สงสัยว่า 48 บริษัทที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดแบบ Aprint

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

สงสัยว่า 48 บริษัทที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดแบบ Aprint

โพสต์ที่ 1

โพสต์

APRINT หุ้นปันผลดีที่น่าจับตาในปี 2555

มนุษย์มีความสามารถในการยอมรับ “ความเสี่ยง” ที่แตกต่างกันไป หากทว่า ในศตวรรษที่ 21 ทางเลือกและข้อมูลข่าวสารในการลงทุนเป็นสิ่งที่แพร่สะพัดไปทั่ว ดังนั้น ผู้คนแห่งยุคสมัยนี้จึงมีความกระหายที่จะได้รับผลตอบแทนสำหรับเงินออมที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร แม้ว่าในใจยังหวาดกลัวอยู่มิวายก็ตาม

“หุ้นปันผล” จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนสำหรับมนุษย์ที่เกลียดชังความเสี่ยงอย่างเข้ากระดูกดำ

1. ผลกำไรของบริษัทมีความสม่ำเสมอ อาจมีบางปีที่ลดต่ำลงบ้าง แต่ก็สามารถเพิ่มกลับขึ้นมาในเวลาไม่นานนัก เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่ธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง (Sunset)

หลักเกณฑ์สำคัญในการเลือกหุ้นปันผล ไม่ควรเริ่มต้นที่อัตราเงินปันผลต่อปี เนื่องจากอาจมีหุ้นบางตัวที่จ่ายปันผลดีมาโดยตลอด หากทว่าธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งในที่สุดเมื่อกำไรลดลง ก็ย่อมทำให้เงินปันผลลดลงตามไปด้วย ยังไม่นับว่าราคาหุ้นที่มีแนวโน้มจะปรับตัวลงตามผลกำไร จึงทำให้ผู้ถือหุ้นตัวนี้ต้องขาดทุนเงินต้นไปอีกด้วย

นอกจาก APRINT จะมีการเปิดตัวนิตยสารและสำนักพิมพ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายแล้ว ยังมีการขยายไปสู่ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจจัดอบรมสัมมนา ธุรกิจรับจัดงานอีเวนท์ และธุรกิจโทรทัศน์ เพื่อทำให้ Content ที่ผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องของบริษัท สามารถนำไปใช้สร้างผลกำไรได้อย่างหลากหลายยิ่ง

2. ปันผลควรจ่ายสม่ำเสมอ ทั้งในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง โดยมีผลตอบแทนมากกว่า 5 เปอร์เซนต์ต่อปี

หุ้นบางตัวอาจจ่ายปันผลสูงมากในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต เนื่องจากผลกำไรของบริษัทมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาวะเศรษฐกิจ หากทว่าเมื่อยามเศรษฐกิจขาลง หุ้นตัวนี้ก็จะจ่ายปันผลให้ต่ำอย่างน่าใจหาย เนื่องจากผลกำไรที่ลดลง

APRINT ยังมีรายชื่อเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลเงินสด 15 ปีติดต่อกันในระหว่างปี 2539-2553 ซึ่งน่าแปลกใจว่ามีทั้งหมดเพียง 48 บริษัทเท่านั้น

ความได้เปรียบของ APRINT ในปี 2555 ก็คือ หุ้นปันผลหลายตัวได้มีราคาสูงขึ้นมากแล้ว จึงอาจทำให้เงินปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้นมีอัตราที่ลดลง ในขณะที่ APRINT ยังคงอยู่ที่ 6-7 เปอร์เซนต์ต่อปี

ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่จ่ายปันผลมากกว่า APRINT ในปีนี้ หากทว่าก็อาจเป็นหุ้นดีในอุตสาหกรรมที่มีความผันผวน ทำให้ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนหุ้นปันผลที่ไม่ชอบความเสี่ยงมากมายนัก

3. หากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ก็อาจเป็นโอกาสในการขายเพื่อทำกำไร หากราคาปรับตัวลดลง ก็อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ทั้งนี้ต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาไม่ได้มาจากพื้นฐานของกิจการที่เปลี่ยนไป

“หุ้นปันผล” อาจมีการเคลื่อนไหวของราคาที่เชื่องช้า จนกระทั่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่นิยมเข้าไปลงทุนในหุ้นประเภทนี้ หากทว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยงซึ่งนิยมลงทุนในหุ้นปันผล ก็อาจทดลองแสวงหากำไรจากส่วนต่างราคาได้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อระดับราคามีความเคลื่อนไหวที่สูงกว่าช่วงเวลาปรกติ เพื่อจะได้กลับมาซื้อในช่วงราคาที่ต่ำกว่า ซึ่งทำให้ได้รับกำไรอย่างอิ่มเอมใจ

APRINT ในช่วงหลายปีนี้ ก็มีราคาเคลื่อนไหวระหว่าง 11-14 บาท ซึ่งมีช่องว่างให้ทำกำไรได้ระดับหนึ่ง หากทว่า สิ่งที่พึงระวังก็คือ หากขายแล้วซื้อคืนไม่ทัน ก็อาจทำให้พลาดปันผลประจำปีนี้ไปเลย

ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ ราคาที่เชื่องช้ามาหลายปี ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ หากว่าธุรกิจ “ต่อยอด” ที่ APRINT ได้เริ่มต้นไว้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เริ่มส่งผลต่อกำไรให้มีความเติบโตที่สูงกว่าเคยเป็นมา การขายหุ้นทิ้งเพียงเพื่อต้องการส่วนต่างราคาเล็กน้อย ก็อาจเป็นการขาดทุนกำไรที่เจ็บปวดยิ่งในอนาคตได้

ศตวรรษที่ 21 เป็นยุคสมัยที่เต็มไปด้วยโอกาสของผู้มีความรู้ความสามารถ ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้เงินออมต้องจมปลักอยู่ในธนาคารเท่านั้น หากยังสามารถเปิดหูเปิดตาเพื่อค้นหาการลงทุนที่สอดคล้องกับลักษณะนิสัย ความกล้า และความกลัวของเรา

ในปี 2555 เมื่อตลาดปรับตัวขึ้นมาถึงประมาณ 1200 จุด การเฟ้นหาหุ้นปันผลสักตัวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อหุ้นที่เคยปันผลดีหลายตัว ได้มีราคาสูงขึ้นมามากแล้ว โดยบางตัวสูงขึ้นมาถึง 5 เท่า จึงทำให้อัตราเงินปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้นไม่น่าสนใจอีกต่อไป

การที่ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีของนักลงทุนหุ้นปันผลที่เคยซื้อหุ้นเหล่านี้ไว้ในหลายปีก่อน เพราะนอกจากได้กำไรจากผลตอบแทนเงินปันผลแล้ว ยังได้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นอีกด้วย (Capital Gain) เพียงแต่ว่าเมื่อหุ้นขึ้นมาถึงระดับนี้แล้ว นักลงทุนจะต้องตัดสินใจว่าจะขายหุ้นทิ้งดีหรือไม่ เพราะแม้ผลตอบแทนเงินปันผลต่อหุ้นที่ตัวเองถือไว้จะยังคงสูงเหมือนเดิม หากทว่าผลตอบแทนเมื่อเทียบกับราคาปัจจุบันอาจไม่น่าดึงดูดใจนัก นักลงทุนที่ชอบหุ้นปันผลจึงอาจสามารถขายหุ้นตัวนี้ทิ้ง แล้วนำเงินที่เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคา ซึ่งอาจจะสูงถึง 5 เท่า เพื่อเข้ามาลงทุนในหุ้นปันผลตัวอื่น ที่ราคายังไม่สูงขึ้นไป

ยิ่งกว่านั้น นักลงทุนหุ้นปันผลบางคน อาจรู้สึกติดใจกับราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งเปลี่ยนนิสัยการลงทุนมาสู่หุ้นเติบโต (Growth Stock) ก็ยังคงต้องตัดสินใจอยู่ดีว่าจะขายหุ้นที่ได้โตมาหลายเท่านี้ทิ้งไป เพื่อไปเลือกซื้อหุ้นตัวใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงกว่านี้ดีหรือไม่

การเลือกเฟ้นหุ้นปันผล จึงไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายดายเลย จะต้องมีความละเอียดและใส่ใจไม่แพ้การลงทุนประเภทอื่น

APRINT นับเป็นหุ้นปันผลตัวหนึ่งที่น่าสนใจ แม้จะมีกำไรเติบโตไม่หวือหวา ในบางปีอาจมีผลกำไรที่ลดลงบ้าง แต่ก็ยังสามารถรักษาแนวโน้มการเติบโตระยะยาวของผลกำไรไว้ได้ ซึ่งสะท้อนว่าธุรกิจยังไม่ใช่ขาลง แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ หากทว่า APRINT ก็ได้พิสูจน์ตนเองมาอย่างยาวนานว่าสามารถทำกำไรในอุตสาหกรรมนี้ได้

เป็นบทความเป็น APRINT ได้ดีมากเลยครับ ...
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

Re: สงสัยว่า 48 บริษัทที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดแบบ Aprint

โพสต์ที่ 2

โพสต์

สงสัยว่า 48 บริษัทที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดแบบ Aprint ตลอดระยะเวลา 15 ปี มีอะไรบ้าง
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
โจโฉ
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

Re: สงสัยว่า 48 บริษัทที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดแบบ Aprint

โพสต์ที่ 3

โพสต์

โพสต์โพสต์