พระอาทิตย์ดับตอนเที่ยงวัน เป็นสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ชิงหลังจากผ่านยุคที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด อาณาจักรต้าชิงก็ล่มสลายในระยะเวลาหลังจากนั้นไม่นาน
ภายใต้รัชกาล คัง-หย่ง-เฉียน ของ 3 ฮ่องเต้ (คังซี,หย่งเจิ้นและเฉียนหลง) เป็นยุคทองอาณาจักรต้าชิงมียุคสมัยที่รุ่งเรืองและสุขสงบยาวนานกว่า 150 ปี ทั้งกองทัพที่สามารถรบชนะชาติตะวันตกอย่างรัสเซีย ดินแดนที่กว้างใหญ่ไปจนสุดเขตแดนทิเบต รวมทั้งเศรษฐกิจและศิลปวัฒนธรรมอยู่ในจุดสูงสุด ในเวลานั้นผู้คนในยุคนั้นไม่คิดว่าจะไม่มีอะไรมาหยุดความยิ่งใหญ่ของต้าชิงได้ แต่ไกลออกไปในอีกฝั่งซีกโลก ชาวยุโรปได้เริ่มเข้าสู่ยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมและได้พัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารไปได้ไกลลิบเมื่อเทียบกับชาวต้าชิงที่ยังหลงอยู่กับยุคเรื่องเรืองของอาณาจักร
หลังจากสิ้นรัชกาลเฉียนหลงได้ไม่กี่ปี ต้าชิงก็เปิดศึกกับอังกฤษในสงครามฝิ่น เมื่อเรือสำเภาจีนต้องต่อสู่กับปืนใหญ่ของเรือรบอังกฤษ ผลก็คือความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับจนต้องเสียฮ่องกงและอาณานิคมอื่นๆให้อังกฤษ เมื่อชาวตะวันตกชาติอื่นเห็นถึงความกระจอกของต้าชิงก็ร่วมกันเข้ามายำจนฮ่องเต้เสียนฟงถึงกับต้องหลบหนีกองทัพฝรั่งออกจากปักกิ่ง และในเวลาต่อมาอีกไม่นานอาณาจักรต้าชิงก็ล่มสลายลงภายหลังจากการปฏิวัติซินไห่โดย ดร.ซุน ยัด เซ็น
ถ้ามองโลกจากสายตาของนักลงทุน ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้นที่ร่วงถล่มทลาย สถานการณ์ในช่วงนั้นก็ไม่แตกต่างอะไร จากบรรยากาศของต้าชิงในยุคเจริญรุ่งเรือง เมื่อทุกๆคนมองโลกแต่มุมที่สวยงามจนไม่ได้ติดตามหรือคาดการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ฟ้าถล่มในวันที่สวยงาม
ในประเทศไทยช่วงก่อนวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 บริษัทในประเทศไทยต่างก็สนุกสนานกับการกู้เงินมาลงทุนอย่างเกินตัว พนักงานบริษัทถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์ทองคำ ตลาดหุ้นไทยขึ้นยิ่งกว่ากระทิงขวิดจนหุ้นวิ่งติดลิ่งเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากช่วงเวลาแห่งความสุขไม่นาน เศรษฐกิจไทยก็พังทลาย
ในช่วงปี 2006-2007 ตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลกอยู่ในช่วงขาขึ้นสุดขีด บ้านที่สหรัฐอเมริกาที่ขายแพงที่สุดซื้อขายกันที่ราคาสูงกว่า 100 ล้านเหรียญ ในช่วงเวลานั้นแม้แต่พนักงานทำความสะอาดก็ผันตัวเองมาเป็นนายหน้าซื้อขายบ้าน ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดนั้น แทบไม่มีใครเลยที่จะกังวลว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น ยิ่งเมื่อราคาน้ำมันทะลุไป 150 USD ก็ยิ่งทำให้ทุกคนเชื่อเศรษฐกิจกำลังร้อนแรง แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดวิกฤตแฮมเบอเกอร์ที่ทำให้สถาบันการเงินอายุนับร้อยปีต้องล่มสลาย และนักลงทุนก็เจ็บตัวกันถ้วนหน้า
เมื่อมามองดูตลาดหุ้นไทยในปีนี้ที่ซิ่งอย่างรุนแรงจนเป็นที่ล่อตาล่อใจของนักลงทุนรายใหม่ให้เข้ามาเสี่ยงโชคในตลาดแล้วมีกำไรกันถ้วนหน้าทั้งที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจยังดูทรงๆ และปัจจัยความเสี่ยงจากโลกภายนอกก็ยังมีอยู่อีกมาก ทำให้น่าคิดว่าถ้าอยู่ดีๆ ถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่คาดฝันเกิดขึ้นทำให้วันเวลาที่สวยงามพังถล่มลงมา เราจะจัดการกับพอร์ตการลงทุนของเราอย่างไร
การมองโลกแง่ร้ายเกินไปไม่ใช่เรื่องดี แต่การมองโลกดีเกินกลับเป็นที่แย่ซะยิ่งกว่า สิ่งที่ดีสุดในสถานการณ์ตอนนี้ก็คือลงทุนต่อไป แต่ก็ควรมองหาและสังเกตปัจจัยเสี่ยงไว้ เพื่อจะได้วางแผนรับมือหรือแก้ไขสถานการณ์ทัน เพราะในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด
https://www.facebook.com/StrategicTalkT ... 7685437240
เวลาที่ดูปลอดภัยที่สด คือเวลาที่อันตรายที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 993
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาที่ดูปลอดภัยที่สด คือเวลาที่อันตรายที่สุด
โพสต์ที่ 1
เริ่มนับหนึ่ง...