ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
แม่มักจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อน ข้าวจานนึงแค่ 50 สตางค์ บาทเดียวก็ซื้อได้แล้ว เดี๋ยวนี้ต้อง 25-30 ถึงจะซื้อข้าวได้จานนึง
ช่วยบอกหน่อยครับว่า สินค้าอะไรบ้าง ที่เมื่อก่อนใช้เงินจำนวนน้อย เดี๋ยวนี้ราคามันเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆครับ
ช่วยบอกหน่อยครับว่า สินค้าอะไรบ้าง ที่เมื่อก่อนใช้เงินจำนวนน้อย เดี๋ยวนี้ราคามันเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆครับ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 7
สมัยผมอยู่ชั้นป. 2 ก๋วยเตี๊ยวชามละ 75 สต. พออยู่ชั้น มศ. 1 ชามละ3 บาท พอชั้น มศ.5 กินข้าวแกงในรร.ชามละ 5 บาท นำกระเจี๊ยบแก้วละ 50 สต. เข้ามหาวิทยาลัยจำได้ว่าไปกินข้าวกับเพื่อน 2 คนสั่งข้าว 3 จาน กับข้าว 3 อย่าง กินกันอิ่มแปล้ จ่ายไป 50 กว่าบาท (ผมเข้าปี1ที่ธรรมศาตร์ ปี 19 พอดี)
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 9
ผมจำได้ว่า ตอนประถม4 ข้าวจานละ 50สตางค์harry เขียน:แม่มักจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อน ข้าวจานนึงแค่ 50 สตางค์ บาทเดียวก็ซื้อได้แล้ว เดี๋ยวนี้ต้อง 25-30 ถึงจะซื้อข้าวได้จานนึง
ช่วยบอกหน่อยครับว่า สินค้าอะไรบ้าง ที่เมื่อก่อนใช้เงินจำนวนน้อย เดี๋ยวนี้ราคามันเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆครับ
ทองคำไม่ถึงบาทละ 400บาท
TV ที่ได้ดูช่องแรกเลย คือช่อง4 (ปัจจุบันเป็นช่อง11)
เป็นTV ขาวดำ ช่องต่อมาก็ ทีวีสีช่อง 3
มีพวกหนังคาวบอย กับหนังอินเดียร้องแต่เพลง
ดีใจก็เต้นไปร้องเพลงไป เสียใจก็ร้องไห้ไปร้องเพลงไป
เกมส์โชว์ไม่มีนะยุคนั้น
ผมเป็นคนบ้านนอกอาศัยอยู่บ้านไม้ กว้างหน้าบ้าน16เมตรลึก12เมตร
ไม้กระดานปูพื้นหนา2นิ้ว ยาว12เมตร กว้าง50-60เซ็นต์
เตี่ยเล่าให้ฟังว่า บ้านทั้งหลัวราคา25สตางค์
เพราะสมัยนั้นพ่อค้าตัดไม้เป็นแผ่นล่องเป็นแพมาจากเมืองกาญจนบุรี
มาผูกอยู่หน้าวัดอุบลฯ เลยซื้อมา สมัยนั้นก็ว่าแพงแล้ว
พอผมชั้นประถม3-4 ก็เริ่มมีรถ บขส.วิ่งเข้า กทม.
ไม่งั้นต้องขับเรือจากคลองดำเนินสะดวกไปทางแม่น้ำท่าจีนเข้ากรุงเทพ
นี่ล่ะชีวิตเด็กบ้านนอก เฮ้อ..วันเวลาผ่านไป45ฤดูหนาว
วันนี้มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเกือบ1พันกิโลเมตร
มาเสียท่าสาวอีสานนะเนี่ย
ต้องให้ลุงขวด กับพี่ครรชิตมาเล่าล่ะครับ เพราะอาวุโสมากกว่าผม
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 10
สมัยผมเด็กๆกินก่วยเตียวที่โรงเรียนชามละ 1บาท กินข้างนอก 3บาท
เลยมาไม่กี่ปีชามละ5บาท ประมาณยี่สิบกว่าปีได้แล้วครับ
เคยคิดเล่นๆว่าถ้าเอาราคาก๋วยเตียวมาหาอัตราเงินเฟ้อในยี่สิบปี ก็ตกประมาณ7%กว่าๆต่อปีเชียวนา ไม่เชื่อลองเอา 5บาทตั้ง แล้วเอา 25บาทเป็นราคาสุดท้าย เวลา20ปีดูซิ
หากเงินเฟ้อ 7%กว่าๆจริงนะ เราต้องลงทุนแล้วมีผลตอบแทนสุงจริงๆนะถึงจะรอดได้
น่าคิดน่าคิด
หมายเหตุ: ผมอายุยังน้อยครับ ยังไม่ถึงหลักสี่ อยู่แค่แถวเกษตรฯครับ
เลยมาไม่กี่ปีชามละ5บาท ประมาณยี่สิบกว่าปีได้แล้วครับ
เคยคิดเล่นๆว่าถ้าเอาราคาก๋วยเตียวมาหาอัตราเงินเฟ้อในยี่สิบปี ก็ตกประมาณ7%กว่าๆต่อปีเชียวนา ไม่เชื่อลองเอา 5บาทตั้ง แล้วเอา 25บาทเป็นราคาสุดท้าย เวลา20ปีดูซิ
หากเงินเฟ้อ 7%กว่าๆจริงนะ เราต้องลงทุนแล้วมีผลตอบแทนสุงจริงๆนะถึงจะรอดได้
น่าคิดน่าคิด
หมายเหตุ: ผมอายุยังน้อยครับ ยังไม่ถึงหลักสี่ อยู่แค่แถวเกษตรฯครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 11
ข้าวแกงจานละบาท
ก๋วยเตี๋ยวก้อบาทนึงแต่มีชามเล็กด้วยห้าสิบตัง
น้ำแก้วละสลึง
แม่โขงขวดละ 13บาท
ข้าวสารถังละ15บาท [ถังนึงประมาณ15 กิโล สมัยนี้ถุงละ5กิโล ถังนึงก้อในราว3ถุง]
รถญี่ปุ่นคันละ4หมื่นกว่า โฟล์คเต่าคันละ 5หมื่นกว่า เบ็นซ์คันละแสนกว่า
น้ำมันลิตรละ สิบสลึง
วิทยุต้องใส่ถ่าน[battery] เป็นลังๆ จำไม่ได้ว่ากี่สิบก้อน
ปืน colt ตราม้า สองพันกว่า
นาฬิกา rolex หลายพัน [จำไม่ได้ว่ากี่พัน อาจจะถึงหมื่น]
ทองคำ ประมาณบาทละ สี่ร้อย
cokeขวดละบาท แต่ขวดสวยกว่าสมัยนี้ขวดรูปร่างประมาณ มาริลิน มอนโร ยังไงยังงั้นเลย ถ้าไม่เชื่อลองถามลุงขวดดู คุณครรชิต กับคุณปรัชญา
ก็คงจำได้ ว่าขวดโค้ก สมัยนั้นหุ่นดีมาก [เข้าใจว่าคุณครรชิต อาจจะติดใจขวดโค้ก ตั้งแต่สมัยก่อน ก็เลยยังถือหุ้น โค้กจนถึงทุกวันนี้]
อะไรอีกล่ะ นึกไม่ออกแล้ว อ้อ!ในยุคหลังๆจะมีน้ำมะเน็ด ที่จุกขวดมีลูกแก้วอยู่ด้วย
เด็กๆเล่นไพ่ ก็จะเอาชองบุหรี่มาแทนสตางค์ มีบุหรี่ตราฆ้อง กับตราสิงโตหมอบ[สิงโต หน้าเป็นคน หรือ sphinx นั่นแหละ]
ก๋วยเตี๋ยวก้อบาทนึงแต่มีชามเล็กด้วยห้าสิบตัง
น้ำแก้วละสลึง
แม่โขงขวดละ 13บาท
ข้าวสารถังละ15บาท [ถังนึงประมาณ15 กิโล สมัยนี้ถุงละ5กิโล ถังนึงก้อในราว3ถุง]
รถญี่ปุ่นคันละ4หมื่นกว่า โฟล์คเต่าคันละ 5หมื่นกว่า เบ็นซ์คันละแสนกว่า
น้ำมันลิตรละ สิบสลึง
วิทยุต้องใส่ถ่าน[battery] เป็นลังๆ จำไม่ได้ว่ากี่สิบก้อน
ปืน colt ตราม้า สองพันกว่า
นาฬิกา rolex หลายพัน [จำไม่ได้ว่ากี่พัน อาจจะถึงหมื่น]
ทองคำ ประมาณบาทละ สี่ร้อย
cokeขวดละบาท แต่ขวดสวยกว่าสมัยนี้ขวดรูปร่างประมาณ มาริลิน มอนโร ยังไงยังงั้นเลย ถ้าไม่เชื่อลองถามลุงขวดดู คุณครรชิต กับคุณปรัชญา
ก็คงจำได้ ว่าขวดโค้ก สมัยนั้นหุ่นดีมาก [เข้าใจว่าคุณครรชิต อาจจะติดใจขวดโค้ก ตั้งแต่สมัยก่อน ก็เลยยังถือหุ้น โค้กจนถึงทุกวันนี้]
อะไรอีกล่ะ นึกไม่ออกแล้ว อ้อ!ในยุคหลังๆจะมีน้ำมะเน็ด ที่จุกขวดมีลูกแก้วอยู่ด้วย
เด็กๆเล่นไพ่ ก็จะเอาชองบุหรี่มาแทนสตางค์ มีบุหรี่ตราฆ้อง กับตราสิงโตหมอบ[สิงโต หน้าเป็นคน หรือ sphinx นั่นแหละ]
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
อายุไม่มากแต่จำไม่ค่อยได้ครับ ความจำสั้นครับ
คุ้นๆว่าตอนเรียนมัธยมต้น แม่ให้เงินไปเรียนเป็นรายเดือนครับ
คิดค่ารถไปกลับเรียนในตัวจังหวัด ค่าข้าวเที่ยงทั้งหมดแล้ว
ค่านู้นนี้ทั้งหมด น่าจะเดือนละไม่เกิน 500 บาทครับ
คุ้นๆว่าตอนเรียนมัธยมต้น แม่ให้เงินไปเรียนเป็นรายเดือนครับ
คิดค่ารถไปกลับเรียนในตัวจังหวัด ค่าข้าวเที่ยงทั้งหมดแล้ว
ค่านู้นนี้ทั้งหมด น่าจะเดือนละไม่เกิน 500 บาทครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 14
แล้วดีดลูกหิน กับแทงหวย กอ ขอ หรือเปล่าล่ะRR เขียน: cokeขวดละบาท แต่ขวดสวยกว่าสมัยนี้ขวดรูปร่างประมาณ มาริลิน มอนโร ยังไงยังงั้นเลย ถ้าไม่เชื่อลองถามลุงขวดดู คุณครรชิต กับคุณปรัชญา
ก็คงจำได้ ว่าขวดโค้ก สมัยนั้นหุ่นดีมาก [เข้าใจว่าคุณครรชิต อาจจะติดใจขวดโค้ก ตั้งแต่สมัยก่อน ก็เลยยังถือหุ้น โค้กจนถึงทุกวันนี้]
อะไรอีกล่ะ นึกไม่ออกแล้ว อ้อ!ในยุคหลังๆจะมีน้ำมะเน็ด ที่จุกขวดมีลูกแก้วอยู่ด้วย
เด็กๆเล่นไพ่ ก็จะเอาชองบุหรี่มาแทนสตางค์ มีบุหรี่ตราฆ้อง กับตราสิงโตหมอบ[สิงโต หน้าเป็นคน หรือ sphinx นั่นแหละ]
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 15
สิ่งที่พอจำได้ ก็ คือ เอาข้าวใส่กล่องอลูมิเนียม มีช่อง 2 ช่อง ช่องเล็ก ๆ ไว้ใส่อาหาร ส่วนมากจะเป็นไข่ดาว อีกช่องอัดไปด้วยข้าวสวย เบื่อไข่ดาว ก็ ไม่เอา เอาแต่ข้าวไปซื้อ แกง หรือพวก หมูแดงที่เขาเอาไว้ลาดข้าว ถ้าไม่ผิด ซื้อแต่หมูแดง ก็ แค่ 1 บาท ลาดข้าวที่เอาไป ก็ อิ่มเลยมือนั้น........ค่ารถเมล์ รู้สึกจะ 50 สต มั้ง ตอนเด็ก ๆ เขามีที่สวนมะพร้าว สวนฝรั่ง แถว บางโคล่ (สาธุประดิษฐ์) มาบอกขาย แค่ไร่ละ 600 บาทเองครับ พ่อผมอยากซื้อแต่ติดที่เป็นต่างด้าว เลยชวดไปเลย แถวนั้น TV เป็นของใหม่มาก บ้านผมเป็นตึกแถว ขายของชำเล็กน้อย และ มี ของกินเด็ก ๆ ใครจะดู TV ต้องซื้อของกิน คนละ 25 สต 50 สต ก็เข้าไปดู จัดที่นั่งให้ดูเลยครับ เป็นสิ่งใหม่ ขาวดำ ยี่ห้อ GE แต่จำราคาไม่ได้........ทอง บาท ละ 400 บาทเหมือนกัน......ราคาน้ำขวดจำไม่ได้เหมือนกัน แต่รู้ว่า เวลา มีแขกมา ก็ ให้ไปสั่ง น้ำส้ม เป็น ไบร์เล่ห์ เป็นประจำ ให้ แขกรับประทาน...........สมัยเป็นนักเรียน ผมอยู่แถว ตรอกจันทร์ บ้านใหม่ (เขตยานยาวา แขวงวัดพระยาไกร) มี รถรางวิ่งจาก ถนนตก รู้สึกจะไปทางเยาวราช......เป็น 2 ขบวน ลากกัน ขบวนหน้าแพงหน่อย มีเบาะนั่งสีขาวยาว ๆ บนที่นั่ง ขบวนหลัง ไม่มีเบาะนั่ง เป็นไม้ยาว ๆ......... เวลาเรียนพิเศษตอนเย็น สิ่งที่ผมชอบมากที่สุด ก็คือ วิ่งเกาะรถราง ครับ วิ่งหน้าลงด้านหลัง วิ่งด้านหลังขึ้นไปด้านหน้า หนี คนเก็บเงิน คือ ไม่ยอมจ่ายเงินค่าโดยสาร สนุก ไป เรื่อย ๆ วัยรุ่นวัยคนอง นะครับ ..............ส่วน งานอดิเรก ตอนปิดเทอม ก็ คือ ขายไอติม ไปรับที่ตลาด เขาจะมี กระติกเก็บความเย็น ลักษณะยาว ๆ อยู่ในหวายที่เขาหุ้มห่อ ใช้คล้องตัว เดินไปขายไป ใครกินไอติม มีปลายไม้สีแดง จะแลกได้ฟรีอีก หนึ่งแท่ง รู้สึกจะแท่งละ 25 สต และ อีกอย่างที่ขาย ก็ คือ สายไหม แบบที่เขาขายกันที่อยุธยา แต่ที่ผมขาย แป้งขนาดเล็กกว่า เขาใส่ในกล่องอลูมิเนียน มี 2 ช่อง...แบกติดตัวไปได้... ช่องหนึ่งใส่แป้ง อีก ช่องเป็นสายไหม อันนี้แปลกหน่อยครับ คือ มี ที่หยอดเงิน ให้คนซื้อหยอด เป็นเกมส์ เล่น มี แบตเตอรี่ เล็ก ๆ 1 ก้อน มีมอเตอร์หมุน แกน แบบ นาฬิกา ถ้า เข็มแกน ตกที่แล้ว 1 ก็ ได้หนึ่งชิ้น ที่ ทำแป้งและสายไหม ให้เขา 1 อัน....ถ้าตกเล็ก 4 ก็ต้องทำให้เขา 4 อัน.........ถ้าใครได้เลข 4 ก็ต้องใส่สายไหม น้อยหน่อย ใครได้เลข 1 ก็ ใส่สายไหม ให้เขามากหน่อย.........จำได้ว่า หยอด ครั้งละ 25 สต เองครับ
ส่วนกีฬาที่เล่น ก็คือ ลูกหิน ขุดดิน เป็นหลุมเล็ก ๆ พยายามเล่นให้ลูกหินตกไปในหลุม กันคนอื่น ไม่ให้เข้าหลุม และ อีกอย่างที่ ชอบ คือเล่นว่าว ครับ ทำเอง ทำว่าวเอง ทำป่านเอง เอาเศษแก้วบด (เศษแก้วไปวาง บนรางรถรางที่วิ่ง มันจะบดให้ลำเอียด จากนั้นก็ผสมกาว เป็น น้ำกับ หนังวัว หรือ เอ็นวัวก็ไม่รู้ มารีดให้ติดกับด้ายที่ ใช้ ด้ายจะต้องเป็นตราสมอ อย่างเดียวนะครับ เพราะ จะเหนียวที่สุด) สนุกไปแบบเด็ก ๆ ชีวิตโบราณก็มีแค่นี้เอง
ส่วนกีฬาที่เล่น ก็คือ ลูกหิน ขุดดิน เป็นหลุมเล็ก ๆ พยายามเล่นให้ลูกหินตกไปในหลุม กันคนอื่น ไม่ให้เข้าหลุม และ อีกอย่างที่ ชอบ คือเล่นว่าว ครับ ทำเอง ทำว่าวเอง ทำป่านเอง เอาเศษแก้วบด (เศษแก้วไปวาง บนรางรถรางที่วิ่ง มันจะบดให้ลำเอียด จากนั้นก็ผสมกาว เป็น น้ำกับ หนังวัว หรือ เอ็นวัวก็ไม่รู้ มารีดให้ติดกับด้ายที่ ใช้ ด้ายจะต้องเป็นตราสมอ อย่างเดียวนะครับ เพราะ จะเหนียวที่สุด) สนุกไปแบบเด็ก ๆ ชีวิตโบราณก็มีแค่นี้เอง
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 16
อ่านแล้วสนุกครับลุง ผมชอบอ่านเรื่องเก่าๆ ที่ผมหาอ่านได้จากหนังสือเรื่องผีๆของ เหม เวชกร ผสมเรื่องโบราณๆกับเรื่องผีๆสนุกดีครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 17
[....แล้วดีดลูกหิน กับแทงหวย กอ ขอ หรือเปล่าล่ะ....]
ลูกหินไม่ค่อยได้เล่นเพราะผมดีดไม่แม่น ถนัดล้อต๊อก กับทอยกองมากกว่า นอกจากหวย กอ ขอ แล้วก็มาแทงเข็มขัด ซึ่งแล้วแต่เจ้ามือว่าจะให้ใครแทงถูก อีกอันที่สนุกก็คือแทงลูกบอลเล็กๆในถ้วยสามใบ จำไม่ได้ว่าเรียกอย่างไร โดยจะมีถ้วยชาจีนเล็กๆสามใบคว่ำไว้ เจ้ามือก็เอาลูกบอลเล็กๆใส่เข้าไปในถ้วยใบหนึ่งแล้วสลับถ้วยหมุนไปหมุนมา แล้วก็ให้เราแทงว่าลูกบอลอยู่ในถ้วยใบไหน แทงไม่มีถูกหรอกครับเพราะลูกบอลไม่ได้อยู่ในถ้วย เจ้ามือเพิ่งจะใส่ตอนเปิดนั่นเอง
[...........สมัยเป็นนักเรียน ผมอยู่แถว ตรอกจันทร์ บ้านใหม่ (เขตยานยาวา แขวงวัดพระยาไกร) มี รถรางวิ่งจาก ถนนตก รู้สึกจะไปทางเยาวราช......เป็น 2 ขบวน ลากกัน ขบวนหน้าแพงหน่อย มีเบาะนั่งสีขาวยาว ๆ บนที่นั่ง ขบวนหลัง ไม่มีเบาะนั่ง เป็นไม้ยาว ๆ........]
รถรางชั้นหนึ่งมีเบาะนั่ง ห้าสิบสตางค์ ชั้นสองไม่มีเบาะ สลึงนึง ที่ผ่านหน้าบ้านผมมีสองสาย สายแรก รอบเมือง[รอบเกาะรัตนโกสินทร์] อีกสายนึงวิ่งจากท่าพระจันทร์ ผ่านเยาวราช ไปถนนตก ที่ผ่านบ้านลุงขวดนั่นแหละครับ
ลูกหินไม่ค่อยได้เล่นเพราะผมดีดไม่แม่น ถนัดล้อต๊อก กับทอยกองมากกว่า นอกจากหวย กอ ขอ แล้วก็มาแทงเข็มขัด ซึ่งแล้วแต่เจ้ามือว่าจะให้ใครแทงถูก อีกอันที่สนุกก็คือแทงลูกบอลเล็กๆในถ้วยสามใบ จำไม่ได้ว่าเรียกอย่างไร โดยจะมีถ้วยชาจีนเล็กๆสามใบคว่ำไว้ เจ้ามือก็เอาลูกบอลเล็กๆใส่เข้าไปในถ้วยใบหนึ่งแล้วสลับถ้วยหมุนไปหมุนมา แล้วก็ให้เราแทงว่าลูกบอลอยู่ในถ้วยใบไหน แทงไม่มีถูกหรอกครับเพราะลูกบอลไม่ได้อยู่ในถ้วย เจ้ามือเพิ่งจะใส่ตอนเปิดนั่นเอง
[...........สมัยเป็นนักเรียน ผมอยู่แถว ตรอกจันทร์ บ้านใหม่ (เขตยานยาวา แขวงวัดพระยาไกร) มี รถรางวิ่งจาก ถนนตก รู้สึกจะไปทางเยาวราช......เป็น 2 ขบวน ลากกัน ขบวนหน้าแพงหน่อย มีเบาะนั่งสีขาวยาว ๆ บนที่นั่ง ขบวนหลัง ไม่มีเบาะนั่ง เป็นไม้ยาว ๆ........]
รถรางชั้นหนึ่งมีเบาะนั่ง ห้าสิบสตางค์ ชั้นสองไม่มีเบาะ สลึงนึง ที่ผ่านหน้าบ้านผมมีสองสาย สายแรก รอบเมือง[รอบเกาะรัตนโกสินทร์] อีกสายนึงวิ่งจากท่าพระจันทร์ ผ่านเยาวราช ไปถนนตก ที่ผ่านบ้านลุงขวดนั่นแหละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 18
ตอนอนุบาลได้ตังค์ไปโรงเรียน50สต
ตอนเรียนมหาลัย(ตจว) ข้าวแกง+ไข่ดาว 6 บาท
ตอนเรียนมหาลัย(ตจว) ข้าวแกง+ไข่ดาว 6 บาท
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 20
ฟังลุงขวดเล่าแล้วภาพเก่าๆ กลับมาเลยครับ ไม่ว่าจะป็นไอติม หรือสายไหม แถวบ้านผมจะมีตังเมด้วยเขาจะทำใส่ถุงพลาสติกมาเป็นก้อนใหญ่เลยใส่ท้ายจักรยานมาแล้วพวกเด็กๆก็จะไปกดว่าจะได้กี่อัน 1 - 6อัน แล้วคนขายจะดึงตังเมเป็นเส้นยาวๆ แล้วใช้กรรไกรตัดห่อใส่ใบตองให้เรา กดครั้งละ 1สลึง
ส่วนของเล่นของผมจะไปหาเก็บฝาจีบน้ำอัดลมมาทุบให้แบนๆแล้วมาเล่นทอยกองกัน บางครั้งก็ไปหาซองบุหรี่มาเล่นแทนฝาจีบ
ส่วนของเล่นของผมจะไปหาเก็บฝาจีบน้ำอัดลมมาทุบให้แบนๆแล้วมาเล่นทอยกองกัน บางครั้งก็ไปหาซองบุหรี่มาเล่นแทนฝาจีบ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
ท่านที่อายุ 40 ขึ้นตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 21
พูดถึงฝาน้ำอัดลม สมัยก่อน มีการนำมาเล่น เหมือนกัน คือ นำฝาน้ำอัดลม มา ทุบให้ แบน..... เจาะ รู แถว ใกล้ ๆ จุดศูนย์กลาง จำนวน 2 รู........แล้ว ก็ หาด้ายมา ร้อย ใส่ในรู ทั้ง สอง........แล้ว ก็ ทำให้ ฝาน้ำอัดลม ให้ หมุน.........ขอบของฝา ต้องทำให้ คม โดย ไป ลับกับ หิน..........เมื่อทำให้ฝาน้ำอัดลมนี้ หมุน เราก็นำมาสู้ กัน โดย พยายามทำให้ฝาน้ำอัดลมนี้ หมุนไป ตัดเชือก อีก ฝ่ายหนึ่ง ต้องใช้ ไหวพริบ และ ความรวดเร็ว เกมนี้ ค่อนข้าง อันตราย ถ้า ลับ ฝาน้ำอัดลมให้คม บาง ที เวลาด้ายที่ร้อย ขาด มันก็ หมุนไปบาดมือได้ ต้องระวังกันหน่อย
ตอนนี้ไม่ค่อยได้เห็นเขาเล่นกันแล้ว
ตอนนี้ไม่ค่อยได้เห็นเขาเล่นกันแล้ว