จากการที่วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันจัดอันดับ 500 เศรษฐีหุ้นไทย ในปี 2547 และมีการเปิดเผย ออกมาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ผลปรากฏว่าแชมป์ เศรษฐีหุ้นไทย ตกเป็นของ "น้องเอม" น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ทายาทคนที่ 2 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยถือหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 18,032.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว จำนวน 7,824.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.65 โดยนอกจากหุ้นของ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ที่ น.ส.พิณทองทาถือเป็น อันดับ 1 ในสัดส่วนร้อยละ 14.91 มูลค่า 16,610 ล้านบาทแล้ว ยังถือหุ้นใน บมจ.เอสซี แอสเซทคอร์ปอเรชั่น (SC) อีกร้อยละ 28.97 คิดเป็นมูลค่า 1,422.76 ล้านบาท
ขณะที่นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งถือหุ้นชินคอร์ปสูงเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วนร้อยละ 13.70 คิดเป็นมูลค่า 15,267.24 ล้านบาทนั้น ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ในปีนี้ จากที่เคยอยู่ในอันดับ 3 เมื่อปีก่อน โดยรวมแล้วมีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 5,884.46 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.72 ตามมาด้วย "เสี่ยโอ๊ค" นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของนายกรัฐมนตรี ที่ยังคงรั้งเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 เช่นเดียวกับปีก่อน โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของชินคอร์ป ในสัดส่วนร้อยละ 9.96 มูลค่า 11,096.62 ล้านบาท และแม้ว่าในปีนี้นายพานทองแท้จะไม่ได้ถือหุ้นใน บมจ.ทหารไทย แต่มูลค่าหุ้นโดยรวมที่ถืออยู่ในเวลานี้ยังคงเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็น 3,231.98 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.09
สำหรับอดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปี 2546 คือนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ ในปีนี้ถือครองหุ้นมูลค่า 12,314.84 ล้านบาท ลดลง 4,058.53 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 24.79 โดยตกลงมาอยู่ในอันดับ 3 เช่นเดียวกับบิ๊กวงการบันเทิง นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และนายประวิทย์ มาลีนนท์ ที่แม้จะยังคงตำแหน่งเศรษฐีหุ้นในอันดับ 6 และ 7 แต่มูลค่าหุ้นที่ถือต่างลดลง โดย "อากู๋" นายไพบูลย์นั้น มีมูลค่าหุ้นในมือ 4,151.05 ล้านบาท ลดลง 1,388.68 ล้านบาท หรือร้อยละ 25 และนายประวิทย์ถือครองหุ้นมูลค่า 4,111.20 ล้านบาท ลดลง 1,279.40 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 23.73
ขณะที่ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทายาทคนสุดท้องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือหุ้น SC ในสัดส่วนเดียวกับพี่สาวนั้น ก้าวเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นด้วยเป็นปีแรกในปีนี้ โดยอยู่ในอันดับที่ 28 มีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 1,422.76 ล้านบาท ส่วนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี อดีตเศรษฐีหุ้นไทยหลายสมัย หลังจากที่หลุดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไปตั้งแต่ปี 2543 เพราะโอนหุ้นไปให้กับพี่ชายและลูกๆไปแล้วนั้น ในปีนี้ได้กลับเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นอีกครั้ง โดยถือหุ้นชินคอร์ปร้อยละ 2.88 และหุ้นโรงพยาบาลวิภาวดีร้อยละ 0.63 รวมมูลค่า 150.11 ล้านบาท
รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวนายกรัฐมนตรี ก้าวกระโดดจากเศรษฐีหุ้นในอันดับที่ 112 ในปีก่อน มาอยู่ที่อันดับ 65 โดยมีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 291 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.72 จากการถือหุ้นในชินคอร์ปในสัดส่วนร้อยละ 0.68 มูลค่า 755 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าหุ้นโดยรวมของพี่น้องในตระกูลชินวัตรแล้ว ทำให้ตระกูลชินวัตรก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้ ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมกันทั้งสิ้น 31,543.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3,000.23 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.11
ส่วนตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 เป็นของตระกูลมาลีนนท์ ที่ถือหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 20,585.83 ล้านบาท อันดับ 3 ได้แก่ตระกูลดามาพงศ์ ถือหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 15,267.24 ล้านบาท อันดับ 4 คือตระกูลอัศวโภคิน ถือหุ้นรวมมูลค่า 14,551.99 ล้านบาท และอันดับ 5 คือตระกูลกรรณสูต ถือหุ้นรวมมูลค่า 8,925.95 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบด้วยว่า บรรดารัฐมนตรี ภรรยา และทายาทนักการเมืองหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งฝ่ายค้าน ยังมีชื่อติดอยู่ในทำเนียบ 500 เศรษฐีหุ้นเมืองไทยกันถ้วนหน้า อาทิ นางพนิดา เทพกาญจนา ภรรยานายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวยติดอันดับ 31 มีมูลค่าหุ้นในมือ 1,334.74 ล้านบาท นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เจ้าของกลุ่มชิโน-ไทยฯ ติดอันดับ 85 มีมูลค่าหุ้นรวม 638.25 ล้านบาท และภรรยาคือนางสนองนุช ชาญวีรกูล รวยติดอันดับ 60 มูลค่า 789.56 ล้านบาท
8) 8)
บันทึกไม่สำเร็จ