ตลาดหุ้นสมาธิสั้น

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4254
ผู้ติดตาม: 1

ตลาดหุ้นสมาธิสั้น

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตลาดหุ้นสมาธิสั้น
updated: 14 มี.ค. 2556 เวลา 14:46:52 น.
คอลัมน์ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ โดย วีระพงษ์ ธัม

หลาย ๆ ปีที่ผ่านมา โลกมีแนวโน้มใหม่ ๆ เกิดขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ "วิถีชีวิตของผู้คน" จนทำให้ความเป็นไปในอดีตแตกต่างกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ผมอยากเรียกมันว่า "สังคมสมาธิสั้น" มาดูกันว่ารอบตัวท่านเป็นเช่นนี้หรือไม่

ในวัยเด็ก เราอาจจะสามารถเล่นอะไรบางอย่างได้เป็นวัน ๆ เล่นเกมเดิม ๆ ได้ ไม่มีเบื่อ แต่เด็กสมัยนี้ เกมเดียวบนไอแพดคงไม่พอ เด็กไม่สามารถเล่นอะไรซ้ำ ๆ ได้ และพวกเขาสามารถโหลดแอปใหม่ได้อย่างง่ายดาย ขนมที่เราเคยกินซ้ำ ๆ เหมือนเดิมก็ถูกเปลี่ยนไปด้วยความหลากหลายที่มีให้เลือกไม่รู้จบ

หนังสือการ์ตูนที่เคยอ่านเหมือนกันทุกคน เช่น โดราเอมอน หรือดราก้อนบอล

ถ้าตอนนี้ไปดูที่แผงจะมีให้เลือกมากมาย และเนื้อหาส่วนมากจะต้องจบรวดเร็ว

เนื้อ เรื่องไม่ยืดยาดเหมือนในอดีตวิถีชีวิตผู้ใหญ่รุ่นใหม่ในปัจจุบันก็มีแนวโน้ม เช่นเดียวกัน เราไม่สามารถนั่งดูทีวีเฉย ๆ ได้อีกต่อไป เพราะอีกมือหนึ่งต้องเอาสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตมานั่งเปิดเฟซบุ๊ก

หรือดูเว็บพร้อม ๆ กันเสมอ เราไม่สามารถรับประทานอาหารร้านเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ได้เหมือนก่อน จำเป็นต้องหาร้านอาหารใหม่ ๆ

ตลอด เวลา รวมถึงหนังสือ บทความ หรือหนังสือพิมพ์ จำเป็นต้องกระชับ เพราะไม่สามารถอ่านรวดเดียวจบได้เหมือนแต่ก่อน รวมทั้งการเกิดกระแสจะใช้เวลาสั้นมาก และหมดเร็วมาก เช่นหนังใหม่อยู่ในโรงแค่ไม่กี่วัน ถ้าไม่เกิดกระแส หนังเรื่องนั้นก็จะถูกถอดออกอย่างรวดเร็วไม่เว้นแม้แต่แนวคิดในการทำงาน งานที่เป็นงานประจำเริ่มไม่น่าสนใจ คนรุ่นใหม่

ชอบอะไรสั้น ๆ เร็ว ๆ มากกว่า เช่น งานที่ทำเป็นจ๊อบ ๆ ทำแล้วจบไป หรือถ้าทำงานบริษัทก็ทำกันน้อยปีกว่าเดิมแล้วก็เปลี่ยน ธุรกิจหลายอย่างจึงมี Turn over พนักงานสูงถึง 50% ทีเดียว หรือแม้กระทั่งงานที่น่าสนใจ จะต้องเป็นงานที่ "รวยเร็ว"

จึงเกิดกระแสการมาลงทุนในตลาดหุ้นพร้อม ๆ กับการทำงานประจำ ลักษณะอาการทั้งหมดผมขอเรียกว่า สังคมสมาธิสั้น อาการคงคล้าย ๆ กับ

โรค สมาธิสั้น หนึ่งคือไม่มีสมาธิ วอกแวกกับสิ่งเร้าต่าง ๆ ได้มาก สองคืออยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ต้องไปไหนมาไหนหรือต้องมีอะไรทำตลอดเวลา สามคือขาดความอดทนรอคอย ซึ่งทั้งหมดเป็นอาการที่เกิดขึ้นในสังคมยุคใหม่ ซึ่งผมไม่ได้หมายถึงการเป็นโรค แต่เป็นวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

มาที่ตลาดหุ้น ซึ่งผมก็เห็นลักษณะเดียวกัน เริ่มต้นจากเว็บบอร์ดหุ้น เมื่อ 6-7 ปี

ที่ แล้วนักลงทุนต่างถกหุ้นกันนานนับเดือนโดยที่ราคาหุ้นไม่ไปไหน เราสามารถใช้สมาธิกับการวิเคราะห์หุ้นตัวเดียว สามารถซื้อและอยู่เฉย ๆ อดทนรอคอยมันได้เป็นแรมเดือนแรมปี แต่ในปัจจุบัน หุ้นใน

เว็บบอร์ดจะ วิ่งขึ้นลงรวดเร็วและหลากหลายกว่าเดิม และถ้าหุ้นตัวไหน "ไม่วิ่ง" หรือทำอากัปกิริยาน่าเบื่อ ราคาหุ้นนิ่ง ๆ ก็จะถูกลืมอย่างรวดเร็ว

ยิ่ง กว่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็ถูกยั่วยวนด้วยเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ ไม่ต่างจากขนม เกม ที่มีให้เด็กรุ่นใหม่เลือกมากมาย เราสร้างเครื่องมืออย่าง Derivative warrant

(DW) เพื่อตอบสนองสังคมสมาธิสั้นในตลาดหุ้น เครื่องมือเหล่านี้มีสิ่งที่เรียกว่า Gearing สูงมาก คือ เราเดิมพันในอัตราทดที่สูงกว่าเงินต้นมาก เพื่อให้เวลารอคอยที่แสนจะน่าเบื่อน้อยลง เครื่องมือที่ใช้

เพิ่มทุนขยายงาน อย่าง Warrant ก็นำมาใช้เพื่อตอบสนองนักลงทุน เรียกได้ว่ายุคนี้ถ้าหุ้นไม่วิ่ง 5-10% เรียกว่าไม่ประทับใจ

และผลตอบแทนที่น่าประทับใจ อย่างการตั้งเป้าหมายผลตอบแทนทบต้น 10-15% ต่อปี ค่อย ๆ เป็นอดีต และไม่มีใครพูดถึงมัน

อีก อาการหนึ่งคือ ลืมง่าย หุ้นตัวไหนที่ผู้บริหารสีเทา ๆ เรื่องธรรมาภิบาลก็จะถูกลืมไป เพราะตลาดหุ้นสมาธิสั้นนั้นไม่สนใจ เราสนใจแต่เพียงว่าหุ้นตัวไหนวิ่งหรือมี Story ที่น่าสนใจ โดยที่ Story นั้น ๆ ต้องมาด่วนแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสียด้วย

นักลงทุน VI ต้องตั้งสมาธิดี ๆ เข้าใจ

ใน สองสิ่ง คือ ภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ใครได้ประโยชน์บ้าง และภาพการลงทุนในตลาดหุ้น ถ้าเรามองเหมือนธุรกิจ มันจะต้องนานกว่านั้น เราจะเป็นโรคสมาธิสั้นไม่ได้ เพราะในทางธุรกิจ "นานดี ถึงจะดีนาน" ครับ

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=0200
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
โพสต์โพสต์