BABA80
BABA80
โพสต์ที่ 1
โอกาสลงทุนหุ้นยักษ์ใหญ่ ALIBABA DR ด้วยเงินบาทผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย
ข้อควรรู้ก่อนลงทุนใน ALIBABA DR หรือ BABA80
ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อราคา BABA80 ได้แก่ ราคาสินทรัพย์อ้างอิงซึ่งคือหุ้น Alibaba Group Holding Ltd (9988.HK) ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และ อัตราแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ให้เป็น บาทไทย (THB) ตัวอย่าง ราคา BABA80 (บาท) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงและอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่างกันไป (แปลงอัตราส่วน 1 หุ้นอาลีบาบา : 100 DR)
และนอกเหนือจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ราคา BABA80 ยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความต้องการซื้อขาย DR ช่วงเวลาการเปิด-ปิด ขอบตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นต้น
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูล
https://krungthai.com/th/krungthai-upda ... detail/956
ข้อควรรู้ก่อนลงทุนใน ALIBABA DR หรือ BABA80
ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อราคา BABA80 ได้แก่ ราคาสินทรัพย์อ้างอิงซึ่งคือหุ้น Alibaba Group Holding Ltd (9988.HK) ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และ อัตราแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ให้เป็น บาทไทย (THB) ตัวอย่าง ราคา BABA80 (บาท) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงและอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่างกันไป (แปลงอัตราส่วน 1 หุ้นอาลีบาบา : 100 DR)
และนอกเหนือจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ราคา BABA80 ยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความต้องการซื้อขาย DR ช่วงเวลาการเปิด-ปิด ขอบตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นต้น
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูล
https://krungthai.com/th/krungthai-upda ... detail/956
Re: BABA80
โพสต์ที่ 3
หุ้น BABA อาลีบาบา บวกแรง 12% หลังประกาศผลประกอบการรายได้ 9 แสนล้านบาท มากกว่าคาด
ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงบวกยกแผง
.
.
https://www.facebook.com/10004499806367 ... zUAzl/?d=n
https://www.cnbc.com/2022/05/27/asia-ma ... s-oil.html
ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงบวกยกแผง
.
.
https://www.facebook.com/10004499806367 ... zUAzl/?d=n
https://www.cnbc.com/2022/05/27/asia-ma ... s-oil.html
Re: BABA80
โพสต์ที่ 6
News Update: JPMorgan กลับลำ! แนะนำลงทุนหุ้นเทคจีน 15 ตัว เปลี่ยนจาก ‘Uninvestable’ สู่ ‘Overweight’
JPMorgan เปลี่ยนมุมมองต่อหุ้นเทคจีนอย่างสิ้นเชิง จากก่อนหน้านี้เคยบอกว่าหุ้นจีน ‘ลงทุนไม่ได้ (Uninvestable)’ ตอนนี้กลับแนะนำให้ลูกค้า ‘เพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight)’ ในหุ้นเทคจีนถึง 15 ตัว
ทีมนักวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Alex Yao ปรับมุมมองต่อหุ้นเทคจีนแบบยกแผง และแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเทคจีนยักษ์ใหญ่ที่คุ้นตากันดีอย่าง Tencent, Alibaba, Meituan, JD, Pinduoduo และ NetEase
โดยให้เหตุผลว่าความไม่แน่นอนในจีนเริ่มลดลงแล้ว จากทั้ง
1) การพัฒนานโยบายที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
2) ความเสี่ยงที่หุ้นจีนจะถูกถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลง
3) สัญญาณการผ่อนปรนในการคุมเข้มภาคเทคโนโลยีจากรองนายกฯ หลิว เหอ
4) เฟสที่การเทขายหุ้นจีนเริ่มลดลงและราคาหุ้นทรงตัวได้นั้นมาเร็วกว่าที่คาด
อย่างไรก็ตาม ยังคงมี Downside Risk ที่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการไตรมาส 2 ของหุ้นบางตัว เช่น Meituan และ Alibaba จากมาตรการควบคุมโควิดที่ส่งผลต่อธุรกิจจีน
นี่ถือเป็นอีกจุดพลิกผันสำหรับวงการหุ้นเทคจีน เพราะรายงานของ JPMorgan ในเดือน มี.ค. ที่เตือนให้นักลงทุนอยู่ห่างจากหุ้นจีนนั้นส่งผลให้ความกังวลปกคลุมตลาดจนทำให้ดัชนี Nasdaq Golden Dragon China แตะจุดต่ำสุดในรอบปี
ต้องมาดูกันว่ามุมมองที่เปลี่ยนไปของ JPMorgan ในครั้งนี้ จะทำให้ตลาดลดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการล็อกดาวน์ต่อเศรษฐกิจในวงกว้างในวงกว้างได้มากแค่ไหน
อ้างอิง:
https://www.bloomberg.com/news/articles ... f=e4t2werz
#ข่าว #ลงทุน #หุ้นจีน #JPMorgan
https://www.facebook.com/10298274844133 ... Bdtul/?d=n
Youtube: https://finno.me/youtube-channel
JPMorgan เปลี่ยนมุมมองต่อหุ้นเทคจีนอย่างสิ้นเชิง จากก่อนหน้านี้เคยบอกว่าหุ้นจีน ‘ลงทุนไม่ได้ (Uninvestable)’ ตอนนี้กลับแนะนำให้ลูกค้า ‘เพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight)’ ในหุ้นเทคจีนถึง 15 ตัว
ทีมนักวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Alex Yao ปรับมุมมองต่อหุ้นเทคจีนแบบยกแผง และแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเทคจีนยักษ์ใหญ่ที่คุ้นตากันดีอย่าง Tencent, Alibaba, Meituan, JD, Pinduoduo และ NetEase
โดยให้เหตุผลว่าความไม่แน่นอนในจีนเริ่มลดลงแล้ว จากทั้ง
1) การพัฒนานโยบายที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
2) ความเสี่ยงที่หุ้นจีนจะถูกถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลง
3) สัญญาณการผ่อนปรนในการคุมเข้มภาคเทคโนโลยีจากรองนายกฯ หลิว เหอ
4) เฟสที่การเทขายหุ้นจีนเริ่มลดลงและราคาหุ้นทรงตัวได้นั้นมาเร็วกว่าที่คาด
อย่างไรก็ตาม ยังคงมี Downside Risk ที่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการไตรมาส 2 ของหุ้นบางตัว เช่น Meituan และ Alibaba จากมาตรการควบคุมโควิดที่ส่งผลต่อธุรกิจจีน
นี่ถือเป็นอีกจุดพลิกผันสำหรับวงการหุ้นเทคจีน เพราะรายงานของ JPMorgan ในเดือน มี.ค. ที่เตือนให้นักลงทุนอยู่ห่างจากหุ้นจีนนั้นส่งผลให้ความกังวลปกคลุมตลาดจนทำให้ดัชนี Nasdaq Golden Dragon China แตะจุดต่ำสุดในรอบปี
ต้องมาดูกันว่ามุมมองที่เปลี่ยนไปของ JPMorgan ในครั้งนี้ จะทำให้ตลาดลดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการล็อกดาวน์ต่อเศรษฐกิจในวงกว้างในวงกว้างได้มากแค่ไหน
อ้างอิง:
https://www.bloomberg.com/news/articles ... f=e4t2werz
#ข่าว #ลงทุน #หุ้นจีน #JPMorgan
https://www.facebook.com/10298274844133 ... Bdtul/?d=n
Youtube: https://finno.me/youtube-channel
Re: BABA80
โพสต์ที่ 7
Alibaba Cloud ทำกำไรเต็มปีได้เป็นครั้งแรก
เป็น growth driver ใหม่ของ Alibaba
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยในจีนและทั่วโลก
แต่ตลาด Cloud ในจีนและทั่วโลกก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตลาด Cloud ในจีนจะมีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้านหยวนในปี 2025
โดย Alibaba Cloud มีส่วนแบ่งตลาดในจีนวัดตามรายได้อยู่ที่ประมาณ 40%
ต่อไปจะเน้นขยายตลาดในต่างประเทศ
ปีนี้เปิด Data Center แห่งใหม่ไปแล้วที่เกาหลีใต้และไทย และ Data Center แห่งที่ 3 ที่ แฟร้งเฟิร์ต เยอรมนี
ปีที่ผ่านมา Alibaba Cloud มีรายได้ทั้งหมด 100,180 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 21% YoY คิดเป็น 12% ของรายได้ทั้งหมดของ Alibaba Group
มีกำไร EBITA เต็มปีเป็นครั้งแรก 1,146 ล้านหยวน หลังจากก่อตั้งมา 13 ปี
รายได้ที่มาจากลูกค้าในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตโดยตรงเช่น ธุรกิจขนส่ง, การธนาคาร, การบริการ, การลงทุน, การประกันภัย, การผลิต, ทรัพยากรธรรมชาติและการค้าส่งค้าปลีก คิดเป็น 50% ของรายได้ทั้งหมดแล้ว แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของลูกค้า
ส่วนแบ่งตลาดใน Infrastructure-as-a-Service (IaaS)
วัดตามรายได้เป็นอันดับ 3 ของโลกและอันดับ 1 ใน เอเชียแปซิฟิก ตามรายงานของ Gartner
โดยมี global market share 9.55% รองจาก Amazon และ Microsoft และ AsiaPacific market share 25.5%.
มี 84 availability zones ใน 27 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก มีลูกค้าหลักอยู่ในธุรกิจขนส่ง, การธนาคาร, การบริการ, การลงทุน, การประกันภัย, การผลิต, ทรัพยากรธรรมชาติและการค้าส่ง โดยรายได้จากธุรกิจเหล่านี้เติบโตระหว่าง 49-67.5% ในปีที่ผ่านมา
ตลาด IaaS ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 อยู่ที่ 90,890 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 64,290 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 เอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกโดยมีรายได้อยู่ที่ 33,160 ล้านเหรียญสหรัฐ
Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Project AsiaForward ในปี 2021 โดยลงทุน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาผู้ที่มีความสามารถทางดิจิทัลให้ได้ 1,000,000 คน เพิ่มศักยภาพนักพัฒนาให้ได้ 100,000 คน และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 100,000 รายในเอเชียแปซิฟิก
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2022 DingTalk มีลูกค้าจาก 21 ล้านองค์กร มีแอปกว่า 3.5 ล้านแอปพลิเคชันถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มของ DingTalk
Alibaba Group Announces March Quarter 2022 and Full Fiscal Year 2022 Results
https://www.alibabagroup.com/en/news/pr ... 220526.pdf
Alibaba Group Announces March Quarter 2022 and Full Fiscal Year 2022 Results Presentation
https://www.alibabagroup.com/en/ir/pres ... 220526.pdf
Alibaba Q4 Revenue +9% YoY; Beats Forecasts
https://www.alizila.com/alibaba-prudent ... isruption/
AliViews: Alibaba’s CEO Daniel Zhang on Q4 Earnings
https://www.alizila.com/aliviews-alibab ... -earnings/
Alibaba Group Holding Ltd. (BABA) Q1 2022 Earnings Call Transcript
https://www.fool.com/earnings/call-tran ... rnings-ca/
อาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศผลประกอบการ ปีงบประมาณ 2565
https://th.alibabanews.com/27-05-2022-a ... 2-results/
Alibaba Ranked the World’s Third Largest IaaS Provider for the Fourth Consecutive Year
https://www.alibabacloud.com/blog/aliba ... 1000340119
Solution Scorecard for Alibaba Cloud International IaaS+PaaS
https://www.gartner.com/doc/reprints?sp ... 1126&st=sb
เป็น growth driver ใหม่ของ Alibaba
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยในจีนและทั่วโลก
แต่ตลาด Cloud ในจีนและทั่วโลกก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตลาด Cloud ในจีนจะมีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้านหยวนในปี 2025
โดย Alibaba Cloud มีส่วนแบ่งตลาดในจีนวัดตามรายได้อยู่ที่ประมาณ 40%
ต่อไปจะเน้นขยายตลาดในต่างประเทศ
ปีนี้เปิด Data Center แห่งใหม่ไปแล้วที่เกาหลีใต้และไทย และ Data Center แห่งที่ 3 ที่ แฟร้งเฟิร์ต เยอรมนี
ปีที่ผ่านมา Alibaba Cloud มีรายได้ทั้งหมด 100,180 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 21% YoY คิดเป็น 12% ของรายได้ทั้งหมดของ Alibaba Group
มีกำไร EBITA เต็มปีเป็นครั้งแรก 1,146 ล้านหยวน หลังจากก่อตั้งมา 13 ปี
รายได้ที่มาจากลูกค้าในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตโดยตรงเช่น ธุรกิจขนส่ง, การธนาคาร, การบริการ, การลงทุน, การประกันภัย, การผลิต, ทรัพยากรธรรมชาติและการค้าส่งค้าปลีก คิดเป็น 50% ของรายได้ทั้งหมดแล้ว แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของลูกค้า
ส่วนแบ่งตลาดใน Infrastructure-as-a-Service (IaaS)
วัดตามรายได้เป็นอันดับ 3 ของโลกและอันดับ 1 ใน เอเชียแปซิฟิก ตามรายงานของ Gartner
โดยมี global market share 9.55% รองจาก Amazon และ Microsoft และ AsiaPacific market share 25.5%.
มี 84 availability zones ใน 27 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก มีลูกค้าหลักอยู่ในธุรกิจขนส่ง, การธนาคาร, การบริการ, การลงทุน, การประกันภัย, การผลิต, ทรัพยากรธรรมชาติและการค้าส่ง โดยรายได้จากธุรกิจเหล่านี้เติบโตระหว่าง 49-67.5% ในปีที่ผ่านมา
ตลาด IaaS ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 อยู่ที่ 90,890 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 64,290 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 เอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกโดยมีรายได้อยู่ที่ 33,160 ล้านเหรียญสหรัฐ
Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Project AsiaForward ในปี 2021 โดยลงทุน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาผู้ที่มีความสามารถทางดิจิทัลให้ได้ 1,000,000 คน เพิ่มศักยภาพนักพัฒนาให้ได้ 100,000 คน และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 100,000 รายในเอเชียแปซิฟิก
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2022 DingTalk มีลูกค้าจาก 21 ล้านองค์กร มีแอปกว่า 3.5 ล้านแอปพลิเคชันถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มของ DingTalk
Alibaba Group Announces March Quarter 2022 and Full Fiscal Year 2022 Results
https://www.alibabagroup.com/en/news/pr ... 220526.pdf
Alibaba Group Announces March Quarter 2022 and Full Fiscal Year 2022 Results Presentation
https://www.alibabagroup.com/en/ir/pres ... 220526.pdf
Alibaba Q4 Revenue +9% YoY; Beats Forecasts
https://www.alizila.com/alibaba-prudent ... isruption/
AliViews: Alibaba’s CEO Daniel Zhang on Q4 Earnings
https://www.alizila.com/aliviews-alibab ... -earnings/
Alibaba Group Holding Ltd. (BABA) Q1 2022 Earnings Call Transcript
https://www.fool.com/earnings/call-tran ... rnings-ca/
อาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศผลประกอบการ ปีงบประมาณ 2565
https://th.alibabanews.com/27-05-2022-a ... 2-results/
Alibaba Ranked the World’s Third Largest IaaS Provider for the Fourth Consecutive Year
https://www.alibabacloud.com/blog/aliba ... 1000340119
Solution Scorecard for Alibaba Cloud International IaaS+PaaS
https://www.gartner.com/doc/reprints?sp ... 1126&st=sb
Re: BABA80
โพสต์ที่ 8
Alibaba Cloud ยังห้าวต่อขยายธุรกิจในยุโรปอย่างต่อเนื่อง เปิด Data Center แห่งที่ 3 ในเยอรมนีแล้ว
เพื่อรองรับลูกค้าในเยอรมนีและทั่วยุโรป
ตั้งอยู่ใน #แฟรงก์เฟิร์ต ให้บริการผลิตภัณฑ์ Cloud Computing ที่หลากหลาย storage, network to database ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดและระเบียบการปฏิบัติที่เข้มงวดที่กำหนดไว้ใน Cloud Computing Compliance Controls Catalog (C5) ในเยอรมนี
#DataCenter ทั้ง 3 แห่งช่วยให้ลูกค้าในยุโรปมีความพร้อมใช้งานสูง มีความยืดหยุ่นสูง และมีความสามารถในการกู้คืนข้อมูลที่แข็งแกร่ง มีความปลอดภัยสูง ปรับขนาดได้ และยั่งยืน เพื่อรองรับลูกค้าทั่วโลกที่เปิดรับนวัตกรรมดิจิทัล
#ศูนย์ข้อมูล แห่งใหม่นี้ใช้ระบบระบายความร้อนผ่านเครื่องทำความเย็นแบบแห้ง โดยใช้อากาศที่เย็นตามธรรมชาติแทนการใช้เครื่องทำความเย็น สามารถใช้ระบบนี้ได้ถึง 7,000 ชั่วโมงต่อปี
ใช้ green electricity 100% ด้วยระบบ Cloud อัจฉริยะ เพื่อตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพ carbon footprint ได้แบบรายวันเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
ตั้งแต่เปิดตัว Data Center แห่งแรกที่แฟรงก์เฟิร์ตในปี 2016 Alibaba Cloud ก็ได้ร่วมมือกับลูกค้าในภาคยานยนต์, การผลิต, การค้าปลีก และเกมในยุโรป ได้แนะนำบริการ AI หลายอย่างออกสู่ตลาด เช่น Intelligent Speech Interaction, a Machine Learning Platform for AI (PAI) และ GPU clusters เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าสำหรับนวัตกรรมบน Cloud อย่างต่อเนื่อง
ในฐานะสมาชิกของ Trusted Cloud Initiative ของ BMWK, Alibaba Cloud ยังเป็นผู้ให้บริการ Cloud รายแรกที่ได้รับใบรับรองการทดสอบ C5 พร้อมข้อกำหนดเพิ่มเติมจากสำนักงานกลางแห่งเยอรมนีเพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล German Federal Office for Information Security(BSI)
นอกจากนี้ ยังประสบความสำเร็จโดยผ่านมาตรฐาน German AI Cloud Services Compliance Criteria Criteria Catalog (AIC4) ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบที่บังคับใช้ฉบับแรกที่จัดตั้งขึ้นโดย Federal Office for Information Security (BSI) ของเยอรมนี
เพื่อรับรองความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน AI ที่นำไปใช้ในเยอรมนี นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง Siemens และ SAP เพื่อขับเคลื่อนการทำ Digital Transformation ในจีนด้วย
#AlibabaCloud เป็นผู้ให้บริการ #IaaS ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นอันดับ 1 ในเอเซียแปซิฟิก ในปี 2021จากการจัดอันดับของ #Gartner ปัจจุบันมี 84 availability zones ใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก
Alibaba Cloud Launches Third Datacentre in Germany
https://www.alibabacloud.com/th/press-r ... in-germany
เพื่อรองรับลูกค้าในเยอรมนีและทั่วยุโรป
ตั้งอยู่ใน #แฟรงก์เฟิร์ต ให้บริการผลิตภัณฑ์ Cloud Computing ที่หลากหลาย storage, network to database ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดและระเบียบการปฏิบัติที่เข้มงวดที่กำหนดไว้ใน Cloud Computing Compliance Controls Catalog (C5) ในเยอรมนี
#DataCenter ทั้ง 3 แห่งช่วยให้ลูกค้าในยุโรปมีความพร้อมใช้งานสูง มีความยืดหยุ่นสูง และมีความสามารถในการกู้คืนข้อมูลที่แข็งแกร่ง มีความปลอดภัยสูง ปรับขนาดได้ และยั่งยืน เพื่อรองรับลูกค้าทั่วโลกที่เปิดรับนวัตกรรมดิจิทัล
#ศูนย์ข้อมูล แห่งใหม่นี้ใช้ระบบระบายความร้อนผ่านเครื่องทำความเย็นแบบแห้ง โดยใช้อากาศที่เย็นตามธรรมชาติแทนการใช้เครื่องทำความเย็น สามารถใช้ระบบนี้ได้ถึง 7,000 ชั่วโมงต่อปี
ใช้ green electricity 100% ด้วยระบบ Cloud อัจฉริยะ เพื่อตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพ carbon footprint ได้แบบรายวันเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
ตั้งแต่เปิดตัว Data Center แห่งแรกที่แฟรงก์เฟิร์ตในปี 2016 Alibaba Cloud ก็ได้ร่วมมือกับลูกค้าในภาคยานยนต์, การผลิต, การค้าปลีก และเกมในยุโรป ได้แนะนำบริการ AI หลายอย่างออกสู่ตลาด เช่น Intelligent Speech Interaction, a Machine Learning Platform for AI (PAI) และ GPU clusters เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าสำหรับนวัตกรรมบน Cloud อย่างต่อเนื่อง
ในฐานะสมาชิกของ Trusted Cloud Initiative ของ BMWK, Alibaba Cloud ยังเป็นผู้ให้บริการ Cloud รายแรกที่ได้รับใบรับรองการทดสอบ C5 พร้อมข้อกำหนดเพิ่มเติมจากสำนักงานกลางแห่งเยอรมนีเพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล German Federal Office for Information Security(BSI)
นอกจากนี้ ยังประสบความสำเร็จโดยผ่านมาตรฐาน German AI Cloud Services Compliance Criteria Criteria Catalog (AIC4) ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบที่บังคับใช้ฉบับแรกที่จัดตั้งขึ้นโดย Federal Office for Information Security (BSI) ของเยอรมนี
เพื่อรับรองความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน AI ที่นำไปใช้ในเยอรมนี นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง Siemens และ SAP เพื่อขับเคลื่อนการทำ Digital Transformation ในจีนด้วย
#AlibabaCloud เป็นผู้ให้บริการ #IaaS ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นอันดับ 1 ในเอเซียแปซิฟิก ในปี 2021จากการจัดอันดับของ #Gartner ปัจจุบันมี 84 availability zones ใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก
Alibaba Cloud Launches Third Datacentre in Germany
https://www.alibabacloud.com/th/press-r ... in-germany
Re: BABA80
โพสต์ที่ 9
#AlibabaCloud ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
มีส่วนแบ่งตลาดใน Infrastructure-as-a-Service (IaaS)
วัดตามรายได้เป็นอันดับ 3 ของโลกและอันดับ 1 ใน #เอเชียแปซิฟิก ตามรายงานของ #Gartner
โดยมี global market share 9.55% รองจาก Amazon และ Microsoft และ #AsiaPacific market share 25.5%.
มี 84 availability zones ใน 27 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก มีลูกค้าหลักอยู่ในธุรกิจขนส่ง, การธนาคาร, การบริการ, การลงทุน, การประกันภัย, การผลิต, ทรัพยากรธรรมชาติและการค้าส่ง โดยรายได้จากธุรกิจเหล่านี้เติบโตระหว่าง 49-67.5% ในปีที่ผ่านมา
ตลาด #IaaS ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 อยู่ที่ 90,890 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 64,290 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 เอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกโดยมีรายได้อยู่ที่ 33,160 ล้านเหรียญสหรัฐ
Alibaba Cloud ได้ลงทุนเพิ่มทั่วเอเชียแปซิฟิก #DataCenter ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ก็เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปีที่แล้วและในเดือนมีนาคมปีนี้ก็ได้เปิด Data Center แห่งใหม่ที่เกาหลีใต้ และเปิด Data Center ที่ไทยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Project AsiaForward ในปี 2021 โดยลงทุน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาผู้ที่มีความสามารถทางดิจิทัลให้ได้ 1,000,000 คน เพิ่มศักยภาพนักพัฒนาให้ได้ 100,000 คน และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 100,000 รายในเอเชียแปซิฟิก
Alibaba Ranked the World’s Third Largest IaaS Provider for the Fourth Consecutive Year
https://www.alibabacloud.com/blog/aliba ... 1000340119
Solution Scorecard for Alibaba Cloud International IaaS+PaaS
https://www.gartner.com/doc/reprints?sp ... 1126&st=sb
มีส่วนแบ่งตลาดใน Infrastructure-as-a-Service (IaaS)
วัดตามรายได้เป็นอันดับ 3 ของโลกและอันดับ 1 ใน #เอเชียแปซิฟิก ตามรายงานของ #Gartner
โดยมี global market share 9.55% รองจาก Amazon และ Microsoft และ #AsiaPacific market share 25.5%.
มี 84 availability zones ใน 27 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก มีลูกค้าหลักอยู่ในธุรกิจขนส่ง, การธนาคาร, การบริการ, การลงทุน, การประกันภัย, การผลิต, ทรัพยากรธรรมชาติและการค้าส่ง โดยรายได้จากธุรกิจเหล่านี้เติบโตระหว่าง 49-67.5% ในปีที่ผ่านมา
ตลาด #IaaS ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 อยู่ที่ 90,890 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 64,290 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 เอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกโดยมีรายได้อยู่ที่ 33,160 ล้านเหรียญสหรัฐ
Alibaba Cloud ได้ลงทุนเพิ่มทั่วเอเชียแปซิฟิก #DataCenter ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ก็เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปีที่แล้วและในเดือนมีนาคมปีนี้ก็ได้เปิด Data Center แห่งใหม่ที่เกาหลีใต้ และเปิด Data Center ที่ไทยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Project AsiaForward ในปี 2021 โดยลงทุน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาผู้ที่มีความสามารถทางดิจิทัลให้ได้ 1,000,000 คน เพิ่มศักยภาพนักพัฒนาให้ได้ 100,000 คน และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 100,000 รายในเอเชียแปซิฟิก
Alibaba Ranked the World’s Third Largest IaaS Provider for the Fourth Consecutive Year
https://www.alibabacloud.com/blog/aliba ... 1000340119
Solution Scorecard for Alibaba Cloud International IaaS+PaaS
https://www.gartner.com/doc/reprints?sp ... 1126&st=sb
Re: BABA80
โพสต์ที่ 10
Ant เปิดตัวธนาคารดิจิทัลสิงคโปร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Ant Unveils Singapore Digital Bank in Southeast Asian Push
(Bloomberg) -- Billionaire Jack Ma’s Ant Group Co. launched its digital bank in Singapore, as China’s largest online financial platform branches out of its home market amid regulatory headwinds.
ANEXT Bank will provide digital financial services to micro, small and medium-sized enterprises, particularly those with cross-border operations, it said in a statement on Monday.
The fintech giant is entering an arena dominated by traditional incumbents including DBS Group Holdings Ltd. and Oversea-Chinese Banking Corp. Using Singapore as a base for its business in Southeast Asia may offset slower growth prospects at home after government-ordered regulatory overhauls. Part-owned by Alibaba Group Holding Ltd., Ant can also benefit from the e-commerce operator’s unit in the region, Lazada.
“Banking services are essentially a very central part of the holistic suite of financial services that we’re doing within Southeast Asia and hopefully using Singapore as a launchpad,” Toh Su Mei, chief executive officer of ANEXT Bank, said at a news briefing.
Asked about staffing, Toh said the wholly owned bank will build a “Singapore-first team,” with 75% of workers based in the city-state and the rest in China.
Toh, a former executive at DBS, has more than 20 years of experience in the banking industry. She led DBS’s lending arm for small and medium-sized enterprises in the region before joining Ant, according to her LinkedIn profile.
The digital bank is starting by offering a preview of its dual-currency deposit account, which includes three-factor authentication verification, remote on-boarding and daily interest, it said. Accounts will be made available from the third quarter.
Toh said the bank will offer interest rates that are in line with the market. “We are not here to create a price war,” she said.
Ant was one of two groups to get a wholesale digital banking license in December 2020, allowing it to serve small and midsized firms and other non-retail segments. It requires a capital commitment of S$100 million ($73 million). That compares with a full digital bank license, which can serve all kinds of customers and eventually requires S$1.5 billion in capital as well as local control.
Ant will also partner with Proxtera, a local entity that’s part of a public initiative led by the Monetary Authority of Singapore and Singapore’s Infocomm Media Development Authority, to create an open framework for collaboration with financial institutions.
Singapore’s efforts to open up the banking industry to technology companies come on the heels of a similar move in Hong Kong, where Ant and Chinese competitors including Tencent Holdings Ltd. obtained licenses in 2020.
“Continuous innovation and new capabilities that digital banks are slated to bring will no doubt add more engines of growth to Singapore’s financial sector,” MAS Chief Fintech Officer Sopnendu Mohanty said in the statement.
https://finance.yahoo.com/news/ant-unve ... 00837.html
Ant Unveils Singapore Digital Bank in Southeast Asian Push
(Bloomberg) -- Billionaire Jack Ma’s Ant Group Co. launched its digital bank in Singapore, as China’s largest online financial platform branches out of its home market amid regulatory headwinds.
ANEXT Bank will provide digital financial services to micro, small and medium-sized enterprises, particularly those with cross-border operations, it said in a statement on Monday.
The fintech giant is entering an arena dominated by traditional incumbents including DBS Group Holdings Ltd. and Oversea-Chinese Banking Corp. Using Singapore as a base for its business in Southeast Asia may offset slower growth prospects at home after government-ordered regulatory overhauls. Part-owned by Alibaba Group Holding Ltd., Ant can also benefit from the e-commerce operator’s unit in the region, Lazada.
“Banking services are essentially a very central part of the holistic suite of financial services that we’re doing within Southeast Asia and hopefully using Singapore as a launchpad,” Toh Su Mei, chief executive officer of ANEXT Bank, said at a news briefing.
Asked about staffing, Toh said the wholly owned bank will build a “Singapore-first team,” with 75% of workers based in the city-state and the rest in China.
Toh, a former executive at DBS, has more than 20 years of experience in the banking industry. She led DBS’s lending arm for small and medium-sized enterprises in the region before joining Ant, according to her LinkedIn profile.
The digital bank is starting by offering a preview of its dual-currency deposit account, which includes three-factor authentication verification, remote on-boarding and daily interest, it said. Accounts will be made available from the third quarter.
Toh said the bank will offer interest rates that are in line with the market. “We are not here to create a price war,” she said.
Ant was one of two groups to get a wholesale digital banking license in December 2020, allowing it to serve small and midsized firms and other non-retail segments. It requires a capital commitment of S$100 million ($73 million). That compares with a full digital bank license, which can serve all kinds of customers and eventually requires S$1.5 billion in capital as well as local control.
Ant will also partner with Proxtera, a local entity that’s part of a public initiative led by the Monetary Authority of Singapore and Singapore’s Infocomm Media Development Authority, to create an open framework for collaboration with financial institutions.
Singapore’s efforts to open up the banking industry to technology companies come on the heels of a similar move in Hong Kong, where Ant and Chinese competitors including Tencent Holdings Ltd. obtained licenses in 2020.
“Continuous innovation and new capabilities that digital banks are slated to bring will no doubt add more engines of growth to Singapore’s financial sector,” MAS Chief Fintech Officer Sopnendu Mohanty said in the statement.
https://finance.yahoo.com/news/ant-unve ... 00837.html
- pookii
- Verified User
- โพสต์: 1840
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BABA80
โพสต์ที่ 11
BREAKING !!: จับตาตลาดเทคโนโลยีโลก !!! ล่าสุดจีนร่วมมือสิงคโปร์ !! Ant Group เปิดตัวอาณาจักร Digital Bank ในสิงคโปร์ชื่อว่า ANEXT Bank ! เตรียมก้าวสู่ระบบการธนาคารแบบออนไลน์ครอบคลุม SMEs ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ! งานนี้มีอะไรต้องรู้บ้าง World Maker สรุปมาให้แล้ว มาดูกันได้เลย !!
.
น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว !! หลังจากเงียบหายไประยะหนึ่ง ล่าสุด Ant Group Co. ของ Jack Ma ก็ได้ประกาศเปิดหน่วยงาน Digital Bank ในสิงคโปร์โดยมีชื่อว่า "ANEXT Bank" ซึ่งจะให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ซึ่งโดยอันดับแรกแล้วจะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจกับกลุ่ม SMEs !
.
แน่นอนว่าบริการของ Alibaba ครั้งนี้จะเป็นแบบ Cross-border หรือข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจออกนอกประเทศของ Alibaba หลังจากผู้ใช้ในจีนครอคลุมตลาดถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ก้าวต่อไปคือการขึ้นเป็นบริการทางการค้าและการเงินระดับโลกนั่นเอง !
.
Alipay ซึ่งเป็นแอปฯ ชำระเงินของ Alibaba มีผู้ใช้งานประมาณ 1 พันล้านคน/ปี ณ เดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมาจากเพียงแค่ในจีน ! ขณะที่บริษัทได้นำเงินไปลงทุนในผู้ให้บริการด้าน Digital Wallet อีก 10 รายนอกประเทศจีน รวมถึง Paytm ในอินเดียและ Dana ในอินโดนีเซีย
.
การยกระดับของ Alibaba ครั้งนี้ หมายถึงการก้าวขึ้นไปสู่สมรภูมิที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีเจ้าตลาดเดิมคือ DBS Group Holdings Ltd. และ Oversea-Chinese Banking Corp. รวมถึงอีกหลายแบรนด์ของสหรัฐฯ ที่เป็นรูปแบบการธนาคารและการเงิน
.
Toh Su Mei ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ANEXT Bank กล่าวในการแถลงข่าวล่าสุดว่า 'บริการด้านการธนาคาร' จะถือเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจทางการเงินแบบองค์รวมที่ ANEXT Bank ทำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งเป้าจะใช้สิงคโปร์เป็น 'จุดเริ่มต้น'
.
ทั้งนี้ การจ้างงานของ ANEXT Bank จะแบ่งเป็นคนในสิงคโปร์ 75% และอีก 25% ที่เหลือจะเป็นคนงานของจีน ขณะที่ Toh Su Mei นั้นมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในตลาด และเป็นอดีตผู้บริหารของ DBS นี่เอง ไม่ใช่ใครอื่นไกลตัว
.
ธนาคารดิจิทัลหรือ Digital Banking ของ ANEXT จะเริ่มต้นด้วยการทดลองบัญชีเงินฝาก 2 สกุลเงินก่อน ซึ่งรวมถึงกระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตนด้วย 3 ปัจจัย (three-factor authentication verification), โปรแกรมอบรมระยะไกล (remote on-boarding) และระบบ 'ดอกเบี้ยรายวัน' (Daily Interest)
.
อย่างไรก็ตาม Alibaba กล่าวว่าเขาจะเสนอดอกเบี้ยในราคาที่สอดคล้องกับตลาด โดยกล่าวว่าเป้าหมายของ Alibaba 'ไม่ใช่การสร้างสงครามราคา' และเปิดเผยว่าจะใช้เงินลงทุนในสิงคโปร์ขั้นต้นราว ๆ 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
.
นอกจากนี้ Ant จะร่วมมือกับ Proxtera ซึ่งเป็นบริษัทของสิงคโปร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับประเทศที่ควบคุมโดย Monetary Authority of Singapore และ Infocomm Media Development Authority โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างกรอบการทำงานแบบเสรีและ Open สำหรับความร่วมมือทางด้านสถาบันการเงิน
.
ทั้งนี้ บอกเลยว่าการเดินหมากของสิงคโปร์และจีน จะทำให้ภาคการเงินซึ่งเป็นจุดแข็งอยู่แล้ว สามารถเสริมฐานที่มั่นหลักในยุค New World Order ได้อีกด้วย น่าสนใจทีเดียวว่า ANEXT Bank จะมีบริการอะไรอีกบ้างในอนาคต !
.
การเดินหมากครั้งนี้ ถือว่าสิงคโปร์นั้นตัดสินใจได้เฉียบคมทีเดียว เพราะการผูกมิตรไว้กับจีนในแง่ของธุรกิจการเงิน โดยที่เล็งเห็นว่าจีนเองกำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้สิงคโปร์ที่มีจุดแข็งเรื่องนี้อยู่แล้ว ได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างมากกับการขยายตัวของจีน ขณะที่จีนก็ได้รับประโยชน์จากจุดแข็งของสิงคโปร์ที่มีอยู่เดิมมาเสริมให้ตัวเองเพิ่ม ! งานนี้ Win-Win กันทั้งคู่ !
.
ซึ่งก็คงต้องมารอดูว่าทางสหรัฐฯ จะมีการเดินหมากอย่างไรบ้าง เพราะสมรภูมินี้บอกเลยว่าแข่งขันกันดุเดือด และน่าจะมีการปะทะกันในตลาด Digital Banking ในภูมิภาคนี้ระหว่าง 2 มหาอำนาจโลกที่แข่งกันแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ! ตอนนี้ ฉากโหมโรงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว !
.
และแน่นอน ! ไม่ว่าสถานการณ์ในตลาดเทคโนโลยีโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหว และจะนำข้อมูลมาอัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
--------------------------------------------------------------
ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker
-----------------------------------------------------------
.
น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว !! หลังจากเงียบหายไประยะหนึ่ง ล่าสุด Ant Group Co. ของ Jack Ma ก็ได้ประกาศเปิดหน่วยงาน Digital Bank ในสิงคโปร์โดยมีชื่อว่า "ANEXT Bank" ซึ่งจะให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ซึ่งโดยอันดับแรกแล้วจะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจกับกลุ่ม SMEs !
.
แน่นอนว่าบริการของ Alibaba ครั้งนี้จะเป็นแบบ Cross-border หรือข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจออกนอกประเทศของ Alibaba หลังจากผู้ใช้ในจีนครอคลุมตลาดถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ก้าวต่อไปคือการขึ้นเป็นบริการทางการค้าและการเงินระดับโลกนั่นเอง !
.
Alipay ซึ่งเป็นแอปฯ ชำระเงินของ Alibaba มีผู้ใช้งานประมาณ 1 พันล้านคน/ปี ณ เดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมาจากเพียงแค่ในจีน ! ขณะที่บริษัทได้นำเงินไปลงทุนในผู้ให้บริการด้าน Digital Wallet อีก 10 รายนอกประเทศจีน รวมถึง Paytm ในอินเดียและ Dana ในอินโดนีเซีย
.
การยกระดับของ Alibaba ครั้งนี้ หมายถึงการก้าวขึ้นไปสู่สมรภูมิที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีเจ้าตลาดเดิมคือ DBS Group Holdings Ltd. และ Oversea-Chinese Banking Corp. รวมถึงอีกหลายแบรนด์ของสหรัฐฯ ที่เป็นรูปแบบการธนาคารและการเงิน
.
Toh Su Mei ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ANEXT Bank กล่าวในการแถลงข่าวล่าสุดว่า 'บริการด้านการธนาคาร' จะถือเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจทางการเงินแบบองค์รวมที่ ANEXT Bank ทำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งเป้าจะใช้สิงคโปร์เป็น 'จุดเริ่มต้น'
.
ทั้งนี้ การจ้างงานของ ANEXT Bank จะแบ่งเป็นคนในสิงคโปร์ 75% และอีก 25% ที่เหลือจะเป็นคนงานของจีน ขณะที่ Toh Su Mei นั้นมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในตลาด และเป็นอดีตผู้บริหารของ DBS นี่เอง ไม่ใช่ใครอื่นไกลตัว
.
ธนาคารดิจิทัลหรือ Digital Banking ของ ANEXT จะเริ่มต้นด้วยการทดลองบัญชีเงินฝาก 2 สกุลเงินก่อน ซึ่งรวมถึงกระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตนด้วย 3 ปัจจัย (three-factor authentication verification), โปรแกรมอบรมระยะไกล (remote on-boarding) และระบบ 'ดอกเบี้ยรายวัน' (Daily Interest)
.
อย่างไรก็ตาม Alibaba กล่าวว่าเขาจะเสนอดอกเบี้ยในราคาที่สอดคล้องกับตลาด โดยกล่าวว่าเป้าหมายของ Alibaba 'ไม่ใช่การสร้างสงครามราคา' และเปิดเผยว่าจะใช้เงินลงทุนในสิงคโปร์ขั้นต้นราว ๆ 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
.
นอกจากนี้ Ant จะร่วมมือกับ Proxtera ซึ่งเป็นบริษัทของสิงคโปร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับประเทศที่ควบคุมโดย Monetary Authority of Singapore และ Infocomm Media Development Authority โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างกรอบการทำงานแบบเสรีและ Open สำหรับความร่วมมือทางด้านสถาบันการเงิน
.
ทั้งนี้ บอกเลยว่าการเดินหมากของสิงคโปร์และจีน จะทำให้ภาคการเงินซึ่งเป็นจุดแข็งอยู่แล้ว สามารถเสริมฐานที่มั่นหลักในยุค New World Order ได้อีกด้วย น่าสนใจทีเดียวว่า ANEXT Bank จะมีบริการอะไรอีกบ้างในอนาคต !
.
การเดินหมากครั้งนี้ ถือว่าสิงคโปร์นั้นตัดสินใจได้เฉียบคมทีเดียว เพราะการผูกมิตรไว้กับจีนในแง่ของธุรกิจการเงิน โดยที่เล็งเห็นว่าจีนเองกำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้สิงคโปร์ที่มีจุดแข็งเรื่องนี้อยู่แล้ว ได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างมากกับการขยายตัวของจีน ขณะที่จีนก็ได้รับประโยชน์จากจุดแข็งของสิงคโปร์ที่มีอยู่เดิมมาเสริมให้ตัวเองเพิ่ม ! งานนี้ Win-Win กันทั้งคู่ !
.
ซึ่งก็คงต้องมารอดูว่าทางสหรัฐฯ จะมีการเดินหมากอย่างไรบ้าง เพราะสมรภูมินี้บอกเลยว่าแข่งขันกันดุเดือด และน่าจะมีการปะทะกันในตลาด Digital Banking ในภูมิภาคนี้ระหว่าง 2 มหาอำนาจโลกที่แข่งกันแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ! ตอนนี้ ฉากโหมโรงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว !
.
และแน่นอน ! ไม่ว่าสถานการณ์ในตลาดเทคโนโลยีโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหว และจะนำข้อมูลมาอัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
--------------------------------------------------------------
ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker
-----------------------------------------------------------
Re: BABA80
โพสต์ที่ 12
Alibaba Cloud ห้าวไม่หยุดเปิด Data Center 2 แห่งในริยาด ซาอุดีอาระเบีย
เพื่อขยายตลาดรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง
ลุงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 5 ปีข้างหน้าเพื่อให้ซาอุดีอาระเบียเป็นศูนย์กลางของ Cloud Computing และการฝึกอบรมในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
โดยร่วมกับ Saudi Telecom Company (stc) Group, eWTP Arabia Capital, the Saudi Company for Artificial Intelligence (SCAI) และ Saudi Information Technology Company (SITE) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน Saudi Cloud Computing Company (SCCC) เพื่อให้บริการ Cloud ในซาอุดีอาระเบีย
เป็น Data Center 2 แห่งแรกจาก 16 แห่งที่จะเปิดในซาอุดีอาระเบีย
ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้นำเสนอโซลูชันการประมวลผล Public Cloud ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วและมีความปลอดภัยมากมาย ตั้งแต่ elastic compute, storage, network ไปจนถึง database ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การค้าปลีก fintech และอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลางรวมถึงแอฟริกาเหนือในการทำ digital transformation ได้สำเร็จ
Saudi Arabia becomes regional hub for Alibaba, two data centers to open in Riyadh
https://saudigazette.com.sa/article/621430
เพื่อขยายตลาดรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง
ลุงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 5 ปีข้างหน้าเพื่อให้ซาอุดีอาระเบียเป็นศูนย์กลางของ Cloud Computing และการฝึกอบรมในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
โดยร่วมกับ Saudi Telecom Company (stc) Group, eWTP Arabia Capital, the Saudi Company for Artificial Intelligence (SCAI) และ Saudi Information Technology Company (SITE) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน Saudi Cloud Computing Company (SCCC) เพื่อให้บริการ Cloud ในซาอุดีอาระเบีย
เป็น Data Center 2 แห่งแรกจาก 16 แห่งที่จะเปิดในซาอุดีอาระเบีย
ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้นำเสนอโซลูชันการประมวลผล Public Cloud ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วและมีความปลอดภัยมากมาย ตั้งแต่ elastic compute, storage, network ไปจนถึง database ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การค้าปลีก fintech และอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลางรวมถึงแอฟริกาเหนือในการทำ digital transformation ได้สำเร็จ
Saudi Arabia becomes regional hub for Alibaba, two data centers to open in Riyadh
https://saudigazette.com.sa/article/621430
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: BABA80
โพสต์ที่ 13
Ant Group ส่งสัญญาณว่าการปรับโครงสร้างใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
โดยแต่งตั้ง Laura Cha ประธานตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
และหยางเสี่ยวเล่ยกรรมการอิสระของ Hengfeng Bankและอดีตทนายความของบริษัทในเครือ Citic Group ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ให้เป็นกรรมการอิสระของ Ant Group
การแต่งตั้งชาและหยางเสี่ยวเล่ยได้เพิ่มจำนวนกรรมการอิสระเป็น 4 คน คิดเป็น 50% ของคณะกรรมการบริษัท
ห่าวฉวนกรรมการของบริษัท Legend Holdings Corp บริษัทแม่ของ Lenovo ยักษ์ใหญ่ด้านพีซี และ หวงอี้ผิงนักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนก็ทำหน้าที่เป็นกรรมการอิสระของ Ant Group เช่นกัน
เจียงฟางเป็นกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารของ Ant ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba ก็ได้ออกจากกรรมการบริษัทแล้ว
ก่อนหน้านั้นในเดือนสิงหาคม 2020 แดเนียลจาง CEO ของ Alibaba Group, เผิงเล่ยหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba อดีต CEO และ ประธานของ Ant และ Alipay, แม็กกี้วูอดีต CFO ของ Alibaba Group ก็ได้ลาออกจากคณะกรรมการของ Ant Group ไปแล้ว
นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่ารัฐบาลจะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีที่ปรับโครงสร้างแล้วให้ IPO ได้ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างคือบริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและสินเชื่อรายย่อยของ Ant Group คือ Huabei และ Jiebei ได้ควบรวมกิจการกับธนาคารที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐแล้ว
และยังได้ขายธุรกิจบางส่วนออกไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อปรับโครงสร้างของพอร์ตการลงทุน
Ant Group appoints HKEX chairman Laura Cha as independent director as restructuring to meet state concerns nears completion
https://www.scmp.com/tech/big-tech/arti ... t-director
โดยแต่งตั้ง Laura Cha ประธานตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
และหยางเสี่ยวเล่ยกรรมการอิสระของ Hengfeng Bankและอดีตทนายความของบริษัทในเครือ Citic Group ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ให้เป็นกรรมการอิสระของ Ant Group
การแต่งตั้งชาและหยางเสี่ยวเล่ยได้เพิ่มจำนวนกรรมการอิสระเป็น 4 คน คิดเป็น 50% ของคณะกรรมการบริษัท
ห่าวฉวนกรรมการของบริษัท Legend Holdings Corp บริษัทแม่ของ Lenovo ยักษ์ใหญ่ด้านพีซี และ หวงอี้ผิงนักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนก็ทำหน้าที่เป็นกรรมการอิสระของ Ant Group เช่นกัน
เจียงฟางเป็นกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารของ Ant ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba ก็ได้ออกจากกรรมการบริษัทแล้ว
ก่อนหน้านั้นในเดือนสิงหาคม 2020 แดเนียลจาง CEO ของ Alibaba Group, เผิงเล่ยหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba อดีต CEO และ ประธานของ Ant และ Alipay, แม็กกี้วูอดีต CFO ของ Alibaba Group ก็ได้ลาออกจากคณะกรรมการของ Ant Group ไปแล้ว
นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่ารัฐบาลจะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีที่ปรับโครงสร้างแล้วให้ IPO ได้ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างคือบริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและสินเชื่อรายย่อยของ Ant Group คือ Huabei และ Jiebei ได้ควบรวมกิจการกับธนาคารที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐแล้ว
และยังได้ขายธุรกิจบางส่วนออกไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อปรับโครงสร้างของพอร์ตการลงทุน
Ant Group appoints HKEX chairman Laura Cha as independent director as restructuring to meet state concerns nears completion
https://www.scmp.com/tech/big-tech/arti ... t-director
- pookii
- Verified User
- โพสต์: 1840
- ผู้ติดตาม: 1
Re: BABA80
โพสต์ที่ 14
ล่าสุดประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว !!! จีนเตรียมฟื้นฟูการออก IPO ของ Ant Group ของ Jack Ma อย่างแน่นอน 100% !!!! ซึ่งถือเป็น 1 ในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าการยกเครื่องใหม่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาอาจสิ้นสุดลงแล้ว ?? / World Maker
.
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน ได้จัดตั้งทีมขึ้นเพื่อ 'ประเมินแผนการขายหุ้นของบริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่รายนี้'
.
โดยปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กำลังใกล้เข้าสู่ 'ขั้นตอนสุดท้ายของการออกใบอนุญาต' ที่รอคอยมานานของ Ant ซึ่งจะเป็นการเคลียร์เส้นทางสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO แก่สาธารณะ !!!
.
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพึ่งมีข่าวออกมาว่า Ant Group ได้จัดตั้งธุรกิจ digital bank ใหม่ขึ้นมาชื่อว่า ANEXT Bank ซึ่งจะมีธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ! และถือเป็นการยกระดับจาก Fintech ยักา์ใหญ่ให้กลายเป็นธุรกิจการธนาคารเข้ามาเสริมด้วย !!
.
แม้ว่าเส้นเวลาสำหรับใบอนุญาตของ Ant Group จะยังคงขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากผู้นำระดับสูงของจีน แต่หลักฐานของความคืบหน้าที่เปิดเผยออกมานี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาเชื่อมั่นต่อหุ้นจีนในระยะยาว และมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีว่าจุดที่เลวร้ายที่สุด 'อาจ' จบลงแล้วสำหรับการยกเครื่องทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ของจีน !
.
.
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน ได้จัดตั้งทีมขึ้นเพื่อ 'ประเมินแผนการขายหุ้นของบริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่รายนี้'
.
โดยปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กำลังใกล้เข้าสู่ 'ขั้นตอนสุดท้ายของการออกใบอนุญาต' ที่รอคอยมานานของ Ant ซึ่งจะเป็นการเคลียร์เส้นทางสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO แก่สาธารณะ !!!
.
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพึ่งมีข่าวออกมาว่า Ant Group ได้จัดตั้งธุรกิจ digital bank ใหม่ขึ้นมาชื่อว่า ANEXT Bank ซึ่งจะมีธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ! และถือเป็นการยกระดับจาก Fintech ยักา์ใหญ่ให้กลายเป็นธุรกิจการธนาคารเข้ามาเสริมด้วย !!
.
แม้ว่าเส้นเวลาสำหรับใบอนุญาตของ Ant Group จะยังคงขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากผู้นำระดับสูงของจีน แต่หลักฐานของความคืบหน้าที่เปิดเผยออกมานี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาเชื่อมั่นต่อหุ้นจีนในระยะยาว และมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีว่าจุดที่เลวร้ายที่สุด 'อาจ' จบลงแล้วสำหรับการยกเครื่องทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ของจีน !
.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
Re: BABA80
โพสต์ที่ 15
https://www.scmp.com/news/hong-kong/pol ... e=homepage
ท่านใดทราบข่าวเรื่องการเปิดประเทศจีนบ้างไหมครับ เมื่อเช้าผมพึ่งได้รับ ทรศ จาก Vendor จีนว่าเค้าจะมา Visit ที่ไทย และเค้ายืนยันว่าเค้าเดินทางออกประเทศได้ ด้วย Business Visa Permit
ท่านใดทราบข่าวเรื่องการเปิดประเทศจีนบ้างไหมครับ เมื่อเช้าผมพึ่งได้รับ ทรศ จาก Vendor จีนว่าเค้าจะมา Visit ที่ไทย และเค้ายืนยันว่าเค้าเดินทางออกประเทศได้ ด้วย Business Visa Permit
Re: BABA80
โพสต์ที่ 16
Ant Group ปรับโครงสร้างใหม่ไฉไลกว่าเดิม
เน้นธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีทางการเงินมากกว่าธุรกิจการเงิน
โดยให้บริการเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจการเงินและ SMEs
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
กลยุทธ์ ESG ของ Ant เน้น 4 เสาหลักคือ การรวมระบบดิจิทัล, low carbon, ระบบนิเวศแบบเปิด และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
1.ตั้งเป้าสนับสนุน SMEs ให้ได้ 100 ล้านรายภายในปี 2030
2.บรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนในองค์กรภายในปี 2030 และสนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจและประชาชนทั่วไปเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
3.สร้างระบบนิเวศที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ มีความหลากหลายและเปิดกว้างต่อไป เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ
4.ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมที่เชื่อถือได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรม และตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจโลกทางดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น
ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นกว่า 39% ต่อปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 โดยในปี 2021 ลงทุนด้านการวิจัยพัฒนากว่า 18,800 ล้านหยวน( 2,770 ล้านเหรียญสหรัฐ)
4 เสาหลักนี้จะทำให้ Ant เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ในปี 2021 MYbank ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Ant Group และธนาคารออนไลน์สำหรับ SMEs ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้บริการทางการเงินที่สะดวก เข้าถึงได้และมีความรับผิดชอบแก่ SMEs กว่า 45 ล้านคน
6 มิถุนายน 2021 Ant Group เปิดตัวธนาคารดิจิทัล ANEXT ที่สิงคโปร์
ANEXT Bank จะให้บริการทางการเงินดิจิทัลแก่องค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีการดำเนินงานข้ามพรมแดนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ANEXT จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและองค์ความรู้ของ Ant Group ทั้ง Blockchain, AI, Security, Internet of Things และ Cloud Computing และร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการทางการเงินที่ "ง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า และคุ้มค่ากว่า" ได้อย่างเท่าเทียมกันแก่ SMEs
ร่วมกับ Lazada ออกสินเชื่อให้แก่ผู้ค้าขนาดกลางและเล็ก
จะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสที่สามของปีนี้
18 เมษายน 2022 Ant Group เข้าถือหุ้นใหญ่ใน 2C2P บริษัท payments ชั้นนำซึ่งก่อตั้งที่ประเทศไทยและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์
เพื่อเชื่อมต่อบริการ Alipay+ เข้ากับผู้บริโภคในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยให้ 2C2P สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคนเช่นกัน
Ant Group’s ESG strategy aims to support 100 million SMEs by 2030
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 6-01-10-37
ANEXT Bank soft launches today as Singapore’s newest digital wholesale bank
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 6-06-09-00
MYbank makes financing more accessible for 45 million SME clients by leveraging digital technology
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 4-29-15-00
2C2P and Ant Group enter strategic partnership to further digital payment adoption and innovation in Southeast Asia amid regional economic recovery
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 4-18-17-00
Image Credits: Andrey Pavlov /Shutterstock
https://www.shutterstock.com/th/image-p ... e-80955316
เน้นธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีทางการเงินมากกว่าธุรกิจการเงิน
โดยให้บริการเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจการเงินและ SMEs
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
กลยุทธ์ ESG ของ Ant เน้น 4 เสาหลักคือ การรวมระบบดิจิทัล, low carbon, ระบบนิเวศแบบเปิด และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
1.ตั้งเป้าสนับสนุน SMEs ให้ได้ 100 ล้านรายภายในปี 2030
2.บรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนในองค์กรภายในปี 2030 และสนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจและประชาชนทั่วไปเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
3.สร้างระบบนิเวศที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ มีความหลากหลายและเปิดกว้างต่อไป เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ
4.ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมที่เชื่อถือได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรม และตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจโลกทางดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น
ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นกว่า 39% ต่อปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 โดยในปี 2021 ลงทุนด้านการวิจัยพัฒนากว่า 18,800 ล้านหยวน( 2,770 ล้านเหรียญสหรัฐ)
4 เสาหลักนี้จะทำให้ Ant เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ในปี 2021 MYbank ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Ant Group และธนาคารออนไลน์สำหรับ SMEs ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้บริการทางการเงินที่สะดวก เข้าถึงได้และมีความรับผิดชอบแก่ SMEs กว่า 45 ล้านคน
6 มิถุนายน 2021 Ant Group เปิดตัวธนาคารดิจิทัล ANEXT ที่สิงคโปร์
ANEXT Bank จะให้บริการทางการเงินดิจิทัลแก่องค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีการดำเนินงานข้ามพรมแดนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ANEXT จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและองค์ความรู้ของ Ant Group ทั้ง Blockchain, AI, Security, Internet of Things และ Cloud Computing และร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการทางการเงินที่ "ง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า และคุ้มค่ากว่า" ได้อย่างเท่าเทียมกันแก่ SMEs
ร่วมกับ Lazada ออกสินเชื่อให้แก่ผู้ค้าขนาดกลางและเล็ก
จะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสที่สามของปีนี้
18 เมษายน 2022 Ant Group เข้าถือหุ้นใหญ่ใน 2C2P บริษัท payments ชั้นนำซึ่งก่อตั้งที่ประเทศไทยและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์
เพื่อเชื่อมต่อบริการ Alipay+ เข้ากับผู้บริโภคในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยให้ 2C2P สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคนเช่นกัน
Ant Group’s ESG strategy aims to support 100 million SMEs by 2030
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 6-01-10-37
ANEXT Bank soft launches today as Singapore’s newest digital wholesale bank
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 6-06-09-00
MYbank makes financing more accessible for 45 million SME clients by leveraging digital technology
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 4-29-15-00
2C2P and Ant Group enter strategic partnership to further digital payment adoption and innovation in Southeast Asia amid regional economic recovery
https://www.antgroup.com/en/news-media/ ... 4-18-17-00
Image Credits: Andrey Pavlov /Shutterstock
https://www.shutterstock.com/th/image-p ... e-80955316
Re: BABA80
โพสต์ที่ 17
Alipay ของ Ant Group ได้เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในประเทศจีน
จากการสำรวจของ Morning Consult
ชาวจีนกว่า 53% ใช้ Alipay ทุกวัน
55% ของกลุ่มมิลเลนเนียและ 61% ของ Gen Z ใช้ Alipay
Alipay มีผู้ใช้งาน 1,200 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการสร้างสังคมที่ไร้เงินสดในจีน
ปัจจุบันสามารถใช้หยวนดิจิทัลในการชำระเงินผ่าน Alipay ได้
ประสบการณ์ไม่ดีที่ลูกค้าได้รับและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ต่ำลงเป็นสาเหตุหลักที่ผู้บริโภคทั่วโลกสูญเสียความไว้วางใจในแบรนด์
ในเดือนมีนาคม 2020 Alipay ได้เริ่มแผนระยะเวลา 3 ปี ตั้งเป้าให้บริการแก่ธุรกิจกว่า 40 ล้านรายทั่วประเทศและเป็น online gateway สำหรับองค์กรเหล่านี้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การค้าปลีกสำหรับผู้บริโภค อาหาร เครื่องดื่มและการขนส่งไปจนถึงโรงแรมที่พักและบริการทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้บริโภคให้มากขึ้นภายในปี 2030
Ant Group’s payment services platform Alipay is most trusted brand in China, new survey by US firm finds
https://www.scmp.com/tech/big-tech/arti ... rand-china
จากการสำรวจของ Morning Consult
ชาวจีนกว่า 53% ใช้ Alipay ทุกวัน
55% ของกลุ่มมิลเลนเนียและ 61% ของ Gen Z ใช้ Alipay
Alipay มีผู้ใช้งาน 1,200 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการสร้างสังคมที่ไร้เงินสดในจีน
ปัจจุบันสามารถใช้หยวนดิจิทัลในการชำระเงินผ่าน Alipay ได้
ประสบการณ์ไม่ดีที่ลูกค้าได้รับและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ต่ำลงเป็นสาเหตุหลักที่ผู้บริโภคทั่วโลกสูญเสียความไว้วางใจในแบรนด์
ในเดือนมีนาคม 2020 Alipay ได้เริ่มแผนระยะเวลา 3 ปี ตั้งเป้าให้บริการแก่ธุรกิจกว่า 40 ล้านรายทั่วประเทศและเป็น online gateway สำหรับองค์กรเหล่านี้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การค้าปลีกสำหรับผู้บริโภค อาหาร เครื่องดื่มและการขนส่งไปจนถึงโรงแรมที่พักและบริการทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้บริโภคให้มากขึ้นภายในปี 2030
Ant Group’s payment services platform Alipay is most trusted brand in China, new survey by US firm finds
https://www.scmp.com/tech/big-tech/arti ... rand-china
Re: BABA80
โพสต์ที่ 18
IM Motors L7, EV ระดับพรีเมี่ยมของ #SAIC กับ #Alibaba เริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าแล้ว
โดยเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าที่เมืองเซี่ยงไฮ้และซูโจว
เลื่อนจากกำหนดเดิมในเดือนเมษายนเนื่องจากติดล็อกดาวน์
ปัจจุบัน #IMMotors มีโชว์รูมและศูนย์บริการเกือบ 70 และจะขยายไปถึง 120 แห่งภายในสิ้นปีนี้
IM #L7 ยาว 5,098 มิลลิเมตร กว้าง 1,960 มิลลิเมตร และสูง 1,482 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,100 มิลลิเมตร
มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ โดยมอเตอร์ด้านหน้ามีกำลังสูงสุด 175 กิโลวัตต์และมอเตอร์ด้านหลังมีกำลังสูงสุด 250 กิโลวัตต์ กำลังสูงสุดรวมกัน 425 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 3.87 วินาทีเท่านั้น
โดยรุ่น L7 Pro ที่กำลังส่งมอบอยู่นี้มีราคาเริ่มต้นที่ 408,800 หยวน รุ่น L7 Dynamic มีราคาเริ่มต้นที่ 368,800 หยวนและคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคมนี้
IM Motors, backed by SAIC and Alibaba, begins deliveries of its first model
https://cnevpost.com/2022/06/18/im-moto ... rst-model/
โดยเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าที่เมืองเซี่ยงไฮ้และซูโจว
เลื่อนจากกำหนดเดิมในเดือนเมษายนเนื่องจากติดล็อกดาวน์
ปัจจุบัน #IMMotors มีโชว์รูมและศูนย์บริการเกือบ 70 และจะขยายไปถึง 120 แห่งภายในสิ้นปีนี้
IM #L7 ยาว 5,098 มิลลิเมตร กว้าง 1,960 มิลลิเมตร และสูง 1,482 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,100 มิลลิเมตร
มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ โดยมอเตอร์ด้านหน้ามีกำลังสูงสุด 175 กิโลวัตต์และมอเตอร์ด้านหลังมีกำลังสูงสุด 250 กิโลวัตต์ กำลังสูงสุดรวมกัน 425 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 3.87 วินาทีเท่านั้น
โดยรุ่น L7 Pro ที่กำลังส่งมอบอยู่นี้มีราคาเริ่มต้นที่ 408,800 หยวน รุ่น L7 Dynamic มีราคาเริ่มต้นที่ 368,800 หยวนและคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคมนี้
IM Motors, backed by SAIC and Alibaba, begins deliveries of its first model
https://cnevpost.com/2022/06/18/im-moto ... rst-model/
Re: BABA80
โพสต์ที่ 19
ค่ายคาแร็คเตอร์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นได้รับข่าวดีแบบส้มหล่น หลังคู่ปรับของคาแร็คเตอร์ดังสุดของค่ายเกิดปังในโซเชียลจีน
.
เม็ดเงินจากยอดขายสินค้าคาแร็คเตอร์ของ Sanrio ในจีนคงจะเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลจากนี้ หลัง Alibaba ทำข้อตกลงเป็นบริษัทที่ถือครองสิทธิ์สินค้าจากคาแร็คเตอร์ของ Sanrio มากถึง 26 ตัว โดยใจความสำคัญของดีลนี้คือโอกาสทางธุรกิจจากเจ้า Kuromi ที่เมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นไวรัลฮิต
.
ด้วยขนาดพื้นที่กว้างใหญ่และจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน จีนจึงเป็นตลาดใหญ่ที่ทุกแบรนด์ต่างหมายปองต้องการที่จะเจาะและส่งสินค้าไปมัดใจผู้บริโภคให้ได้ เป้าหมายดังกล่าวจะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ถ้าได้คู่ค้าเป็นบริษัทจีนเบอร์ใหญ่ๆ
.
สำหรับ Sanrio ซึ่งดังไปทั่วโลกในฐานะบ้านของคาแร็คเตอร์สุดน่ารักอย่าง Hello Kitty พร้อมผองเพื่อน และหนึ่งในค่ายใหญ่ในการส่งออกวัฒนธรรมป็อปญี่ปุ่น ถือว่ามีแฟนๆ กลุ่มใหญ่ในจีน และต่อยอดธุรกิจได้อย่างมากมายมาหลายปี
.
เรื่องนี้ยืนยันได้จากตัวเลขยอดขายในจีน ณ ปีงบประมาณล่าสุด (สิ้นสุดเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา) ที่ 34 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,200 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 39% และยังทำกำไรได้เพิ่ม มา 19% แม้ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะเงินไม่สะพัดเหมือนเคยจากสถานการณ์โควิด
.
ล่าสุดมีปัจจัยบวกที่น่าจะทำให้ยอดขายของ Sansrio ในจีนเพิ่มขึ้นอีก
.
Kuromi คาแร็คเตอร์ปีศาจน้อยคู่ปรับ Hello Kitty ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลัง Helenoftroy เน็ตไอดอลสาวจีนคนดัง เจ้าของยอดผู้ตาม 14 ล้านคนสวมชุดคาแร็คเตอร์ตัวนี้เต้นบน Douyin หรือ TikTok ในจีน
.
นี่ทำให้สินค้าเกี่ยวกับ Kuromi ในจีนขายดี ซึ่ง Alibaba ก็เห็นช่องทางทำธุรกิจจากกระแสดังกล่าว โดย Alifish บริษัทในเครือด้านสินค้าลิขสิทธ์และธุรกิจบันเทิง ได้ทำข้อตกลงกับ Sanrio เพื่อดูแลการขายสินค้า และลิขสิทธ์คาแร็คเตอร์ 26 ตัวของ Sanrio ในจีนเป็นเวลา 5 ปี
.
ข้อตกลงดังกล่าวที่ทำขึ้นวานนี้ (30 มิถุนายน) ส่งผลดีต่อ Sanrio แทบจะทันที โดยดันหุ้นของ Sanrio ที่ซื้อ-ขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นของวันเดียวกันขึ้นมา 14%
.
นี่จะทำให้ Sanrio สามารถเจาะตลาดจีนได้ง่ายและทั่วถึงยิ่งขึ้น เพราะ Alibaba ถือเป็นบริษัทใหญ่ลำดับต้นๆ ของจีน และเป็นยักษ์ E-commerce อีกด้วย
.
หนึ่งในผู้ที่ยินดีกับข่าวนี้มากสุดคือ Tomokuni Tsuji – CEO หนุ่มของ Sanrio ซึ่งเพิ่งรับช่วงต่อการบริหารมาจาก Shintaro Tsuji คุณปู่ที่รั้งตำแหน่งหัวเรือใหญ่มากว่า 60 ปี / bbc, nikkei
*****
อยากรู้ว่า CEO หนุ่มจะพา Sanrio เดินหน้าไปสู่ทิศทางใด
Click >>: https://marketeeronline.co/archives/250722
.
#MarketeerOnline #ProductStory #Sanrioจีน #Alibaba #ดีลใหญ่ #Kuromi #TikTok #Douyin #Helenoftroy #เน็ตไอดอลสาวจีน #HelloKitty
.
เม็ดเงินจากยอดขายสินค้าคาแร็คเตอร์ของ Sanrio ในจีนคงจะเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลจากนี้ หลัง Alibaba ทำข้อตกลงเป็นบริษัทที่ถือครองสิทธิ์สินค้าจากคาแร็คเตอร์ของ Sanrio มากถึง 26 ตัว โดยใจความสำคัญของดีลนี้คือโอกาสทางธุรกิจจากเจ้า Kuromi ที่เมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นไวรัลฮิต
.
ด้วยขนาดพื้นที่กว้างใหญ่และจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน จีนจึงเป็นตลาดใหญ่ที่ทุกแบรนด์ต่างหมายปองต้องการที่จะเจาะและส่งสินค้าไปมัดใจผู้บริโภคให้ได้ เป้าหมายดังกล่าวจะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ถ้าได้คู่ค้าเป็นบริษัทจีนเบอร์ใหญ่ๆ
.
สำหรับ Sanrio ซึ่งดังไปทั่วโลกในฐานะบ้านของคาแร็คเตอร์สุดน่ารักอย่าง Hello Kitty พร้อมผองเพื่อน และหนึ่งในค่ายใหญ่ในการส่งออกวัฒนธรรมป็อปญี่ปุ่น ถือว่ามีแฟนๆ กลุ่มใหญ่ในจีน และต่อยอดธุรกิจได้อย่างมากมายมาหลายปี
.
เรื่องนี้ยืนยันได้จากตัวเลขยอดขายในจีน ณ ปีงบประมาณล่าสุด (สิ้นสุดเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา) ที่ 34 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,200 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 39% และยังทำกำไรได้เพิ่ม มา 19% แม้ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะเงินไม่สะพัดเหมือนเคยจากสถานการณ์โควิด
.
ล่าสุดมีปัจจัยบวกที่น่าจะทำให้ยอดขายของ Sansrio ในจีนเพิ่มขึ้นอีก
.
Kuromi คาแร็คเตอร์ปีศาจน้อยคู่ปรับ Hello Kitty ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลัง Helenoftroy เน็ตไอดอลสาวจีนคนดัง เจ้าของยอดผู้ตาม 14 ล้านคนสวมชุดคาแร็คเตอร์ตัวนี้เต้นบน Douyin หรือ TikTok ในจีน
.
นี่ทำให้สินค้าเกี่ยวกับ Kuromi ในจีนขายดี ซึ่ง Alibaba ก็เห็นช่องทางทำธุรกิจจากกระแสดังกล่าว โดย Alifish บริษัทในเครือด้านสินค้าลิขสิทธ์และธุรกิจบันเทิง ได้ทำข้อตกลงกับ Sanrio เพื่อดูแลการขายสินค้า และลิขสิทธ์คาแร็คเตอร์ 26 ตัวของ Sanrio ในจีนเป็นเวลา 5 ปี
.
ข้อตกลงดังกล่าวที่ทำขึ้นวานนี้ (30 มิถุนายน) ส่งผลดีต่อ Sanrio แทบจะทันที โดยดันหุ้นของ Sanrio ที่ซื้อ-ขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นของวันเดียวกันขึ้นมา 14%
.
นี่จะทำให้ Sanrio สามารถเจาะตลาดจีนได้ง่ายและทั่วถึงยิ่งขึ้น เพราะ Alibaba ถือเป็นบริษัทใหญ่ลำดับต้นๆ ของจีน และเป็นยักษ์ E-commerce อีกด้วย
.
หนึ่งในผู้ที่ยินดีกับข่าวนี้มากสุดคือ Tomokuni Tsuji – CEO หนุ่มของ Sanrio ซึ่งเพิ่งรับช่วงต่อการบริหารมาจาก Shintaro Tsuji คุณปู่ที่รั้งตำแหน่งหัวเรือใหญ่มากว่า 60 ปี / bbc, nikkei
*****
อยากรู้ว่า CEO หนุ่มจะพา Sanrio เดินหน้าไปสู่ทิศทางใด
Click >>: https://marketeeronline.co/archives/250722
.
#MarketeerOnline #ProductStory #Sanrioจีน #Alibaba #ดีลใหญ่ #Kuromi #TikTok #Douyin #Helenoftroy #เน็ตไอดอลสาวจีน #HelloKitty
Re: BABA80
โพสต์ที่ 20
Alibaba Cloud ยังลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ผนึกกำลังกับบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT
เพื่อรองรับการเติบโตของ digital transformation ในไทย
ยกระดับการให้บริการและรองรับการเติบโตของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดย Alibaba Cloud ได้นำบริการอย่าง Dingtalk Collaboration tool, eKYC (Electronic know your customer) และเทคโนโลยี Hybrid Cloud (Apsara Stack) มาบูรณาการร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานที่ทาง NT มี
เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการบนแพลตฟอร์ม รวมถึงนำเสนอโซลูชัน Hybrid Cloud ที่มีความสามารถและยืดหยุ่นสูงให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ NT และ Alibaba Cloud ยังจะได้ร่วมกันผลักดันโซลูชันด้าน digitalization, AI, data intelligence technology ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ NT ให้สามารถรองรับความต้องการด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่หลากหลาย เพื่อให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการจับมือพันธมิตรเพื่อร่วมพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจ, สังคม และเทคโนโลยีของประเทศให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน
ซึ่งทาง NT ได้นำ DingTalk ของ Alibaba Cloud ซึ่งเป็นซุปเปอร์แอปสำหรับการทำงานร่วมกันผ่านออนไลน์เข้าไปติดตั้งในระบบคลาวด์กลางภาครัฐหรือ Government Data Center and Cloud Service(GDCC) ด้วยเพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐได้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการผลักดันสู่การทำงานภายในองค์กรแบบ digitalization
การที่ NT ในฐานะที่เป็นหน่วยงานด้านดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศไทยได้ร่วมกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกอย่าง Alibaba Cloud จะช่วยพัฒนาโซลูชัน Hybrid Cloud ของ NT ให้สามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการที่หลากหลายได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งจากความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะส่งผลให้ NT สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการ Cloud ที่มีศักยภาพสูงทั้งในด้านคุณภาพ, ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายของประเทศแล้ว ยังเป็นการตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศในมิติต่างๆให้สามารถรับมือกับโอกาสใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Alibaba Cloud มุ่งมั่นลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเรื่อง และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับพันธมิตรเช่น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อย่างใกล้ชิด เพื่อนำเครื่องมือดิจิทัลที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วมาให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์ และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจในยุคหลังการระบาดใหญ่
ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วของ Alibaba Cloud จะเอื้อประโยชน์ให้องค์กรต่างๆในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย เช่น ธุรกิจค้าปลีก, e-commerce, fintech โลจิสติกส์, มีเดีย และ digital government สามารถทำ digital transformationได้เร็วขึ้นและส่งต่อประโยชน์ต่างๆให้กับลูกค้าและพันธมิตรเพื่อให้สามารถสร้างข้อเสนอทางธุรกิจที่ดีขึ้นได้
NT ผนึกอาลีบาบาคลาวด์ เดินหน้าบูรณาการโซลูชันดิจิทัล ขานรับการขยายตัวธุรกิจดิจิทัลของประเทศ
https://th.alibabanews.com/2022-06-28-n ... solutions/
ผนึกกำลังกับบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT
เพื่อรองรับการเติบโตของ digital transformation ในไทย
ยกระดับการให้บริการและรองรับการเติบโตของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดย Alibaba Cloud ได้นำบริการอย่าง Dingtalk Collaboration tool, eKYC (Electronic know your customer) และเทคโนโลยี Hybrid Cloud (Apsara Stack) มาบูรณาการร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานที่ทาง NT มี
เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการบนแพลตฟอร์ม รวมถึงนำเสนอโซลูชัน Hybrid Cloud ที่มีความสามารถและยืดหยุ่นสูงให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ NT และ Alibaba Cloud ยังจะได้ร่วมกันผลักดันโซลูชันด้าน digitalization, AI, data intelligence technology ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ NT ให้สามารถรองรับความต้องการด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่หลากหลาย เพื่อให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการจับมือพันธมิตรเพื่อร่วมพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจ, สังคม และเทคโนโลยีของประเทศให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน
ซึ่งทาง NT ได้นำ DingTalk ของ Alibaba Cloud ซึ่งเป็นซุปเปอร์แอปสำหรับการทำงานร่วมกันผ่านออนไลน์เข้าไปติดตั้งในระบบคลาวด์กลางภาครัฐหรือ Government Data Center and Cloud Service(GDCC) ด้วยเพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐได้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการผลักดันสู่การทำงานภายในองค์กรแบบ digitalization
การที่ NT ในฐานะที่เป็นหน่วยงานด้านดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศไทยได้ร่วมกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกอย่าง Alibaba Cloud จะช่วยพัฒนาโซลูชัน Hybrid Cloud ของ NT ให้สามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการที่หลากหลายได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งจากความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะส่งผลให้ NT สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการ Cloud ที่มีศักยภาพสูงทั้งในด้านคุณภาพ, ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายของประเทศแล้ว ยังเป็นการตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศในมิติต่างๆให้สามารถรับมือกับโอกาสใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Alibaba Cloud มุ่งมั่นลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเรื่อง และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับพันธมิตรเช่น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อย่างใกล้ชิด เพื่อนำเครื่องมือดิจิทัลที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วมาให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์ และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจในยุคหลังการระบาดใหญ่
ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วของ Alibaba Cloud จะเอื้อประโยชน์ให้องค์กรต่างๆในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย เช่น ธุรกิจค้าปลีก, e-commerce, fintech โลจิสติกส์, มีเดีย และ digital government สามารถทำ digital transformationได้เร็วขึ้นและส่งต่อประโยชน์ต่างๆให้กับลูกค้าและพันธมิตรเพื่อให้สามารถสร้างข้อเสนอทางธุรกิจที่ดีขึ้นได้
NT ผนึกอาลีบาบาคลาวด์ เดินหน้าบูรณาการโซลูชันดิจิทัล ขานรับการขยายตัวธุรกิจดิจิทัลของประเทศ
https://th.alibabanews.com/2022-06-28-n ... solutions/
Re: BABA80
โพสต์ที่ 21
รัฐบาลจีนยังคึกไล่ปรับบริษัทเทคโนโลยีอีก 28 คดีในข้อหาผูกขาดครอบงำตลาด
Tencent โดนมากที่สุด 12 คดี Alibaba โดน 5 คดี
ที่เด่นๆของ Alibaba ก็คือคดีที่ Alibaba เข้าซื้อกิจการของ Youku Tudou ในปี 2015 บางคดีก็ตั้งแต่ปี 2011
และการเข้าลงทุนใน Yicai Media Group ซึ่งเป็นสื่อทางการเงินของรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ในปี 2015
โทษฐานเข้าซื้อกิจการโดยไม่รายงานข้อมูลทั้งหมดหรือรายงานข้อมูลไม่ครบถ้วนให้กับหน่วยงานป้องกันการผูกขาดและการครอบงำตลาดของรัฐ
โดยถูกปรับคดีละ 500,000 หยวน(2.7 ล้านบาท)
หน่วยงานป้องกันการผูกขาดและการครอบงำตลาดของจีน State Administration for Market Regulation (SAMR) ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 เป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงพาณิชย์ เริ่มกำหนดบทลงโทษโทษในเดือนธันวาคม 2011 เริ่มบังคับใช้ กฎหมายในเดือนกุมภาพันธ์ 2012
โดยเน้นดำเนินคดีกับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทของจีนเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจของจีนจนบริษัทต่างชาติไม่กล้าผยองในจีน
ต่อมาในปี 2018 หน่วยงานนี้ได้แยกออกมาจากกระทรวงพาณิชย์และเน้นดำเนินคดีกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนแทน
ปีที่แล้ว SAMR ได้ประกาศจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดได้เปลี่ยนชื่อเป็น"สำนักงานต่อต้านการผูกขาดของรัฐ" State Anti-monopoly Bureau และหัวหน้าสำนักงานมีตำแหน่งเทียบเท่ากับรองรัฐมนตรีซึ่งทำให้องค์กรนี้มีงบประมาณและกำลังคนมากขึ้นเป็นอย่างมาก โดยกฎหมายใหม่ที่จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้จะเพิ่มโทษปรับเป็นคดีละ 5 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าจากอัตราปัจจุบัน
นอกจาก Alibaba กับ Tencent ที่ถูกปรับในครั้งนี้ก็ยังมี Didi, Bilibili, Weibo, Ping An Good Doctor, Citic Capital และ SoftBank ด้วย
Tencent, Alibaba and Didi fined by China antitrust watchdog for unreported merger deals as early as 2011
https://www.scmp.com/tech/big-tech/arti ... unreported
Tencent โดนมากที่สุด 12 คดี Alibaba โดน 5 คดี
ที่เด่นๆของ Alibaba ก็คือคดีที่ Alibaba เข้าซื้อกิจการของ Youku Tudou ในปี 2015 บางคดีก็ตั้งแต่ปี 2011
และการเข้าลงทุนใน Yicai Media Group ซึ่งเป็นสื่อทางการเงินของรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ในปี 2015
โทษฐานเข้าซื้อกิจการโดยไม่รายงานข้อมูลทั้งหมดหรือรายงานข้อมูลไม่ครบถ้วนให้กับหน่วยงานป้องกันการผูกขาดและการครอบงำตลาดของรัฐ
โดยถูกปรับคดีละ 500,000 หยวน(2.7 ล้านบาท)
หน่วยงานป้องกันการผูกขาดและการครอบงำตลาดของจีน State Administration for Market Regulation (SAMR) ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 เป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงพาณิชย์ เริ่มกำหนดบทลงโทษโทษในเดือนธันวาคม 2011 เริ่มบังคับใช้ กฎหมายในเดือนกุมภาพันธ์ 2012
โดยเน้นดำเนินคดีกับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทของจีนเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจของจีนจนบริษัทต่างชาติไม่กล้าผยองในจีน
ต่อมาในปี 2018 หน่วยงานนี้ได้แยกออกมาจากกระทรวงพาณิชย์และเน้นดำเนินคดีกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนแทน
ปีที่แล้ว SAMR ได้ประกาศจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดได้เปลี่ยนชื่อเป็น"สำนักงานต่อต้านการผูกขาดของรัฐ" State Anti-monopoly Bureau และหัวหน้าสำนักงานมีตำแหน่งเทียบเท่ากับรองรัฐมนตรีซึ่งทำให้องค์กรนี้มีงบประมาณและกำลังคนมากขึ้นเป็นอย่างมาก โดยกฎหมายใหม่ที่จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้จะเพิ่มโทษปรับเป็นคดีละ 5 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าจากอัตราปัจจุบัน
นอกจาก Alibaba กับ Tencent ที่ถูกปรับในครั้งนี้ก็ยังมี Didi, Bilibili, Weibo, Ping An Good Doctor, Citic Capital และ SoftBank ด้วย
Tencent, Alibaba and Didi fined by China antitrust watchdog for unreported merger deals as early as 2011
https://www.scmp.com/tech/big-tech/arti ... unreported
BABA80
โพสต์ที่ 22
อเมริกาเตรียมเพิกถอน Alibaba ออกจากตลาดหลักทรัพย์
เพราะทางการจีนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐฯเข้าไปตรวจสอบผู้ตรวจสอบบัญชีของ Alibaba เพราะขัดกับกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยของจีน
โดย ก.ล.ต.สหรัฐฯได้เพิ่มรายชื่อของ Alibaba เข้าไปในรายชื่อของบริษัทกว่า 200 บริษัทที่จะถูกเพิกถอนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Alibaba มีเวลา 3 ปีเพื่อเตรียมตัวออกจากตลาดหุ้นของสหรัฐฯ
ทาง Alibaba ได้โต้แย้งว่าตั้งแต่ IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี 2014 งบการเงินของบริษัทก็ได้รับการตรวจสอบโดยสำนักงานตรวจสอบบัญชีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและเป็นไปตามมาตรฐานของการกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่การโต้แย้งนี้ก็ไม่เป็นผล
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน Alibaba ก็ประกาศว่าได้เตรียมทำ Dual-Primary Listing ระหว่างตลาดหุ้นนิวยอร์กและฮ่องกงแล้ว เพื่อให้นักลงทุนสามารถโอนหุ้นระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงกับนิวยอร์กได้โดยตรง คาดว่าน่าจะเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ แต่จากกรณีนี้ก็น่าจะทำเสร็จเร็วขึ้น
และทำ stock connect ระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงกับตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ทำให้นักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถซื้อหุ้น Alibaba ได้โดยตรงรวมถึงนักลงทุนจากเอเชียก็สามารถซื้อหุ้นของ Alibaba ได้ง่ายขึ้น
Alibaba Added to SEC List of Chinese Firms Facing Delisting
https://www.bloomberg.com/news/articles ... -delisting
Alibaba Seeks Dual-Primary Listing In Hong Kong And New York
https://www.alizila.com/alibaba-seeks-d ... hong-kong/
เพราะทางการจีนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐฯเข้าไปตรวจสอบผู้ตรวจสอบบัญชีของ Alibaba เพราะขัดกับกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยของจีน
โดย ก.ล.ต.สหรัฐฯได้เพิ่มรายชื่อของ Alibaba เข้าไปในรายชื่อของบริษัทกว่า 200 บริษัทที่จะถูกเพิกถอนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Alibaba มีเวลา 3 ปีเพื่อเตรียมตัวออกจากตลาดหุ้นของสหรัฐฯ
ทาง Alibaba ได้โต้แย้งว่าตั้งแต่ IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี 2014 งบการเงินของบริษัทก็ได้รับการตรวจสอบโดยสำนักงานตรวจสอบบัญชีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและเป็นไปตามมาตรฐานของการกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่การโต้แย้งนี้ก็ไม่เป็นผล
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน Alibaba ก็ประกาศว่าได้เตรียมทำ Dual-Primary Listing ระหว่างตลาดหุ้นนิวยอร์กและฮ่องกงแล้ว เพื่อให้นักลงทุนสามารถโอนหุ้นระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงกับนิวยอร์กได้โดยตรง คาดว่าน่าจะเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ แต่จากกรณีนี้ก็น่าจะทำเสร็จเร็วขึ้น
และทำ stock connect ระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงกับตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ทำให้นักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถซื้อหุ้น Alibaba ได้โดยตรงรวมถึงนักลงทุนจากเอเชียก็สามารถซื้อหุ้นของ Alibaba ได้ง่ายขึ้น
Alibaba Added to SEC List of Chinese Firms Facing Delisting
https://www.bloomberg.com/news/articles ... -delisting
Alibaba Seeks Dual-Primary Listing In Hong Kong And New York
https://www.alizila.com/alibaba-seeks-d ... hong-kong/
BABA80
โพสต์ที่ 23
Xpeng จับมือกับ Alibaba Cloud สร้างศูนย์ประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดของจีน"ฟู่เหยา" ที่เมืองอูหลานฉาปู้ มองโกเลียใน
ด้วยพลังประมวลผลรวมมากถึง 600 PFLOPS เพิ่มความเร็วในการเทรนระบบขับขี่อัตโนมัติของ XPeng ได้กว่า 170 เท่า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติให้ฉลาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปได้อีกหลายขั้นเลยทีเดียว
"ฟู่เหยา"เป็นศูนย์ประมวลผลข้อมูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม low-carbon ใช้ green technology เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ, ระบบควบคุมอุณหภูมิด้วย AI, modular desig โดยมีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน power usage effectiveness (PUE) ที่น้อยกว่า 1.2 ต่อปี
PUE เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ Data Center ตัวเลขยิ่งต่ำก็ยิ่งดี ค่าเฉลี่ย PUE ของ Data Center ของจีนในปี 2021 อยู่ที่ 1.49 ตามรายงานของคณะกรรมการ Data Center ของจีน
Xpeng จะเปิดตัว Robotaxi ในปลายปีนี้ด้วย จะเปิดตัวที่กว่างโจวก่อน โดยใช้ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ XPilot 3.5 และจะค่อยๆเปลี่ยนเป็น XPilot 4.0 ในภายหลัง รวมถึงเปิดตัวระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติในเมืองด้วยแต่ทั้งนี้่ต้องรอ regulator อนุญาตก่อน
การสร้าง Data Center ในภาคตะวันตกและภาคเหนือของจีนเพื่อรองรับการใช้งานของภาคตะวันออกจะช่วยให้การจัดสรรทรัพยากรสำหรับการประมวลผลข้อมูลมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยเฉพาะที่เมืองอูหลานฉาปู้ มองโกเลียในแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของ Data Center ในภาคเหนือของจีนไปแล้ว
โดยได้รับฉายาว่า "Prairie Cloud Valley" หรือ หุบเขาเมฆาบนทุ่งหญ้า (草原云谷)
เพราะเมืองนี้มีต้นทุนการใช้ไฟฟ้าที่ต่ำที่สุดในจีน เป็นพื้นที่หลักในการส่งออกไฟฟ้าไปยังพื้นที่อื่นในจีน เนื่องจากอุดมไปด้วยถ่านหินจึงสามารถผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินได้เป็นอันดับ 3 ของจีน และยังผลิตพลังงานไฟฟ้าจากลมเป็นอันดับ 1 และ ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้เป็นอันดับ 3 ของจีนด้วย
โดยมีอัตราค่าไฟอยู่ที่ 0.26 หยวนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ต่ำสุดในจีนเมื่อเทียบกับค่าไฟฟ้าในอุตสาหกรรมและธุรกิจทั่วไปของจีนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 0.69 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
เมืองอูหลานฉาปู้มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 0-18 องศาเซลเซียส มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และไม่มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ปล่อยมลพิษหนัก มีคุณภาพอากาศที่ดีมาก โดยในช่วงเวลา 1 ปี data center ในเมืองอูหลานฉาปู้สามารถใช้ความเย็นจากธรรมชาติมาช่วยระบายความร้อนได้เป็นเวลานานถึง 10 เดือน ทำให้ลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายในการระบายความร้อนลงได้เป็นอย่างมาก
มีอัตราการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม น้อยมาก จึงมีความปลอดภัยสำหรับการจัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้ การจัดวางสายไฟฟ้าและสายเคเบิลในทุ่งหญ้ายังง่ายกว่าพื้นที่อื่นๆในจีนจึงช่วยประหยัดต้นทุนด้วย อีกทั้งยังมีต้นทุนการก่อสร้างและต้นทุนแรงงานที่ต่ำว่าเมืองใหญ่ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น
มีบริษัทชั้นนำหลายบริษัทมาตั้ง Data Center ที่เมืองอูหลานฉาปู้ เช่น Alibaba, Huawei, Apple รวมถึงศูนย์จัดเก็บและสำรองข้อมูลเพื่อต่อต้านภัยพิบัติของจีนก็มาตั้ง Data Center ที่เมืองนี้เช่นกัน
https://baijiahao.baidu.com/s?id=174001 ... der&for=pc
XPeng builds largest self-driving computing center in China
https://cnevpost.com/2022/08/02/xpeng-b ... -in-china/
ด้วยพลังประมวลผลรวมมากถึง 600 PFLOPS เพิ่มความเร็วในการเทรนระบบขับขี่อัตโนมัติของ XPeng ได้กว่า 170 เท่า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติให้ฉลาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปได้อีกหลายขั้นเลยทีเดียว
"ฟู่เหยา"เป็นศูนย์ประมวลผลข้อมูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม low-carbon ใช้ green technology เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ, ระบบควบคุมอุณหภูมิด้วย AI, modular desig โดยมีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน power usage effectiveness (PUE) ที่น้อยกว่า 1.2 ต่อปี
PUE เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ Data Center ตัวเลขยิ่งต่ำก็ยิ่งดี ค่าเฉลี่ย PUE ของ Data Center ของจีนในปี 2021 อยู่ที่ 1.49 ตามรายงานของคณะกรรมการ Data Center ของจีน
Xpeng จะเปิดตัว Robotaxi ในปลายปีนี้ด้วย จะเปิดตัวที่กว่างโจวก่อน โดยใช้ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ XPilot 3.5 และจะค่อยๆเปลี่ยนเป็น XPilot 4.0 ในภายหลัง รวมถึงเปิดตัวระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติในเมืองด้วยแต่ทั้งนี้่ต้องรอ regulator อนุญาตก่อน
การสร้าง Data Center ในภาคตะวันตกและภาคเหนือของจีนเพื่อรองรับการใช้งานของภาคตะวันออกจะช่วยให้การจัดสรรทรัพยากรสำหรับการประมวลผลข้อมูลมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยเฉพาะที่เมืองอูหลานฉาปู้ มองโกเลียในแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของ Data Center ในภาคเหนือของจีนไปแล้ว
โดยได้รับฉายาว่า "Prairie Cloud Valley" หรือ หุบเขาเมฆาบนทุ่งหญ้า (草原云谷)
เพราะเมืองนี้มีต้นทุนการใช้ไฟฟ้าที่ต่ำที่สุดในจีน เป็นพื้นที่หลักในการส่งออกไฟฟ้าไปยังพื้นที่อื่นในจีน เนื่องจากอุดมไปด้วยถ่านหินจึงสามารถผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินได้เป็นอันดับ 3 ของจีน และยังผลิตพลังงานไฟฟ้าจากลมเป็นอันดับ 1 และ ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้เป็นอันดับ 3 ของจีนด้วย
โดยมีอัตราค่าไฟอยู่ที่ 0.26 หยวนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ต่ำสุดในจีนเมื่อเทียบกับค่าไฟฟ้าในอุตสาหกรรมและธุรกิจทั่วไปของจีนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 0.69 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
เมืองอูหลานฉาปู้มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 0-18 องศาเซลเซียส มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และไม่มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ปล่อยมลพิษหนัก มีคุณภาพอากาศที่ดีมาก โดยในช่วงเวลา 1 ปี data center ในเมืองอูหลานฉาปู้สามารถใช้ความเย็นจากธรรมชาติมาช่วยระบายความร้อนได้เป็นเวลานานถึง 10 เดือน ทำให้ลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายในการระบายความร้อนลงได้เป็นอย่างมาก
มีอัตราการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม น้อยมาก จึงมีความปลอดภัยสำหรับการจัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้ การจัดวางสายไฟฟ้าและสายเคเบิลในทุ่งหญ้ายังง่ายกว่าพื้นที่อื่นๆในจีนจึงช่วยประหยัดต้นทุนด้วย อีกทั้งยังมีต้นทุนการก่อสร้างและต้นทุนแรงงานที่ต่ำว่าเมืองใหญ่ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น
มีบริษัทชั้นนำหลายบริษัทมาตั้ง Data Center ที่เมืองอูหลานฉาปู้ เช่น Alibaba, Huawei, Apple รวมถึงศูนย์จัดเก็บและสำรองข้อมูลเพื่อต่อต้านภัยพิบัติของจีนก็มาตั้ง Data Center ที่เมืองนี้เช่นกัน
https://baijiahao.baidu.com/s?id=174001 ... der&for=pc
XPeng builds largest self-driving computing center in China
https://cnevpost.com/2022/08/02/xpeng-b ... -in-china/