ผมอ่านเรื่องบัฟเฟตเมื่อเร็วๆ นี้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ผมอ่านเรื่องบัฟเฟตเมื่อเร็วๆ นี้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สวัสดีครับ

ผมอ่านเรื่องบัฟเฟตเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านมีอาการของโรคมะเร็ง ผมว่าเขาน่าจะยอมรับเรื่องนี้มานานแล้ว อายุมากแล้วไม่ใช่ว่ามันเป้นกันไม่ได้ และต้องเผื่อทำใจความเป็นไปได้มานานแล้วอีกด้วย และเขาก็ทำในสิ่งที่เขาเตรียมตัวมานานแล้วเช่นกัน คือ รีบบอกโลกให้รับทราบ ผมว่าเขาบอกเรานักลงทุนตรงๆ เลยว่า ข่าวร้ายนะสำคัญกว่าข่าวดี รับมื่อกับมันเป้นหรือปล่าว

เพื่อนหมอท่านหนึ่งเคยบอกผมเกี่ยวกับโรคภัยและผมประทับใจได้อย่างดี มันบอกว่า ชีวิตทุกคนมีอาการของโรคต่างๆ ติดตัวมาตั้งแต่เกิดอยู๋แล้ว ทุกคนมีอาการของโรคต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายอยู๋แล้ว เวลาบอกว่า บัฟเฟตเป้นมะเร็งจึงไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าบัฟเฟตพึ่งจะเป็นมะเร็ง เป้นมานานแล้ว แต่ไม่ออกอาการจนกระทั่งระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต้านทานไม่ไหวแล้ว ใช้ร่างกายอันนี้แล้ว ก็อย่าประมาท และต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดด้วย

ผมจำที่หลวงพ่อพุทธทาสบอกว่า ก่อนนอนก็ยกมือไหว้ร่างกายอันนี้ต้องขอบคุณเขาที่ให้ที่อยู๋กับใจของเราด้วย ถ้ายกมื่อไหว้ตัวเองได้ ก็ถือว่าใช้ได้ แสดงว่าเป้นคนดีพอที่ตัวเองจะยอมรับตัวเองได้

ผมดูบัวขาวชกที่พัทยาวันก่อน สนุกครับ ไมได้สนุกอย่างนี้นานมากทีเดียว ดูมวยครั้งสุดท้ายก็สมัยเขาทรายชกครับ เขาทรายนานๆ ชกที ชกโดนก็ล้มเลย เขาเคยบอกว่า ชกคู่ต่อสู้เก่งไม่เท่าไหร การรับมัดคู๋ต่อสู็ได้นานขนาดสำคัญกว่า นี่ก็เข้าข่ายการรับมือกับความทุกข์ได้ดีกว่านั้นขนาดไหน

วันที่บัวขาวชกนั้น คุณสามารถเป็นคนภาคมวย ไม่ต้องบอกว่าเขาเป็นนักมวยที่เก่งขนาด-ไหน เขาบอกตอนนหนึ่งว่า การชกมวยนั้น ใจต้องมาก่อนเสมอ แล้วค่อยมาร่างกายตามมา แล้วนักลงทุนเน่นคุณค่าอย่างเรา ใจต้องมาก่อนไหม ผมก็ว่าสำคัญนะ ไม่ใช่ร่างกายเป็นนักลงทุนอย่างเดียว ใจก็เป้นนักลงทุนด้วย

เรื่องของใจ ไม่ใช่ทุกคนเกิดมาเผื่อเป้นนักลงทุนที่ดีได้ การเลี่ยงดูในวัยเด็กสำคัญอย่างมาก การรับมื่อกับความเครียดและการรับมื่อกับความเสี่ยงได้ดีขนาดไหนสำคัญสำหรับอาชีพนี้ และผมว่าประสบการณ์การเลี้ยงดูจากครอบครัวและประสบการณ์ต่างๆ จากวัยเด็กที่หล่อหลอมนิสัยของเราจนการเป็นเกราะกำลังให้กับตัวเองนั้นมีความสำคัญอย่างมาก

เรื่องของลงทุนให้เป็นผมว่ามาจากใจอันดับแรก แต่ไม่พอ เวลามีกำไรรับมื่อกับง่ายมาก เผื่อเวลาขาดทุนครับ ไปออกกำลังกายให้เป็น กินอาหารให้เป็น พักผ่อนให้เป็น ทำไปทำไม เพื่อเวลามีความทุกข์เข้ามาในระหว่างการลงทุน เราจะได้พร้อมรับมื่อกับความเครียดได้อย่างเต็มที่ และอาการของโรคภัยต่างๆ จะได้ไม่ออกมาก่อนเวลาอันควร

ข่าวอาการมะเร็งออกมาคุกคามร่างกายของบัฟเฟต บทเรียนนี้บัฟเฟตเท่ากับได้สอนบทเรียนให้กับผู้บริหารท่านอื่นๆ ที่กำลังบริหารบริษัทลูกในเครือข่ายของบริษัทเบริกเชอร์ไปด้วย "มีข่าวร้ายให้รีบบอกทันที ก่อนที่จะแก้ไขไม่ทัน"

ผมถือกฎข้อนี้สำคัญทั้งที่บ้านและที่ทำงานเช่นกัน ที่บ้าน ผมสอนลูกว่า เวลามีความสุขไม่ต้องมาบอกพ่อ มีความทุกข์เมื่อใดให้มาบอกพ่อทันที ผมจำไมได้ว่าเล่มไหนเช่นกัน ที่โซรอสกล่าวไว้ "ไม่ใช่ความสุขที่สำคัญ ความทุกข์ต่างหาก ความสุขรับมื่อง่านมาก ความทุกข์ต่างหากที่รับมื่อกับมันยากกว่า จึงต้องให้ความสำคัญอันดับแรก"

ผมมีคำกล่าวหนึ่ง ใช้ในการดำเนินชีวิตมานาน เป็นคำกล่าวของหลวงปู่ชาที่ว่า เกิดก็เพื่อตาย ตายก็เพื่อเกิด ผมจะใช้ดัดแปลงให้เข้ากับชีวิต อย่างเวลาเจอความสุข ก็จะคิดว่ามันเป้นต้นกำเนิดของความทุกข์ แล้วกลับกัน ความทุกข์ก็เป้นต้นกำเนิดของความสุกข์

เวลาลงทุนนั้น ผมสอนลูกน้องไม่เป้นครับ ผมเป้นครูที่แย่มาก มาถามคำแนะนำทีไร ก็ได้แต่ยืมคำสอนของปู่มาใช้ กำไรเป็นต้นกำเนิดของการขาดทุน ขาดทุนเป้นต้นกำเนิดของกำไร

ฟังกันแล้ว ก็เลิกถาม ผมว่าคมดีครับ สวัสดีครับ
sakkaphan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1123
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมอ่านเรื่องบัฟเฟตเมื่อเร็วๆ นี้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณสำหรับบทความที่ช่วยเตือนสติครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
perfectackle
Verified User
โพสต์: 152
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมอ่านเรื่องบัฟเฟตเมื่อเร็วๆ นี้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เรื่องของการลงทุนนี่ใจต้องมาก่อนแล้วเงินค่อยตามมาทีหลัง
ว. วีไอ อดทน
โพสต์โพสต์