วันที่/เวลา 06 มี.ค. 2556 18:50:33
หัวข้อข่าว SET News : ปี 55 บจ. โชว์ศักยภาพทำยอดขายและกำไรรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์
หลักทรัพย์ SET
แหล่งข่าว SET
รายละเอียดแบบเต็ม คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม
ฉบับที่ 17/ 2556
6 มีนาคม 2556
ปี 55 บจ. โชว์ศักยภาพทำยอดขายและกำไรรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์
บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุน ทำยอดขายปี 2555 รวม 10,372,084 ล้านบาท ทะลุ 10 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 13.98% จากปี 2554 ด้านกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 726,816 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เพิ่มขึ้น 15.67% จากปีก่อน ผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่น
สร้างความน่าสนใจให้ตลาดหุ้นไทยและผลักดันให้ดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 19 ปี
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ (SET) จำนวน 469 บริษัท หรือ 96.90% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 484 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG)
ได้นำส่งผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 แล้ว โดยมี บจ.ที่มีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานจำนวน 396 บริษัท คิดเป็น 84.43% ของบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด ทั้งนี้พบยอดขายรวมของ บจ. เพิ่มขึ้นเกิน 10 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรกและกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนความสามารถในการทำกำไรเปรียบเทียบปี 2555 กับปีก่อนหน้าพบว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยจาก 18.59% เป็น 17.98% ส่วนอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 6.91% เป็น 7.01% ด้านอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1.23 เท่า
"ยอดขายรวมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาส
จากการบริโภคและลงทุนในประเทศที่ยังเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงยอดขายของ บจ.
ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น
จากปริมาณการจำหน่ายและราคาที่สูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของยอดขายปี 2555 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีที่ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าสาเหตุหลักมาจากกำไรขั้นต้นในไตรมาส 1 ที่ลดลงมากเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมปลายปี 2554 อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นมา อัตรากำไรขั้นต้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้ากลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาส
จากความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น และการเร่งผลิตสินค้าสามารถตอบสนองความต้องการบริโภคและลงทุนได้เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลง สำหรับอัตรากำไรสุทธิทั้งปีดีขึ้นเล็กน้อย โดยกลับมาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 หลังจากผลกระทบเรื่องน้ำท่วมและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวนมากในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ผ่านไปซึ่งทำให้อัตรากำไรสุทธิในช่วงดังกล่าวลดลง นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและกำไรด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทที่แข็งค่าอีกด้วย" นายชนิตรกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. ปตท.
สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรรวมปี 2555 สูงสุด ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรรวมปี 2555 สูงสุด 3 อันดับแรก จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่
หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยทั้ง 3 หมวดมีกำไรสุทธิรวม 441,420 ล้านบาท คิดเป็น 60.73% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด และยอดขายรวมของทั้ง 3 หมวดคิดเป็น 55.11% ของยอดขายรวมทั้งหมด
กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย "สานโอกาสการลงทุน เพื่อคุณ เพื่อธุรกิจ"