http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=443
ตลท.เผยต่างชาติยังกอดหุ้นไทย 4.7 ล้านล.
วันพุธที่ 04 ธันวาคม 2013 เวลา 15:07 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การเงิน Financial - คอลัมน์ : การเงิน Financial
พิมพ์
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดข้อมูลนักลงทุนต่างชาติ ยังถือครองหุ้นไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 40% ของมาร์เก็ตแคป ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนเผยไม่ธรรมดาช่วงชุมนุมทางการเมืองต่างชาติขายหุ้น 1.7 หมื่นล้านต่อสัปดาห์
นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนเมษายน 2556 นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวม 4.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากสิ้นเดือนเมษายน 2555 หรือคิดเป็น 35.93% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) โดยนักลงทุนจากสหราชอาณาจักร(อังกฤษ) สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นนักลงทุนต่างประเทศที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 3 สัญชาติแรกต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
ขณะที่กลุ่มนักลงทุนจากประเทศที่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ อาทิ กรีซ อิตาลี สเปน และโปรตุเกส มีมูลค่าการถือครองหุ้นไทยรวมเพียง 221.54 ล้านบาทเท่านั้น และนักลงทุนจากประเทศไซปรัสมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยน้อยมากโดยมีมูลค่าการถือครองรวมน้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท
สำหรับกลุ่มนักลงทุนอาเซียนในตลาดหุ้นปัจจุบันยังมีจำนวนน้อย การถือครองส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนกลยุทธ์ ลงทุนในฐานะเจ้าของกิจการ
นางสาวสุมิตรากล่าวว่า แม้ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยสูงถึง 1.06 แสนล้านบาท โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน 2556 และสิงหาคม 2556 ที่ขายสุทธิสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท และ 4 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจำนวนหุ้น foreign shares และ NVDR ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในพอร์ตการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ กลับมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 มีจำนวนหุ้นรวมสูงถึง 270,001 ล้านหุ้น เพิ่มขึ้น 26.91% จากสิ้นปี 2555
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) กล่าวว่า การที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยออกมา 1.7 หมื่นล้านบาทต่อสัปดาห์ ถือว่าหนักมากและยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และหากประเมินตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม เป็นต้นมา ซึ่งเริ่มมีการชุมนุมทางการเมือง ต่างชาติได้เทขายหุ้นไทยแล้ว 4.5-5 หมื่นล้านบาท ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(ม.ค.-พ.ย.56)ต่างชาติขายหุ้นไทยแล้ว 1.5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้หากประเมินถึงปัจจัยพื้นฐานแล้วความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยยิ่งลดลงไปอีก เมื่อเทียบภูมิภาค ซึ่งต่างชาติไม่ได้ให้ความสนใจอยู่แล้วเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ดังนั้นหากสถานการณ์ทางการเมืองยังยืดเยื้อ ก็จะส่งผลกระทบมายังพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่คาดว่าปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 12% ก็มีโอกาสปรับลงได้อีก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,902 วันที่ 5 - 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556