รวมข่าว และความรู้ อุตสาหกรรมประกันภัย/ประกันชีวิต

[kongkiti]

สืบเนื่องจาก...

นอกจากที่ที่ผ่านมา เอกลักษณ์ของ TVI คือมีการจัดหมวดหมู่เป็นตามชื่อหุ้น ห้องร้อยคนร้อยหุ้น

จะดีไหม เห็นความเห็นคุณ CONNICHIWA เลยคิดไปว่า ถ้าเราจะมีห้องถามตอบ หรือแพร่ความรู้เป็น sector ที่ไม่เกี่ยวกับหุ้นเลยก็ได้ เพื่อคนวิเคราะห์หุ้นจะได้มีความรู้เพิ่มเติมขยาย circle of competency ของตัวเองออกไป โดยมีเพื่อนที่มีความรู้เฉพาะด้าน แม้ไม่อยากลงทุน แต่ก็ช่วยให้ความรู้เป็นการแลกเปลี่ยน แล้วเราจะได้แหล่งรวมความรู้อีกชุดหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและตรงประเด็นกับการลงทุน VI
อย่างผมตอนนี้ไม่มีหุ้น ICT ใน port เลย แต่ถ้ามีห้องขึ้นมา ตอนว่างยินดีจะไปช่วยตอบในหมวด Technology แต่ถ้าจะให้ตระเวณไปดูครบห้องหุ้น ICT ทั้งหมดคงไม่ไหว

เพราะความรู้บางอย่าง หาได้จาก net ก็จริง แต่บางทีเป็นทฤษฎีแบบกว้างเป็นแม้น้ำ คนที่เพิ่งเริ่มจะไม่รู้จะเจาะลงไปจุดไหน คนที่ทำงานคลุกคลีในวงการนั้นจะให้ข้อมูลที่ตรงประเด็นกว่า
และหลา่ยครั้ง ยิ่งกว่้านั้น ในตำราก็ไม่มีเขียน อย่างเช่น ที่บอกเครื่องมือแพทย์ ให้คนภายนอกประเมิน ก็ต้องคิดว่าโอกาสดี กำไรงามโดยไม่รู้จริงว่าเป็นงานหินที่ต้องมีอะไรซับศ้อนในการขาย หรืองานก่อสร้าง ต้องจ่ายเงินค่างวดอย่างไร ตรวจรับงานแล้วค่อยรับเงิน แบบนั้นเป็นต้น

ถ้า่ไม่รู้จะจัดกลุ่มยังไง ก็ง่ายๆ เอาแบบตามของตลท. เลย ระยะแรก อาจเอากลุ่มก่อน อนาคตค่อยซอยเป็นหมวดย่อยๆ

อย่างแพทย์ของคุณหมอเค ปัจจุบันอยู่ใน กลุ่ม SERVICE หมวด HELTH (Service/Health Care)
ก่อสร้างของคุณ CONNICHIWA ก็ PROPCON/PROP ชื่อคล้ายป๊อปคอร์น แต่คุ้นๆ ว่าชื่อเต็มๆ เป็น properties & construction

เลยขอตั้งกระทู้ รวบรวมความรู้หมวดประกันภัย/ประกันชีวิต
ขอเชิญพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ ไม่ว่าจะเป็น พี่ Miracle, พี่ Chaitorn, พี่ Skyforever และท่านอื่นๆ อีกมากมาย เข้ามา Share ความรู้ให้น้องๆ สมาชิก ThaiVI หน่อยครับ

เราจะมาร่วมไขความลับของธุรกิจนี้กันว่า...
- ทำไม Warren Buffett ถึงชอบนักหนา ตกหลุมรัก กับธุรกิจนี้?...ธุรกิจที่เหมือนเส้นเลือดใหญ่ หล่อเลี้ยง Berkshire Hathaway
- แนวโน้มธุรกิจประกันภัย/ประกันชีวิต ในไทย เป็นอย่างไร? อีกกี่ปีถึงจะติดลมบนเหมือน ธุรกิจค้าปลีกบ้าง?
- และอื่นๆ อีกมากมาย

โม้มานาน ขอเชิญพี่ๆ มาช่วย Share dกันให้เต็มที่เลยนะครับ

[kongkiti]

อ่านกระทู้ดีๆ กันก่อนละกันนะครับ

นิทานบริษัทประกัน
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=50826

ประกันภัยต่อกับน้ำท่วม
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=50629

หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=39324

กลุ่มธุรกิจประกันภัย
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=25825

ปีของ บมจ ประกันภัย
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=15514

ในที่สุดก็วิเคราะห์เสร็จ เย้
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=42516

[kongkiti]

อ่านไปซักพักจะพบว่า ธุรกิจประกันต่างๆ มีความเป็น Cyclicals (วัฏจักร) เอามากๆ
ขึ้นลงตาม GDP
หากจะหลุดพ้นได้ คงต้องเอาเงินประกัน ไปลงทุนธุรกิจดีๆ แบบ อ.บัฟเฟฟต์
คำถามที่น่าสนใจคือ บริษัทประกัน ในไทย บริษัทไหน มีแนวทางลงทุนแบบนี้บ้าง? มีท่านใดพอทราบไหมครับ

[Guiman]

Sudyod krub p'kong kitti

[birthboro]

สำหรับคนชอบอ่านข่าวประกันครับ

http://paidoo.net/scoop/ประกันภัย

[kongkiti]

สำหรับคนชอบอ่านข่าวประกันครับ

http://paidoo.net/scoop/ประกันภัย

ขอบคุณมากครับ

[kongkiti]

ประกันภัย 13 บริษัทกำไรครึ่งปีฮวบ 237%
http://www.tqm.co.th/%E0%B8%82%E0%B9%88 ... 37?id=5426

ประกันภัย 13 บริษัทเผยผลกำไรครึ่งปี ล้านบาทติดลบ 237% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 2,803 ล้านบาท เหตุค่าใช้จ่ายในการจัดการและจ่ายสินไหมทดแทนเพิ่มเป็นหลัก ขณะที่ผลกำไรสุทธิมาจากอานิสงส์เงินลงทุน-รายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่ม เนื่องจากการเพิ่มทุนไตรมาสแรก
บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อชี้แจงผลการดำเนินงานงบการเงิน รวบรวมผลประกอบการของ 13 บริษัทประกันภัยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯสำหรับงบการเงินเฉพาะกิจไตรมาส 2/2555 และงวดหกเดือน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 และ 2554 พบว่า บริษัทประกันภัยทั้ง 13 แห่งส่วนใหญ่ยังมีกำไร แต่โดยรวมมีกำไรติดลบ 1,914 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่มีกำไร 1,509 ล้านบาท โดยบริษัทที่มีกำไรติดลบประกอบด้วย บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ ตามด้วย บมจ.ทิพยประกันภัยและบมจ.บางกอกสหประกันภัย (ดูตารางประกอบ) ขณะเดียวกัน 2 บริษัทประกันชีวิตยังสะท้อนผลกำไรจากการดำเนินงาน โดยบมจ.กรุงเทพประกันชีวิต โดยมีกำไรลดลง 24% เป็น 1,721 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,279 ล้านบาท ส่วนบมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิตมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 44.9% เป็น 1,664 ล้านบาท

นางฐิตาพร ธารากิจ รองผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ ชี้แจงผลการดำเนินงานงบการเงินไตรมาส 2/2555 แสดงผลขาดทุนสุทธิหลังภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 2,719 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 2,835 ล้านบาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเกิน 20% หรือ 24.5 เท่า สาเหตุเนื่องจากไตรมาส 4/2554 ได้เกิดอุทกภัยน้ำเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ เป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่เศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง วิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่องบการเงินของบริษัท บริษัทได้บันทึกค่าความเสียหายนี้ในงบการเงินในรายการค่าสินไหมทดแทนสุทธิ จำนวน 3,757 ล้านบาท หากไม่รวมผลจากเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทมีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2 เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 57% เนื่องมาจากการเพิ่มทุนในไตรมาส 1/2555 ส่งผลให้เงินลงทุนและรายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น

ทิศทางผลประกอบการของบริษัทประกันวินาศภัย
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยรายใหญ่แห่งหนึ่งระบุว่า ทิศทางผลประกอบการของบริษัทประกันวินาศภัยยังมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน คือ มีโอกาสขาดทุนจากการรับทำประกันภัยอาจต่อเนื่องไปไตรมาส 3 หรือไม่ต่ำกว่า 9 เดือนถึง 1 ปี ช่วงนี้จึงเป็นจังหวะการเร่งเคลียร์สินไหม และเร่งรัดให้บริษัทที่รับประกันภัยต่อ (รี อินชัวเรอร์) นำส่งเงินเข้าเพื่อจ่ายเคลม ซึ่งทิศทางบริษัทประกันเริ่มทำกำไรแบบไม่ติดลบน่าจะเห็นช่วงท้ายปี หรือต้นปี 2556

-จบ-

[kongkiti]

ประกันชีวิตจุก!ดอกเบี้ยลง-หุ้นไม่ขยับ‘เอไอเอ’ลุยประมูลตั๋วพีเอ็นอายุ 12-35 ปี เสริมผลตอบแทนแตะ 6%/ลุ้นเกณฑ์ลงทุนใหม่
http://www.siamturakij.com/home/news/di ... =413366126

สถานการณ์ลงทุนของธุรกิจประกันภัยในโมงยามที่กฎเกณฑ์การลงทุนฉบับใหม่ยังไม่คลอด ขณะที่เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามปริมาณเบี้ยประกันที่เข้ามาในแต่ละเดือน โดยเฉพาะประกันชีวิต ต้องพยายามจัดสรรการลงทุนเพื่อหาดอกผลตามภาระผูกพันในกรมธรรม์ ซึ่งยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอย่าง “เอไอเอ” เริ่มปรับพอร์ตลงทุนในส่วนของพันธบัตร และ Fix Income หรือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคงที่ โดยหันมาลงในพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักการลงทุนอื่นๆ ในส่วนของหุ้นเพิ่มขึ้น

ดอกเบี้ยลง-หุ้นไม่ขยับ

“ดอกเบี้ยยังขาลง ตลาดหุ้นก็ยังไม่ไปไหน ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ จึงมุ่งไปที่พันธบัตรระยะยาวมากกว่า เช่น ตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาว ของกระทรวงการคลัง เป็นต้น”

“อนุชา เหล่าขวัญสถิตย์” ผู้จัดการ ทั่วไป และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลงทุน บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่น แนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ ประเทศไทย) ให้ความเห็น พร้อมกับระบุว่า เตรียมจะเข้า ไปประมูลตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาวที่กระทรวง การคลังจะออกมาจำหน่ายในสัปดาห์หน้า

‘เอไอเอ’ เล็งประมูลตั๋วพีเอ็น

“กระทรวงการคลังจะออกตั๋วสัญญา ใช้เงิน (ตั๋วพีเอ็น) ระยะยาวอายุ 12-35 ปี เราก็อยากได้ที่อายุยาวที่สุด โดยอยากได้ ผลตอบแทนที่ 5-6% แต่ก็เชื่อว่าคงไม่มี โดยอัตราผลตอบแทนของตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่จะออกมาคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 4% กว่าๆ ส่วนจะเป็นวงเงินเท่าใดนั้นยังบอกไม่ได้ ขึ้นกับการประมูลว่าเราจะได้เท่าใด”

ทั้งนี้ เอไอเอมีเบี้ยใหม่เข้ามาเฉลี่ย 3,000-4,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับพอร์ตลงทุนรวมที่มีอยู่ประมาณ 550,000 ล้านบาท โดย 85% เป็นการลงทุนในพันธบัตร และ Fix Income เช่น หุ้นกู้ เป็นต้น อีก 15% ที่เหลือเป็นการลงทุนอื่นๆ เช่น หุ้น, เงินกู้ตามกรมธรรม์ เป็นต้น

“คาดว่าถึงสิ้นปีพอร์ตลงทุนน่าจะ เพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้า ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 5% แต่ถึงขณะนี้เชื่อว่าจะขยับขึ้นไปถึง 6% ได้”

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ระบุว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมาเอไอเอมี สินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น 562,831 ล้านบาท มีรายได้สุทธิจากการลงทุน 23,754 ล้านบาท มีกำไร 10,745 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 6.51%

ลุ้นเกณฑ์ลงทุนใหม่ยืดหยุ่น

ส่วนร่างประกาศเกณฑ์การลงทุนใหม่ของธุรกิจประกันภัยที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบถามความคิดเห็นจากบริษัทประกันภัยนั้น “อนุชา” กล่าวว่า เป็นการแจ้งให้ทราบในกรอบ กว้างๆ ว่าเกณฑ์ใหม่จะเป็นอย่างไร โดยเน้นในเรื่องของธรรมาภิบาล (Good Governance) เช่น เรื่องของคณะ กรรมการลงทุน คุณสมบัติของผู้จัดการกองทุน เป็นต้น ส่วนรายละเอียดยังไม่ได้ลงลึกในเรื่องนี้ ต้องมาคุยกันก่อน

ด้าน “นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมุทร ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็น “สยามธุรกิจ” ว่า ร่างประกาศลงทุนใหม่ของธุรกิจประกันภัยที่คปภ.กำลังอยู่ระหว่าง สอบถามความคิดเห็นภาคเอกชนนั้น มองในภาพรวมจะเปิดโอกาสให้กับบริษัทที่มีความพร้อมในเรื่องของการบริหารจัดการ ความเสี่ยง (Risk Management) มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้อง ดำรงตามกฎหมาย (CAR Ratio) สูงมีโอกาสลงทุนได้มากขึ้น

“ส่วนที่ว่าจะขยายเพิ่มการลงทุนอย่างไรบ้างนั้น เป็นรายละเอียดที่ต้องไปดูค่าอัตราส่วนต่างๆ ที่เป็นตัวชี้วัดด้วย ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องนี้ ต้องมาดูกันก่อน แต่กรอบใหญ่พอจะมองเห็นแล้วว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร มีความยืดหยุ่นมาก ขึ้น รวมไปถึงการลงทุนต่างประเทศที่จะขยายให้มากขึ้น โดยดูจากค่า CAR Ratio ว่าแต่ละบริษัทจะสามารถไปลงทุนอะไรยังไงได้บ้าง”

-จบ-