Reopening The World, UnLocking Opportunities
โอกาสใหม่ เมื่อโลกเปลี่ยน
หัวข้อ Recovery of Uneven Economy
เมื่อธุรกิจเราฟื้นตัวไม่เท่ากัน
โดย คุณบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน
TMBAM Eastspring
ดำเนินรายการโดย คุณเฟิร์น ศิรัถยา อิศรภักดี
จากPage 4 บอกถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศที่ไม่เท่ากัน
แบ่งออกเป็น Develop Market เริ่มจะใช้ชีวิตเกือบปกติ สามารถออกมาข้างนอก
โดยไม่ใส่หน้ากากแล้ว ที่อังกฤต เชียร์บอลในสนามเหมือนปกติเลย
แต่ Emerging Market ยังมีการล้าช้ากว่า บางประเทศก็อยู่ในช่วงLock down
เนื่องจากการฟื้นตัวไม่เท่ากัน เทียบกับช่วงก่อนเจอCovid มีน้อยประเทศที่ฟื้นตัวหลังปี2022
ความแตกต่างหลัก ก็คือ
เรื่องสถานะทางการเงิน การคลังของ DM & EM ไม่เท่าเทียมกัน
US ซึ่งเป็นตัวแทนของ DM ช่วยเหลือชัดเจน เพิ่มกำลังซื้อของประชาชน
พอตกงาน ก็ได้รับเงินช่วยเหลือ 300$ต่อสัปดาห์
ช่วง โจ ไบเดน เข้ามา ก็เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำขึ้นอีก 15$/hour ทำงาน8ชมต่อวัน = 120$ ต่อวัน
ทำงาน 5วันต่อสัปดาห์ คิดแล้ว ได้เงินเพิ่มขึ้น 6000 $ หรือ 18,000 บาท ต่อสัปดาห์
Income shock
ปี2020 Covid ระบาดแรง US ติดเชื้อสูงมาก ปัจจุบัน ติดเชื้อ34 ล้านคน จากทั่วโลก 190 ล้านคน
แต่US เป็นประเทศแรกๆที่ดำเนินชีวิตคล้ายตอนช่วงก่อนCovid
Emerging Market สาธารณสุขฟื้นตัวช้ากว่า ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
มาตรการที่ใช้ของ EM คือการลดภาระ ค่าใช้จ่าย มากกว่า การเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน
ต่างกับ สหรัฐ ซึ่งวงเงินช่วยเหลือสำหรับคนว่างงาน มากกว่า เงินที่ได้รับตอนทำงานปกติเสียอีก
ทำให้ตอนนี้ สหรัฐ ขาดคนทำงาน เพราะ เหตุผลข้างต้น
การฟื้นตัวของEmerging market เกือบทุกประเทศล่าช้า แต่ปี2022 มีแค่บางประเทศ ฟื้นตัวเหมือนปกติ เช่นจีน
ประเทศในกลุ่ม G20 ซึ่งมีทั้งประเทศในEM, DM ก็มีการฟื้นตัวไม่เท่ากัน
******เหตุผลที่ฟื้นตัวไม่เท่ากัน ก็คือ
1.การควบคุมผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้ติดเชื้อของโลกลดลง แต่ในส่วนของ EM โดยเฉพาะเอเชียเพิ่มขึ้น
2.การกระจายวัคซีนในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน DMมีการฉีดวัคซีนคิดเป็น%ของประชากรสูงกว่ามาก
3.ประสิทธิภาพของวัคซีน DM ส่วนใหญ่ใช้วัคซีน Mrna ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า
EU ควบคุมการติดเชื้อได้ชัดเจน แต่เอเชีย ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตลอด
ถึงแม้ทั่วโลก ฉีดวัคซีนได้ 40ล้านโดส ต่อวัน คิดเป็น 7,800 ล้านโดส
แต่การกระจายวัคซีนไม่เท่ากันทั่วโลก
US,EU กระจายวัคซีนได้ดี คนได้2โดส มากกว่า 30%
แต่ในเอเชีย คนที่ได้2โดส น้อยกว่า 9% ส่วนคนได้ตั้งแต่ 1โดส คิดเป็ฯ 24-25%
ไทย การรับวัคซีนยังช้ากว่าทางเอเชีย ประมาณ 11-12%
ประสิทธิภาพของวัคซีน ก็นับเป็นอีกปัจจัย ที่ทำให้การฟื้นตัวของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน
EU บอลยูโรที่ผ่านมา คนเข้าไปชมการแข่งขันเกือบเต็มสนาม แถมยังไม่ใส่หน้ากากด้วย
เป็นตัวอย่างค่อนข้างชัด ที่EU เปิดประเทศ ตอนนี้อยู่ขั้นตอนให้สมาชิกแต่ละประเทศเปิดพรหมแดน
คนที่รับสองโดสแล้ว เดินทางโดยไม่ต้องกักตัว
ที่อังกฤต ซึ่งเป็นเจ้าภาพบอลยูโร ฉีดวัคซีนกว่า 60%กว่า ส่วน2โดสก็เกิน50%แล้ว
เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การฟื้นตัวไม่เท่ากัน
******* แต่ในความเสี่ยง ก็มีโอกาสซ่อนอยู่
อัตราการออมหลังCovid สูงขึ้น เพราะ ไม่กล้าใช้จ่าย
โดย Develop market อัตราการออมสูง แต่เศรษฐกิจเริ่มกลับมา คนกล้าออกไปใช้จ่าย
ส่วน Emerging market ไม่กล้าใช้จ่าย แต่ออมสูง
จากการสำรวจ ว่าถ้าหลังcovidอยากทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเลือกท่องเที่ยวเป็นอันดับแรก
รองลงมา ก็เป็นการออกไปทานข้าวนอกบ้าน ดังนั้นการสันทนาการเป็นเรื่องที่คนอยากใช้จ่ายมากสุด
US ร้านค้า ร้านอาหาร อัตราการเปิดร้านใกล้เคียงกับก่อน Covidแล้ว ประมาณ 80%
ตอนนี้ ร้านแมคโดนัล มีปัญหาเรื่องการขาดพนักงานมาให้บริการ เพราะ คนยังไม่อยากทำงาน ได้รับเงินชดเชยอยู่
เราเริ่มเห็นโอกาส จากประเทศที่ฟื้นตัวก่อน ธุรกิจอะไรที่ฟื้นตามบ้าง ถ้าประเทศในEM ฟื้น ก็น่าจะคล้ายกัน
ซึ่งทาง TMBAM Eastspring เสนอกองทุน TMB Eastspring Dynamic Leisure and entertainment
มาเพื่อรับกับ Theme ธุรกิจรับการเปิดเมือง
ส่วนถ้าจะดูเรื่องหุ้น เราก็ดูว่าบริการอะไรที่ฟื้นตัวเร็วตอน
เปิดเมือง ก็สามารถศึกษาและลงทุนได้ครับ
ข้อมูลอยู่สไลด์ท้ายๆครับ