The Psychology of Money : Timeless Lessons on wealth,Greed , and Happiness เคล็บลับการลงทุน5ข้อ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2576
ผู้ติดตาม: 1

The Psychology of Money : Timeless Lessons on wealth,Greed , and Happiness เคล็บลับการลงทุน5ข้อ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เรื่องการลงทุนไม่เห็นต้องยากขนาดนั้น ก็สำเร็จได้
สรุปเคล็ดลับ 5ข้อ จากหนังสือแนวจิตวิทยาการเงิน
The Psychology of Money : Timeless Lessons on wealth,Greed , and Happiness
ซึ่งเขียนโดย Morgan Housel
โดย Phongthorn TV
สรุป โดย Seminar Knowledge By Amorn

คำโปรยหน้าของการสรุป ที่น่าสนใจคือ
สุดยอดวิชาคือ นักลงทุนที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้ ในยามที่คนอื่นตื่นตระหนก
ซึ่งถ้านักลงทุนทำได้แบบนี้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

เรามีดูเคล็ดลับข้อแรกกันครับ
1.เรามักจะมีคำถามว่า
การลงทุนแบบนี้ การจัดพอร์ตแบบนี้ ทำให้ฉันนอนหลับได้ในเวลากลางคืนหรือไม่?
-ทักษะที่ยากที่สุดในการบริหารเงินคือ การหัดอยู่เฉยๆ ซะบ้าง
-ย้อนไปดูคำถามที่ว่า ยุคน้ำแข็ง เกิดขึ้นได้อย่างไร มันไม่ได้อยู่ที่จำนวนหิมะตกหนักไหม ในแต่ละปี
แต่มันอยู่ที่ว่าหิมะเหลืออยู่แค่ไหนในแต่ละปี ถ้าเหลือเยอะ ปีหน้าหิมะตกอีกก็จะสะสมมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทีละนิด นำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ
-เปรียบเทียบกับการลงทุน
การลงทุนที่ดีจึงไม่ใช่ ผลตอบแทนดีที่สุดเพียงชั่วคราว แต่มันคือผลตอบแทนที่ดีพอใช้
แต่อยู่ได้นานสม่ำเสมอ เพื่อไปสู่พลังของ Compounding Effect

2. Intelligence not key success factor but flexibility is
- โลกเรามีความซับซ้อนเกินกว่าจะที่ยอมให้ผลของการกระทำใดๆ กำหนดผลลัพธ์ของมันได้100%
โลกเปรียบเหมือนเครื่องจักรที่มีชิ้นส่วน 7พันล้านชิ้น(คน) ที่เคลื่อนไหวอิสระจากกัน ความบังเอิญของหน่วยใดๆ
เพียงนิดเดียว อาจส่งอิทธิพลต่อผลลัพธ์มากกว่าความพยายามหรือการตัดสินใดๆของเรา
-ความเป็นจริงขอเศรษฐศาสตร์ข้อนึงคือ อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

3. We all are playing different game “เราอาจกำลังฟังคำแนะนำ จากคนที่เล่นอยู่คนละเกมกับเราก็ได้
-ราคาเหมาะสมในการลงทุนขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนซื้อ เพราะปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสำคัญไม่เหมือนกัน
บางคนเล่นในวัน เหตุผลจะไม่เหมือนกับการลงทุนเป็นปี เพราะฉะนั้น อาจจะต้องพิจารณาให้ดีเวลาเจอนักวิเคราะห์ในทีวี บอกว่าควรซื้อหุ้นตัวนี้ ตัวนั้น เขาแนะนำโดยไม่รู้จัก “คุณ”
เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวนักลงทุนเลย ทั้งความต้องการ ความเสี่ยงที่รับได้ และ อื่นๆ
- คำแนะนำส่วนใหญ่คือเน้นที่ วันนี้ พรุ่งนี้ เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเทียบกับระยะเวลาลงทุนทั้งชีวิต ถือว่าสั้นมาก
(40ปี) แทบไม่มีผลอะไรเลย นอกจาก “ ROO NGEE effect”

4. โลกเรามีวิกฤตเกิดขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายหุ้นก็ขึ้น (แต่ต้องอยู่ให้ถูกที่ ซึ่งไม่ยาก)

มีเรื่องเล่าของนักลงทุน3คน ซึ่งล้วนแต่เป็น นักลงทุนระยะยาว(มาก) 119 ปี ตั้งแต่ปี 1900-2019

4.1 คนแรก สมชายลงทุนในหุ้นทุกเดือน เดือนละ1บาท โดยไม่สนว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ซื้อมันทุกเดือน

4.2 คนที่สอง สมหญิง มีทักษะขึ้นมาหน่อย สามารถทำนายได้ถูกต้องว่า จะเกิดrecessionเมื่อไหร่
จึงเลือกลงทุนทุกเดือน เดือนละ1บาทเช่นกัน แต่เมื่อเศรษฐกิจกำลังจะฟุบ เธอจะขายหมดและรอให้
Recessionจบ ค่อยนำเงินทั้งหมดกลับมาซื้อหุ้นต่อ

4.3 คนที่สาม สมหมาย ทักษะการทำนายไม่แพ้นักลงทุนคนที่สอง แต่เลือกที่จะรอจนเห็นชัดว่า recessionแน่ๆ
แล้วถึงขาย หรือ รอให้เศรษฐกิจฟื้นแน่ๆ แล้วจึงซื้อ (ใครเป็นแบบนี้บ้าง) delayจากสมหญิงไปสัก6เดือนในทุกรอบ

คำถามคือในปี2019 ใครจะมีเงินเยอะที่สุด?
ผลลัพธ์ คือ
สมชาย ได้ 435,551
สมหญิง ได้ 257,386
สมหมาย ได้ 234,476

5. อิสระในการใช้ชีวิต ได้ทำสิ่งที่อยากทำในเวลาที่อยากทำ คือปันผลที่ดีที่สุดของการลงทุน
หลังจากสัมภาษณ์คนแก่ในบ้านพักคนชรา 1,000คน พบว่าไม่มีคนใดเลยที่ให้ความสำคัญกับเงิน
หรือวัตถุในการวัดความสำเร็จของชีวิต
บ้าน รถ หรือ ทรัพย์สินใดๆ ที่ซื้อเร็วเกินไป มันไม่ใช่ความมั่งคั่ง แต่คือ หนี้ หรือ ความร่ำรวยที่ถูกจ่ายออกไปแล้ว

สุดท้ายขอบคุณ Phongthong TV มากๆครับ
แนบไฟล์

โพสต์โพสต์