โพสต์
หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์
คิดลงทุนในบิทคอยน์ ต้องอ่าน... “CRYPTOASSETS”
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
http://www.CsiSociety.com
Add Line: @CsiSociety
ผมได้รับเชิญให้ไปบรรยายในงานสัมมนา “CRYPTOASSETS: The Innovative Investment” หรือแปลตามความว่า “สินทรัพย์ดิจิทัล นวัตกรรมการลงทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต” ซึ่งทางผู้จัดก็ได้จัดส่งหนังสือในชื่อเดียวกันกับงานสัมมนามาให้ผม หลังจากผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมมีความรู้สึกว่า หนังสือเล่มนี้ได้สรุปเนื้อหาความรู้ทางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินสกุลดิจิทัลได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ผมจะรู้บ้างแล้ว แต่ก็เป็นเนื้อหาที่ผมเคยต้องใช้เวลาในการแสวงหาเป็นแรมปีทีเดียว ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงน่าจะเหมาะกับ “มือใหม่หัดขับ” และ “มือเก่า...หัดซิ่ง” เป็นอย่างยิ่ง ผมจึงอยากสรุปเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้โดยย่อให้คุณผู้อ่านได้พอเข้าใจบ้าง ดังนี้ครับ
ส่วนที่ 1 WHAT
ในส่วนนี้หนังสือพูดถึงนวัตกรรมต่างๆในอดีต...ที่ไม่ได้เติบโตแบบค่อยเป็นเป็นไป (Linear Growth) แต่เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด (Exponential Growth) เช่น อินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้เกิดการค้นหาผ่าน Google ในแต่ละวันมากกว่า 3.5 พันล้านครั้ง มีข้อความมากกว่า 60 พันล้านข้อความต่อวันผ่าน WhatsApp และ Facebook Messenger และ 269 พันล้านอีเมลถูกส่งออกไปทุกวัน บล็อกเชนก็เช่นเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด และบิทคอยน์ในฐานะของสินทรัพย์ดิจิทัลที่รู้จักกันมากที่สุด ก็ได้สร้างปรากฏการณ์โดยมีราคาสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดและตกลงมาแบบดิ่งพสุธาในหลายปีที่ผ่านมา
ในอดีตที่ผ่านมาหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 แล้ว ก็ได้ก่อให้เกิดแนวความคิดที่จะมีระบบเงินที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลใดๆบนโลกใบนี้ Satoshi Nakamoto บุรุษนิรนามได้เผยแพร่บทความที่เกี่ยวกับระบบบล็อกเชนและบิทคอยน์ออกไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมในปีเดียวกัน และต่อมาก็เริ่มรันระบบบล็อกเชนเป็นครั้งแรก และมีการส่งบิทคอยน์ผ่านระบบบล็อกเชน บิทคอยน์ได้รับการยอมรับและเริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายขึ้น ก็นำไปสู่การสร้างเหรียญดิจิทัลใหม่ๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอีเทอเรียม ไลต์คอยน์ ริปเพิล โดจคอยน์ เป็นต้น แต่เหรียญที่โดดเด่นที่สุดคือ อีเทอเรียม เพราะมีสมาร์ตคอนแทรกต์ ที่สามารถทำให้เงินสกุลดิจิทัลตัวนี้กลายเป็น...เงินดิจิทัลที่สามารถตั้งโปรแกรมได้
ส่วนที่ 2 WHY
ในส่วนนี้ก็จะเริ่มอธิบายถึงการจัดพอร์ตการลงทุนขึ้นบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นของคุณ Harry Max ผู้ได้รางวัลโนเบล กับทฤษฎี Modern Portfolio Theory (MPT) และยังมีการให้พิจารณาปัจจัยอื่นๆอีกหลายตัว พูดถึงการจัดสรรการลงทุนของนักลงทุนแต่ละประเภท โดยตัวที่เป็นไฮไลท์ของส่วนนี้ก็หนีไม่พ้น...บิทคอยน์ ระหว่างวันที่ 18/5/2012 ถึง 3/1/2017 เป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี Google เติบโต 23% ต่อปี Facebook เติบโต 27.1% ต่อปี Amazon เติบโต 31% ต่อปี และ Netflix 72.7% ต่อปี ขณะที่ Bitcoin เติบโตถึง 212% ต่อปี...ติดต่อกัน 5 ปี ในขณะที่ความผันผวนของราคาบิทคอยน์ก็ยังมีอยู่อย่างมหาศาล คำถามจึงเกิดขึ้นว่า เราควรจะซื้อบิทคอยน์เข้ามาในพอร์ทการลงทุนของเราหรือไม่?
ในบทนี้ยังพูดถึงวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับบิทคอยน์ ในปี 2010 บริษัท Mt.Gox ได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยทำธุรกิจเป็นศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล และต่อมาได้กลายเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอน Mt.Gox เปิดนั้น...ราคาบิทคอยน์อยู่ที่ต่ำกว่า 0.1 ดอลลาร์เสียอีก จากนั้นราคาก็กระเตื้องขึ้นจนทะลุ 10 ดอลลาร์ แล้วก็พุ่งขึ้นทะลุ 100 ดอลลาร์ และในที่สุดก็ทะลุ 1,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก นั่นหมายถึง ราคาเพิ่มขึ้น 10,000 เท่าในระยะเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็เกิดข่าวว่า เว็บไซต์ของ Mt.Gox ถูกแฮ็กและถูกขโมยเงินสกุลดิจิทัลไปเป็นจำนวนมาก จนต้องล้มละลายและปิดตัวลงในที่สุด ในบทนี้ยังได้พูดถึงวิกฤตการณ์อีกมากมาย อาทิ Steemit Bubble, Zcash Bubble เป็นต้น
ส่วนที่ 3 HOW
ในส่วนนี้พูดถึงปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่จะมีผลต่อราคาและอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ รายงานนำเสนอ (White paper) การกระจายศูนย์ การตีมูลค่า ชุมนุมและนักพัฒนา ความเกี่ยวพันกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ และโมเดลการออกสินทรัพย์ฯ ในส่วนนี้ผมมองว่า หนังสือเล่มนี้ได้สรุปให้การศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าใจได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับในอดีตที่ผมต้องใช้เวลาไปงมหาความรู้เหล่านี้อยู่หลายเดือน
นอกจากนั้นยังพูดถึงนักขุดและการทำเหมืองสินทรัพย์ดิจิทัล ก็ทำให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆว่า การทำเหมืองเหล่านี้ทำได้อย่างไร? โดยมีปัจจัยและตัวแปรอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึง และยังกล่าวถึงการทำเหมืองทั่วโลกโดยอิงแผนที่โลกเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น พูดถึงจำนวนผู้ใช้งานซึ่งมีผลต่อราคา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ใช้ จำนวนธุรกรรมที่ผ่านบล็อกเชน มูลค่าของธุรกรรมเป็นตัวเงิน และตัววัดมูลค่า สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เห็นภาพแนวโน้มในอนาคตของราคาและความอยู่รอดของสินทรัพย์ดิจทัลแต่ละตัวได้อย่างไม่ยากนัก
ทั้งหมดที่ผมเล่าให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจในวันนี้ ถือได้ว่ามีเนื้อหาที่น้อยมากเมื่อเทียบกับเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ทั้งเล่ม และอย่างที่ผมเกริ่นช่วงต้นไปแล้วว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคุณผู้อ่านที่มีความรู้ระดับต้นและระดับปานกลางเท่านั้น อ้อ...เกือบลืม ในท้ายเล่มนี้ยังมีบทส่งท้ายที่มีชื่อว่า “แหล่งข้อมูลของคริสกับแจ็ก” ที่รวบรวมเอาบรรดาเว็บไซต์ที่สำคัญในการสืบค้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าสนใจมากด้วยนะครับ
ท้ายนี้ ตามที่เกริ่นไปแล้ว สำนักพิมพ์หนังสือเล่มนี้จะจัดงานสัมมนาในชื่อเดียวกับหนังสือ ในวันพฤหัสบดีนี้ (4 ต.ค.) เวลา 15.00 – 17.00 น. (เริ่มลงทะเบียน 14.20 น.) ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีวิทยากรที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ อาจารย์รอม หิรัญพฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีตัวฉกาจของเมืองไทย คุณหนึ่ง (ปรมินทร์) ผู้ก่อตั้งเหรียญ Zcoin เหรียญที่ติดอันดับ 1 ใน 100 ของโลก หนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวไทย และคุณท็อป (จิรายุส) หนุ่มหล่อจากอ็อกฟอร์ด มหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก ผู้อธิบาย...เรื่องสุดยาก ให้กลายเป็น...เรื่องสุดง่าย งานสัมมนาครั้งนี้ยังเข้าไปฟังฟรีอีกด้วย งานนี้...จึงห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่งนะครับ
คุณผู้อ่านที่สนใจจะเข้าร่วมสัมมนาฟรีในครั้งนี้ สามารถสำรองที่นั่ง..ก่อนเต็ม ได้ที่ http://bit.ly/CryptoSeminar ...แล้วพบกันที่งานสัมมนานะครับ
หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.doctorwe.com
บันทึกไม่สำเร็จ