ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคาหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1
- ผู้ติดตาม: 0
ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคาหุ้น
โพสต์ที่ 1
ผมอ่านหนังสืองบการเงิน จบแล้วอะครับแต่พอมาอ่านงบการเงินบริษัทจริงๆ แล้วไม่รู้จะจับหลักตรงไหนเลยที่จะทำให้รู้ว่าบริษัทนั้นดีไม่ดี และไม่รู้ว่าจะประเมินราคาหุ้นยังไง อ่านหนังสือไปแล้วเหมือนยังจับอะไรไม่ได้เลย ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 2
ไม่มีเคล็ดลับอะไรครับ
และผมคิดว่าน่าจะได้อะไรจากหนังสืิอบ้างครับ
ส่วนตัว หนังสือบัญชีมีหลายประเภทครับ
สอนให้เขียน สอนให้อ่าน สอนให้วิเคราะห์
ทำใจเย็นๆ ค่อยๆ เรียนรู้ไปครับ
ส่วนการหามูลค่าหุ้น ก็อ่านไปเรื่อยๆ
ว่างๆ ก็ลองเอางบสัก บ. มากางดู
แล้วก็วิเคราะห์ตามความรู้ที่ได้เรียนรู้มา
ก็น่าจะช่วยพัฒนาทักษะได้บ้าง
หรือไม่ก็ไปหาคอร์สลงเรียนดูเลยครับ
และผมคิดว่าน่าจะได้อะไรจากหนังสืิอบ้างครับ
ส่วนตัว หนังสือบัญชีมีหลายประเภทครับ
สอนให้เขียน สอนให้อ่าน สอนให้วิเคราะห์
ทำใจเย็นๆ ค่อยๆ เรียนรู้ไปครับ
ส่วนการหามูลค่าหุ้น ก็อ่านไปเรื่อยๆ
ว่างๆ ก็ลองเอางบสัก บ. มากางดู
แล้วก็วิเคราะห์ตามความรู้ที่ได้เรียนรู้มา
ก็น่าจะช่วยพัฒนาทักษะได้บ้าง
หรือไม่ก็ไปหาคอร์สลงเรียนดูเลยครับ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 4
โห เวลาไปดูเองจริงๆจะไก่ตาแตกคับ
ต้องดูไปเรื่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ สนใจตัวไหน เรื่องอะไรก็อ่านหรือถามคนในบอร์ดไป
มันจะเหมือนค่อยๆรู้มากขึ้น งงน้อยลง
ใชีเวลานานเหมือนกันคับ
แต่หาความรู้ไปเรื่อยๆเด๋วมันมาเอง
ต้องดูไปเรื่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ สนใจตัวไหน เรื่องอะไรก็อ่านหรือถามคนในบอร์ดไป
มันจะเหมือนค่อยๆรู้มากขึ้น งงน้อยลง
ใชีเวลานานเหมือนกันคับ
แต่หาความรู้ไปเรื่อยๆเด๋วมันมาเอง
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 6
ให้ใส่จิตนาการกิจกรรมธุรกิจของบริษัทนั้นลงไปด้วยครับ เวลาอ่านจะเล่าได้เป็นนิทานเลย
สมมติว่าบริษัทผลิต ขวดพลาสติก
ยอดขาย <-- เอาขวดไปขายได้เงินมา
(หัก)ต้นทุนขาย <--เอาเงินจายยอดขายไปจ่ายค่า เมล็ดพลาสติก แรงงาน
กำไรขั้นต้น <--เหลือเงินมาก้อนนึง
(หัก)ค่าใช้จ่ายในการขาย บริหาร <--เอากำไรขั้นต้นไปจ่าย ค่าโฆษณา ค่าคอมของ sale ค่าเสื่อม ฯลฯ
กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี<--เหลือเศษเงินอยู่หน่อยนึ่ง
(หัก)ดอกเบี้ยจ่าย <--เอาเงินไปใช้หนี้
(หัก)ภาษี<--จ่ายเงินเข้าหลวง
กำไรสุทธิ
สมมติว่าบริษัทผลิต ขวดพลาสติก
ยอดขาย <-- เอาขวดไปขายได้เงินมา
(หัก)ต้นทุนขาย <--เอาเงินจายยอดขายไปจ่ายค่า เมล็ดพลาสติก แรงงาน
กำไรขั้นต้น <--เหลือเงินมาก้อนนึง
(หัก)ค่าใช้จ่ายในการขาย บริหาร <--เอากำไรขั้นต้นไปจ่าย ค่าโฆษณา ค่าคอมของ sale ค่าเสื่อม ฯลฯ
กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี<--เหลือเศษเงินอยู่หน่อยนึ่ง
(หัก)ดอกเบี้ยจ่าย <--เอาเงินไปใช้หนี้
(หัก)ภาษี<--จ่ายเงินเข้าหลวง
กำไรสุทธิ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 7
เป็นอีกคนที่อยากจะอ่านงบ วิเคราะห์บริัษัทได้
จบมาคนละสายกับบัญชี บริหารเลย
ตอนนี้พยายามอ่าน
อ่านงบการเงินให้เป็น
แกะเงื่อนงบการเงิน
ของดร ภาพร
อ่านบล๊อกคุณ ฮง และ คุณหมอไรเต้อ
กระทู้ในไทยวีไอ
สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลย ตอนนี้ ยังงงมากๆ
แต่ รู้สึกว่า อ่านบ่อยขึ้นๆ หัวข้อเดียวกัน จาก หลายๆที่ที่อธิบาย
ก็ค่อยๆ เ็ก็ตไอเดีย มากขึ้นเรื่อยๆ
จะพยายามต่อไปครับ
จบมาคนละสายกับบัญชี บริหารเลย
ตอนนี้พยายามอ่าน
อ่านงบการเงินให้เป็น
แกะเงื่อนงบการเงิน
ของดร ภาพร
อ่านบล๊อกคุณ ฮง และ คุณหมอไรเต้อ
กระทู้ในไทยวีไอ
สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลย ตอนนี้ ยังงงมากๆ
แต่ รู้สึกว่า อ่านบ่อยขึ้นๆ หัวข้อเดียวกัน จาก หลายๆที่ที่อธิบาย
ก็ค่อยๆ เ็ก็ตไอเดีย มากขึ้นเรื่อยๆ
จะพยายามต่อไปครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 126
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 8
กำลังพยายามฝึกอ่านงบการเงินเหมือนกันครับ
ฝึกทำของจริงโดยอ่านหนังสือประกอบ ว่าอันไหนหมายว่าอย่างไร
เพื่อตีความว่าอันไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร
แล้วก็เปรียบเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาว่าดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
ฝึกทำของจริงโดยอ่านหนังสือประกอบ ว่าอันไหนหมายว่าอย่างไร
เพื่อตีความว่าอันไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร
แล้วก็เปรียบเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาว่าดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 469
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 9
อาจไม่ตรงกับเจ้าของกระทู้ถามนัก เพราะมันไม่เชิงเป็นเคล็ดลับหรอก
ทั้งหมดเป็นกระบวนการไปด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มเลือกหุ้นแล้วครับ
ขั้นแรก พยายามเข้าใจภาพใหญ่ของธุรกิจก่อน
เลือกธุรกิจที่เราคุ้นเคยและเข้าใจได้ง่ายสำหรับเราก่อน
อาจจะอ่าน รายงานประจำปี 56-1 และ
ฟัง oppday (อันนี้ช่วยได้มากเพราะมีคนที่รู้อธิบายให้ฟัง แถมเห็นผู้บริหารด้วย)
ว่าบริษัททำอะไร ขายให้ใคร ได้กำไรมาอย่างไร มีต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างไร
มีแนวโน้มเติบโตอย่างไร และบริษัทใช้กลยุทธ์อะไรในการทำธุรกิจ ผู้บริหารโอเคไหม
เราเห็นว่าธุรกิจนี้ดีสำหรับเราไหม เราสนใจหรือไม่ เพราะอะไรถึงสนใจ จุดอ่อนจุดแข็ง
ตอบตัวเองให้ได้ อย่างง่ายๆ แบบที่เราสามารถอธิบายให้เด็กประถมเข้าใจได้
แล้วก็ดูงบการเงิน ดูความเห็นผู้สอบบัญชีก่อน ถ้าไม่ผ่านก็ อาจจะเลิกเลย
จากนั้นก็ เอาบัญชีมาดูได้ งบกำไรขาดทุนง่ายสุด เพราะที่เราลงทุนก็หวังกำไรนี่แหละ
เอามาดูหลายๆไตรมาส และดูเทียบหลายๆปี จะเห็นถึงแนวโน้มของกำไร และต้นทุน
และจะพอมองเห็นว่าจะต้องทำอย่างไรจะได้กำไรมากขึ้น ควรจะเติบโต หรือลดต้นทุน
กลยุทธ์ของบริษัทมีเหตุมีผลไหม ผลงานจับต้องได้ไหม กำไรที่มากเป็นกำไรพิเศษหรือเปล่า
จากนั้นก็ดูงบดุล ว่าได้กำไรมาแล้วส่วนไหนเพิ่มส่วนไหนลด
กำไรนั้นเกิดจากทรัพย์สินส่วนไหน ต้องเพิ่มหนี้แค่ไหนกำไรจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่
อาจดูสัดส่วนต่างๆประกอบ โดยเปรียบเทียบกันหลายๆปี และเทียบกับบริษัทที่ใกล้เคียงกัน
แล้วก็ดูงบกระแสเงินสด ว่าเงินที่ได้มาได้จากไหน และไหลไปไหนบ้าง
สร้างผลตอบแทนให้เราคุ้มค่าไหม เป็นไปตามกลยุทธ์ของผู้บริหารไหม กลยุทธ์เวิร์คไหม
แล้วก็ดูส่วนทุนว่ามีวอร์แรนต์ไหม ยังจะมีการไดลูชันอีกไหม
ตัวเลขทางการเงินก็จะทำให้เราพอมั่นใจกับธุรกิจมากขึ้นว่า มันดีแบบที่เรามองจริงรึเปล่า
ก้าไม่เป็นไปตามที่เราคิดก็ อาจจะเลิกเลย หรือย้อนไปดูเชิงคุณภาพอีกก็ได้ ว่าเราวิเคราะห์อะไรผิด
แล้วค่อยมาดูราคาหุ้น ก็ดูพีอีธรรมดานี่แหละ ว่าถูกหรือแพงเทียบกับอดีต
เทียบกับบริษัทอื่นที่คุณภาพใกล้เคียงกัน ถ้าดูแล้วน่าจะแพงไปก็ บ๊าย บาย อีก
ทีนี้เราก็พอรู้ช่วงพีอีแล้ว เราก็ประเมิน กำไรในอนาคตที่เราคาดว่าจะถือไปจนวันนั้น
ก็ลองปรับตัวเลขเอาว่า พีอีอย่างต่ำอย่างสูง กำไรอย่างต่ำอย่างสูง
ก็จะได้ มูลค่าที่แท้จริงโดยประมาณ เป็นช่วงๆ ดีสุดแย่สุด
แล้วทีนี้ก็คำนวนผลตอบแทนทบต้น (แล้วบวกปันผลประมาณๆต่อปีไปด้วย)
ถ้าเป็นผลตอบแทนที่เราพอใจ และมีmosที่เราโอเค ก็ลุยเลย
สุดท้าย ทำใจนิ่งๆ รอผลประกอบการให้เป็นไปตามที่เราคาด โดยเช็คทุกๆไตรมาส
แต่ประเมินทุกๆครึ่งปี ถ้าเหตุผลที่เราคิดมันผิดก็ ลองตรวจสอบให้แน่ใจ ถ้าผิดจริงก็ทำใจ ขายซะ
เราก็ต้องรู้ไว้ว่า ห้าตัวมันต้องผิดซักตัวนึงแหละ ไม่มีใครถูกตลอดหรอก แต่ผิดแล้วต้องจำ
ไม่มีใครเดาตลาดได้จริงๆครับ วางบนหลักการและเหตุผลที่เราเลือกจะเชื่อ
สรุปง่ายๆ
1 ซื้อหุ้นเหมือนซื้อร้านก๊วยเตี๋ยวปากซอย โดยดูปัจจัยคุณภาพและปริมาณ
2 margin of safety สิ่งที่เราไม่คาดคิด คุณเจอมันแน่ๆ และเราเดาตลาดไม่ได้
3 intrinsic value ให้ซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่าที่เราประเมิน
แถมจาก พี่โจ ลูกอีสาน ถ้าเราอ่านไปซัก 20 บริษัทเราจะเจอน่าสนใจซัก 1 บริษัท อันนี้ ศักดิ์สิทธิ์มาก
อิชั้นก็มีปัญญาอยู่แค่นี้แหละพ่อคุณเอ๊ยยยย
ทั้งหมดเป็นกระบวนการไปด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มเลือกหุ้นแล้วครับ
ขั้นแรก พยายามเข้าใจภาพใหญ่ของธุรกิจก่อน
เลือกธุรกิจที่เราคุ้นเคยและเข้าใจได้ง่ายสำหรับเราก่อน
อาจจะอ่าน รายงานประจำปี 56-1 และ
ฟัง oppday (อันนี้ช่วยได้มากเพราะมีคนที่รู้อธิบายให้ฟัง แถมเห็นผู้บริหารด้วย)
ว่าบริษัททำอะไร ขายให้ใคร ได้กำไรมาอย่างไร มีต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างไร
มีแนวโน้มเติบโตอย่างไร และบริษัทใช้กลยุทธ์อะไรในการทำธุรกิจ ผู้บริหารโอเคไหม
เราเห็นว่าธุรกิจนี้ดีสำหรับเราไหม เราสนใจหรือไม่ เพราะอะไรถึงสนใจ จุดอ่อนจุดแข็ง
ตอบตัวเองให้ได้ อย่างง่ายๆ แบบที่เราสามารถอธิบายให้เด็กประถมเข้าใจได้
แล้วก็ดูงบการเงิน ดูความเห็นผู้สอบบัญชีก่อน ถ้าไม่ผ่านก็ อาจจะเลิกเลย
จากนั้นก็ เอาบัญชีมาดูได้ งบกำไรขาดทุนง่ายสุด เพราะที่เราลงทุนก็หวังกำไรนี่แหละ
เอามาดูหลายๆไตรมาส และดูเทียบหลายๆปี จะเห็นถึงแนวโน้มของกำไร และต้นทุน
และจะพอมองเห็นว่าจะต้องทำอย่างไรจะได้กำไรมากขึ้น ควรจะเติบโต หรือลดต้นทุน
กลยุทธ์ของบริษัทมีเหตุมีผลไหม ผลงานจับต้องได้ไหม กำไรที่มากเป็นกำไรพิเศษหรือเปล่า
จากนั้นก็ดูงบดุล ว่าได้กำไรมาแล้วส่วนไหนเพิ่มส่วนไหนลด
กำไรนั้นเกิดจากทรัพย์สินส่วนไหน ต้องเพิ่มหนี้แค่ไหนกำไรจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่
อาจดูสัดส่วนต่างๆประกอบ โดยเปรียบเทียบกันหลายๆปี และเทียบกับบริษัทที่ใกล้เคียงกัน
แล้วก็ดูงบกระแสเงินสด ว่าเงินที่ได้มาได้จากไหน และไหลไปไหนบ้าง
สร้างผลตอบแทนให้เราคุ้มค่าไหม เป็นไปตามกลยุทธ์ของผู้บริหารไหม กลยุทธ์เวิร์คไหม
แล้วก็ดูส่วนทุนว่ามีวอร์แรนต์ไหม ยังจะมีการไดลูชันอีกไหม
ตัวเลขทางการเงินก็จะทำให้เราพอมั่นใจกับธุรกิจมากขึ้นว่า มันดีแบบที่เรามองจริงรึเปล่า
ก้าไม่เป็นไปตามที่เราคิดก็ อาจจะเลิกเลย หรือย้อนไปดูเชิงคุณภาพอีกก็ได้ ว่าเราวิเคราะห์อะไรผิด
แล้วค่อยมาดูราคาหุ้น ก็ดูพีอีธรรมดานี่แหละ ว่าถูกหรือแพงเทียบกับอดีต
เทียบกับบริษัทอื่นที่คุณภาพใกล้เคียงกัน ถ้าดูแล้วน่าจะแพงไปก็ บ๊าย บาย อีก
ทีนี้เราก็พอรู้ช่วงพีอีแล้ว เราก็ประเมิน กำไรในอนาคตที่เราคาดว่าจะถือไปจนวันนั้น
ก็ลองปรับตัวเลขเอาว่า พีอีอย่างต่ำอย่างสูง กำไรอย่างต่ำอย่างสูง
ก็จะได้ มูลค่าที่แท้จริงโดยประมาณ เป็นช่วงๆ ดีสุดแย่สุด
แล้วทีนี้ก็คำนวนผลตอบแทนทบต้น (แล้วบวกปันผลประมาณๆต่อปีไปด้วย)
ถ้าเป็นผลตอบแทนที่เราพอใจ และมีmosที่เราโอเค ก็ลุยเลย
สุดท้าย ทำใจนิ่งๆ รอผลประกอบการให้เป็นไปตามที่เราคาด โดยเช็คทุกๆไตรมาส
แต่ประเมินทุกๆครึ่งปี ถ้าเหตุผลที่เราคิดมันผิดก็ ลองตรวจสอบให้แน่ใจ ถ้าผิดจริงก็ทำใจ ขายซะ
เราก็ต้องรู้ไว้ว่า ห้าตัวมันต้องผิดซักตัวนึงแหละ ไม่มีใครถูกตลอดหรอก แต่ผิดแล้วต้องจำ
ไม่มีใครเดาตลาดได้จริงๆครับ วางบนหลักการและเหตุผลที่เราเลือกจะเชื่อ
สรุปง่ายๆ
1 ซื้อหุ้นเหมือนซื้อร้านก๊วยเตี๋ยวปากซอย โดยดูปัจจัยคุณภาพและปริมาณ
2 margin of safety สิ่งที่เราไม่คาดคิด คุณเจอมันแน่ๆ และเราเดาตลาดไม่ได้
3 intrinsic value ให้ซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่าที่เราประเมิน
แถมจาก พี่โจ ลูกอีสาน ถ้าเราอ่านไปซัก 20 บริษัทเราจะเจอน่าสนใจซัก 1 บริษัท อันนี้ ศักดิ์สิทธิ์มาก
อิชั้นก็มีปัญญาอยู่แค่นี้แหละพ่อคุณเอ๊ยยยย
Sixth Sense Investor
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากรู้เคล็ดลับในการอ่านงบการเงินครับและการประเมินราคา
โพสต์ที่ 10
อ่านงบการเงินก็ตั้งคำถามครับ
1. สถานะการเงินเป็นอย่างไร -> ดูงบดุล
2. ความสามารถทำกำไรเป็นอย่างไร -> ดูงบกำไรขาดทุน
3. สร้างเงินสดได้มากน้อยแค่ไหน -> ดูงบกระแสเงินสด
4. ดูอัตราผลตอบแทนแบบๆที่ทำได้ -> ดูหลายงบมาคำนวณ
5. ดูว่าอยู่ในสถานะไหนของธุรกิจ -> ดูหลายงบ ดูตัวเลขรายจ่ายลงทุน ดูตัวเลขค่าเสื่อมราคา ดูตัวเลขเงินปันผล และอื่นๆ
6. ดูแนวโน้มอดีตมาถึงปัจจัยเพื่อคาดเดาอนาคต -> ดูแต่ละงบ ทำ trend analysis
7. แล้วราคาหุ้นน่าจะเท่าไหร่ -> ดูหลายงบ เลือกโมเดลแล้วเอามาใส่สูตร ถ้าแนววีไอดูหนังสือลงทุนหลักสูตรโคลัมเบียครับ
น่าจะพอเป็นไอเดียได้บ้างนะครับ
1. สถานะการเงินเป็นอย่างไร -> ดูงบดุล
2. ความสามารถทำกำไรเป็นอย่างไร -> ดูงบกำไรขาดทุน
3. สร้างเงินสดได้มากน้อยแค่ไหน -> ดูงบกระแสเงินสด
4. ดูอัตราผลตอบแทนแบบๆที่ทำได้ -> ดูหลายงบมาคำนวณ
5. ดูว่าอยู่ในสถานะไหนของธุรกิจ -> ดูหลายงบ ดูตัวเลขรายจ่ายลงทุน ดูตัวเลขค่าเสื่อมราคา ดูตัวเลขเงินปันผล และอื่นๆ
6. ดูแนวโน้มอดีตมาถึงปัจจัยเพื่อคาดเดาอนาคต -> ดูแต่ละงบ ทำ trend analysis
7. แล้วราคาหุ้นน่าจะเท่าไหร่ -> ดูหลายงบ เลือกโมเดลแล้วเอามาใส่สูตร ถ้าแนววีไอดูหนังสือลงทุนหลักสูตรโคลัมเบียครับ
น่าจะพอเป็นไอเดียได้บ้างนะครับ