ภาพเหล่านี้มีความหมาย (ไหมหนอ??)
- วันพีส
- Verified User
- โพสต์: 77
- ผู้ติดตาม: 0
ภาพเหล่านี้มีความหมาย (ไหมหนอ??)
โพสต์ที่ 1
ก่อนอื่นใดต้องขอโทษ พี่ๆและทุกท่านก่อนครับ
ที่ต้องลงรูปให้ใหญ่เกะกะอย่างนี้และอาจโหลดช้า
แต่เนื่องจากทำให้เล็กแล้วอ่านข้อความในภาพไม่ออกจึงจำเป็นครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการให้อภัยครับ ^^
ภาพที่จะได้เห็นนำมาจากลิงค์นี้ครับ
http://www.nesdb.go.th/news/template/in ... ta17_2.ppt
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติเป็นผู้นำเสนอต่อคณะ รัฐมนตรี ที่ จ.เชียงราย 11 ม.ค. 2548
ว่าด้วยกรอบยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคม
ของประเทศในระยะ 4 ปี (2548-2551)
ผมว่ารายละเอียดบางหน้า น่าสนใจจึงตัดภาพมาให้ดูครับ
อนึ่ง การแปลความหมายผิด ผมยอมรับความ
ผิดพลาดครับและน้อมรับการแสดง
ความคิดเห็นต่างๆ เพื่อประโยชน์
แก่ผมและท่านอื่นๆที่ไม่ได้แสดงความเห็น
ภาพแรก ที่จะได้เห็น เขาสรุปความเชื่อมโยงเศรษฐกิจ
โลก ด้วยสัญลักษณ์ทางค่าเงินสกุลหลักต่างๆ
กรอบยุทธศาสตร์นี้ นี้ให้ความสำคัญต่อจีนและอินเดียมากขึ้น
อีกทั้งยอมรับความไม่สมดุลของเศรษฐกิจสหรัฐต่อค่าเงิน
ภาพที่2 เป้าหมายเศรษฐกิจของประเทศไทย
ภาพที่3 สรุปผลกระทบซึนามิด้วย โดยประเมินผลด้าน
บวกและลบ
ภาพที่4 การวิเคราะห์กลุ่มสินค้า จากกรอบนี้อาจจะเป็น
ส่วนหนึ่งของการประเมินที่รัฐบาลจะสนใจบางกลุ่มมากขึ้นและตัดใจทิ้ง
บางกลุ่มจึงควรระวัง ไม่ว่าพี่ๆและทุกท่านจะลงทุนในหุ้นหรือลง
ทุนเองก็ตาม
เปรียบเทียบระหว่างความน่าสนใจ(attractiveness)
และการแข่งขัน(Competitive)
ว่ากันตามกลุ่มในตลาดหุ้นแล้วกันครับเพราะที่นี่คือสถานีหุ้น TVI
(ขาดตกบกพร่องน้อมรับทั้งหมดครับ)
กลุ่มแรกสุดนี้ความน่าสนใจต่ำการแข่งก็ต่ำด้วย
1. Industrial machinery
กลุ่มนี้น่าต้องสงสัยว่าดีจริงไหมหนอ
1. communication
2. Textile & Clothing คาบเกี่ยวอยู่ 2 กลุ่ม
กลุ่มนี้กำลังอยู่ช่วงขาลงอย่างชัดเจนและกำลังรอเป็น
คลื่นลูกใหม่ต่อไป
1. Construction
2. Rubber products
3. Process Fruit & Vegetable
กลุ่มนี้ถูกจัดให้เป็นกลุ่มคลื่นลูกใหม่ที่กำลังจะมีอนาคต
1. Healthcare
2. Auto
3. Metal
กลุ่มนี้อยู่ในภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน(น่าสนใจดีแต่
การแข่งขันก็มีพอควร)
1. Chemical
2. Plastic
3. Textile & Clothing
4. Sawmill & wood products
กลุ่มสุดท้ายนี้จัดเป็นดาวจรัสแสงที่กำลังแรงในปัจจุบัน
1. Transport
2. Travel & Tourism
ภาพที่5 สืบเนื่องจากภาพที่ 4 ที่ กรอบยุทธศาสตร์นี้ได้
มีการประเมินไว้ ในด้านการปรับปรุงและดำเนินงานมาตราการ
ภาพที่ 1
ภาพที่ 2
ภาพที่ 3
ภาพที่ 4
ภาพที่ 5
ที่ต้องลงรูปให้ใหญ่เกะกะอย่างนี้และอาจโหลดช้า
แต่เนื่องจากทำให้เล็กแล้วอ่านข้อความในภาพไม่ออกจึงจำเป็นครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการให้อภัยครับ ^^
ภาพที่จะได้เห็นนำมาจากลิงค์นี้ครับ
http://www.nesdb.go.th/news/template/in ... ta17_2.ppt
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติเป็นผู้นำเสนอต่อคณะ รัฐมนตรี ที่ จ.เชียงราย 11 ม.ค. 2548
ว่าด้วยกรอบยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคม
ของประเทศในระยะ 4 ปี (2548-2551)
ผมว่ารายละเอียดบางหน้า น่าสนใจจึงตัดภาพมาให้ดูครับ
อนึ่ง การแปลความหมายผิด ผมยอมรับความ
ผิดพลาดครับและน้อมรับการแสดง
ความคิดเห็นต่างๆ เพื่อประโยชน์
แก่ผมและท่านอื่นๆที่ไม่ได้แสดงความเห็น
ภาพแรก ที่จะได้เห็น เขาสรุปความเชื่อมโยงเศรษฐกิจ
โลก ด้วยสัญลักษณ์ทางค่าเงินสกุลหลักต่างๆ
กรอบยุทธศาสตร์นี้ นี้ให้ความสำคัญต่อจีนและอินเดียมากขึ้น
อีกทั้งยอมรับความไม่สมดุลของเศรษฐกิจสหรัฐต่อค่าเงิน
ภาพที่2 เป้าหมายเศรษฐกิจของประเทศไทย
ภาพที่3 สรุปผลกระทบซึนามิด้วย โดยประเมินผลด้าน
บวกและลบ
ภาพที่4 การวิเคราะห์กลุ่มสินค้า จากกรอบนี้อาจจะเป็น
ส่วนหนึ่งของการประเมินที่รัฐบาลจะสนใจบางกลุ่มมากขึ้นและตัดใจทิ้ง
บางกลุ่มจึงควรระวัง ไม่ว่าพี่ๆและทุกท่านจะลงทุนในหุ้นหรือลง
ทุนเองก็ตาม
เปรียบเทียบระหว่างความน่าสนใจ(attractiveness)
และการแข่งขัน(Competitive)
ว่ากันตามกลุ่มในตลาดหุ้นแล้วกันครับเพราะที่นี่คือสถานีหุ้น TVI
(ขาดตกบกพร่องน้อมรับทั้งหมดครับ)
กลุ่มแรกสุดนี้ความน่าสนใจต่ำการแข่งก็ต่ำด้วย
1. Industrial machinery
กลุ่มนี้น่าต้องสงสัยว่าดีจริงไหมหนอ
1. communication
2. Textile & Clothing คาบเกี่ยวอยู่ 2 กลุ่ม
กลุ่มนี้กำลังอยู่ช่วงขาลงอย่างชัดเจนและกำลังรอเป็น
คลื่นลูกใหม่ต่อไป
1. Construction
2. Rubber products
3. Process Fruit & Vegetable
กลุ่มนี้ถูกจัดให้เป็นกลุ่มคลื่นลูกใหม่ที่กำลังจะมีอนาคต
1. Healthcare
2. Auto
3. Metal
กลุ่มนี้อยู่ในภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน(น่าสนใจดีแต่
การแข่งขันก็มีพอควร)
1. Chemical
2. Plastic
3. Textile & Clothing
4. Sawmill & wood products
กลุ่มสุดท้ายนี้จัดเป็นดาวจรัสแสงที่กำลังแรงในปัจจุบัน
1. Transport
2. Travel & Tourism
ภาพที่5 สืบเนื่องจากภาพที่ 4 ที่ กรอบยุทธศาสตร์นี้ได้
มีการประเมินไว้ ในด้านการปรับปรุงและดำเนินงานมาตราการ
ภาพที่ 1
ภาพที่ 2
ภาพที่ 3
ภาพที่ 4
ภาพที่ 5
ผมรู้น้อย แต่จะค่อยๆ ทำความเข้าใจครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ภาพเหล่านี้มีความหมาย (ไหมหนอ??)
โพสต์ที่ 3
อันเดียวกับพี่ผมโพสต์ให้ดู ตอนที่คุยกันเรื่องว่าทำไมเมืองไทยไม่สนับสนุนสินค้าเกษตร ไงครับ ที่บอกว่ามันเป็น Dog หนะแหละ ... แต่ของคุณวันพีสจะดีกว่าตรงที่มีสรุปให้อ่านง่ายJeng เขียน:ขอบคุณมากครับ กำลังทำความเข้าใจ
แต่ยุธศาสตร์ ที่เน้นการท่องเที่ยว กับเคมีภัณฑ์ น่าคิดจริงๆ
พี่เจ๋ง เห็นแล้ว คิดว่ายังไงครับ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
ภาพเหล่านี้มีความหมาย (ไหมหนอ??)
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณคุณ วันพีซ มากนะครับที่เอารูปมาให้ดูด้วย
ผมว่าต้องมาตีความอีกที ว่าการที่ไม่สนับสนุนสินค้าเกษตร จะหมายถึงว่าปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง
เลยหรือเปล่า หรือว่าเราจะต้องนำเข้าข้าว (สำหรับคนกิน ไม่นับว่าสำหรับทำอาหารสัตว์ ซึ่งผม
คิดว่าเรานำเข้ามาอยู่แล้ว) เข้ามาให้คนไทยกิน ต้องซื้อผักจากกัมพูชาหรือเวียตนาม คงไม่
ขนาดนั้นหรอกกระมัง เพียงแต่ว่า "ในวันนี้" เรายังดูเหมือนไม่มีความเหนือชั้นกว่าในการจะไป
แข่งขันในสินค้าประเภทนั้น
แต่ย้อนดูรูปให้ดีอีกทีนะครับ ว่าพวก Food นั้น แม้จะอยู่มาทางด้าน Falling Star ก็จริง แต่ก็
หมิ่นเหม่ไปทางด้าน Star แถมยังไกล้ๆ กับด้าน Opportunity อีก รูปนี้ คงไม่ได้ผิดอะไร ส่วน
จะตีความ และทำอย่างไรกับสินค้าพวกนี้ ก็ต้องว่ากันอีกทีหนึ่ง
จริงๆ แล้ว ผมมีแนวคิดเรื่อง Dogs, Stars, Cash Cow, และ ? ที่ออกจะลึกไปกว่านี้อยู่บ้าง
คือคิดไปในด้านไดนามิคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและ demand/supply ต่อเจ้า
BCG Matrix นี้ด้วย เพราะทุกอย่างนั้น ไม่ใช่ Static ตลอดไปหรอก
ผมว่าต้องมาตีความอีกที ว่าการที่ไม่สนับสนุนสินค้าเกษตร จะหมายถึงว่าปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง
เลยหรือเปล่า หรือว่าเราจะต้องนำเข้าข้าว (สำหรับคนกิน ไม่นับว่าสำหรับทำอาหารสัตว์ ซึ่งผม
คิดว่าเรานำเข้ามาอยู่แล้ว) เข้ามาให้คนไทยกิน ต้องซื้อผักจากกัมพูชาหรือเวียตนาม คงไม่
ขนาดนั้นหรอกกระมัง เพียงแต่ว่า "ในวันนี้" เรายังดูเหมือนไม่มีความเหนือชั้นกว่าในการจะไป
แข่งขันในสินค้าประเภทนั้น
แต่ย้อนดูรูปให้ดีอีกทีนะครับ ว่าพวก Food นั้น แม้จะอยู่มาทางด้าน Falling Star ก็จริง แต่ก็
หมิ่นเหม่ไปทางด้าน Star แถมยังไกล้ๆ กับด้าน Opportunity อีก รูปนี้ คงไม่ได้ผิดอะไร ส่วน
จะตีความ และทำอย่างไรกับสินค้าพวกนี้ ก็ต้องว่ากันอีกทีหนึ่ง
จริงๆ แล้ว ผมมีแนวคิดเรื่อง Dogs, Stars, Cash Cow, และ ? ที่ออกจะลึกไปกว่านี้อยู่บ้าง
คือคิดไปในด้านไดนามิคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและ demand/supply ต่อเจ้า
BCG Matrix นี้ด้วย เพราะทุกอย่างนั้น ไม่ใช่ Static ตลอดไปหรอก
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ภาพเหล่านี้มีความหมาย (ไหมหนอ??)
โพสต์ที่ 5
กรณีเรื่องข้าว นี่ ตัวรำข้าว ถ้านำมาทำอาหารเสริม ซึ่งมีหมอคนหนึ่งทำอยู่แล้ว แล้วนำออกไปขายต่างประเทศ ขายไปทั่วโลกเลย น่าจะดี ทำไมรัฐบาลมองไม่เห็น
เราเองกลับต้องมากินหญ้า ที่สกัดเป็นเม็ด ฝรั่งเองก็นิยมมาก ที่ได้กิน วิตามิน B รวมที่อยู่ในรำข้าว
แบบนี้เรียกสนับสนุนการเกษตรหรือไม่
อย่างน้อย ถ้ามีการผลิตกันมากๆ จริงๆ รำข้าวก็จะมีราคาดีขึ้นนะครับ
เราเองกลับต้องมากินหญ้า ที่สกัดเป็นเม็ด ฝรั่งเองก็นิยมมาก ที่ได้กิน วิตามิน B รวมที่อยู่ในรำข้าว
แบบนี้เรียกสนับสนุนการเกษตรหรือไม่
อย่างน้อย ถ้ามีการผลิตกันมากๆ จริงๆ รำข้าวก็จะมีราคาดีขึ้นนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
ภาพเหล่านี้มีความหมาย (ไหมหนอ??)
โพสต์ที่ 6
ไว้พิจารณาเพิ่มเติม ครับ ยังงง อยู่
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์