การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
ขออนุญาต คัดลอกข้อความของพี่ปรัชญา ย้ายออกมาจากกระทู้ RCI ครับ
สำหรับแบ่งปันความรู้ให้ผู้สนใจอื่นๆด้วยครับ
เรื่องไม้ MDF
มีเครื่องที่ผลิตนำเข้ามาขาย จากประเทศจีน
วัสดุที่ใช้ในส่วนผสม ก็เอาไม้ยูคาลิป ต้นสน ต้นยางพารา
เศษเยื่อไม้ที่เหลือจากการทำกระดาษ
(ชนิดใดชนิดหนึ่งนำมาผลิต)
และกากชานอ้อยที่ได้ จากโรงานทำน้ำตาลทรายแล้ว
เป็นวัตถุดิบ
นำเข้าเครื่องบดให้เป็นผงระเอียด
ผสมกาว เข้าหม้อกวน จนได้ที่
มีท่อลำเรียงจากหม้อผสมมาโรยบนแท่นอัด
รีดด้วยความร้อนออกมาเป็นแผ่น
นำมาตัดให้ไซด์มาตรฐานคือ กว้าง48นิ้ว คูณด้านยาว96นิ้ว
เป็นแผ่นมาตรฐานของไม้อัด
ไม้อัดMDF มีความหนา 3มิล 6มิล 10มิล 15มิล
มีผู้ผลิตรายใหญ่อยู่3บริษัท
1.วนชัยกรุ๊ป
2.บริษัทที่อยู่กบินทร์บุรี
3.เค-เค-วู๊ด อยู่ขอนแก่น
และรายเล็กรายน้อยอีกนับ10บริษัท
ผมเคยซื้อ1รถเปลือย24ล้อเปิด บรรทุกได้800แผ่น
(น้ำหนักไม้10มิลแผ่นละ17-20กก.)
ปัจจุบันราคา/แผ่น2ร้อยกว่าบาท
เครดิต60-90วันถึงจ่าย
เวลาของมาลงก็ตีเช็คล่วงหน้าเซ็นต์รับของ
เมื่อก่อนยอดขายดีมาก
ปัจจุบันย่ำแย่สาหัสแทบขายไม่ได้เลย
ไม้พวกนี้ยังไม่ปิดผิว เป็นแผ่นเปลือยออกจากโรงงาน
มากองไว้ในโกดัง ไม่ถึง3เดือน ถ้าอากาศชื้นก็จะขึ้นราเขียวๆ
ถ้าเปียกน้ำเล็กน้อยก็จะบวมเปื่อยยุ่ย
ประโยชน์ของการใช้งาน ในเมืองไทย.....(ไว้จะเล่าต่อวันหน้า)
-
เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
รอฟังต่ออยู่นะครับพี่
ขอบคุณครับ.....
-
Dech
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
ลุงขวด น่าจะทราบ นะครับ
Fancy ทำไม้นี้ด้วยหรือเปล่า
มารอฟังครับ
-
buglife
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
แฟนซีทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราอย่างเดียวมังครับ
ไม้ยางอบสารเคมีแล้ว แข็งแรงทนทานกว่าไม้อัดพวกนี้เยอะนะครับ
น่าจะคนละกลุ่มเป้าหมายกัน
เฟอร์นิเจอร์ไม้อัดพวกนี้ราคาถูกมากเลยครับ
แต่โดนน้ำ โดนอะไรหน่อยก็บวมหมด
ได้อย่าง เสียอย่างครับ
-
ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
fancy เป็นไม้เนื้อจริงครับ ไม่ใช่ พาร์ติเกิล แบบ วนชัยทำ..........เพียงแต่ไม้เนื้อจริงนี้ทำจาก ไม้ยางพารา ที่ตัดมา เป็นลักษณะซุงต้นละยาว ประมาณ 2 เมตร จากนั้นก็เอาซุงยางพารา นี้ มาซอย แบบ ไม้ หน้า 3" นั่นแหละ นำมาอบเอาเชื้อรา และ ความชื้นออก.........ขั้นตอนอบไม้นี้ สำคัญมาก fancy เลยต้องลงทุนเตาอบไม้ แบบนี้ จำนวน มากที่สุดในโลก ก็ว่า ได้ จำได้ว่า เกือบ 100 เตาอบ (80 กว่ามังครับ)........ดังนั้นคุณภาพของไม้จึงเป็นแบบที่ fancy ต้องการ จากนั้น ก็ จะมาซอย และ ดัด เป็นแผ่น ทำ furniture แล้ว แต่ขนาดต่อไป..........โดน น้ำ ก็ ไม่เป็นไร เพราะ เป็นไม้เนื้อจริง อายุการใช้นาน ก็ เหมือน furniture ไม้ทั่วไปนั่นแหละ ราคา แพงกว่า พวก พาร์ติเกิลแน่นอน แต่ถูกกว่า พวกไม้ที่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ หรือ ตัดจากต้นไม้ใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นการทำลายธรรมชาติ นะครับ
-
เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ปรัชญาครับ ผมเห็นมีไม้หนา1" ด้วยนิครับ เคยใช้แบบปิดผิวเมลามีนลายไม้ครับ
เมื่อก่อนผมเคยเชื่อว่า ไม้MDFมีคุณสมบัติเหนือกว่าปาติเคิ้ลในการทำเฟอร์แบบน็อคดาวน์ แต่พอผ่านประสพการณ์มาก็เริ่มเปลี่ยนใจเพราะ
1. เมื่อก่อนเห็นเฟอร์น็อคดาว์น จะใช้ปาติเกิ้ลแบบเกรดต่ำมาก เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามีเกรด A,B,และC ส่วนใหญ่จะเห็นพวกราคาถูกจะใช้เกรดCซึ่งเนื้อยุ่ยมาก พอมาสังเกตุชนิดเกรดA ก็ดูเนื้อวัสดุจะเป็นเส้นใย สามารถจับเกลียวสกรูต่างๆได้ดีกว่าไม้MDF การถอดประกอบหรือซ่อมแซมจะไม่ทำให้รูเกลียวเสียหายมากเท่าไม้MDF รวมทั้งมีน้ำหนักที่เบากว่ามาก นำมาทำพวกบานตู้ดีกว่าเนื่องจากน้ำหนักที่เบากว่าทำให้เป็นภาระกับบานพับน้อยลง
2. เคยเชื่อว่าไม้MDFทนความชื้นได้ดีกว่า ปาติเกิ้ล....ซึ่งต่อมาได้ทดลองด้วยตัวเอง ทั้งเอาแช่น้ำทั้งแผ่นตัวอย่าง หรือเอาแช่เฉพาะมุม และลองหาพวกน้ำยากันซึมมาทาก่อนแช่ เปรียบเทียบกันดู บวมทุกอันทั้งปาร์ติเคิ้ลทั้งMDF
แทบไม่เห็นข้อแตกต่างกันเท่าไหร่ครับ(ใช้แผ่นเคลือบผิวเมลามีนเป็นตัวอย่างครับ รู้สึกปาร์ติเค้ลจะบวมน้อยกว่าด้วยซ้ำ) และแผ่นปาติเกิ้ลยังมีชนิดสั่งพิเศษแบบทนความชื้นอีก(สีออกเขียวๆ)
สรุป2ประเด็นนี้เลยทำให้เห็นว่าไม้ปาร์ติเคิ้ลเหนือกว่า ในการนำมาทำเฟอร์ชนิดน็อคตาว์น
แต่MDF ก็ยังไม่หมดค่า เพราะเนื้อที่มีความละเอียด สามารถนำมาทำผิวสีให้เรียบได้ รวมทั้งสามารถขุดแต่งเนื้อไม้ได้ผิวงานที่ดูเรียบร้อยเนื่องจากเนื้อในที่ละเอียดนั่นเองทำสีพ่นได้สวยงามมาก ข้อนี้ปาร์ติเคิ้ลเสียเปรียบ
MDFจึงเหมาะสำหรับงานประเภทbuilt-inที่ต้องการทำผิวสีที่เรียบเช่นสีพ่น แต่ ยังคงต้องระวังเรื่องน้ำและความชื้นอยู่ดี วัสดุพวกนี้จึงจะใช้งานไปได้อีกนาน