เรื่องน่ารู้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เวลาผมหาข้อมูล เพื่อมาประเมินมูลค่าหุ้นแต่ละตัว จะเจอข้อมูลบางอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นไปได้ เห็นว่าน่าสนใจดี เลยเอามาลองถามเพื่อนๆ ถ้าคนตอบมากๆ แล้วค่อยมาเฉลย หรือถกกัน ตอนหลังนะครับ

ถ้าผมคิดผิด เรื่องใหนช่วยแนะนำด้วยนะครับ :P


1. ราคาสร้างใหม่ปีที่แล้ว 2,500 - 2,690 ล้านบาท เอามาขายนักลงทุนปีที่แล้วได้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท สิ่งนี้คืออะไร

2. พื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (ผมเข้าใจว่าแพงที่สุดในประเทศไทย) ค่าเช่าเฉลี่ยขั้นต่ำ 34,451 บาท ต่อตารางเมตร ต่อเดือน อยู่ที่ใหน

3. เป็นไปได้ใหมที่ บริษัทแม่ ถือหุ้นบริษัทย่อยอยู่ 50% จะรับรู้กำไรในงบรวม 100 บาท และหากบริษัทแม่นั้นลดสัดส่วนการถือในบริษัทลูกลงจนเหลือ 25% จนกลายเป็น บริษัทร่วม จะยังคงรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมนั้นอยู่ 100 บาทเช่นเดิม

4. วิธีทำให้โรงแรมซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพักในแต่ละไตรมาสแตกต่างกันมาก มีกำไรในแต่ละไตรมาสใกล้เคียงกัน

ุ5. หนี้ประเภทใดที่ บริษัทอสังหาชอบ

6. Office ค่าเช่าเฉลี่ย(ผมเข้าใจว่าแพงที่สุดในประเทศไทย) ที่ 1,200 ต่อตารางเมตรต่อเดือน อยู่ที่ใหน
6 Dimensions
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 641
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มาลงชื่อขอติดตามครับ ส่วนตัวเหมือนจะพอรู้ข้อเดียวคือข้อแรก 55
Risk Management = Risk Measurement + Risk Controlling+ Risk Taking

--------------------
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

1.jxx
2.Pxxx
3.-
4.-
5.ดาว
6.ux
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4366
ผู้ติดตาม: 1

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ยังกับข้อสอบปริญญาโท
ขอใช้ตัวช่วย เปลี่ยนคำถาม ได้มั้ยอ่ะครับ? :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณ คุณดำที่แนะนำให้เปลี่ยนคำถามให้ง่ายขึ้นครับ แต่ผมขอคงคำถามไว้เหมือนเดิม เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ

ขอเฉลยข้อแรกก่อนนะครับ สินทรัพย์ชนิดใหนหนอ ที่สามารถขายได้กำไรเกิน 20 เท่า ….


เชื่อว่าทุกท่านที่ติดตามหุ้นแห่งทศวรรษ คงหาคำตอบได้ไม่ยาก ว่าราคา ประเมินมูลค่าของทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง ที่ JAS ขายให้ JASIF หากคิดด้วยวิธีต้นทุนทดแทน จะมีมูลค่า ราว 2,500 – 2,690 ล้านบาท และ หากคิดด้วยวิธี Income approach โดย IFA จะมีมูลค่าราว 7 หมื่นล้านบาทสุดท้ายแล้ว JASIF ถูกนำออกขายให้นักลงทุน ที่ 55,000 ล้านบาท


ถ้าผมผิดพลาดตรงใหน ช่วยแนะนำด้วยครับ :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4366
ผู้ติดตาม: 1

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมแซวเล่นขำๆ อ่ะครับ 555
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เฉลยข้อ 2 ครับ หุ้นเปลี่ยนชีวิตของใคร หลายๆคน AOT

พื้นที่ที่ค่าเช่าสูงๆ น่าจะเป็นพื้นที่ที่ ผู้คนที่ตั้งใจที่จะซื้อของอยู่แล้ว และมี การไหลเวียนของคนจำนวนมาก

โดย Terminal 1 ของดอนเมือง ก่อนเปิด Terminal 2 มีพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ (ผมเข้าใจว่าเฉพาะส่วนที่เป็นสัมปทานของค้าปลีกนะครับ เพราะส่วนอื่นๆค่าเช่าน่าจะถูกกว่านี้) ที่ไม่เกียวกับกิจการบินอยู่ 6,144 ตารางเมตร สร้างรายได้ ปีละ2,540 ล้านบาท ครับ ถ้าคิดต่อเดือน ก็จะได้เดือนละ 3 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร

:mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ข้อ 3 จะพูดเรื่องกำไร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้เปรียบเทียบความถูกแพงของแต่ละบริษัท

ผมขอยกตัวอย่างกรณี บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ถือหุ้นบริษัทย่อยอยู่ 50% และบริษัทย่อยนั้นเป็น REITS ดังนั้นบริษัทใหญ่นั้นจึงต้องนำงบของ REITS มา consolidate เป็นงบรวมด้วย (สมมติว่าไม่มีรายการระหว่างกัน เพื่อให้ง่ายในการทำความเข้าใจ)

บริษัทใหญ่ ลงสินทรัพย์ ของ REITS นั้นเป็น ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ และมีการตัดค่าเสื่อมราคา ดังนั้นกำไรที่แสดงในบริษัทใหญ่จึงเป็นกำไรที่เกิดขึ้นหลังจากหักค่าเสื่อมราคาแล้ว

บริษัทย่อยซึ่งมีสถานะเป็น REITS บันทึกสินทรัพย์ตัวเดียวกันนี้ เป็น เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามมูลค่ายุติธรรม ซึ่งไม่มีการหักค่าเสื่อมราคา ดังนั้นกำไรที่แสดงใน REITS จะเป็นกำไรที่ไม่ได้มีการหักค่าเสื่อมราคา

กำไรบริษัทใหญ่นี้ในงบรวม จะถูกหักโดยส่วนของกำไร ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย ซึ่งก็คือผู้ถือหุ้นอื่นอีก 50% ของกอง REITS

กอง REITS โดยปกติปันผลมากกว่า 90% ของกำไรซึ่งไม่ได้หักค่าเสื่อมราคา ดังนั้น เงินปันผลที่บริษัทใหญ่ได้รับ เมื่อเทียบกับ กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ที่แสดงในงบ จะแตกต่างกันอย่างไร ???

และถ้าบริษัทใหญ่ นี้ลดการลงทุนในกอง REIT เหลือ 25% บริษัทใหญ่นั้น ก็ไม่ต้องนำงบของกอง Reits มา consolidate และสามารถรับรู้กำไรจากสัดส่วนที่ลงทุนใน กอง Reits ได้

ข้อนี้ ขอให้ไปคิดกันต่อเองนะครับ ยิ่งถ้าใครลองแกะงบ ทำตัวเลขประกอบ จะเห็นภาพมากขึ้น

ถ้าผมผิดพลาด เรื่องใหน ช่วยชี้แนะด้วยครับ :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 9

โพสต์

มีน้อง ท่านหนึ่ง PM ถามข้อที่ 3 มา ผมอ่านแล้วคิดว่าตัวเองควรเขียนกรณีปกติ ของการรับรู้กำไรก่อน ที่จะชี้ ไปถึงกรณีที่ทรัพย์สินตัวเดียวกัน แต่ลงบัญชีในงบรวม และงบบริษัทย่อยแตกต่างกัน จะได้ทำความเข้าใจกันง่ายขึ้น

ขออธิบายใหม่ทีละขั้นครับ

ในกรณีทั่วๆไปที่บริษัทใหญ่ ถือหุ้นในบริษัทย่อย ในระดับที่ควบคุมบริษัทย่อยได้ เช่น 50% และทั้งงบดุลในบริษัทย่อย และงบรวมของบริษัทใหญ่ ลงบัญชีทรัพสินย์นั้นเหมือนกัน เช่นลงเป็น ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ ซึ่งในการคำนวนหากำไรจะมีการคิดค่าเสื่อมราคา เหมือนกัน ดังนั้น
กำไรที่บริษัทใหญ่รับรู้บริษัทย่อยในงบรวมจะเท่ากับ กำไรจากบ.ย่อย 100% - ส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม ซึ่งเท่ากับ 50% ของบริษัทย่อยนั่นเอง


ตัวอย่าง

สมมติว่า บริษัทใหญ่และ บริษัท ย่อยไม่มีรายการระหว่างกันเลย โดยบริษัทใหญ่มีกำไรจากบริษัทย่อยเท่านั้นและ บริษัทย่อยมีกำไร 200 บาท งบรวมจะแสดงกำไรงวดนั้น 200 บาท โดยแบ่งเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 100 บาท และ เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 100 บาท

หมายความว่า ถ้าเราที่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 100% บริษัทเราจะได้รับกำไร 100 บาท ซึ่งเป็นส่วนของบริษัทใหญ่เท่านั้น ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมไม่ใช่ของเรา

ในกรณีนี้ ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมมีกำไร 100 บาท ซึ่งเป็นกำไรหลังหักค่าเสื่อมราคา เหมือนกับ ส่วนที่เป็นกำไร 100 บาท ที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่

อธิบาย มาถึงจุดนี้แล้วขอถามว่า ผมอธิบายถูกใหมครับ :mrgreen: ใครมีอะไรเสริมใหมครับ
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ข้อ1 นี่ได้ออิทธิพลจากดอกเบี้ยต่ำด้วย ถ้าดอกเบี้ยพันธบัตร10ปีเหลือ0.5% อาจขายได้1แสนล้านบาท
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ถ้าบริษัทใหญ่ ถือหุ้นในบริษัทย่อย ในระดับที่ควบคุมบริษัทย่อยได้ เช่น 50% แต่งบดุลในบริษัทย่อย และงบการเงินรวมของบริษัทใหญ่ ลงบัญชีทรัพสินก้อนนั้นต่างกัน เช่น ในบริษัทใหญ่ลงเป็น ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ ซึ่งในการคำนวนหากำไรจะมีการคิดค่าเสื่อมราคา แต่ของบริษัทย่อย ลงเป็น เงินนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามมูลค่ายุติธรรม

ในงบการเงินรวม กำไรที่บริษัทใหญ่รับรู้จากบริษัทย่อยจะเท่ากับ กำไรจากบ.ย่อยที่คำนวนได้ในงบการเงินรวม 100% - ส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม ซึ่งในกรณีนี้คือ 50% ของกำไรที่คำนวนในงบของบริษัทย่อยหรือเปล่าใช่ใหม

ตัวอย่าง

สมมติว่า บริษัทใหญ่และ บริษัท ย่อยไม่มีรายการระหว่างกันเลย โดยบริษัทใหญ่มีกำไรจากบริษัทย่อยเท่านั้นและ
ในงบกำไรขาดทุนของบริษัทย่อย บริษัทย่อยมีกำไร 300 บาท ( กำไรก้อนนี้ ไม่ได้ถูกหัก ค่าเสื่อมราคา ) แต่กำไรขาดทุนในงบการเงินรวมจะแสดงกำไรจากทรัพย์สินก้อนนั้น 200 บาท (น้อยกว่าบริษัทใหญ่ อยู่ 100 บาท ซึ่ง อาจเกิดจาก ค่าเสื่อมราคา, ภาษี และอื่นๆ) โดยแบ่งเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 50 บาท และ เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 150 บาท ( 150 บาท คือ 50% ของ 300 บาท ในงบกำไรขาดทุนของบริษัทย่อย )

หมายความว่า ถ้าเราที่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 100% ซึ่งถือหุ้นในบริษัทย่อย 50%บริษัทเราจะได้รับกำไร 50 บาท ไม่ใช่ 50% ของ 200 บาท หรือ 50% ของ 300 บาท

เพื่อนคิดว่า การรับรู้กำไร ในกรณี นี้ มีอยู่จริงใหม หรือว่า ผมมโนไปเอง

ผมไม่ได้เป็น นักบัญชี ถ้ามีท่านใด มีคำแนะนำ จะขอบคุณมากครับ :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เฉลยข้อ 4 ครับ

SPWPF คิดค่าเช่าโรงแรมจากบริษัทลูกของ CI ในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน โดยคิดค่าเช่าสูงในเดือนที่เป็น High season
ERWPF ก็คิดค่าเช่าแต่ละเดือนสูงต่ำต่างกัน แล้วแต่ว่าเป็นช่วง High หรือ Low season
รายละเอียดตามนี้ครับ
แนบไฟล์

ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เฉลยข้อ 5 คือเงินดาวน์จากลูกค้าที่จะถูกบันทึกไว้เป็นหนี้สิน

เฉลยข้อ 6 คือ โครงกำรปำร์คเวนเชอร์อีโคเพล็กซ์ (โดยไม่รวมพื้นที่ในส่วนที่ประกอบกิจกำรโรงแรม ดิ โอกุระ) ซึ่งเป็นของ GVREIT

:P
6 Dimensions
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 641
ผู้ติดตาม: 0

Re: เรื่องน่ารู้

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอบคุณมากครับพี่ที่มาช่วยแชร์ความรู้ดีดี
Risk Management = Risk Measurement + Risk Controlling+ Risk Taking

--------------------
โพสต์โพสต์