การซื้อรถกับการเช่ารถ
- Tsurumi
- Verified User
- โพสต์: 268
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถกับการเช่ารถ
โพสต์ที่ 2
สั้นๆคงตอบไม่ได้ครับ เพราะทั้งสองมีข้อดี/ข้อเสียพอๆกัน ต้องขึ้นอยู่กับสถานะผู้ซื้อต้องตัดสินใจเอง
เบื้องต้นเลยหาข้อมูล บมจ. ใน ThaiVI ก็มีหลาย บมจ. ที่ทำทั้ง lease. & hire purchase. เช่น PL. www.pl.co.th. หรือไม่ก็พิมพ์ "ซื้อกับเช่าซื้อ". ค้นหาในกูเกิิลดู โดยเฉพาะสำนักบัญชีทั้งหลายจะตอบได้ตรงจุดที่สุด ประเด็นสำคัญต้องคิดกรณีนี้คือ
กรรมสิทธิ์ในเทรัพย์สิน การตัดค่าเสื่อม การหักภาษี การซ่อมบำรุงรักษารถ ภาษีมูลค่าเพิ่ม การตั้งงบซื้อและวงเงิน ระยะเวลาผ่อน ฯลฯ
เบื้องต้นเลยหาข้อมูล บมจ. ใน ThaiVI ก็มีหลาย บมจ. ที่ทำทั้ง lease. & hire purchase. เช่น PL. www.pl.co.th. หรือไม่ก็พิมพ์ "ซื้อกับเช่าซื้อ". ค้นหาในกูเกิิลดู โดยเฉพาะสำนักบัญชีทั้งหลายจะตอบได้ตรงจุดที่สุด ประเด็นสำคัญต้องคิดกรณีนี้คือ
กรรมสิทธิ์ในเทรัพย์สิน การตัดค่าเสื่อม การหักภาษี การซ่อมบำรุงรักษารถ ภาษีมูลค่าเพิ่ม การตั้งงบซื้อและวงเงิน ระยะเวลาผ่อน ฯลฯ
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถกับการเช่ารถ
โพสต์ที่ 3
- ซื้อรถ เงินจม และมีค่าบำรุงรักษา เงินสดก็มีต้นทุน ถ้าจะเอาไปลงทุนอย่างอื่น
อาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับบริษัทใหญ่ แต่เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับบริษัทเล็ก โดยเฉพาะถ้าเพิ่งเริ่มตั้งตัว
ในระบบบัญชี บันทึกเป็นสินทรัพย์ และหักค่าเสื่อมทุกปี
- แต่ถ้าเช่ารถ จ่ายเงินทีละนิด แต่ก็แน่นอนว่า ปกติตีระยะยาวแพงกว่า เพราะคนให้รถเช่าก็เอากำไร
ไม่ต้องตั้งงบซื้อสินทรัพย์ ในระบบบัญชีถือเป็นค่าใช้จ่าย
แต่จะเป็นรายจ่ายแบบต้นทุนการดำเนินงาน หรือค่าใช้จ่ายทั่วไป ก็ขึ้นกับวัตุประสงค์การใช้รถนั้น
คำถาม "อะไรดีกว่ากัน" ถ้าเอาข้อมูลที่คุณให้ ปัจจัยอื่นไม่มีนัยสำคัญหรือไม่มีผลต่อการตัดสินใจ
ขึ้นกับแต่ละบริษัท ประเมินฐานะทางการเงินดีกว่า
=> ถ้าบริษัทใหญ่ turn over ระดับหลายพันล้านหรือหมื่นล้าน ตัวเลข 5 ล้านเป็นเงินน้อยนิด แค่ตัวเลขค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
คิดคร่าวๆ เช่ารถ 5 ปี ซื้อได้รถ 1 คัน รถมีอายุเกิน 5 ปี ทางบัญชีหักค่าเสื่อม ยังเหลือมูลค่า
คิดแบบ common sense เรามีรถเหลือที่ขับต่อได้อีก เก่าแล้วก็ขายได้อีก ดูง่ายๆ จึงคุ้มกว่าอยู่แล้ว
ถ้าถามเพื่อตัดสินใจจะซื้อหรือจะเช่าจริง เพื่อจะเอาไปเสนอขออนุมัติ ให้มีหลักเกณฑ์
อย่างไหนดีกว่ากัน ประเมินตัวเลขเปรียบเทียบเลย เหมือนกับทำโครงการ 2 โครงการ
ต้องสะท้อนความจริงด้วย ว่ารถซื้อ เผื่อค่าบำรุงรักษาอีกสักนิดหน่อยด้วย เพื่อให้เห็นว่าเรามองครบรอบด้าน
=> แต่่ถ้าบริษัทเล็ก เพราะไม่มีเงินจ่ายครั้งเดียวมากนัก
- อาจวางแผนระยะแรกเช่าไปก่อน จน 2-3 ปี ฐานะมั่นคงค่อยๆ มาทบทวนการซื้อ
- หรือถ้ารถที่ว่าต้องการหลายคัน ก็บางคันซื้อ ผสมกันกับเช่า ตามกำลังในท้องพระคลัง
- หรือ "เช่าซื้อ" อย่างคุณ Tsurumi ว่า อาจได้เงื่อนไขผ่อนปรนที่ดีขึ้น
อาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับบริษัทใหญ่ แต่เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับบริษัทเล็ก โดยเฉพาะถ้าเพิ่งเริ่มตั้งตัว
ในระบบบัญชี บันทึกเป็นสินทรัพย์ และหักค่าเสื่อมทุกปี
- แต่ถ้าเช่ารถ จ่ายเงินทีละนิด แต่ก็แน่นอนว่า ปกติตีระยะยาวแพงกว่า เพราะคนให้รถเช่าก็เอากำไร
ไม่ต้องตั้งงบซื้อสินทรัพย์ ในระบบบัญชีถือเป็นค่าใช้จ่าย
แต่จะเป็นรายจ่ายแบบต้นทุนการดำเนินงาน หรือค่าใช้จ่ายทั่วไป ก็ขึ้นกับวัตุประสงค์การใช้รถนั้น
คำถาม "อะไรดีกว่ากัน" ถ้าเอาข้อมูลที่คุณให้ ปัจจัยอื่นไม่มีนัยสำคัญหรือไม่มีผลต่อการตัดสินใจ
ขึ้นกับแต่ละบริษัท ประเมินฐานะทางการเงินดีกว่า
=> ถ้าบริษัทใหญ่ turn over ระดับหลายพันล้านหรือหมื่นล้าน ตัวเลข 5 ล้านเป็นเงินน้อยนิด แค่ตัวเลขค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
คิดคร่าวๆ เช่ารถ 5 ปี ซื้อได้รถ 1 คัน รถมีอายุเกิน 5 ปี ทางบัญชีหักค่าเสื่อม ยังเหลือมูลค่า
คิดแบบ common sense เรามีรถเหลือที่ขับต่อได้อีก เก่าแล้วก็ขายได้อีก ดูง่ายๆ จึงคุ้มกว่าอยู่แล้ว
ถ้าถามเพื่อตัดสินใจจะซื้อหรือจะเช่าจริง เพื่อจะเอาไปเสนอขออนุมัติ ให้มีหลักเกณฑ์
อย่างไหนดีกว่ากัน ประเมินตัวเลขเปรียบเทียบเลย เหมือนกับทำโครงการ 2 โครงการ
ต้องสะท้อนความจริงด้วย ว่ารถซื้อ เผื่อค่าบำรุงรักษาอีกสักนิดหน่อยด้วย เพื่อให้เห็นว่าเรามองครบรอบด้าน
=> แต่่ถ้าบริษัทเล็ก เพราะไม่มีเงินจ่ายครั้งเดียวมากนัก
- อาจวางแผนระยะแรกเช่าไปก่อน จน 2-3 ปี ฐานะมั่นคงค่อยๆ มาทบทวนการซื้อ
- หรือถ้ารถที่ว่าต้องการหลายคัน ก็บางคันซื้อ ผสมกันกับเช่า ตามกำลังในท้องพระคลัง
- หรือ "เช่าซื้อ" อย่างคุณ Tsurumi ว่า อาจได้เงื่อนไขผ่อนปรนที่ดีขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การซื้อรถกับการเช่ารถ
โพสต์ที่ 4
นอกจากเรื่องเงินแล้วเรื่องการแข่งขันก็เกี่ยวด้วยครับ เดี๋ยวนี้รถ taxi คนเขาชอบโบกรถใหม่ๆกัน รถเก่าๆคนโบกน้อยกว่า การเช่าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าพอรถเริ่มเก่าก็ไปเช่าคันไหมมาขับ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป