อยากจะทราบการเดินทางของงบการเงินครับ
1) เวลาบริษัทมหาชนทำงบการเงินมีใครเห็นบ้างครับ?
2) ปกติแล้วใช้เวลากี่วันครับหรือแล้วแต่?
3) เวลางบการเงินทำเสร็จจะส่งไปที่ก.ล.ต.ใช่ไหมครับ
4) ในก.ล.ต.มีใครเห็นบ้างครับ
5) หลังก.ล.ต.แล้วงบการเงินจะส่งไปที่ไหนครับ
6) Process มันเป็นยังไงครับก่อนที่นักลงทุนรายย่อยอย่างผมจะได้เห็น
อยากจะทราบการเดินทางของงบการเงินครับ
- XO
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อยากจะทราบการเดินทางของงบการเงินครับ
โพสต์ที่ 2
ตอบดท่าที่รุ้นะครับ
1) อย่างน้อยๆ ก็คนทำบัญชีของบริษัท ออดิทที่ตรวจงบ กับ ผบห บางส่วน โดยเฉพาะ CFO ครับ
2) แล้วแต่เลยครับ แต่โดยทั่วไป first draft ประมาณ วีค 2 หลังจากสิ้นไตรมาส ก้น่าจะเห้นตัวเลขละครับ แต่ตัวเลขอาจมีการตรวจทานแก้ไขไปมา ก่อนจะ final
1) อย่างน้อยๆ ก็คนทำบัญชีของบริษัท ออดิทที่ตรวจงบ กับ ผบห บางส่วน โดยเฉพาะ CFO ครับ
2) แล้วแต่เลยครับ แต่โดยทั่วไป first draft ประมาณ วีค 2 หลังจากสิ้นไตรมาส ก้น่าจะเห้นตัวเลขละครับ แต่ตัวเลขอาจมีการตรวจทานแก้ไขไปมา ก่อนจะ final
อย่าพยายามเข้าใจ จงใช้ความรู้สึก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 289
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากจะทราบการเดินทางของงบการเงินครับ
โพสต์ที่ 3
ไม่รู้เกี่ยวไหมถ้าเรากังวลและไม่ไว้ใจพวก indider ที่รู้งบก่อนเราผมว่ามีแน่นอนครับ มากบ้างน้อยบางแล้วแต่จริยธรรมและGC ของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงบ ซึ่งจริยธรรมก็เป็นนามธรรมและแต่ละคนก็ใช้เกณฑ์ต่างกันเสียด้วยไม่มีตัววัดเป็นตัวเลขที่เปะๆว่าคนนี้มีค่าเท่านี้เท่านั้นและถือว่าสูงต่ำเป็นมาตรฐานสากล อดีตที่ผ่านมาก็มีหลายเรื่อง เช่นการซื้อขายหุ้นของกรรมการหรือผู้บริหารที่รู้ข้อมูลก่อนไม่ว่าจะ M&a งบการเงิน ได้ลูกค้าใหม่หรือมีหนี้เสียเพิ่ม การตั้งสำรองหรือบันทึกกลับ คดีฟ้องร้อง และอื่นๆ
สิ่งเหล่านี้เลี่ยงยากและเหมือนเราต้องยอมรับมันว่าเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของการลงทุน วิธีเดียวคือเราต้องระมัดระวังในการลงทุน มี mos ให้มากไว้ และเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจที่เราลงทุน เช่น บริษัทรับเหมาหรือบันทึกรายได้เป็น project มันจะมีกำไรที่แกว่งตัวได้ง่าย มีหนี้สูญได้ง่าย และตันทุนอาจบานปลาย ถ้าเราลงทุนกลุ่มนี้เราก็ต้องรู้ว่ากำไรอาจสูงมากในบางไตรมาสและบางไตรมาสอาจขาดทุนเลยก็ได้ หรือพวกกลุ่มเช่าซื้อต่างๆก็อาจมีการตั้งสำรองมากจนกระทบกำไรได้
เราอาจต้องหาบริษัทที่มีรายได้กำไรสม่ำเสมอมากขึ้นโดยดูจากธุรกิจหรือผลงานย้อนหลังหลายๆปีก็จะมองเห็น เช่น ค้าปลีก ค้าส่ง รพ. ถ้าเราเลือกแบบนี้เราก็ไม่ต้องพะวงเรื่อง insider มากเพราะโดนธรรมชาติของธุรกิจมันไม่เปิดช่องให้กำไรผันผวนมากนัก
สิ่งเหล่านี้เลี่ยงยากและเหมือนเราต้องยอมรับมันว่าเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของการลงทุน วิธีเดียวคือเราต้องระมัดระวังในการลงทุน มี mos ให้มากไว้ และเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจที่เราลงทุน เช่น บริษัทรับเหมาหรือบันทึกรายได้เป็น project มันจะมีกำไรที่แกว่งตัวได้ง่าย มีหนี้สูญได้ง่าย และตันทุนอาจบานปลาย ถ้าเราลงทุนกลุ่มนี้เราก็ต้องรู้ว่ากำไรอาจสูงมากในบางไตรมาสและบางไตรมาสอาจขาดทุนเลยก็ได้ หรือพวกกลุ่มเช่าซื้อต่างๆก็อาจมีการตั้งสำรองมากจนกระทบกำไรได้
เราอาจต้องหาบริษัทที่มีรายได้กำไรสม่ำเสมอมากขึ้นโดยดูจากธุรกิจหรือผลงานย้อนหลังหลายๆปีก็จะมองเห็น เช่น ค้าปลีก ค้าส่ง รพ. ถ้าเราเลือกแบบนี้เราก็ไม่ต้องพะวงเรื่อง insider มากเพราะโดนธรรมชาติของธุรกิจมันไม่เปิดช่องให้กำไรผันผวนมากนัก