ก.ล.ต. กล่าวโทษ “ฉาย บุนนาค” กับพวกสร้างราคา ML และ MAX

[syj]

ก.ล.ต. กล่าวโทษ “ฉาย บุนนาค” กับพวกสร้างราคา ML และ MAX
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2556 17:49 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ก.ล.ต. กล่าวโทษ “ฉาย บุนนาค” กับพวกรวม 13 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ วันนี้ (1 เม.ย.) กรณีเป็นผู้รู้เห็น และผู้สนับสนุนในการสร้างราคาหลักทรัพย์ บมจ.ไมด้า ลิสซิ่ง (ML) ในปี 2551 และ 2553 และ บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX) ในปี 2553

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายฉาย บุนนาค กับพวกรวม 13 ราย ได้แก่ นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล นางมะลิวัลย์ วงศ์ชินศรี น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี นายสุพิชยะ ฉายเหมือนวงศ์ นายปัณณทัต กล่อมสมร นายพาวิตต์ นาถะพินธุ นายศรัณย์ ส่งโชติกุลพันธ์ นายเทพฤทธิ์ สีหิสราภิสิทธิ์ น.ส.ดวงกมล เกียรติสุขเกษม นายมีศักดิ์ มากบำรุง น.ส.สุรัสวดี เกตุทัต และนายไท บุญปราศภัย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 กรณีเป็นผู้รู้เห็น และผู้สนับสนุนในการสร้างราคาหลักทรัพย์บริษัทไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ML) ในปี 2551 และ 2553 และบริษัทแมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MAX) ในปี 2553

ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า พบสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผิดปกติในหุ้น ML ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม 2551 ถึงเดือนพฤษภาคม 2551 และช่วงเดือนสิงหาคม 2553 และหุ้น MAX ในช่วงเดือนกันยายน 2553 และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบพยานหลักฐานน่าเชื่อว่า นายฉาย กับพวก ได้สั่งซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลต่างๆ จำนวนมาก โดยมีพฤติกรรมอำพรางในลักษณะการเข้าไปส่งคำสั่งซื้อขายในปริมาณมากหลายระดับราคา มีการครอง bid และ offer ผลักดันราคา จับคู่ซื้อขายกันเองภายในกลุ่ม กระตุ้นการซื้อขายด้วยการทยอยส่งคำสั่งซื้อ หรือเคาะซื้อด้วยจำนวนย่อยๆ ที่ระดับราคาเดียวกันหลายรายการ ตลอดจนพยุงราคาหลักทรัพย์เพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหลักทรัพย์นั้นมีการซื้อขายกันมาก หรือราคาเปลี่ยนแปลงไป โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่อง ส่งผลให้การซื้อหรือขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น ก.ล.ต. เห็นว่าการกระทำของนายฉาย กับพวกมีหลักฐานน่าเชื่อว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) (2) และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นอกจากนี้ การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบัญชีของบุคคลต่างๆ น่าเชื่อว่าเป็นการซื้อขายเพื่อประโยชน์ของนายฉาย แต่ไม่พบว่านายฉาย ได้เคยรายงานการได้มา หรือจำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดแต่อย่างใด เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ด้วย จึงกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดังนี้

(1) หุ้น ML ในช่วงปี 2551 กล่าวโทษนายฉาย บุนนาค นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล และนางมะลิวัลย์ วงศ์ชินศรี ในฐานะมีส่วนรู้เห็น หรือตกลงร่วมกันในการสร้างราคาหลักทรัพย์ และ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ นายฉาย ในการส่งคำสั่งซื้อขายที่เป็นการสร้างราคาหลักทรัพย์

(2) หุ้น ML ในเดือนสิงหาคม 2553 กล่าวโทษนายฉาย บุนนาค นายสุพิชยะ ฉายเหมือนวงศ์ ในฐานะมีส่วนรู้เห็น หรือตกลงร่วมกันในการสร้างราคาหลักทรัพย์ และนายปัณณทัต กล่อมสมร นายพาวิตต์ นาถะพินธุ นายศรัณย์ ส่งโชติกุลพันธ์ นายเทพฤทธิ์ สีหิสราภิสิทธิ์ และ น.ส.ดวงกมล เกียรติสุขเกษม ในฐานะเจ้าของบัญชีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ นายฉาย ในการสร้างราคาหลักทรัพย์ และนายไท บุญปราศภัย ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ นายฉาย ในการสร้างราคาหลักทรัพย์

(3) หุ้น MAX ในเดือนกันยายน 2553 กล่าวโทษนายฉาย บุนนาค ในฐานะมีส่วนรู้เห็น หรือตกลงร่วมกันในการสร้างราคาหลักทรัพย์ ตลอดจน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) นายปัณณทัต กล่อมสมร นายพาวิตต์ นาถะพินธุ นายศรัณย์ ส่งโชติกุลพันธ์ นายเทพฤทธิ์ สีหิสราภิสิทธิ์ น.ส.ดวงกมล เกียรติสุขเกษม นายมีศักดิ์ มากบำรุง และ น.ส.สุรัสวดี เกตุทัต ในฐานะเจ้าของบัญชีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ นายฉาย ในการสร้างราคาหลักทรัพย์ และนายไท บุญปราศภัย ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ นายฉาย ในการสร้างราคาหลักทรัพย์

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นอำนาจ และดุลพินิจของศาลยุติธรรม

http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNe ... 0000039486

[harikung]

จริงๆน่าจะลงโทษนสพ.บางฉบับที่เกี่ยวหุ้นที่ชอบลงข่าวมั่วๆด้วยนะ มันกระทบนลท.ในวงกว้างกว่าเยอะ

[birdflu]

บทลงโทษคงไม่หนักพอ ไม่งั้นคงจะไม่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เย้ยกฎหมายแบบนี้หรอกครับ

[ดำ]

จริงๆน่าจะลงโทษนสพ.บางฉบับที่เกี่ยวหุ้นที่ชอบลงข่าวมั่วๆด้วยนะ มันกระทบนลท.ในวงกว้างกว่าเยอะ

นั่นสิครับ หลักฐานก็เห็นอยู่จะจะ คดีหลอกลองนี่น่าจะเข้าข่ายคดีอาญา จำเป็นต้องมีคนฟ้องรึเปล่าครับ

[syj]

การเงิน - การลงทุน
วันที่ 2 เมษายน 2556 10:07
ประวัติเซียนหุ้นร้อยล้าน'ฉาย บุนนาค'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เปิดปูมเซียนหุ้นร้อยล้าน "ฉาย บุนนาค" เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่ปี"46 หลังจบไฟแนนซ์

ฉาย บุนนาค เป็นลูกชายคนเดียว ของ โฉมพิศ บุนนาค อดีตผู้บริหาร บง.เอกธนกิจ ส่วนบิดา คือ ยุทธ ชินสุภัคกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก และ บมจ.เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์

เข้าสู่วงการหุ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2546 หลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านไฟแนนซ์ จาก LSE (London School Of Economics) ประเทศอังกฤษ

หลังจากเรียนจบ เข้าทำงานหลายแห่ง ทั้งที่ บริษัท เอิร์นแอนด์ยัง จำกัด ฝ่ายวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ของ บล.ซีมิโก้ และที่สุดท้าย คือ บล.นครหลวงไทย ก่อนจะลาออกมาเรียนต่อปริญญาโทที่ศศินทร์ อย่างเต็มตัว

ผันชีวิตเข้าสู่วงการหุ้นอย่างเร่าร้อน มีพอร์ตเล่นหุ้นระดับ "หลายร้อยล้านบาท"

http://bit.ly/16sGRsF

[syj]

การเงิน - การลงทุน
วันที่ 2 เมษายน 2556 10:12
ไม่ใช่คดีแรกของ 'ฉาย บุนนาค'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. ต่อดีเอสไอครั้งนี้ ถือว่าหนักกว่าครั้งก่อนๆ เพราะเป็นการกล่าวหาว่าสร้างราคาหุ้นและมีโทษอาญา

แต่ไม่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ "ฉาย บุนนาค" เคยมีปัญหากับฝ่ายตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์และสำนักงาน ก.ล.ต. เพราะก่อนหน้านั้น เคยถูกตรวจสอบ โดยการเรียกไปคุยและถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในเรื่องการสร้างราคาหุ้น
ฉาย เป็นลูกชายคนเดียว ของ โฉมพิศ บุนนาค อดีตผู้บริหาร บง.เอกธนกิจ ส่วนบิดา คือ ยุทธ ชินสุภัคกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก และ บมจ.เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์

ฉาย เข้าสู่วงการหุ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2546 หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านไฟแนนซ์ จาก LSE (London School Of Economics) ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เรียนจบเคยทำงานมาแล้วหลายที่ ทั้งที่บริษัท เอิร์นแอนด์ยัง จำกัด ฝ่ายวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ของ บล.ซีมิโก้ และ ที่สุดท้าย คือ บล.นครหลวงไทย ก่อนจะลาออกมาเรียนต่อปริญญาโทที่ศศินทร์ อย่างเต็มตัว และผันชีวิตเข้าสู่วงการหุ้นอย่างเร่าร้อน มีพอร์ตเล่นหุ้นระดับ "หลายร้อยล้านบาท"

แต่การลงทุนในตลาดหุ้นของเขาถูกจับตามาโดยตลอด

หากย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2552 นายฉาย ถูก ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 4,839,863 บาท สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-4 เม.ย. 2549 ในขณะทำงานเป็นหัวหน้าทีมมาร์เก็ตติ้ง บล.ฟาร์อีสท์ ร่วมกับทีมมาร์เก็ตติ้งอีก 2 คน ทำการซื้อขายหุ้น DTCI ผ่านบัญชีบุคคลอื่น 5 บัญชี โดยถูกกล่าวหาว่าเข้าข่ายสร้างราคาอย่างผิดปกติ

หลังจากนั้น ชื่อของเขาจะมีปรากฏให้เห็นในข่าวเป็นระยะๆ

แต่เมื่อปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. เล่นแรงมากกว่าค่าปรับ โดยกล่าวโทษนายฉาย กับพวกรวม 15 รายต่อดีเอสไอ กรณีเป็นผู้สั่งการและผู้สนับสนุนในการสร้างราคาหลักทรัพย์จำนวน 12 หลักทรัพย์ ระหว่างปี 2551-2553

ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่สอง ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษต่อดีเอสไอ จึงต้องจับตาดูว่าคดีนี้จะลงโทษได้ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ถือว่ามีน้อยอย่างยิ่งที่สามารถเอาผิดได้ตามกฎหมายในคดีปั่นหุ้น

http://bit.ly/11eLjdq

[syj]

ดีเอสไอย้ำกล่าวโทษ'ฉาย'อยู่ที่หลักฐาน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"พ.ต.ท.วรรณพงษ์"ระบุรอเอกสารก.ล.ต.ที่จะส่งมาเพิ่มกรณีปั่นหุ้นของ"ฉาย บุนนาค" ย้ำการสอบขึ้นกับพยานหลักฐานที่จะกล่าวโทษ

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักคดีการเงินธนาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจทีวี”เรื่อง"ดีเอสไอ"ลุยสอบปั่นหุ้น กรณี"ฉาย บุนนาค" โดยยังรอเอสารใหม่ที่ก.ล.ต.จะส่งมาให้เพิ่ม โดยขณะนี้เอกสารที่ก.ล.ต.ส่งไปให้นั้นมีอยู่ประมาณ 5-6 คดี

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอเอกสารใหม่จากก.ล.ต.กรณีการปั่นหุ้นของคุณฉาย บุนนาค ส่งมาให้ดีเอสไอ โดยคดียังไม่รับข้อมูลในเบื้องต้นว่าเพิ่มในเรื่องอะไรบ้าง และไม่หนักใจในคดีปั่นหุ้น จริงๆ เราก็ทำมาโดยตลอด มีหลายคดีที่เราดำเนินการมา

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า กรณีการปั่นหุ้นคุณฉายอยู่ในมือดีเอสไอ มีอยู่แล้วประมาณสัก 5-6 คดี ยังไม่รวมอันใหม่ที่ก.ล.ต.กำลังจะส่งมา โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของทางดีเอสไอ ยังมีข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ประกอบกับมีบุคคลที่เกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ คงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอก่อนที่จะกล่าวโทษใคร หรือกล่าวหาใคร ว่าเป็นคนกระทำผิด ยังให้รายละเอียดไม่ได้

"ขบวนการสอบสวนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในแต่ละเรื่อง อย่างบางเรื่องก็มีจำนวนหลักทรัพย์หลายตัว และมีคนเกี่ยวข้องเยอะ รายละเอียดเนื้อหาอาจต้องเยอะตามไป บางเรื่องไม่ซับซ้อนนัก ก็คงใช้เวลาไม่มาก "พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าว

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการปั่นหุ้นกับบุคคลอื่นๆมีการส่งฟ้องไปบ้างแล้วก็มีหลายๆ คดีที่ผ่านมีสถิติอยู่ บางคดีอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล คงต้องรอชั้นศาลพิจารณาว่าจะพิจารณาจากพยานหลักฐานที่เราได้นำเสนอผ่านพนักงานอัยการไปอย่างไร โดยการสอบสวนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานเป็นหลัก เรื่องล้มมวยทางดีเอสไอเราไม่มีเรื่องแบบนี้ เราดำเนินค่อนข้างจะรัดกุม จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเหมือนกัน แต่ในทางปฏิบัติของเราทำเป็นคณะทำงาน แต่ละขั้นตอนมีการตรวจทาน มีการตรวจสอบสำนวน กวดขัน กำกับดูแลค่อนข้างจะใกล้ชิด

http://bit.ly/16trdxf

[syj]

"กรุงเทพธุรกิจ" ย้อนรอยคดีปี"55 "ฉาย บุนนาค"กับพวก"ปั่นหุ้น" สร้างราคาหลักทรัพย์ 12 ตัวตั้งแต่ปี"2552-2553" หลอกนักลงทุนแห่ซื้อตาม

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายฉาย บุนนาค กับพวกรวม 15 ราย ได้แก่ นายปฐมัน บูรณะสิน นายสุพิชยะ ฉายเหมือนวงศ์ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี น.ส.มัณฑิกา ขุนโหร นายอภินันทกานต์ พงศ์สถาบดี นายมีศักดิ์ มากบำรุง น.ส.ศิริญา ดำรงวิถีธรรม น.ส.ชนาธิป ตันติพูนธรรม นายทรี บุญปราศภัย นายเล็ก ทันใจ นายปัณณฑัต กล่อมสมร นายพาวิตต์ นาถะพินธุ นายเทพฤทธิ์ สีหิสราภิสิทธิ์ และนายไท บุญปราศภัย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2555 กรณีเป็นผู้สั่งการและผู้สนับสนุนในการสร้างราคาหลักทรัพย์จำนวน 12 หลักทรัพย์ ระหว่างปี 2551-2553

พฤติกรรมอำพรางในลักษณะการเข้าไปส่งคำสั่งซื้อขายในปริมาณมากหลายระดับราคา มีการครอง bid และ offer ผลักดันราคา จับคู่ซื้อขายกันเองภายในกลุ่ม กระตุ้นการซื้อขายด้วยการทยอยส่งคำสั่งซื้อ หรือเคาะซื้อด้วยจำนวนย่อยๆ ที่ระดับราคาเดียวกันหลายรายการ ตลอดจนพยุงราคาหลักทรัพย์ เพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหลักทรัพย์นั้นมีการซื้อขายกันมาก หรือราคาเปลี่ยนแปลงไป โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่อง

จากพยานหลักฐานพบว่าได้ซื้อขายเข้าข่ายการสร้างราคาหลักทรัพย์รวม 12 หลักทรัพย์ ดังต่อไปนี้

(1) หุ้นบริษัททรัพย์ศรีไทย คลังสินค้า จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบัน ชื่อบริษัททรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน)) (SST) ในช่วงระหว่างเดือนส.ค. 2551 ถึงเดือนก.พ. 2552

(2) หุ้นบริษัทซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSE) (ปัจจุบัน ชื่อบริษัทอควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)) ในช่วงระหว่างเดือนพ.ค. 2552 ถึงเดือนมิ.ย. 2552 และระหว่างเดือนต.ค. 2552 ถึงเดือนพ.ย. 2552

(3) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSE-W1) ในช่วงระหว่างเดือนพ.ค. 2552 ถึงเดือนมิ.ย. 2552

(4) หุ้นบริษัทไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) (TIES) ในช่วงระหว่างเดือนมี.ค. 2552 ถึงเดือนก.ค. 2552

(5) หุ้นบริษัทสตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) (STAR) ในช่วงเดือนมิ.ย. 2552

(6) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IRCP-W1) ในช่วงระหว่างเดือนต.ค. 2552 ถึงเดือนพ.ย. 2552

(7) หุ้นบริษัทไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SIMAT) ในช่วงเดือนมี.ค. 2553

(8) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบริษัทสตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) (STAR-W) ในช่วงระหว่างเดือนมี.ค. 2553 ถึงเดือนเม.ย. 2553

(9) หุ้นบริษัทอะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ จำกัด (มหาชน) (AMAC) (ปัจจุบัน ชื่อบริษัทแมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)) ในช่วงระหว่างเดือนเม.ย. 2553 ถึงเดือนพ.ค. 2553

(10) หุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MME) ในช่วงเดือนพ.ค. 2553

(11) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MME-W1) ในช่วงเดือนพ.ค. 2553 และ

(12) หุ้นบริษัทไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (L&E) ในช่วงเดือนก.ค. 2553

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... นหุ้น.html

[syj]

ดีเอสไอมาเร็วเคลมเร็ว! ลั่น 2 เดือน สั่งฟ้อง "ฉายกับพวก"ปั่นหุ้น ชี้ตรวจสอบเส้นทางการเงินหมดแล้ว หรือแค่รวบรวมพยานเอกสารเพิ่มบางส่วน

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้รับการประสานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า จะขอส่งเอกสารเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับนายฉาย บุนนาค กับพวก รวม 13 คน ในข้อหาเป็นผู้รู้เห็นและสนับสนุนในการสร้างราคาหลักทรัพย์ ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นคดีที่ 2 ซึ่งเป็นคนละคดีกับที่ ก.ล.ต. เคยร้องเรียนต่อดีเอสไอ ที่ขอให้ดำเนินคดีกับนายฉาย กับพวก รวม 15 คน ในข้อหาเดียวกันกับบริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในปี 2551 และ ปี 2553 และ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในปี 2553 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ คาดว่า จะสรุปสำนวนเพื่อสั่งฟ้องนายฉายกับพวกได้ในเร็วๆ นี้ และอยู่ระหว่างจับตาหุ้นอีก 12-13 ตัว ที่มีลักษณะเข้าข่ายการปั่นหุ้นเช่นกัน

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กล่าวว่า ภายหลัง ก.ล.ต.ร้องทุกข์กล่าวโทษนายฉายกับพวกในคดีปั่นหุ้น ซึ่งดีเอสไอได้สอบสวนมาโดยตลอด แต่คดีนี้ ก.ล.ต.แตกคดีออกเป็น 5 สำนวน เนื่องจากพฤติการณ์การปั่นหุ้นต่างกัน ช่วงเวลาต่างกัน และตัวบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องหลากหลาย อีกทั้งคดีมีมูลค่าความเสียหายต่างกันตั้งแต่หลัก 500,000 บาท 3 ล้านบาท 16 ล้านบาท จนถึง 17 ล้านบาท ในส่วนของดีเอสไอได้มอบสำนวนทั้ง 5 คดี ให้คณะพนักงานสอบสวนชุดเดียวกันเป็นผู้รับผิดชอบสำนวน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสอบสวนคดีให้มีความต่อเนื่องกัน

ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบเอกสารทางบัญชีและการตรวจสอบเส้นทางการเงินไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ยังต้องรวบรวมพยานเอกสารอีกเพียงบางส่วน รวมทั้งการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 เดือน หลังจากนี้ ดีเอสไอจะสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดีปั่นหุ้นบริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STAR เป็นคดีแรก ซึ่งอาจมีผู้เกี่ยวข้องอีก 4-5 ราย ซึ่งถูกดำเนินคดีร่วมกับนายฉายด้วย

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... นหุ้น.html

[nakhun]

ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่เมืองไทยโอกาสรอดสูงครับ คุกเมืองไทยมีไว้ขังคนจน หรือคนที่ไม่มีconnection
คนมีเงินเยอะอย่างคนพวกนี้ โดนปรับ500,000บ. (มีคนรู้จักโดนมาแล้ว แต่เขารวยจากเม่าเป็นหลายร้อยล้าน)
อย่างมากก็ โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ก่อน
แต่รู้ไหมว่าคนที่โดนพวกนี้หลอกกินเงิน บางคนเสียบ้าน บ้างเสียรถ ครอบครับ หรือชีวิตมีปัญหา
เมืองนอกที่เขาเจริญแล้ว ทำผิดน้อยกว่านี้ยังนอนคุกเลย

[j_jeerasak]

หากมีการเก็บภาษีจากกำไรส่วนต่างของหุ้นอาจจะช่วยได้บ้างนะ เพราะพวกที่ปั่นราคาก็เสียภาษี

ทำให้มีต้นทุนการปั่นสูงมาก

ปล.แต่ผมก็ไม่อยากให้เก็บหรอกนะครับ คนชั้นกลางและล่าง จะได้มีโอกาสร่ำรวยจากจุดนี้เหมือนกัน

แต่ถ้าไม่มีบทป้องกันและลงโทษสูงๆ ก็สงสารคนที่มีประการณ์น้อยในตลาดครับ