สรุป หนังสือ One up on wall street
ผู้เชียน คือ ปีเตอร์ ลินซ์ ซึ่งทำผลตอบแทน 29%ต่อปีมาต่อเนื่อง
หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนชีวิตนักลงทุนได้อย่างไรมาติดตามกัน
ช่วงแรกจะพูดถึงที่มาของหนังสือฉบับแปลเป็นไทยว่าเป็นมาอย่างไร ผ่านการพูดคุยของ
โดย ฐานุพงศ์ จิรโอฬารพัฒน์ ,Ekasith Hussarungsri , Kornsuppa Mangkornkaew
คุณเอก ผู้นำlicenseเล่มนี้มาแปลอีกครั้ง พูดถึงเล่มนี้ ว่าอ่านไป หัวเราะไป แถมสนุกอีกต่างหาก แตกต่างจากเล่มอื่น ซึ่งใช้เวลาอ่านยากมาก
ก่อนหน้านี้ฟังเขาพูดมาว่าดี ตั้งแต่ทำงานอยู่กสิกร ตอนปี2542 ลงทุนก็ขาดทุนวันละพันบาท เหมือนทำงานแล้วเอาเงิน
มาทิ้งในตลาดหุ้น แสดงว่าต้องมีหลักการบางอย่างที่ต้องเอามาใช้เพื่อไม่ให้เข้าทุน
เลยซื้อหนังสือText bookมาอ่านก่อน ราคา 495 บาท หยิบติดมือไปอ่านประจำ ว่างก็อ่านจนจบ รู้สึกสนุกและตลกมาก
ช่วงบทสุดท้ายก่อนจบ อ่านจบหลับ และตื่นขึ้นมา คิดว่าน่าจะมีversion ภาษาไทย ให้คนอื่นอ่านบ้าง
เลยคิดว่าจะทำเอง แต่ไม่เคยคิดจะแปลเอง เลยไปศึกษาวิธีการทำสนพ ว่าทำอย่างไร ซื้อlicenseทำอย่างไร จนซื้อlicenseมาเพื่อแปลเป็นไทย การลงทุนเป็นศาสตร์ และซับซ้อน ดังนั้นต้องหาคนแปลที่รู้จักหุ้นดี ชื่อแรกที่คิด คือ
ดร นิเวศน์ ก็เลยติดต่ออาจารย์มาแปล และ หนังสือเล่มนี้ได้ช่วยก่อร่าง สนพ Fidelity NSIX ขึ้นมา
หนังสือเล่มนี้ Text book ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1989 และ ผ่านการพิมพ์ซ้ำ30ครั้งมากกว่า 1ล้านเล่ม จนมาพิมพ์ปี2000
ซึ่งเป็นต้นฉบับในการแปลเป็นไทยออกมาในปี 2004
20ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ สรุป โดย สนพ Bingo
1.จงเข้าใจธุรกิจของหุ้นที่คุณลงทุน และ อย่าลืมเหตุผลที่คุณซื้อหุ้นตัวนั้น
อย่าลงทุนหุ้นที่คุณอธิบายให้เด็กอนุบาลฟังไม่ได้ เพราะ ถ้าคุณเข้าใจ ก็จะสามารถอธิบายเป็นภาษาง่ายๆ
ให้เด็กฟังเข้าใจได้
2.คนธรรมดามีข้อมูลล้ำค่าที่นักลงทุนมืออาชีพไม่รู้
ซื้อหุ้นเหมือนซื้อธุรกิจ คนที่ลงทุนได้ดีที่สุด เป็นคนที่เข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง
คุณเชาว์เคยพูดว่า สามารถอธิบายแทนผู้บริหารได้เลย
3. ถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน อย่าเอาไปซื้อหุ้น
หุ้นจะมีความผันผวน อาจลงได้ในระยะสั้น2-3ปี ดังนั้นไม่ควรเอาเงินที่ต้องใช้ระยะสั้นมาลงทุน
สินทรัพย์เช่นหุ้น ที่ต้องถือในระยะยาว
4.หุ้น6ชนิดของปีเตอร์ ลินซ์ รู้ไว้ลงทุนง่ายขึ้นเยอะ
ซึ่งแบ่งหุ้นออกเป็น6ชนิด ได้แก่
4.1 หุ้นโตเร็ว
4.2 หุ้นโตช้า
4.3 หุ้นใหญ่ที่มั่นคง
4.4 หุ้นวัฐจักร
4.5 หุ้นฟื้นตัว หรือ หุ้น Turnarround
4.6 หุ้นทรัพย์สินมาก
หุ้นแต่ละชนิดมีพฤติกรรมที่ต่างกัน คุณต้องเข้าใจหุ้นของตัวเองก่อน จึงจะลงทุนได้ดี
5.ถ้าคุณใช้เวลา 13 นาทีในการคาดเดาเศรษฐกิจ คุณเสียเวลาไปแล้ว 10 นาที
6.หาหุ้น10เด้งเจอตัวเดียว เปลี่ยนทั้งชีวิต
อย่างคุณเชาว์ เจอ Karmart , BOL ขึ้นมากกว่า 10 เด้ง ชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลง
หุ้นที่ขึ้น10เด้งได้ ประกอบด้วย
6.1 เทคโนโลยีใหม่ 7-11 มีเทคโนโลยีร้านสะดวกซื้อที่เหนือกว่าโชห่วย
6.2 Mega Trend ของสังคม
6,3 บริษัทเติบโตอย่างรอดเนื่อง
7.ซื้อหุ้นบริษัทที่น่าเบื่อ และนักลงทุนคนอื่นยังไม่สนใจ
บริษัทที่พบเจอ ชื่อบริษัทน่าเบื่อ , ทำธุรกิจน่าเบื่อ , กองทุนไม่รู้จัก , ไม่มีนักวิเคราะห์
8.ระวังบริษัทที่โตปีละ 50-100%
บริษัทที่โตเร็วขนาดนั้นมักจะไม่ปกติ จะต้องมีสาเหตุพิเศษอะไรที่อยู่เบื้องหลังkk
เหตุผลสามข้อ
8.1 เป็นไปได้ยากว่าบริษัทจะโตเร็วขนาดนี้ได้ในระยะยาว ซึ่งถ้าดีจริงก็จะดึงดูดคู่แข่งเข้ามา
8.2 ต่อให้โตได้จริง ก็ต้องลงทุนขยายกิจการ โดยกู้เงินมา หรือ เพิ่มทุน ซึ่งไมว่าทางไหนก็ไม่ดีกับคุณ
8.3 บริษัทโตเร็วมักมาพร้อมกับความคาดหวังสูง แต่ถ้าปีไหนโตช้าลง ราคาหุ้นก็จะร่วงลงมา แรงมาก
9. เลือกซื้อธุรกิจที่ไอ้โง่ที่ไหนก็บริหารได้
ธุรกิจที่บริหารง่าย เราไม่ต้องกังวล เพราะธุรกิจมันดีด้วยตัวเอง
10. หุ้นที่ควรซื้อ อาจเป็นตัวที่คุณมีอยู่แล้ว
ซึ่งตรงกับ คุณปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ คิดเหมือนกัน
หุ้นที่คุณมีอยู่แล้ว คือ หุ้นที่เชื่อว่าดี
11.มีเรื่องน่าเป็นห่วงเสมอ คุณอาจรอให้เกิดวิกฤตแล้วค่อยลงทุน ทำแบบนั้นได้
12. อย่าเอามือไปรับมีดที่กำลังร่วง
การไปซื้อหุ้นที่กำลังร่วงแรงๆ ก็เหมือนการไปรับมีดที่กำลังร่วงที่สนามบิน
13.ระวังบริษัทที่ขยายธุรกิจไปทำอย่างอื่น
14. หลีกเลี่ยงบริษัทที่ทุกคนซื้อในอุตสาหกรรมที่ร้อนแรง
15. คิดด้วยตนเอง อย่าเชื่อนักวิเคราะห์ หรือข่าวลือ
16. ลองดูหุ้นที่Insider หรือ คนใน กำลังซื้อ
17 กำไร กำไร และ กำไร 5วิธีในการเพิ่มกำไร
18. ถ้าไม่ชัวร์อย่าซื้อหุ้น เสียดายดีกว่าเสียใจ
19.ราคาหุ้นต้องไม่แพง ค่าพีอี ไม่ควรเกินอัตราการเติบโต
20. ซื้อหุ้นไม่ดีราคาถูก เป็นเทคนิคที่ได้กำไรไม่สูงนัก
สรุปหนังสือ One up on Wall Street
- Bird.Songwut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 159
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปหนังสือ One up on Wall Street
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับ
"มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้นจะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล"
Investor hub : ห้องลับนักลงทุน https://www.youtube.com/@Investor_hub
Investor hub : ห้องลับนักลงทุน https://www.youtube.com/@Investor_hub