จริงๆแล้วการลงทุนนะไม่อยากหรอก
แต่การเก็งกำไรนะยากกว่าหลายเท่า
ใช้หลักการ Constant Dollars Plan ก็สามารถทำกำไรในระยะปานกลางถึงระยะยาวได้ ที่สำคัญคือต้องมีวินัย ยิ่งผู้ที่มีรายได้ประจำและมีเงินเหลือจากการทำงานแล้วยิ่งเหมาะกับวิธีนี้ที่สุด
1. แบ่งเงินลงทุนเป็นส่วนๆเท่าๆกันซัก 10 - 20 ส่วน
2. กำหนดวันที่จะซื้อหุ้นให้แน่นอน ยิ่งผู้มีรายได้ประจำจากการทำงานยิ่งทำได้ง่าย ก็วันเงินเดือนออก +/- เท่ากับวันที่ต้องจ่ายเงินชำระค่าหุ้น
3. หาหุ้นพื้นฐานพอไปได้ซักตัวก็พอ
4. กำหนดเปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการจากราคาเฉลี่ยกี่ %
5. ทำการซื้อตามแผนที่วางไว้ในข้อ 2. จนครบตามข้อ 1. ยิ่งผู้มีรายได้ประจำยิ่งทำได้แบบไม่จำกัดระยะเวลา ถ้าไม่มีเหตุให้ต้องใช้เงินไปในทางอื่น
ซึ่งถ้าเราทำตามแผนการอย่างมีวินัยไปได้ซัก 6 ครั้งขึ้นไป ไม่ว่าราคาหุ้นขึ้นหรือลง เราจะพบความจริงว่า หุ้นที่เราซื้อนั้น บางล็อตมีราคาต่ำกว่าราคาเฉลี่ย บางล็อตมีราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ย บางล็อตก็เท่ากับราคาเฉลี่ย
หุ้นล้อตไหนที่ราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยถึง % ที่ได้กำหนดไว้ก็ขายทำกำไร เงินที่ขายได้ก็อย่าเพิ่งซื้อ เก็บไว้ ไม่ถึงรอบที่กำหนดไว้ห้ามซื้อหุ้นเด็ดขาด
รับประกันว่าถ้าลงทุนแบบนี้มีแต่ได้ ถ้าหากหุ้นของคุณมีพื้นฐานดีพอ
เพราะนี่คือวิธีการลงทุนในหน่วยลงทุนของผู้มีรายได้ประจำ ซึ่งชื่อ Constant Dollar Plan ก็บอกแล้วว่าของใคร
การลงทุนแบบ Constant Dollars Plan
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนแบบ Constant Dollars Plan
โพสต์ที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนแบบ Constant Dollars Plan
โพสต์ที่ 4
มันเป็นวิธีง่ายๆมากกว่า เพียงอาศัยระเบียบวินัยในการปฏิบัติตามแผนharry เขียน:ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ดีนะครับ
แต่ผมขอบแบบห่านทองคำมากกวา
ผลสำเร็จเกิดขึ้นจากความจริงพื้นฐานที่รองรับนั่นคือ
ประชากรเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ดังนั้นการอุปโภคก็เพิ่มขึ้นตาม
เศรษฐกิจก็ขยายตัวตาม
ถ้าไม่เกิดภาวะวิกฤต ภัยธรรมชาติร้ายแรง เช่น แผ่นดินไหว เกิดสงคราม
เศรษฐกิจมีแต่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนประชากร
ซึ่งเราจะพบว่าจุดต่ำสุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในแต่ละวัฏจักรเศรษฐกิจจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นบริษัทที่มีพื้นฐานดีก็จะมีกำไรเพิ่มมากขึ้นทุกปี
ราคาหุ้นก็ต้องเพิ่มสูงขึ้น.....
8) 8) 8) 8) 8)
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนแบบ Constant Dollars Plan
โพสต์ที่ 5
อยากจะทำได้แบบนั้นเหมือนกันครับ แต่ผมใช้เงินน้อย แล้วซื้อหุ้นหลายตัว เลยไม่สามารถทำได้เต็มที่อะครับ
อย่างเช่น หุ้นราคา 100 บาท เราตั้งใจจะซื้อ เดือนละ 100 หุ้นทุกเดือน พอเดือนถัดมามันขึ้นไป 105 ถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆ ต้องซื้อ 95 หุ้น แต่ความเป็นจริงมันซื้อแบบนั้นไม่ได้ เลยต้องซื้อ 100 หุ้นเหมือนเดิม
อย่างเช่น หุ้นราคา 100 บาท เราตั้งใจจะซื้อ เดือนละ 100 หุ้นทุกเดือน พอเดือนถัดมามันขึ้นไป 105 ถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆ ต้องซื้อ 95 หุ้น แต่ความเป็นจริงมันซื้อแบบนั้นไม่ได้ เลยต้องซื้อ 100 หุ้นเหมือนเดิม
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนแบบ Constant Dollars Plan
โพสต์ที่ 7
ผมเจอปัญหาแบบพี่กับระเบิดเหมือนกันครับ แต่ถือว่าหยวนๆ
ส่วนใหญ่ผมชอบตอนดัชนี ตกๆ แล้วเข้าไปเก็บครับ คือถ้าเชื่อว่า การซื้อหุ้นที่ราคาถูก เป็นวิธีที่ถูก และรู้ว่ามันต่ำสุดแล้ว การเก็บหุ้น เฉลี่ยทุกๆ เดือนก็ไม่น่าจะจำเป็น แต่ก็ทำอยู่ครับ เพราะไม่รู้ว่าต่ำสุดเมื่อไหร่
การขาย ผมไม่มีเปอร์เซ็นต์ตั้งครับ ใช้การหามูลค่าแท้จริงเอา หากยังไม่ถึงก็ช่างมัน หากมันถึงแล้ว ก็ปล่อยไปครับ รอเจอหุ้นที่มีอำนาจขายนำจริงก่อน แล้วค่อยขายตาม
จริงๆแล้ว ผมว่า วิธีนี้หัวใจอยู่ที่เลือกหุ้นครับ ถ้าเลือกผิด เทรดดิ้งซิสเต็ม แบบนี้น่าจะทำให้เจ็บตัวได้เอาการทีเดียว
ลองไปใช้กับ เอ็นปาร์ก ตอน สิบบาทสิครับ ซึ้งเลยแหละ
ส่วนใหญ่ผมชอบตอนดัชนี ตกๆ แล้วเข้าไปเก็บครับ คือถ้าเชื่อว่า การซื้อหุ้นที่ราคาถูก เป็นวิธีที่ถูก และรู้ว่ามันต่ำสุดแล้ว การเก็บหุ้น เฉลี่ยทุกๆ เดือนก็ไม่น่าจะจำเป็น แต่ก็ทำอยู่ครับ เพราะไม่รู้ว่าต่ำสุดเมื่อไหร่
การขาย ผมไม่มีเปอร์เซ็นต์ตั้งครับ ใช้การหามูลค่าแท้จริงเอา หากยังไม่ถึงก็ช่างมัน หากมันถึงแล้ว ก็ปล่อยไปครับ รอเจอหุ้นที่มีอำนาจขายนำจริงก่อน แล้วค่อยขายตาม
จริงๆแล้ว ผมว่า วิธีนี้หัวใจอยู่ที่เลือกหุ้นครับ ถ้าเลือกผิด เทรดดิ้งซิสเต็ม แบบนี้น่าจะทำให้เจ็บตัวได้เอาการทีเดียว
ลองไปใช้กับ เอ็นปาร์ก ตอน สิบบาทสิครับ ซึ้งเลยแหละ
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง