คิดอย่างไรกับการจัดเกรดการลงทุนแบบนี้
- tom
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับการจัดเกรดการลงทุนแบบนี้
โพสต์ที่ 1
ไปอ่านเจอครับ เลยคัดลอกมา ไม่ต้องการชี้นำหรืออะไรทั้งนั้นครับ เอามาเล่าสู่กันฟังเฉยๆครับ
หุ้นเกรดการลงทุนชั้นหนึ่ง เช่น BBL KBANK SCB SCC PTT LH ADVANC NPC TPC PTTEP BANPU ATC TOC SHIN ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือของ เจ้าของหุ้น นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ และนักลงทุนทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด แต่ซื้อและถือเป็นสินทรัพย์เพื่อหาผลตอบแทนจากการลงทุนระยะกลาง
หุ้นลงทุนชั้นสอง เช่น KTB BAY TMB KEST ASP KGI AMATA SATTELซึ่งจะมีความสี่ยงจากการลงทุนเพิ่มขึ้น ผลการดำเนินงานและสภาพคล่องในการลงทุนเป็นรองจากหุ้นกลุ่มแรก หุ้นกลุ่มนี้ลักษณะจะมีการแกว่งตัวของราคาหุ้นค่อนข้างสูง กลุ่มผู้เล่นจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ และรายย่อยค่อนข้างสูง นักลงทุนสถาบันมีสัดส่วนในการลงทุนค่อนข้างน้อยกว่ากลุ่มแรก ส่วนมากมักจะเล่นกันหนักเมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มชัดเจน แต่เมื่อสภาพตลาดอยู่ในขาลง หุ้นเกรดนี้จะค่อนข้างขาดสภาพคล่อง
หุ้นเกรดเก็งกำไร Speculative Stocks ส่วนมากมีทุนจดทะเบียนน้อย ผลการดำเนินงานและฐานะการเงินไม่ค่อยดี หุ้นส่วนมากอยู่ในมือนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยค่อนข้างสูง การกลับมาเล่นส่วนมากเมื่อสภาพตลาดหุ้นฟื้นตัวและเป็นภาวะกระทิงค่อนข้างชัดเจน จะมีการแกว่งตัวของราคาหุ้นหวือหวา และทางการมักจะขึ้นเครื่องหมายเตือนนักลงทุนผู้แสวงหาโชคบ่อย ๆ เครื่องหมายที่ขึ้นบ่อย ๆ เช่น H SP มีข่าวหน้าสื่อมวลชนค่อนข้างบ่อย และราคาหุ้นส่วนใหญ่ต่ำกว่า 10 บาท และจัดเป็นหุ้นประเภทมาเมื่อหุ้นหลักสองกลุ่มแรกเริ่มมีอาการอิ่มตัวของราคาหุ้น เมื่อเล่นกันสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงสูง แต่เมื่อเลิกนักลงทุนที่ติดอาจจะเกิดอาการวังเวงเพราะต้องรอกันค่อนข้างนานจนกว่า การเก็งกำไรรอบใหม่จะกลับคืนมาตัวอย่างหุ้นในกลุ่มเก็งกำไร เมื่อตลาดหุ้นและหุ้นบลูชิพอิ่มตัว เช่น MS NSM BNT TFI ESTAR N-PARK JAS IEC GEN GENCO TFD BLAND หรือเรียกง่าย ๆ ว่าหุ้นประเภท 90 ตัวร้อย หรือ 120 ตัวร้อยอะไรประมาณนั้น แต่หุ้นประเภทนี้หากนักลงทุนจับจังหวะในการลงทุนได้อย่างเหมาะสมจะให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน เนื่องจากพฤติกรรมการเล่นส่วนใหญ่เน้นการเล่นแบบ Money Game หรือประเภทเงินมากลากไปหุ้นกลุ่มหลังส่วนมากไม่สามารถจ่ายปันผลได้เนื่องจากสุขภาพทางการเงินไม่ค่อยดี ส่วนหุ้นกลุ่มแรก สามารถให้เงินปันผลและผลตอบแทนในแง่ส่วนต่างราคาหุ้น (Dividend Yield , Capital Gain) แต่หุ้นในกลุ่มสองและกลุ่มสามส่วนมากการลงทุนจะไม่เน้นผลตอบแทนจากปันผล แต่เน้นกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นมากกว่า
หุ้นเกรดการลงทุนชั้นหนึ่ง เช่น BBL KBANK SCB SCC PTT LH ADVANC NPC TPC PTTEP BANPU ATC TOC SHIN ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือของ เจ้าของหุ้น นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ และนักลงทุนทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด แต่ซื้อและถือเป็นสินทรัพย์เพื่อหาผลตอบแทนจากการลงทุนระยะกลาง
หุ้นลงทุนชั้นสอง เช่น KTB BAY TMB KEST ASP KGI AMATA SATTELซึ่งจะมีความสี่ยงจากการลงทุนเพิ่มขึ้น ผลการดำเนินงานและสภาพคล่องในการลงทุนเป็นรองจากหุ้นกลุ่มแรก หุ้นกลุ่มนี้ลักษณะจะมีการแกว่งตัวของราคาหุ้นค่อนข้างสูง กลุ่มผู้เล่นจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ และรายย่อยค่อนข้างสูง นักลงทุนสถาบันมีสัดส่วนในการลงทุนค่อนข้างน้อยกว่ากลุ่มแรก ส่วนมากมักจะเล่นกันหนักเมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มชัดเจน แต่เมื่อสภาพตลาดอยู่ในขาลง หุ้นเกรดนี้จะค่อนข้างขาดสภาพคล่อง
หุ้นเกรดเก็งกำไร Speculative Stocks ส่วนมากมีทุนจดทะเบียนน้อย ผลการดำเนินงานและฐานะการเงินไม่ค่อยดี หุ้นส่วนมากอยู่ในมือนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยค่อนข้างสูง การกลับมาเล่นส่วนมากเมื่อสภาพตลาดหุ้นฟื้นตัวและเป็นภาวะกระทิงค่อนข้างชัดเจน จะมีการแกว่งตัวของราคาหุ้นหวือหวา และทางการมักจะขึ้นเครื่องหมายเตือนนักลงทุนผู้แสวงหาโชคบ่อย ๆ เครื่องหมายที่ขึ้นบ่อย ๆ เช่น H SP มีข่าวหน้าสื่อมวลชนค่อนข้างบ่อย และราคาหุ้นส่วนใหญ่ต่ำกว่า 10 บาท และจัดเป็นหุ้นประเภทมาเมื่อหุ้นหลักสองกลุ่มแรกเริ่มมีอาการอิ่มตัวของราคาหุ้น เมื่อเล่นกันสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงสูง แต่เมื่อเลิกนักลงทุนที่ติดอาจจะเกิดอาการวังเวงเพราะต้องรอกันค่อนข้างนานจนกว่า การเก็งกำไรรอบใหม่จะกลับคืนมาตัวอย่างหุ้นในกลุ่มเก็งกำไร เมื่อตลาดหุ้นและหุ้นบลูชิพอิ่มตัว เช่น MS NSM BNT TFI ESTAR N-PARK JAS IEC GEN GENCO TFD BLAND หรือเรียกง่าย ๆ ว่าหุ้นประเภท 90 ตัวร้อย หรือ 120 ตัวร้อยอะไรประมาณนั้น แต่หุ้นประเภทนี้หากนักลงทุนจับจังหวะในการลงทุนได้อย่างเหมาะสมจะให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน เนื่องจากพฤติกรรมการเล่นส่วนใหญ่เน้นการเล่นแบบ Money Game หรือประเภทเงินมากลากไปหุ้นกลุ่มหลังส่วนมากไม่สามารถจ่ายปันผลได้เนื่องจากสุขภาพทางการเงินไม่ค่อยดี ส่วนหุ้นกลุ่มแรก สามารถให้เงินปันผลและผลตอบแทนในแง่ส่วนต่างราคาหุ้น (Dividend Yield , Capital Gain) แต่หุ้นในกลุ่มสองและกลุ่มสามส่วนมากการลงทุนจะไม่เน้นผลตอบแทนจากปันผล แต่เน้นกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นมากกว่า
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับการจัดเกรดการลงทุนแบบนี้
โพสต์ที่ 3
หุ้นดีๆ แต่ขนาดเล็กกว่า ใช้ทุนน้อยกว่า แต่มีความสามารถพิเศษในการแข่งขันก็มีอีกมากครับ
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับการจัดเกรดการลงทุนแบบนี้
โพสต์ที่ 4
เอเค้าดจากค่า เบต้าด้วยหรือเปล่าครับ หากมองในแบบทั่วๆไป ไม่ถือยาวมาก ค่า เบต้สก็น่าจะเป็นเกณฑ์ด้วยนะครับ