ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 1
แรกๆที่ผมลงทุน ผมได้ยินคำสอนที่ว่า
จงคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี ราคาที่เหมาะสม
และถือให้ยาวนานที่สุด
มือใหม่อย่างผมเลยเกิดความสงสัยว่า
1. สมมติผมซื้อและถือหุ้น A
ราคาหุ้น 10 บาท ซื้อ 1000 หุ้น = 10000 บาท
-ถ้าหาก 1 ปี ราคาหุ้นขึ้นมา 10%
ผมจะมี 11000 ที่ต้นทุน 10000 บาท
-ถ้าหาก 2 ปี ราคาหุ้นขึ้นมา 20%
ผมจะมี 12000 ที่ต้นทุน 12000 บาท
-หากสมมติผมถือไป 10 ปี ราคาหุ้นขึ้นมาเป็น 30 บาท
ผมจะมี 30000 บาท จากต้นทุน 10000 บาท
ดังนั้น 10 ปี ผ่านไป เงินผมเติบโตจาก 10000 เป็น 30000
โดยที่เงินต้นยังคงมีแต่ 10000 บาท
2 กรณีที่ผมซื้อหุ้น A และยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆเสมอ
ราคาหุ้น 10 บาท ซื้อ 1000 หุ้น = 10000 บาท
ถ้าหาก 1 ปี ราคาหุ้นขึ้นมา 10%
ผมจะมี 11000 ที่ต้นทุน 10000 บาท
**แต่จากนั้น แทนที่ผมจะถือต่อ ผมขายทิ้ง
ผมจะมีเงินต้นก้อนใหม่ทันที 11000 บาท
- จากนั้นผมมองหาหุ้นตัวที่ 2 ที่พื้นฐานดี มี margin of safety
ผมซื้อตัวนั้นเหมิอนกัน ที่เงินต้นทั้งหมด 11000 บาท
จากนั้น 1 ปีต่อมา ราคาหุ้นขึ้นมา 10% ผมขายทิ้ง และมองหาโอกาสใหม่ที่อาจจะดีกว่าเดิม ผมจะมีเงินต้น 12100 บาท ทันที
ผมจึงตั้งข้อสังเกตว่า หากเรา มองหาโอกาสใหม่ๆเสมอ โดยการขายหุ้นเดิม เมื่อถึงมูลค่าพื้นฐานแล้ว นำเงินต้นก้อนใหม่ที่มีจำนวนมากขึ้นเนื่องจากได้รวม realized profit ไปแล้ว ไปลงทุนต่อเนื่อง
จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นผลตอบแทนทบต้นจริงๆได้มากกว่าหรือไม่
และกรณีที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ
เราก็สามารถนำเงินสดไปโปะในหุ้นที่เราพบว่าเป็นโอกาสใหม่ๆ ที่ราคายังมี Margin of safety ได้ด้วย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องถือหลายบริษัทเกินไป เนื่องจากขายบริษัทเดิมที่ราคาถึงมูลค่าออกมาแล้ว
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับผม รบกวนพี่ๆชี้แนะด้วยครับ
จงคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี ราคาที่เหมาะสม
และถือให้ยาวนานที่สุด
มือใหม่อย่างผมเลยเกิดความสงสัยว่า
1. สมมติผมซื้อและถือหุ้น A
ราคาหุ้น 10 บาท ซื้อ 1000 หุ้น = 10000 บาท
-ถ้าหาก 1 ปี ราคาหุ้นขึ้นมา 10%
ผมจะมี 11000 ที่ต้นทุน 10000 บาท
-ถ้าหาก 2 ปี ราคาหุ้นขึ้นมา 20%
ผมจะมี 12000 ที่ต้นทุน 12000 บาท
-หากสมมติผมถือไป 10 ปี ราคาหุ้นขึ้นมาเป็น 30 บาท
ผมจะมี 30000 บาท จากต้นทุน 10000 บาท
ดังนั้น 10 ปี ผ่านไป เงินผมเติบโตจาก 10000 เป็น 30000
โดยที่เงินต้นยังคงมีแต่ 10000 บาท
2 กรณีที่ผมซื้อหุ้น A และยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆเสมอ
ราคาหุ้น 10 บาท ซื้อ 1000 หุ้น = 10000 บาท
ถ้าหาก 1 ปี ราคาหุ้นขึ้นมา 10%
ผมจะมี 11000 ที่ต้นทุน 10000 บาท
**แต่จากนั้น แทนที่ผมจะถือต่อ ผมขายทิ้ง
ผมจะมีเงินต้นก้อนใหม่ทันที 11000 บาท
- จากนั้นผมมองหาหุ้นตัวที่ 2 ที่พื้นฐานดี มี margin of safety
ผมซื้อตัวนั้นเหมิอนกัน ที่เงินต้นทั้งหมด 11000 บาท
จากนั้น 1 ปีต่อมา ราคาหุ้นขึ้นมา 10% ผมขายทิ้ง และมองหาโอกาสใหม่ที่อาจจะดีกว่าเดิม ผมจะมีเงินต้น 12100 บาท ทันที
ผมจึงตั้งข้อสังเกตว่า หากเรา มองหาโอกาสใหม่ๆเสมอ โดยการขายหุ้นเดิม เมื่อถึงมูลค่าพื้นฐานแล้ว นำเงินต้นก้อนใหม่ที่มีจำนวนมากขึ้นเนื่องจากได้รวม realized profit ไปแล้ว ไปลงทุนต่อเนื่อง
จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นผลตอบแทนทบต้นจริงๆได้มากกว่าหรือไม่
และกรณีที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ
เราก็สามารถนำเงินสดไปโปะในหุ้นที่เราพบว่าเป็นโอกาสใหม่ๆ ที่ราคายังมี Margin of safety ได้ด้วย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องถือหลายบริษัทเกินไป เนื่องจากขายบริษัทเดิมที่ราคาถึงมูลค่าออกมาแล้ว
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับผม รบกวนพี่ๆชี้แนะด้วยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 2
การหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ สม่ำเสมอ เปรียบเทียบว่า เค้ามีศักยภาพมากกว่าตัวเดิม หรือไม่ เป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่ตลอดเวลา ในชีวิตนักลงทุนของเราครับ
เราดูว่า ตัวเดิมของเราที่เราถืออยู่ ตอนนี้ ราคามันเต็มมูลค่า เทียบกับศักยภาพในอนาคตของมันไปมากแล้วหรือไม่ upside เหลือเยอะมั้ย เมื่อเทียบกับตัวใหม่ ถ้าตัวใหม่มี upside มีศักยภาพมากกว่า เราก็สลับตัวดูครับ
แต่บางทีมันก็ไม่แน่ เสมอไป เพราะเราอาจจะไปเจอตัวใหม่ที่แย่กว่าแทน และตัวเดิมของเรา อาจจะยิ่งมีศักยภาพที่แข็งแกร่งเรื่อยๆ ก็ได้
ไม่งั้นคงไม่มีประโยคที่ว่า ขายหมู ซื้อ buffalo นะครับ
อย่างไรก็ตาม ที่เห็นด้วยไม่ใช่เพราะ ตัวอย่างการคำนวนที่ยกมานะครับ
คือ เวลาเราบอกว่า ผลตอบแทนทบต้นที่ 10 % ต่อปี เราจะคิดจากฐานขนาดพอร์ตในปีก่อนหน้าครับ ไม่ใช่คิดจากฐานต้นทุนเริ่มต้น
ตัวอย่างที่ยกมานั้น วิธีการที่ 1 ใส่สมมติฐาน ผลตอบแทนทบต้นไปน้อยกว่า วิธีการที่ 2 อยู่แล้วตั้งแต่ต้น ครับ เวลาผลคำนวนมันออกมา เลยดูเหมือนว่า วิธีการที่ 2 ดูดีกว่า
จริงๆ ถ้าให้ ผลตอบแทนทบต้นต่อปีเท่ากัน วิธีที่ 2 จะได้น้อยกว่าด้วย เพราะ ต้องเสียค่า คอมในการสลับหุ้น ซื้อ ขาย
ลองดูวิธีคิด ผลตอบแทนทบต้นดูนะครับ
เราดูว่า ตัวเดิมของเราที่เราถืออยู่ ตอนนี้ ราคามันเต็มมูลค่า เทียบกับศักยภาพในอนาคตของมันไปมากแล้วหรือไม่ upside เหลือเยอะมั้ย เมื่อเทียบกับตัวใหม่ ถ้าตัวใหม่มี upside มีศักยภาพมากกว่า เราก็สลับตัวดูครับ
แต่บางทีมันก็ไม่แน่ เสมอไป เพราะเราอาจจะไปเจอตัวใหม่ที่แย่กว่าแทน และตัวเดิมของเรา อาจจะยิ่งมีศักยภาพที่แข็งแกร่งเรื่อยๆ ก็ได้
ไม่งั้นคงไม่มีประโยคที่ว่า ขายหมู ซื้อ buffalo นะครับ
อย่างไรก็ตาม ที่เห็นด้วยไม่ใช่เพราะ ตัวอย่างการคำนวนที่ยกมานะครับ
คือ เวลาเราบอกว่า ผลตอบแทนทบต้นที่ 10 % ต่อปี เราจะคิดจากฐานขนาดพอร์ตในปีก่อนหน้าครับ ไม่ใช่คิดจากฐานต้นทุนเริ่มต้น
ตัวอย่างที่ยกมานั้น วิธีการที่ 1 ใส่สมมติฐาน ผลตอบแทนทบต้นไปน้อยกว่า วิธีการที่ 2 อยู่แล้วตั้งแต่ต้น ครับ เวลาผลคำนวนมันออกมา เลยดูเหมือนว่า วิธีการที่ 2 ดูดีกว่า
จริงๆ ถ้าให้ ผลตอบแทนทบต้นต่อปีเท่ากัน วิธีที่ 2 จะได้น้อยกว่าด้วย เพราะ ต้องเสียค่า คอมในการสลับหุ้น ซื้อ ขาย
ลองดูวิธีคิด ผลตอบแทนทบต้นดูนะครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 3
อย่ายึดราคาหุ้นมากเกินไปครับ
เพราะราคาตลาดมาจากนายตลาด
บางทีมันก็มีเหตุผล
แต่บางทีมันก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
เราแค่ใช้ประโยชน์จากกลไกอารมณ์ของนายตลาด
ส่วนผลตอบแทนต่อปี (เฉลี่ย)
ก็ขึ้นกับความสามารถส่วนบุคคล (โชค+วาสนา)
จะโฟกัสหุ้นน้อยตัว
หรือจะถือหุ้นมากตัวแต่ดูแลไหว
อันนี้ก็แล้วแต่นายอำนวยกับนายสะดวกจะเอื้อเฟื้อ
ตัวผมเองก็ไม่กล้าไปเปรียบเทียบกับใคร
ปรับพอร์ตไปปรับพอร์ตมา
แต่ระยะยาวชนะดัชนีตลาด
ผมคิดว่าก็พอจะโอเค
และเปิดฮาเร็มได้
แล้วผลตอบแทนทบต้น
มันก็จะตามมาเองครับ
เพราะราคาตลาดมาจากนายตลาด
บางทีมันก็มีเหตุผล
แต่บางทีมันก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
เราแค่ใช้ประโยชน์จากกลไกอารมณ์ของนายตลาด
ส่วนผลตอบแทนต่อปี (เฉลี่ย)
ก็ขึ้นกับความสามารถส่วนบุคคล (โชค+วาสนา)
จะโฟกัสหุ้นน้อยตัว
หรือจะถือหุ้นมากตัวแต่ดูแลไหว
อันนี้ก็แล้วแต่นายอำนวยกับนายสะดวกจะเอื้อเฟื้อ
ตัวผมเองก็ไม่กล้าไปเปรียบเทียบกับใคร
ปรับพอร์ตไปปรับพอร์ตมา
แต่ระยะยาวชนะดัชนีตลาด
ผมคิดว่าก็พอจะโอเค
และเปิดฮาเร็มได้
แล้วผลตอบแทนทบต้น
มันก็จะตามมาเองครับ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 4
ขออภัยที่ผมยกตัวอย่างไม่เคลียร์ครับ
ประเด็นที่ผมหมายถึงคือ สมมติ หุ้นตัวนึง ราคาวิ่งขึ้นไป 20% ต่อปี หาก เราถือต่อไป 5 ปี และซื้อไว้ที่เงินต้น 10000 บาท
ก็จะเท่ากับ 10000+(20%×5) = 20000 บาท
แต่หากเราขายทิ้งเมื่อทำกำไรได้ 20%
และเข้าซื้อใหม่ที่ราคามี MOS โดยหุ้นนั้นๆราคาวิ่งปีละ 20%
เราก็ จะเป็น (10000)×(1.2)⁵ = 24800
ผมเข้าใจผิดตรงไหนรบกวนอธิบายได้เลยนะครับ ขอบคุณมากครับ
ประเด็นที่ผมหมายถึงคือ สมมติ หุ้นตัวนึง ราคาวิ่งขึ้นไป 20% ต่อปี หาก เราถือต่อไป 5 ปี และซื้อไว้ที่เงินต้น 10000 บาท
ก็จะเท่ากับ 10000+(20%×5) = 20000 บาท
แต่หากเราขายทิ้งเมื่อทำกำไรได้ 20%
และเข้าซื้อใหม่ที่ราคามี MOS โดยหุ้นนั้นๆราคาวิ่งปีละ 20%
เราก็ จะเป็น (10000)×(1.2)⁵ = 24800
ผมเข้าใจผิดตรงไหนรบกวนอธิบายได้เลยนะครับ ขอบคุณมากครับ
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 5
ลำพังการถือหุ้นตัวเดียว
ราคาหุ้นถ้าขึ้นปีนึง 20%
เมื่อเทียบกับราคาตอนต้นปีแต่ละปี
ในปีที่ 5 พอร์ต 10,000 ก็กลายเป็น 24,000 ได้นะครับ
และถ้ามีเงินปันผลจ่ายเพิ่มมาด้วย
ปีที่ 5 ก็น่าจะมีมากกว่า 24,000
แต่ที่ยากกว่าการหาหุ้นตัวนี้
ก็คือการถือมาให้ได้ตลอดทางนะครับ
ไม่แปลกหรอกครับ ถ้าระหว่างทาง
จะเจอสาวสวยคนใหม่เดินผ่านมา
จนอยากจะเดินเข้าไปขอ Line
ประเด็นคือ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า
สาวคนใหม่ จะดีกว่าสาวคนเก่า
โชคดีที่ในโลกของการลงทุน
เราเลือกควงได้พร้อมกันมากกว่าหนึ่งคน
ราคาหุ้นถ้าขึ้นปีนึง 20%
เมื่อเทียบกับราคาตอนต้นปีแต่ละปี
ในปีที่ 5 พอร์ต 10,000 ก็กลายเป็น 24,000 ได้นะครับ
และถ้ามีเงินปันผลจ่ายเพิ่มมาด้วย
ปีที่ 5 ก็น่าจะมีมากกว่า 24,000
แต่ที่ยากกว่าการหาหุ้นตัวนี้
ก็คือการถือมาให้ได้ตลอดทางนะครับ
ไม่แปลกหรอกครับ ถ้าระหว่างทาง
จะเจอสาวสวยคนใหม่เดินผ่านมา
จนอยากจะเดินเข้าไปขอ Line
ประเด็นคือ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า
สาวคนใหม่ จะดีกว่าสาวคนเก่า
โชคดีที่ในโลกของการลงทุน
เราเลือกควงได้พร้อมกันมากกว่าหนึ่งคน
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 6
การลงทุนมัน Dynamic
บางทีถือคบกันมา 4 ปี
ราคามันไม่ไปไหน
ถือมาเรื่อยจนรู้สึกอ่อนใจ
เลยตัดสินใจเลิกคบเพราะอ่อนแรง
เปลี่ยนไปควงสาวคนใหม่
หลังจากนั้นไม่นาน
สาวคนเก่าก็ออกวิ่งเป็นบ้าเป็นหลัง
เหมือนให้เราเจ็บใจเล่นเลยก็มี
บางทีถือคบกันมา 4 ปี
ราคามันไม่ไปไหน
ถือมาเรื่อยจนรู้สึกอ่อนใจ
เลยตัดสินใจเลิกคบเพราะอ่อนแรง
เปลี่ยนไปควงสาวคนใหม่
หลังจากนั้นไม่นาน
สาวคนเก่าก็ออกวิ่งเป็นบ้าเป็นหลัง
เหมือนให้เราเจ็บใจเล่นเลยก็มี
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 1
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 352
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ว่าด้วยเรื่องผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 8
เพราะ 20 % ที่เจ้าของกระทู้ถาม เทียบมาจากคนละฐาน กรณีที่1 คือ 20 % เทียบกับเงินต้นครั้งแรกตายตัว ส่วนกรณี่ที่ 2 เทียบกับทุนใหม่ทุกปี หรือพูดได้ว่ากำไรทบต้น 20% ทุกปี แต่กรณีที่ 1 ไม่ใช่ มันแค่ 1x % ทบต้น