไม่ใช่ตามอารมณ์(ทั้งอารมณ์ตัวเอง และอารมณ์ตลาด)
ทุกๆคนในตลาดหุ้นเริ่มต้นจากจุด start เดียวกัน แต่ว่ามี"ถนน" หลายเส้นให้เลือกเดิน เช่น vi , เก็งกำไร , เทคนิค 9ล9
ซึ่งทุกเส้นทางต้องใช้เวลาในการเดินด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีทางลัดที่จะให้เราไปถึงปลายทางได้เร็วกว่าคนอื่น วิธีการเดียวที่จะช่วยให้เราถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นก็คือ ความขยันในการหาความรู้ เปรียบเสมือนกับการเดินบนถนน ถ้าเราหยุดพักบ่อย เราก็จะไปถึงช้า แต่ถ้าเราขยันกว่าคนอื่น เดินไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เราก็จะสามารถย่นเวลาในการไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเราได้เร็วขึ้น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 13
ใจจริงผมก็ว่าจะออมหุ้นแบบ 7thLTG เหมือนกันครับ ติดที่เงินทุนไม่พอ บางเดือนมาก บางเดือนน้อย เลยทำให้ต้องกะจังหวะซื้อเอง ซึ่งทำให้ซื้อหุ้นโรงพยาบาลของ 7thLTG ไม่ได้เลยเพราะมันขึ้นตลอด ไม่มีจังหวะให้เข้าไปเก็บเลยviim เขียน: เหมือนกันเลยครัีบ ตอนนี้ผมมี port ลงทุน 2 แบบ คือ แนวคิด 7thltg ออมหุ้นทุกเดือนและพอร์ตลงทุนเอง รู้สึกว่า 7thltg จะชนะพอร์ตเล่นเองอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าปีนี้เป็นปีของ หุ้น big cap ก็ได้ โดยเฉพาะกลุ่ม รพ. ค้าปลีก นี่หลายเปอร์เซ็นต์เลย
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 14
^marcus147 เขียน:แต่ถ้าเราขยันกว่าคนอื่น เดินไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เราก็จะสามารถย่นเวลาในการไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเราได้เร็วขึ้น
^
ขอออกความคิดเห็นในประโยคนี้นะครับ
เพราะส่วนตัวผมเองแอบเชื่อว่า...
แม้จะอยู่ภายใต้ Concept เหมือนๆกัน แต่มันก็มีสิ่งที่เรียกว่า "Fast Track" แอบแฝงอยู่
"เพชรในตม" หรือ "บริษัทฯที่จะมาเป็น Rising Star ในอนาคต" มีอยู่จริง!!!
แต่มันต้องอาศัยความพยายาม, ความขยัน, ความมานะ และความใส่ใจมากมายในการ "คัดสรร" และ "เลือกเฟ้น" อย่างพิถีพิถันครับ
วันที่อนาคตยังเดินทางมาไม่ถึงนั้น เทพนาธานกับคนตาถึง มันห่างกันแค่เส้นด้ายบางๆเท่านั้นเองอ่ะนะขอรับ
...ผมคิดแบบนั้นนะ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
โพสต์ที่ 15
เห็นด้วยครับpak เขียน:^marcus147 เขียน:แต่ถ้าเราขยันกว่าคนอื่น เดินไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เราก็จะสามารถย่นเวลาในการไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเราได้เร็วขึ้น
^
ขอออกความคิดเห็นในประโยคนี้นะครับ
เพราะส่วนตัวผมเองแอบเชื่อว่า...
แม้จะอยู่ภายใต้ Concept เหมือนๆกัน แต่มันก็มีสิ่งที่เรียกว่า "Fast Track" แอบแฝงอยู่
"เพชรในตม" หรือ "บริษัทฯที่จะมาเป็น Rising Star ในอนาคต" มีอยู่จริง!!!
แต่มันต้องอาศัยความพยายาม, ความขยัน, ความมานะ และความใส่ใจมากมายในการ "คัดสรร" และ "เลือกเฟ้น" อย่างพิถีพิถันครับ
วันที่อนาคตยังเดินทางมาไม่ถึงนั้น เทพนาธานกับคนตาถึง มันห่างกันแค่เส้นด้ายบางๆเท่านั้นเองอ่ะนะขอรับ
...ผมคิดแบบนั้นนะ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/