หุ้นแบงค์จีนดีมั๊ยค่ะ?
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2770
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นแบงค์จีนดีมั๊ยค่ะ?
โพสต์ที่ 5
ลืมขยายความ เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมามีปรากฎการณ์ที่นักลงทุนมาพบว่าบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บางแห่งนั้น มีการบันทึกบัญชีที่น่าสงสัยและตรวจสอบได้ยาก เช่นมีบริษัทจีนบางแห่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์คผ่านวิธี reverse mergerging ทำให้นักลงทุนไม่สามารถอ่านรายละเอียดของบริษัทที่นำเข้าตลาดได้
มีกรณีศึกษาจากหลายสถาบันว่าปัจจัยที่ทำให้คุณภาพของบัญชีนั้นต่ำเป็นเพราะอะไร เช่นกฎหมาย การเมือง ภาษี ศีลธรรม หรือการตรวจสอบที่บกพร่อง ลองค้นหาคำว่า china financial reporting quality หรือ chinese reverse merger ดูครับ โดยส่วนตัวแล้วผมจะกังวลตรงนี้ค่อนข้างมาก ตัวเลขที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่ที่เป็นจริงก็ได้
มีกรณีศึกษาจากหลายสถาบันว่าปัจจัยที่ทำให้คุณภาพของบัญชีนั้นต่ำเป็นเพราะอะไร เช่นกฎหมาย การเมือง ภาษี ศีลธรรม หรือการตรวจสอบที่บกพร่อง ลองค้นหาคำว่า china financial reporting quality หรือ chinese reverse merger ดูครับ โดยส่วนตัวแล้วผมจะกังวลตรงนี้ค่อนข้างมาก ตัวเลขที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่ที่เป็นจริงก็ได้
Vi IMrovised
-
- Verified User
- โพสต์: 21
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นแบงค์จีนดีมั๊ยค่ะ?
โพสต์ที่ 7
ลีสซิ่งไอซีบีซีปล่อยกู้แอร์เอเชีย 2,100 ล้าน ซื้อเครื่องบิน 2 ลำ ระบุกลยุทธ์หันเพิ่มสัดส่วนปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการเป็น 20% จากเดิม 15% หลังยอดขายรถเริ่มฝืด
นายองอาจ วรฉัตรธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้พิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้แก่บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ TAA ผู้ดำเนินธุริกจสายการบินไทยแอร์เอเชีย ในวงเงินรวม 2,100 ล้านบาท ในการซื้อเครื่องแอร์บัส เอ 320 รุ่นใหม่ จำนวน 2 ลำ เพื่อรองรับการขยายเที่ยวบิน และเพิ่มเส้นทางบินในอนาคต ซึ่งการปล่อยสินเชื่อให้แก่แอร์เอเชียครั้งนี้ ถือว่าสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่ต้องการหันมาปล่อยกู้สินเชื่อเช่าซื้อให้แก่ผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น
“บริษัทมีแนวทางตั้งเป้าเพิ่้มสัดส่วนสินเชื่อผู้ประกอบการเป็น 20% ของพอร์ตรวม จากเดิม 15% และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายย่อย เป็น 80% จาก 85% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากยอดขายรถยนต์ในเดือน เม.ย.ที่มีจำนวน109,000 คัน ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าถึง 30% ขณะที่ทางฝั่งรัฐบาลก็มีโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น จึงน่าจะทำให้ผู้ประกอบการต้องการสินเชื่อมากขึ้น”
เผย 4 เดือนแรกโตตามเป้า
ทั้งนี้ ผลประกอบการในช่วง 4 เดือนแรกของปี สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 11,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% และเป็นสินเชื่อผู้ประกอบการ 26% ซึ่งทำให้สัดส่วนสินเชื่อผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิม 17% ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 51,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% และคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 55,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากคาดการณ์ทั้งปีที่ 363 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นเดือน เม.ย.อยู่ที่ระดับ 1.34% จากสิ้นปีที่ 2.23%
สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้โครงการรถคันแรกนั้น บริษัทได้ปล่อยกู้ไป 9,400 คัน ขณะนี้มีหนี้เสียแล้ว 4 คัน อย่างไรก็ตาม ปีนี้แม้ว่าจะไม่มีโครงการรถยนต์คันแรกแล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะยังสามารถปล่อยกู้ได้ตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือน เม.ย.มียอดปล่อยกู้ใหม่แล้ว 8,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับการปล่อยกู้ในช่วงที่เหลือแล้วก็น่าจะได้เกินกว่าเป้าหมาย
นายองอาจ วรฉัตรธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้พิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้แก่บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ TAA ผู้ดำเนินธุริกจสายการบินไทยแอร์เอเชีย ในวงเงินรวม 2,100 ล้านบาท ในการซื้อเครื่องแอร์บัส เอ 320 รุ่นใหม่ จำนวน 2 ลำ เพื่อรองรับการขยายเที่ยวบิน และเพิ่มเส้นทางบินในอนาคต ซึ่งการปล่อยสินเชื่อให้แก่แอร์เอเชียครั้งนี้ ถือว่าสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่ต้องการหันมาปล่อยกู้สินเชื่อเช่าซื้อให้แก่ผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น
“บริษัทมีแนวทางตั้งเป้าเพิ่้มสัดส่วนสินเชื่อผู้ประกอบการเป็น 20% ของพอร์ตรวม จากเดิม 15% และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายย่อย เป็น 80% จาก 85% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากยอดขายรถยนต์ในเดือน เม.ย.ที่มีจำนวน109,000 คัน ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าถึง 30% ขณะที่ทางฝั่งรัฐบาลก็มีโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น จึงน่าจะทำให้ผู้ประกอบการต้องการสินเชื่อมากขึ้น”
เผย 4 เดือนแรกโตตามเป้า
ทั้งนี้ ผลประกอบการในช่วง 4 เดือนแรกของปี สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 11,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% และเป็นสินเชื่อผู้ประกอบการ 26% ซึ่งทำให้สัดส่วนสินเชื่อผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิม 17% ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 51,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% และคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 55,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากคาดการณ์ทั้งปีที่ 363 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นเดือน เม.ย.อยู่ที่ระดับ 1.34% จากสิ้นปีที่ 2.23%
สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้โครงการรถคันแรกนั้น บริษัทได้ปล่อยกู้ไป 9,400 คัน ขณะนี้มีหนี้เสียแล้ว 4 คัน อย่างไรก็ตาม ปีนี้แม้ว่าจะไม่มีโครงการรถยนต์คันแรกแล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะยังสามารถปล่อยกู้ได้ตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือน เม.ย.มียอดปล่อยกู้ใหม่แล้ว 8,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับการปล่อยกู้ในช่วงที่เหลือแล้วก็น่าจะได้เกินกว่าเป้าหมาย