กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 1
การหาเงินนั้นสำคัญ แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่า
ผมสังเกตุว่าช่วงนี้มีหลายกระทู้พูดถึงการใช้เงิน เรื่องค่านิยม การรู้จักประหยัดต่างๆ กันเยอะ จึงอยากเสนอทางออกที่สำคัญ และควรจะมีการแนะนำกันให้รู้โดยทั่วๆกันให้มากๆ สำหรับการใช้ชีวิตที่ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน เพื่อให้มีอิสระอย่างแท้จริง ซึ่งผมมั่นใจว่าพี่ๆ เพื่อนๆในที่นี้ดำรงตนในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะบอกกล่าวอีกครั้ง
ในเมื่อเรายังเป็นปุถุชน คนธรรมดาอยู่ และทุกวันนี้ทุกคนต่างก็ดิ้นรน เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตรา เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆของเราที่มีมากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะเรายังไม่สามารถกำจัดความอยากได้ อยากมี อยากได้ความยอมรับต่างๆได้ และเดี๋ยวนี้บริษัทต่างๆ ก็มีเทคนิคและลูกเล่นทางการตลาดมากมาย ที่ทำมาให้ตรงทุกกลุ่มเป้าหมาย และเข้าใจจิตวิทยาพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งไปกระตุ้นให้เราจับจ่ายเงินที่หามาได้ออกไป โดยอาจไม่ได้ทำให้เกิดความคุ้มค่ามากนัก ทำให้เราไม่สามารถออมเงินที่หามาได้อย่างยากลำบากได้ดีนัก ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนใหญ่จะไม่สามารถเก็บออมได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เช่นกัน
เมื่อเราไม่สามารถเก็บออมเงินได้ ก็ไม่มีต้นทุนในการบริหารเงินของเราให้ งอกงามออกดอกออกผล ให้เงินทำงานให้เรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไปสู่การมีอิสระ ตามที่เราต้องการได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้รัฐจะสนับสนุนการออม โดยให้มีการออมภาคบังคับมากขึ้น ทั้งกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทต่างๆ รวมทั้ง กบข. ของรัฐ รวมถึงสนับสนุนให้มี กองทุน RMF LTF ที่ให้มีการเก็บออมและลงทุนระยะยาว โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยแล้วก็ได้ตาม
แต่กองทุนต่างๆ เหล่านั้นก็ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการอิสรภาพที่แท้จริง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเก็บออมได้มากกว่านั้น รวมถึงสามารถประเมินและลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินสะสมในอนาคตได้ด้วย โดยอาจจะทำประกันในรูปแบบต่างๆที่เหมาะสมไว้ด้วย ทั้งประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัย หรืออื่นๆ ที่ต้องการเพื่อ ป้องกันการจ่ายเงินสะสมที่ได้เก็บไว้ในสถานการณ์ที่ คาดไม่ถึงได้ รวมถึงต้องรู้จักออกกำลังกายเพื่อลดโอกาสการเจ็บป่วยต่างด้วย
ทั้งนี้ยังต้องรู้จักการจัดแบ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมการล่วงหน้า ที่เราสามารถคาดการณ์ได้ เช่น ค่าสินสอด ทองหมั้น ค่าเล่าเรียนลูก ค่าที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และปัจจัยสี่ทั้งหลาย โดยจัดแบ่งให้เหมาะสม ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือนร้อน
เฉพาะที่กล่าวมาทั้งหมด ก็เห็นได้ว่ามีความวุ่นวายพอควรอยู่แล้ว ว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะสม และยังมีอีกหลายส่วน หลายปัจจัยที่ยังไม่ได้กล่าวอีก แล้วเราจะทำอย่างไรให้จำนวนเงินที่แต่ละคนหามาได้นั้น สามารถรองรับความต้องการของเราได้ เหล่านี้เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่ทุกคนต้องเรียนรู้แลบริหารจัดการด้วยตัวเองทั้งสิ้น
จะเห็นได้ว่าการหาเงินนั้นสำคัญก็จริง แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่ามาก ดังนั้นการกินอยู่ต่ำกว่าฐานะของตน ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตตามกระแสพระราชดำรัชของในหลวง ตามเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักพอเพียงและเพียงพอ เป็นทางออกที่สำคัญในการจัดการเรื่องนี้ เมื่อเราอยู่กินต่ำกว่าฐานะของตน ก็จะมีเหลือเก็บสามารถส่วนเหลือ นำไปหาดอกผลได้ และสามารถทำให้ฐานะของตนดีขึ้นได้ในที่สุด
สรุปว่าผมเห็นว่าแค่ให้ทุกคนดำรงตนโดยปกติให้ต่ำกว่าฐานะที่เป็นแล้วจะดีเองครับ
ขอบพระคุณ ที่อ่านจนจบ มั่วน่าดู
ผมสังเกตุว่าช่วงนี้มีหลายกระทู้พูดถึงการใช้เงิน เรื่องค่านิยม การรู้จักประหยัดต่างๆ กันเยอะ จึงอยากเสนอทางออกที่สำคัญ และควรจะมีการแนะนำกันให้รู้โดยทั่วๆกันให้มากๆ สำหรับการใช้ชีวิตที่ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน เพื่อให้มีอิสระอย่างแท้จริง ซึ่งผมมั่นใจว่าพี่ๆ เพื่อนๆในที่นี้ดำรงตนในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะบอกกล่าวอีกครั้ง
ในเมื่อเรายังเป็นปุถุชน คนธรรมดาอยู่ และทุกวันนี้ทุกคนต่างก็ดิ้นรน เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตรา เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆของเราที่มีมากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะเรายังไม่สามารถกำจัดความอยากได้ อยากมี อยากได้ความยอมรับต่างๆได้ และเดี๋ยวนี้บริษัทต่างๆ ก็มีเทคนิคและลูกเล่นทางการตลาดมากมาย ที่ทำมาให้ตรงทุกกลุ่มเป้าหมาย และเข้าใจจิตวิทยาพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งไปกระตุ้นให้เราจับจ่ายเงินที่หามาได้ออกไป โดยอาจไม่ได้ทำให้เกิดความคุ้มค่ามากนัก ทำให้เราไม่สามารถออมเงินที่หามาได้อย่างยากลำบากได้ดีนัก ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนใหญ่จะไม่สามารถเก็บออมได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เช่นกัน
เมื่อเราไม่สามารถเก็บออมเงินได้ ก็ไม่มีต้นทุนในการบริหารเงินของเราให้ งอกงามออกดอกออกผล ให้เงินทำงานให้เรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไปสู่การมีอิสระ ตามที่เราต้องการได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้รัฐจะสนับสนุนการออม โดยให้มีการออมภาคบังคับมากขึ้น ทั้งกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทต่างๆ รวมทั้ง กบข. ของรัฐ รวมถึงสนับสนุนให้มี กองทุน RMF LTF ที่ให้มีการเก็บออมและลงทุนระยะยาว โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยแล้วก็ได้ตาม
แต่กองทุนต่างๆ เหล่านั้นก็ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการอิสรภาพที่แท้จริง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเก็บออมได้มากกว่านั้น รวมถึงสามารถประเมินและลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินสะสมในอนาคตได้ด้วย โดยอาจจะทำประกันในรูปแบบต่างๆที่เหมาะสมไว้ด้วย ทั้งประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัย หรืออื่นๆ ที่ต้องการเพื่อ ป้องกันการจ่ายเงินสะสมที่ได้เก็บไว้ในสถานการณ์ที่ คาดไม่ถึงได้ รวมถึงต้องรู้จักออกกำลังกายเพื่อลดโอกาสการเจ็บป่วยต่างด้วย
ทั้งนี้ยังต้องรู้จักการจัดแบ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมการล่วงหน้า ที่เราสามารถคาดการณ์ได้ เช่น ค่าสินสอด ทองหมั้น ค่าเล่าเรียนลูก ค่าที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และปัจจัยสี่ทั้งหลาย โดยจัดแบ่งให้เหมาะสม ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือนร้อน
เฉพาะที่กล่าวมาทั้งหมด ก็เห็นได้ว่ามีความวุ่นวายพอควรอยู่แล้ว ว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะสม และยังมีอีกหลายส่วน หลายปัจจัยที่ยังไม่ได้กล่าวอีก แล้วเราจะทำอย่างไรให้จำนวนเงินที่แต่ละคนหามาได้นั้น สามารถรองรับความต้องการของเราได้ เหล่านี้เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่ทุกคนต้องเรียนรู้แลบริหารจัดการด้วยตัวเองทั้งสิ้น
จะเห็นได้ว่าการหาเงินนั้นสำคัญก็จริง แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่ามาก ดังนั้นการกินอยู่ต่ำกว่าฐานะของตน ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตตามกระแสพระราชดำรัชของในหลวง ตามเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักพอเพียงและเพียงพอ เป็นทางออกที่สำคัญในการจัดการเรื่องนี้ เมื่อเราอยู่กินต่ำกว่าฐานะของตน ก็จะมีเหลือเก็บสามารถส่วนเหลือ นำไปหาดอกผลได้ และสามารถทำให้ฐานะของตนดีขึ้นได้ในที่สุด
สรุปว่าผมเห็นว่าแค่ให้ทุกคนดำรงตนโดยปกติให้ต่ำกว่าฐานะที่เป็นแล้วจะดีเองครับ
ขอบพระคุณ ที่อ่านจนจบ มั่วน่าดู
แก้ไขล่าสุดโดย Dech เมื่อ อังคาร มี.ค. 22, 2005 7:36 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 2
อยากรวย ก็ต้องอยู่อย่างจนครับ สรุปให้นะครับ
ถ้าอยากรวยมาก ๆ แนะนำให้ศึกษาพวกยิวครับ พวกจีน พวกฝรั่ง ที่ว่าแน่ ๆ สู้ยิวไม่ได้หรอกครับ (ผมครึ่งจีนครับ) ต้องมีการสะสมทุนครับ พวกยิวหยิบมือทำไมครองโลกได้ อันนี้น่าสนครับ
ถ้าอยากรวยมาก ๆ แนะนำให้ศึกษาพวกยิวครับ พวกจีน พวกฝรั่ง ที่ว่าแน่ ๆ สู้ยิวไม่ได้หรอกครับ (ผมครึ่งจีนครับ) ต้องมีการสะสมทุนครับ พวกยิวหยิบมือทำไมครองโลกได้ อันนี้น่าสนครับ
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
---- กระทิงมา หุ้นแย่ ๆ ก็ขึ้นได้, หมีมา หุ้นดีๆ ก็ไม่รอด ----
Let profit run (bull no shit), Cutloss (big bare)
---- กระทิงมา หุ้นแย่ ๆ ก็ขึ้นได้, หมีมา หุ้นดีๆ ก็ไม่รอด ----
Let profit run (bull no shit), Cutloss (big bare)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 3
เป็นข้อคิดที่ดีครับ
ผมเป็นลูกชาวบ้านพันธ์แท้
ทำงานกินเงินเดือนน้อยมาก
อาศัยประหยัดเก็บเงินมาลงทุน
ใช้หลักการ..
นอกจากกินอยู่ 3 มื้อแล้วผมแทบไม่ซื้ออะไรเลย
ไม่มีทีวีดูอยู่ตั้งหลายปี มีซีดีซื้อมาแค่พันxxxบาท
โทรศัพท์มือถือ-เพจเจอร์(สมัยนั้น)ก็ไม่มี
ชีวิตมีแต่รถเมล์ ห้องเช่ารูหนู
ว่างก็หาความรู้ อ่านหนังสือการลงทุน
อาจเป็นชีวิตที่สุดโต่งสักหน่อย แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคงไม่มีวันนี้..
อยากให้กำลังใจเพื่อนๆที่พอร์ตเล็กๆครับ อดทนเก็บออมเอามาลงทุนนะครับ
เหมือนที่ผู้รู้กล่าวไว้ว่า..
...อนาคตเริ่มตั้งแต่วันวาน...
เอ่อ..คุณ Copy writer ผมก็เคยเช่าห้องอยู่แถวคลองตันเหมือนกันครับ เลยตลาดสดไปหน่อย ซอยต้นๆไม่แน่ใจ จำได้แต่เดินเข้าไปสุดทางจะเจอหอพักใหญ่ ผมเลือกอยู่ห้องแถวแบ่งเช่าตรงข้าม ถูกกว่ากันเยอะ.
ผมเป็นลูกชาวบ้านพันธ์แท้
ทำงานกินเงินเดือนน้อยมาก
อาศัยประหยัดเก็บเงินมาลงทุน
ใช้หลักการ..
นอกจากกินอยู่ 3 มื้อแล้วผมแทบไม่ซื้ออะไรเลย
ไม่มีทีวีดูอยู่ตั้งหลายปี มีซีดีซื้อมาแค่พันxxxบาท
โทรศัพท์มือถือ-เพจเจอร์(สมัยนั้น)ก็ไม่มี
ชีวิตมีแต่รถเมล์ ห้องเช่ารูหนู
ว่างก็หาความรู้ อ่านหนังสือการลงทุน
อาจเป็นชีวิตที่สุดโต่งสักหน่อย แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคงไม่มีวันนี้..
อยากให้กำลังใจเพื่อนๆที่พอร์ตเล็กๆครับ อดทนเก็บออมเอามาลงทุนนะครับ
เหมือนที่ผู้รู้กล่าวไว้ว่า..
...อนาคตเริ่มตั้งแต่วันวาน...
เอ่อ..คุณ Copy writer ผมก็เคยเช่าห้องอยู่แถวคลองตันเหมือนกันครับ เลยตลาดสดไปหน่อย ซอยต้นๆไม่แน่ใจ จำได้แต่เดินเข้าไปสุดทางจะเจอหอพักใหญ่ ผมเลือกอยู่ห้องแถวแบ่งเช่าตรงข้าม ถูกกว่ากันเยอะ.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Tao Investor
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 4
ทางสายกลางครับ
ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป
หย่อนเกินไป จะไม่สำเร็จผล ตึงเกินไปจะล้าครับ
แชร์กันระหว่างเมื่อวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ ให้ความสำคัญเท่าๆกัน
ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป
หย่อนเกินไป จะไม่สำเร็จผล ตึงเกินไปจะล้าครับ
แชร์กันระหว่างเมื่อวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ ให้ความสำคัญเท่าๆกัน
Inmagination is more importan than knowledge
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 7
เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ประเด็นสนับสนุน
หากมองในเชิงจุลภาคหรือปัจเจกชน การบริโภคต่ำกว่าฐานะส่งผลให้เกิดความมั่นคง(ไม่ใช่เสถียรภาพนะครับ)ทางการเงิน ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ตกอับ
ประเด็นคัดค้าน
หากทุกคนบริโภคต่ำกว่าฐานะมองในเชิงมหภาคแล้ว จะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย เงินฝืด ราคาสินค้าจะมีราคาแพงเนื่องจากผลผลิตต่ำ(ทุกคนออมหมดกินน้อยใช้น้อยเลยผลิตน้อย) ซึ่งจะเหมือนกับปัญหาทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเป็นเวลายาวนานและการจ้างงานต่ำปัญหาการตกงานสูง
สรุปบริโภคสมฐานะดีกว่าครับ คือ บริโภค = ฐานะที่รองรับได้
ประเด็นสนับสนุน
หากมองในเชิงจุลภาคหรือปัจเจกชน การบริโภคต่ำกว่าฐานะส่งผลให้เกิดความมั่นคง(ไม่ใช่เสถียรภาพนะครับ)ทางการเงิน ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ตกอับ
ประเด็นคัดค้าน
หากทุกคนบริโภคต่ำกว่าฐานะมองในเชิงมหภาคแล้ว จะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย เงินฝืด ราคาสินค้าจะมีราคาแพงเนื่องจากผลผลิตต่ำ(ทุกคนออมหมดกินน้อยใช้น้อยเลยผลิตน้อย) ซึ่งจะเหมือนกับปัญหาทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเป็นเวลายาวนานและการจ้างงานต่ำปัญหาการตกงานสูง
สรุปบริโภคสมฐานะดีกว่าครับ คือ บริโภค = ฐานะที่รองรับได้
-
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 9
มองในมุมมหภาคgenie เขียน:ประเด็นคัดค้าน
หากทุกคนบริโภคต่ำกว่าฐานะมองในเชิงมหภาคแล้ว จะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย เงินฝืด ราคาสินค้าจะมีราคาแพงเนื่องจากผลผลิตต่ำ(ทุกคนออมหมดกินน้อยใช้น้อยเลยผลิตน้อย) ซึ่งจะเหมือนกับปัญหาทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเป็นเวลายาวนานและการจ้างงานต่ำปัญหาการตกงานสูง
แม้คิดว่าจะมีการใช้จ่ายส่วนบุคคลน้อยลง แต่ประเทศไทยยังต้องการค่าใช้
จ่ายในการพัฒนาประเทศและสังคมสูง การลงทุนสูง การนำเข้าสินค้าทุนสูง
ต่างจากญี่ปุ่น .. อย่างการศึกษา การคมนาคม เรายังล้าหลังหลายสิบปี
วันนี้เรามีถนนมากขึ้น แต่เราก็ต้องการระบบขนส่งมวลชนดีๆ
วันนี้มีมหาวิทยาลัยเยอะแยะ แต่เราต้องการอาจารย์เก่งๆอีกมาก เป็นอาทิ
การบริโภคต่ำกว่าฐานะ ทำให้มีเงินออมสูง
ดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนการเงินต่ำ หุ้นขึ้น การระดมทุนทำได้ดี
น่าจะดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืนมากกว่า
เอาไว้ประเทศไทยเหมือนญี่ปุ่นก่อน ค่อยใช้จ่ายสมฐานะ หรือฟุ่มเฟือยยังไม่สายครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 11
จริงๆแล้วรายได้ของครอบครัวผมไม่ได้เยอะมากมายเลย เพื่อนๆหลายคนมีรายได้มากกว่าซะอีก
แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่ต้องทำงานประจำก็เพราะ ผมใช้ชีวิตอย่างพอควรครับ ไม่ฟุ่มเฟื่อย แต่ก็ไม่ประหยัดมากจนรู้สึกลำบาก
ค่าใช้จ่ายของครอบครัวส่วนใหญ่ก็หมดไปกับลูกทั้งสองคนแหละครับ
จริงๆแล้ว ผมก็พอใจกับฐานะทางการเงินของครอบครัวในขณะนี้ เพราะกว่าจะสร้างมาได้ขณะนี้ก็ยากลำบากพอควร สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมก็คือ พยายามไม่ให้แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีเงินเป็นร้อยล้าน เป็นพันล้าน
หลายคนบ่นว่าอยากจะมีอิสระภาพทางการเงิน แต่มีความอยากมากมายแทบไม่สิ้นสุด ก็คงลำบากที่จะวิ่งไล่จับเงาของตัวเองละครับ
แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่ต้องทำงานประจำก็เพราะ ผมใช้ชีวิตอย่างพอควรครับ ไม่ฟุ่มเฟื่อย แต่ก็ไม่ประหยัดมากจนรู้สึกลำบาก
ค่าใช้จ่ายของครอบครัวส่วนใหญ่ก็หมดไปกับลูกทั้งสองคนแหละครับ
จริงๆแล้ว ผมก็พอใจกับฐานะทางการเงินของครอบครัวในขณะนี้ เพราะกว่าจะสร้างมาได้ขณะนี้ก็ยากลำบากพอควร สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมก็คือ พยายามไม่ให้แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีเงินเป็นร้อยล้าน เป็นพันล้าน
หลายคนบ่นว่าอยากจะมีอิสระภาพทางการเงิน แต่มีความอยากมากมายแทบไม่สิ้นสุด ก็คงลำบากที่จะวิ่งไล่จับเงาของตัวเองละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 12
ผมเคยอ่าน ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นของ มรว คึกฤทธ์harry เขียน:เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง สุดยอดแล้ว
คำว่าพอเพียงคนเรามักจะตั้งกันขยับขยายขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้งจึงควรจะให้ต่ำกว่าความรู้สึกที่ว่าพอเพียง
ก็จะได้ความพอเพียงจริงๆ
จะได้ไม่ไปผลาญทรัพยากรของโลกมากเกินไป
(อาจไม่เหมือนต้นฉบับ ผมพิมพ์แบบคลับคล้ายคลับคลา) 8)
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 16
ได้วันละ 10,000 ใช้ต่ำกว่า 10,000 ....
ได้วันละ 3,000 ใช้ต่ำกว่า 3,000 ....
ได้วันละ 1,000 ใช้ต่ำกว่า 1,000 .....
...
ได้วันละ 500 ใช้ต่ำกว่า 500 ....
ได้วันละ 100 ใช้ต่ำกว่า 100 .....
ได้วันละ 20 ใช้ต่ำกว่า 20 ......
ได้วันละ 10 ใช้ต่ำกว่า 10 ..... :lol:
ได้วันละ 3,000 ใช้ต่ำกว่า 3,000 ....
ได้วันละ 1,000 ใช้ต่ำกว่า 1,000 .....
...
ได้วันละ 500 ใช้ต่ำกว่า 500 ....
ได้วันละ 100 ใช้ต่ำกว่า 100 .....
ได้วันละ 20 ใช้ต่ำกว่า 20 ......
ได้วันละ 10 ใช้ต่ำกว่า 10 ..... :lol:
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 17
แกลบ กับ เกลือนี่กินไม่ได้นะคุณคัดท้ายคัดท้าย เขียน:ได้วันละ 10,000 ใช้ต่ำกว่า 10,000 ....
ได้วันละ 3,000 ใช้ต่ำกว่า 3,000 ....
ได้วันละ 1,000 ใช้ต่ำกว่า 1,000 .....
...
ได้วันละ 500 ใช้ต่ำกว่า 500 ....
ได้วันละ 100 ใช้ต่ำกว่า 100 .....
ได้วันละ 20 ใช้ต่ำกว่า 20 ......
ได้วันละ 10 ใช้ต่ำกว่า 10 ..... :lol:
แค่ต่ำกว่า 100 บาท นี่...
บางทียังจะไม่ครบทุกมื้อเลยนะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 18
ทำงานตึกเอ็มไพร์ ที่ สาธรครับ
วันละ ร้อย แค่กินก็ยังไม่พอเลยครับ
แต่จริงๆ หมดจริงๆวันเสาร์กะอาทิตย์
วันละ ร้อย แค่กินก็ยังไม่พอเลยครับ
แต่จริงๆ หมดจริงๆวันเสาร์กะอาทิตย์
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 20
เศรษฐศาตร์ตะวันตก ไม่สามารถตอบสนองความสุขของมวลชนได้ เนื่องจาก
เป็นการใช้เครื่องมือ บนทรัพยากรที่จำกัด เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มน้อย
ซื่งมองในความจริง เป็นการดึงทรัพยากรของมวลชนไปให้กับคนกลุ่มน้อย
(เนื่องจากการตีค่าทรัพยกรเป็นเงิน คนมีเงินมากคือคนที่มีส่วนแบ่งในทรัพยากรมาก)
คนกลุ่มน้อย...คือคนที่รู้เศรษฐศาตร์นั้นนั่นเอง...เงินคือมิเตอร์วัดความสำเร็จ
และเพราะคนกลุ่มน้อยชักจะมากขึ้นทุกที...จึงเกิดมีคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจ
เพราะเพียงความสามารถนั้นไม่พอให้ถึงจุดสูงสุด...ยอดปิรามิดนั้นเล็กและแหลม
เศรษฐกิจพอเพียง - ไม่ใช่แค่เงิน
กระทบการเงิน
ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่หลงให้คนอื่นมาจูงเพื่ออยากได้อยากมีมากเกินความจำเป็น
(ต้องมีทีวีมีมือถือ แต่เป็นหนี้ตัวโต...สุขกับทุกข์อันไหนมากกว่ากัน)
กระทบความเป็นอยู่
อยู่แบบพึ่งตนเองได้ มีพืชผักปลูกกินได้ มีปลาจับตามคลองตามหนองได้
(อยากกินปลาก็ต้องเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่มีได้เงินวันละ 100...ซื้ออะไรกินได้)
กระทบครอบครัว
ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า ไปมาหาสู่ในเครือญาติ ความสัมพันธ์ไม่จืดจาง
(ลูกหากินที่เมืองหลวง พ่อไปทำงานต่างประเทศ บ้านไม่มีใครอยู่...จะเอาสังคมดีๆจากไหน)
กระทบสังคม
อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกันได้ แบ่งปัน ช่วยเหลือกัน อาศัยซึ่งกันและกัน
(คนชนบทมุ่งเข้าเมืองใหญ่ ทิ้งบ้านทิ้งครอบครัว เพื่อสร้างความเจริญ...ให้กับใครกัน)
กระทบสิ่งแวดล้อม
อยู่อย่างเคารพสิ่งแวดล้อม ใช้อย่างรู้คุณค่าและหวงแหน
(ให้คนอื่นมาชมแล้วทำลาย ทิ้งให้เราอยู่กับซากของความสวยงาม...เอาเงินไปทำอะไรกัน)
กระทบวัฒนธรรม
รู้และเข้าใจวัฒนธรรมของตนเอง ปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม
(รู้จักวัฒนธรรมที่มาจากค่อนโลก แต่ไม่รู้จักวัฒนธรรมในหมู่บ้าน...เป็นคนที่ไหนกัน)
กระทบการศึกษา
ให้มีการศึกษาที่ไม่มุ่งแต่ความสำเร็จในส่วนตน แต่เพื่อสังคมส่วนรวม
(ศึกษาแต่โลก รู้แต่ชนะคนอื่น ไม่รู้จักชนะตนเอง...เรียนเพื่ออะไรกัน)
เศรษฐกิจพอเพียง พยายามเข้าใจสิ่งที่มี ใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด โดยการแบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
... ทำให้ประเทศล้าหลังหรือ? สนใจทำไมถ้าเรามีกินมีใช้ อย่างพอเพียง
... เพราะเรามัวแต่คิดจะวัดด้วยเงิน ทำให้เราลืมและทำลายคุณค่าทางธรรมชาติ เพื่อเปลี่ยนเป็นตัวเลขในกระดาษ
เป็นการใช้เครื่องมือ บนทรัพยากรที่จำกัด เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มน้อย
ซื่งมองในความจริง เป็นการดึงทรัพยากรของมวลชนไปให้กับคนกลุ่มน้อย
(เนื่องจากการตีค่าทรัพยกรเป็นเงิน คนมีเงินมากคือคนที่มีส่วนแบ่งในทรัพยากรมาก)
คนกลุ่มน้อย...คือคนที่รู้เศรษฐศาตร์นั้นนั่นเอง...เงินคือมิเตอร์วัดความสำเร็จ
และเพราะคนกลุ่มน้อยชักจะมากขึ้นทุกที...จึงเกิดมีคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจ
เพราะเพียงความสามารถนั้นไม่พอให้ถึงจุดสูงสุด...ยอดปิรามิดนั้นเล็กและแหลม
เศรษฐกิจพอเพียง - ไม่ใช่แค่เงิน
กระทบการเงิน
ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่หลงให้คนอื่นมาจูงเพื่ออยากได้อยากมีมากเกินความจำเป็น
(ต้องมีทีวีมีมือถือ แต่เป็นหนี้ตัวโต...สุขกับทุกข์อันไหนมากกว่ากัน)
กระทบความเป็นอยู่
อยู่แบบพึ่งตนเองได้ มีพืชผักปลูกกินได้ มีปลาจับตามคลองตามหนองได้
(อยากกินปลาก็ต้องเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่มีได้เงินวันละ 100...ซื้ออะไรกินได้)
กระทบครอบครัว
ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า ไปมาหาสู่ในเครือญาติ ความสัมพันธ์ไม่จืดจาง
(ลูกหากินที่เมืองหลวง พ่อไปทำงานต่างประเทศ บ้านไม่มีใครอยู่...จะเอาสังคมดีๆจากไหน)
กระทบสังคม
อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกันได้ แบ่งปัน ช่วยเหลือกัน อาศัยซึ่งกันและกัน
(คนชนบทมุ่งเข้าเมืองใหญ่ ทิ้งบ้านทิ้งครอบครัว เพื่อสร้างความเจริญ...ให้กับใครกัน)
กระทบสิ่งแวดล้อม
อยู่อย่างเคารพสิ่งแวดล้อม ใช้อย่างรู้คุณค่าและหวงแหน
(ให้คนอื่นมาชมแล้วทำลาย ทิ้งให้เราอยู่กับซากของความสวยงาม...เอาเงินไปทำอะไรกัน)
กระทบวัฒนธรรม
รู้และเข้าใจวัฒนธรรมของตนเอง ปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม
(รู้จักวัฒนธรรมที่มาจากค่อนโลก แต่ไม่รู้จักวัฒนธรรมในหมู่บ้าน...เป็นคนที่ไหนกัน)
กระทบการศึกษา
ให้มีการศึกษาที่ไม่มุ่งแต่ความสำเร็จในส่วนตน แต่เพื่อสังคมส่วนรวม
(ศึกษาแต่โลก รู้แต่ชนะคนอื่น ไม่รู้จักชนะตนเอง...เรียนเพื่ออะไรกัน)
เศรษฐกิจพอเพียง พยายามเข้าใจสิ่งที่มี ใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด โดยการแบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
... ทำให้ประเทศล้าหลังหรือ? สนใจทำไมถ้าเรามีกินมีใช้ อย่างพอเพียง
... เพราะเรามัวแต่คิดจะวัดด้วยเงิน ทำให้เราลืมและทำลายคุณค่าทางธรรมชาติ เพื่อเปลี่ยนเป็นตัวเลขในกระดาษ
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 21
" ..... พอเพียง นี้ก็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย
ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอ .
แม้บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทําให้มีความสุข
ถ้าทําได้ก็สมควรที่จะทํา สมควรที่จะปฏิบัติ .
อันนี้ก็ความหมายอีกอย่างของเศรษฐกิจหรือระบบพอเพียง ..... "
พระราชดํารัสในหลวง ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
วันศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม 2541
ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอ .
แม้บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทําให้มีความสุข
ถ้าทําได้ก็สมควรที่จะทํา สมควรที่จะปฏิบัติ .
อันนี้ก็ความหมายอีกอย่างของเศรษฐกิจหรือระบบพอเพียง ..... "
พระราชดํารัสในหลวง ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
วันศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม 2541
- Tao Investor
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 22
กระทบครอบครัว
ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า ไปมาหาสู่ในเครือญาติ ความสัมพันธ์ไม่จืดจาง
(ลูกหากินที่เมืองหลวง พ่อไปทำงานต่างประเทศ บ้านไม่มีใครอยู่...จะเอาสังคมดีๆจากไหน)
กระทบสังคม
อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกันได้ แบ่งปัน ช่วยเหลือกัน อาศัยซึ่งกันและกัน
(คนชนบทมุ่งเข้าเมืองใหญ่ ทิ้งบ้านทิ้งครอบครัว เพื่อสร้างความเจริญ...ให้กับใครกัน)
คม ชัด ลึกกระทบการศึกษา
ให้มีการศึกษาที่ไม่มุ่งแต่ความสำเร็จในส่วนตน แต่เพื่อสังคมส่วนรวม
(ศึกษาแต่โลก รู้แต่ชนะคนอื่น ไม่รู้จักชนะตนเอง...เรียนเพื่ออะไรกัน)
ทุกคนต่างอยากมีความสุขกับตัวเอง ครอบครับ และสังคม
แต่การดำเนินชีวิตนั้นไม่ได้สอดคล้อง กับจุดหมายเลย
ปล. ชอบมากครับ โดนใจมากๆ
Inmagination is more importan than knowledge
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 23
มองในมุมมหภาค
แม้คิดว่าจะมีการใช้จ่ายส่วนบุคคลน้อยลง แต่ประเทศไทยยังต้องการค่าใช้
จ่ายในการพัฒนาประเทศและสังคมสูง การลงทุนสูง การนำเข้าสินค้าทุนสูง
ต่างจากญี่ปุ่น .. อย่างการศึกษา การคมนาคม เรายังล้าหลังหลายสิบปี
วันนี้เรามีถนนมากขึ้น แต่เราก็ต้องการระบบขนส่งมวลชนดีๆ
วันนี้มีมหาวิทยาลัยเยอะแยะ แต่เราต้องการอาจารย์เก่งๆอีกมาก เป็นอาทิ
การบริโภคต่ำกว่าฐานะ ทำให้มีเงินออมสูง
ดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนการเงินต่ำ หุ้นขึ้น การระดมทุนทำได้ดี
น่าจะดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืนมากกว่า
เอาไว้ประเทศไทยเหมือนญี่ปุ่นก่อน ค่อยใช้จ่ายสมฐานะ หรือฟุ่มเฟือยยังไม่สายครับ
จากที่คุณJaychouกล่าวไว้ขอแบ่งเป็นประเด็นย่อยก่อนนะครับ
ประเด็นแรก ถ้าถามว่าสัดส่วนเงินออมของครัวเรือนควรเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ตรงนี้เห็นด้วย เพราะโดยพฤติกรรมของคนไทยยังมีอัตราส่วนระหว่างการบริโภคกับการออมที่ 7/3 ซึ่งมันควรจะอยู่ที่ประมาณ 6/4 เพื่อให้อัตราการบริโภคยังคงมีเสถียรภาพ (เงินออมจะ=เงินลงทุน หรือ เงินบริโภคในอนาคต) ซึ่งแน่นอนพฤติกรรมการนำเงินในอนาคตมาใช้บริโภคในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่ากังวลเพราะเป็นการลดอัตราการบริโภคในอนาคตโดยปริยาย
แต่สำหรับประเด็นที่บริโภค"ต่ำกว่า"ฐานะ อันนี้ไม่เห็นด้วย เพราะโครงสร้างที่มีการบริโภคต่ำเกินไปส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตซึ่งจะเป็นลูกโซ่ไปสู่ราคาสินค้าที่แพงและเงินฝืดสูง อย่างในcase ญี่ปุ่นมองภายนอกอาจดูดีแต่ มีปัญหาการตกงานสูงมาก ค่าครองชีพสูง(ถ้าจำไม่ผิดสูงที่สุดในโลก) ข้าวยากหมากแพง ของทุกอย่างแพงหมดแถมงานก็หายาก ภาวะในลักษณะนี้เรียกว่าดีหรือครับ?
สรุปในความเห็นผมเชื่อว่าการบริโภคควรจะสมฐานะแต่ไม่ควรเกินฐานะจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
แม้คิดว่าจะมีการใช้จ่ายส่วนบุคคลน้อยลง แต่ประเทศไทยยังต้องการค่าใช้
จ่ายในการพัฒนาประเทศและสังคมสูง การลงทุนสูง การนำเข้าสินค้าทุนสูง
ต่างจากญี่ปุ่น .. อย่างการศึกษา การคมนาคม เรายังล้าหลังหลายสิบปี
วันนี้เรามีถนนมากขึ้น แต่เราก็ต้องการระบบขนส่งมวลชนดีๆ
วันนี้มีมหาวิทยาลัยเยอะแยะ แต่เราต้องการอาจารย์เก่งๆอีกมาก เป็นอาทิ
การบริโภคต่ำกว่าฐานะ ทำให้มีเงินออมสูง
ดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนการเงินต่ำ หุ้นขึ้น การระดมทุนทำได้ดี
น่าจะดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืนมากกว่า
เอาไว้ประเทศไทยเหมือนญี่ปุ่นก่อน ค่อยใช้จ่ายสมฐานะ หรือฟุ่มเฟือยยังไม่สายครับ
จากที่คุณJaychouกล่าวไว้ขอแบ่งเป็นประเด็นย่อยก่อนนะครับ
ประเด็นแรก ถ้าถามว่าสัดส่วนเงินออมของครัวเรือนควรเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ตรงนี้เห็นด้วย เพราะโดยพฤติกรรมของคนไทยยังมีอัตราส่วนระหว่างการบริโภคกับการออมที่ 7/3 ซึ่งมันควรจะอยู่ที่ประมาณ 6/4 เพื่อให้อัตราการบริโภคยังคงมีเสถียรภาพ (เงินออมจะ=เงินลงทุน หรือ เงินบริโภคในอนาคต) ซึ่งแน่นอนพฤติกรรมการนำเงินในอนาคตมาใช้บริโภคในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่ากังวลเพราะเป็นการลดอัตราการบริโภคในอนาคตโดยปริยาย
แต่สำหรับประเด็นที่บริโภค"ต่ำกว่า"ฐานะ อันนี้ไม่เห็นด้วย เพราะโครงสร้างที่มีการบริโภคต่ำเกินไปส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตซึ่งจะเป็นลูกโซ่ไปสู่ราคาสินค้าที่แพงและเงินฝืดสูง อย่างในcase ญี่ปุ่นมองภายนอกอาจดูดีแต่ มีปัญหาการตกงานสูงมาก ค่าครองชีพสูง(ถ้าจำไม่ผิดสูงที่สุดในโลก) ข้าวยากหมากแพง ของทุกอย่างแพงหมดแถมงานก็หายาก ภาวะในลักษณะนี้เรียกว่าดีหรือครับ?
สรุปในความเห็นผมเชื่อว่าการบริโภคควรจะสมฐานะแต่ไม่ควรเกินฐานะจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
-
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 24
หากคิดเป็นอัตราส่วนการบริโภคในประเทศกับรายได้จากการส่งออก อาจจะเรียกว่าต่ำก็ได้ แต่วัดเป็นเม็ดเงิน ผมว่าไม่ต่ำแน่นอนครับ
แล้วแต่คุณยีนว่าอะไรสำคัญกว่านะครับ .. ผมเห็นว่า ไทยยังต้องการความเจริญอีกมากในต่างจังหวัด บางแห่งยังไม่มีไฟฟ้าเลย.. ในขณะที่ญี่ปุ่นที่ผมเคยได้ไป ในอำเภอเล็กๆ ก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ไฟฟ้า น้ำ พลังงาน ระบบสื่อสาร การศึกษา เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม บางเรื่องทำได้ดีกว่า กทม.วันนี้ซะอีก .. ดูว่าญี่ปุ่นคงไม่มีการลงทุนภาครัฐกับสาธารณูปโภคเท่าไหร่แล้ว
ในไทย ดูเหมือนเราต้องลงทุนกันอีกมากครับ การใช้จ่ายภาครัฐด้านสาธารณูปโภคต้องสูงแน่ๆ ผมเลยไม่คิดถึงเงินฝืด หรือภาวะการจ้างงานตกต่ำ แม้แต่น้อย
มองในด้านใช้จ่ายน้อยเกินไปในคนไทย คงเป็นได้กับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น คนส่วนใหญ่ในประเทศ ผมยังมองไม่เห็นว่าจะทำให้มีนิสัยประหยัดได้ยังไงเลย
อ้อ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต เห็นว่าเป้าหมายอยู่ที่ 24% .... อาการน่าเป็นห่วงครับ
แล้วแต่คุณยีนว่าอะไรสำคัญกว่านะครับ .. ผมเห็นว่า ไทยยังต้องการความเจริญอีกมากในต่างจังหวัด บางแห่งยังไม่มีไฟฟ้าเลย.. ในขณะที่ญี่ปุ่นที่ผมเคยได้ไป ในอำเภอเล็กๆ ก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ไฟฟ้า น้ำ พลังงาน ระบบสื่อสาร การศึกษา เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม บางเรื่องทำได้ดีกว่า กทม.วันนี้ซะอีก .. ดูว่าญี่ปุ่นคงไม่มีการลงทุนภาครัฐกับสาธารณูปโภคเท่าไหร่แล้ว
ในไทย ดูเหมือนเราต้องลงทุนกันอีกมากครับ การใช้จ่ายภาครัฐด้านสาธารณูปโภคต้องสูงแน่ๆ ผมเลยไม่คิดถึงเงินฝืด หรือภาวะการจ้างงานตกต่ำ แม้แต่น้อย
มองในด้านใช้จ่ายน้อยเกินไปในคนไทย คงเป็นได้กับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น คนส่วนใหญ่ในประเทศ ผมยังมองไม่เห็นว่าจะทำให้มีนิสัยประหยัดได้ยังไงเลย
อ้อ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต เห็นว่าเป้าหมายอยู่ที่ 24% .... อาการน่าเป็นห่วงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 25
คำว่าเศรษฐกิจพอเพียง คนตั้งกระทู้นี้
กำลังทำให้สับสนนะครับ
แล้วบทความที่เขียนทั้งหมด เป็นของใคร ในหลวงเขียนหรือครับ
เห็นเอามาอ้างอิง
แล้วทำไม จะต้องกินอยู่ต่ำกว่าฐานะ
ผมก็กินพอๆกับที่ฐานะผมจะเป็น จะกินได้
ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ปีนี้ก็รวยกว่าปีที่แล้ว
ช่วยเคลียร์ นิดนะครับ
กำลังทำให้สับสนนะครับ
แล้วบทความที่เขียนทั้งหมด เป็นของใคร ในหลวงเขียนหรือครับ
เห็นเอามาอ้างอิง
แล้วทำไม จะต้องกินอยู่ต่ำกว่าฐานะ
ผมก็กินพอๆกับที่ฐานะผมจะเป็น จะกินได้
ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ปีนี้ก็รวยกว่าปีที่แล้ว
ช่วยเคลียร์ นิดนะครับ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 26
ผมคิดว่า อาจต้องมีเกณฑ์วัดหน่อยว่ากินอยู่ต่ำกว่าฐานะเป็นยังไง
ใน มิลเลียนแนร์ เน็กดอร์ ดร แสตนลีร์ กล่าวว่าคนรวยส่วนใหญ่กินอยู่ต่ำกว่าฐานะทั้งสิ้น และ ปฏิบัติตัวอย่างนั้นมานานแล้ว คือมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน ต่ำกว่าบุคคลที่มีรายได้เท่ากัน
มองในแง่นี้ก็เป็นไปได้ว่าที่บอกว่าเรากินอยู่สมฐานะนั้น จริงๆแล้ว อาจต่ำกว่าฐานะก็ได้
ใน มิลเลียนแนร์ เน็กดอร์ ดร แสตนลีร์ กล่าวว่าคนรวยส่วนใหญ่กินอยู่ต่ำกว่าฐานะทั้งสิ้น และ ปฏิบัติตัวอย่างนั้นมานานแล้ว คือมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน ต่ำกว่าบุคคลที่มีรายได้เท่ากัน
มองในแง่นี้ก็เป็นไปได้ว่าที่บอกว่าเรากินอยู่สมฐานะนั้น จริงๆแล้ว อาจต่ำกว่าฐานะก็ได้
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 27
ข้อความทั้งหมดผมเขียนเองครับ ถ้ามีส่วนใดผิดพลาดหรือนำกระแสพระราชดำรัชในหลวงท่านมาใช้ผิดๆ ก็ขออภัยด้วยครับ ผมอาจจะเข้าใจผิดหรือสับสนได้ครับ
แล้วคุณ nanchan เห็นว่าทำให้สับสนอย่างไรละครับ ชี้แจงหน่อยสิครับ
หรือเป็นในส่วนด้านล่างนี้ จะได้แก้ไขในถูกต้องได้
"จะเห็นได้ว่าการหาเงินนั้นสำคัญก็จริง แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่ามาก ดังนั้นการกินอยู่ต่ำกว่าฐานะของตน ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตตามกระแสพระราชดำรัชของในหลวง ตามเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักพอเพียงและเพียงพอ เป็นทางออกที่สำคัญในการจัดการเรื่องนี้ เมื่อเราอยู่กินต่ำกว่าฐานะของตน ก็จะมีเหลือเก็บสามารถส่วนเหลือ นำไปหาดอกผลได้ และสามารถทำให้ฐานะของตนดีขึ้นได้ในที่สุด"
ผมก็ต้องการแค่เพียงบอกว่า จากตามเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง พระองค์ท่านทรงเตือนให้เรารู้จักเพียงพอและพอเพียง ให้รู้จักพึ่งตนเองได้ การดำเนินชีวิตก็จะมีสุขได้นะครับ ผมผิดตรงไหนและทำให้สับสนอย่างไรละครับ
ส่วนเรื่องความรวยจน รวมถึงการใช้ชีวิตของ ของคุณ nanchan นั้นผมไม่อาจไปกล่าวล่วงใดๆได้ครับ เป็นสิทธิของคุณ nanchan ทุกประการ จะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้วครับ
ที่ผมขีดๆเขียนๆข้อความข้างต้นมาก็เพียงแค่บอก พี่ๆ เพื่อนๆ ในที่นี้ ตามที่ผมได้เขียนไว้แล้วดังนี้ครับ
"การหาเงินนั้นสำคัญ แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่า
ผมสังเกตุว่าช่วงนี้มีหลายกระทู้พูดถึงการใช้เงิน เรื่องค่านิยม การรู้จักประหยัดต่างๆ กันเยอะ จึงอยากเสนอทางออกที่สำคัญ และควรจะมีการแนะนำกันให้รู้โดยทั่วๆกันให้มากๆ สำหรับการใช้ชีวิตที่ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน เพื่อให้มีอิสระอย่างแท้จริง ซึ่งผมมั่นใจว่าพี่ๆ เพื่อนๆในที่นี้ดำรงตนในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะบอกกล่าวอีกครั้ง
"
แล้วคุณ nanchan เห็นว่าทำให้สับสนอย่างไรละครับ ชี้แจงหน่อยสิครับ
หรือเป็นในส่วนด้านล่างนี้ จะได้แก้ไขในถูกต้องได้
"จะเห็นได้ว่าการหาเงินนั้นสำคัญก็จริง แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่ามาก ดังนั้นการกินอยู่ต่ำกว่าฐานะของตน ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตตามกระแสพระราชดำรัชของในหลวง ตามเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักพอเพียงและเพียงพอ เป็นทางออกที่สำคัญในการจัดการเรื่องนี้ เมื่อเราอยู่กินต่ำกว่าฐานะของตน ก็จะมีเหลือเก็บสามารถส่วนเหลือ นำไปหาดอกผลได้ และสามารถทำให้ฐานะของตนดีขึ้นได้ในที่สุด"
ผมก็ต้องการแค่เพียงบอกว่า จากตามเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง พระองค์ท่านทรงเตือนให้เรารู้จักเพียงพอและพอเพียง ให้รู้จักพึ่งตนเองได้ การดำเนินชีวิตก็จะมีสุขได้นะครับ ผมผิดตรงไหนและทำให้สับสนอย่างไรละครับ
ส่วนเรื่องความรวยจน รวมถึงการใช้ชีวิตของ ของคุณ nanchan นั้นผมไม่อาจไปกล่าวล่วงใดๆได้ครับ เป็นสิทธิของคุณ nanchan ทุกประการ จะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้วครับ
ที่ผมขีดๆเขียนๆข้อความข้างต้นมาก็เพียงแค่บอก พี่ๆ เพื่อนๆ ในที่นี้ ตามที่ผมได้เขียนไว้แล้วดังนี้ครับ
"การหาเงินนั้นสำคัญ แต่การรู้จักใช้เงินนั้นสำคัญกว่า
ผมสังเกตุว่าช่วงนี้มีหลายกระทู้พูดถึงการใช้เงิน เรื่องค่านิยม การรู้จักประหยัดต่างๆ กันเยอะ จึงอยากเสนอทางออกที่สำคัญ และควรจะมีการแนะนำกันให้รู้โดยทั่วๆกันให้มากๆ สำหรับการใช้ชีวิตที่ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน เพื่อให้มีอิสระอย่างแท้จริง ซึ่งผมมั่นใจว่าพี่ๆ เพื่อนๆในที่นี้ดำรงตนในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะบอกกล่าวอีกครั้ง
"
แก้ไขล่าสุดโดย Dech เมื่อ อังคาร มี.ค. 22, 2005 7:38 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ คือทางออก
โพสต์ที่ 29
ตอบคุณ Genie นะครับ
เรื่องการกินอยู่ต่ำกว่าฐานะกับสมฐานะ นั้นผมคิดว่าใกล้เคียงกันครับ อาจเรียกว่าเป็นกลุ่มเดียวกันได้
และผมก็ไม่คิดว่าการเป็นอยู่แบบนี้ จะทำให้เกิดเงินฝืดตรงไหนครับ ผมว่าทำให้เศษฐกิจโดยรวมดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะคนเหล่านี้จะมีเงินใช้จ่ายสม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต จากเงินที่ได้เก็บไว้ และทำให้ออกดอกผลในอนาคตข้างหน้า รวมทั้งผมคิดว่าแม้คนกลุ่มนี้จะก่อหนี้ คนเหล่านี้ก็จะไม่ทำให้เกิดหนี้เสีย อันทำให้เกิดผลเสียในภาพรวมด้วย ทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นนะครับ
เพราะเงินที่ได้สะสมไว้ของคนเหล่านี้ จะถูกนำไปเป็นรากฐาน ในการเป็นเงินฝากให้ธนาคารไปปล่อยกู้หรือจะนำไปลงทุนเองในที่ต่างๆ ทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีขึ้นด้วยนะครับ
และผมยังคิดว่าการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้จะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด ของแพง หรือออมแล้วไม่จ่ายแน่ๆ จะเกิดได้ถ้าคนเหล่านี้ ทะเลเรียกพี่ละครับ
อย่างไรก็ตามผมเห็นด้วยที่บอกว่าไม่ควรใช้จ่ายเกินฐานะ แต่บางครั้งถ้าใช้จ่ายเกินฐานะบ้าง โดยอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ ก็จำเป็นนะครับ เพราะการลงทุนหรือการซื้อของบางอย่าง คนเช่นผมเองจะไม่สามารถจะซื้อได้ถ้าไม่ก่อหนี้บ้าง เช่นการซื้อบ้าน ครับ
ปล. ผมเขียนตอบท่าน Genie เป็นครั้งที่สองแล้วนะครับ พยายามน่าดู ครั้งแรกเขียนไปแล้ว ผมว่าดูดีสมเหตุผลกว่านี้หน่อย :lol: :lol: ก่อนตอบท่าน nanchan ด้วยครับ แต่ net มันหลุดครับ เลยเขียนใหม่ ประเด็นคงคล้ายๆเดิมครับ แต่เขียนไม่เหมือนเดิมแล้วครับ พอดีหลุดไปเข้ามาใหม่เจอข้อสงสัยท่าน nanchan เลยตอบไปขอครับ
เรื่องการกินอยู่ต่ำกว่าฐานะกับสมฐานะ นั้นผมคิดว่าใกล้เคียงกันครับ อาจเรียกว่าเป็นกลุ่มเดียวกันได้
และผมก็ไม่คิดว่าการเป็นอยู่แบบนี้ จะทำให้เกิดเงินฝืดตรงไหนครับ ผมว่าทำให้เศษฐกิจโดยรวมดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะคนเหล่านี้จะมีเงินใช้จ่ายสม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต จากเงินที่ได้เก็บไว้ และทำให้ออกดอกผลในอนาคตข้างหน้า รวมทั้งผมคิดว่าแม้คนกลุ่มนี้จะก่อหนี้ คนเหล่านี้ก็จะไม่ทำให้เกิดหนี้เสีย อันทำให้เกิดผลเสียในภาพรวมด้วย ทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นนะครับ
เพราะเงินที่ได้สะสมไว้ของคนเหล่านี้ จะถูกนำไปเป็นรากฐาน ในการเป็นเงินฝากให้ธนาคารไปปล่อยกู้หรือจะนำไปลงทุนเองในที่ต่างๆ ทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีขึ้นด้วยนะครับ
และผมยังคิดว่าการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้จะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด ของแพง หรือออมแล้วไม่จ่ายแน่ๆ จะเกิดได้ถ้าคนเหล่านี้ ทะเลเรียกพี่ละครับ
อย่างไรก็ตามผมเห็นด้วยที่บอกว่าไม่ควรใช้จ่ายเกินฐานะ แต่บางครั้งถ้าใช้จ่ายเกินฐานะบ้าง โดยอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ ก็จำเป็นนะครับ เพราะการลงทุนหรือการซื้อของบางอย่าง คนเช่นผมเองจะไม่สามารถจะซื้อได้ถ้าไม่ก่อหนี้บ้าง เช่นการซื้อบ้าน ครับ
ปล. ผมเขียนตอบท่าน Genie เป็นครั้งที่สองแล้วนะครับ พยายามน่าดู ครั้งแรกเขียนไปแล้ว ผมว่าดูดีสมเหตุผลกว่านี้หน่อย :lol: :lol: ก่อนตอบท่าน nanchan ด้วยครับ แต่ net มันหลุดครับ เลยเขียนใหม่ ประเด็นคงคล้ายๆเดิมครับ แต่เขียนไม่เหมือนเดิมแล้วครับ พอดีหลุดไปเข้ามาใหม่เจอข้อสงสัยท่าน nanchan เลยตอบไปขอครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์