ศุกร์ ต.ค. 19, 2007 10:57 pm
กระบี่เก้าสําเนียง เขียน: ผมถามคุณartvr4นิดนึงครับ
พอดีผมทํางานด้านบัญชีซึ่งงานมันยุ่งมากเลยแต่สนใจธุรกิจนี้อยู่
เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองจะมีเวลาให้และพร้อมไหม
เลยอยากถามเกี่ยวกับการจัดการดูแลว่าทําเองหรือจ้างคนงาน
คือว่าง่ายๆว่ามีระบบการจัดการตรวจสอบควบคุมยังไง
เพราะเพื่อนผมก็ทําอยู่ที่ อ.เทพา จ.สงขลา
แต่เห้นมันบ่นว่าถูกโกงร่ำๆว่าจะกลับไปทําบัญชีแถวบ้านแล้วครับ
เพื่อที่จะได้ดูแลสวนยาง
สวัสดีครับ เอาส่วนที่ผมทำนะครับ ขอพูดไปรวมๆละกัน และจะบอกว่าส่วนตัว ตรงจุดไหนที่ควรคุมให้ดี เพราะว่าจะเกิดการรั่วไหลได้ เพราะยังไง พวกแรงงานชาวบ้านในพื้นที่ก็ ทำงานแบบช่างเถอะอยู่แล้ว แต่บางทีผมต้องจำยอมครับ เพราะว่าเราไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่อยากมีปัญหาด้วยเพราะเราไม่ได้อยู่ตลอด บางที รู้ว่มันรั่วไหล ก็ต้องจำยอมทนๆ ไปก่อน
แต่เริ่มแรก นี่ผมต้องไปดูตลอดครับ ตั้งแต่ ใช้แบ็คโฮปรับเป็นขั้นบันได(ที่เป็นภูเขาน่ะครับ ) แล้วต้องตามไปดูตั้งแต่การไถ เพราะว่า ไม่งั้น เราจะไม่รู้ว่าเค้าใช้ชั่วโมงทำงานเท่าไหร่ เพราะเราจ่ายเป็นรายชั่วโมง(เค้าโมเม ว่าทำกี่ชั่วโมง ก็ได้ครับ แบ็กโอชั่วโมงเป็นพัน รถไถก็ หกร้อยกว่าบาท)
ไหนจะจ้างเค้าฉีดยาฆ่าหญ้า เค้าคิดเป็นถัง โมเมได้อีกว่าฉีดไปกี่ถังเพราะเรากะปริมาณ ที่ฉีดกับพื้นที่ไม่ถูก เพื่อป้องกัน หญ้ารกอีก
รายการช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องคุมให้ดีครับ ไม่งั้นรั่วไหลเยอะมา
พอตอนเริ่มปลูก ผมก็ต้องไปตามคุมอีก ผมจะไม่ให้ปลูกทีละเยอะๆ ครับ เพราะพวก แรงงานมัก ชุ่ย เอาง่ายๆ บางที ขุดหลุมไม่ลึก ต้นยางก็ไม่เอาถุงดำออก เพราะเค้าจะเร่ง ค่าปลูก ต้นละสิบบาท รวมขุดหลุมด้วย
ตอนผมทำ ผมจะให้คนงานขุดหลุมต่อวันให้กว้างและลึก แบบที่ผมต้องการ ได้สักประมาณ400-500หลุม ในช่วงเช้า พอช่วงบ่ายก็ทยอยใส่ปุ๋ย ยาฆ่าปลวก สารพอลีเมอร์ ตามจำนวนที่ผมต้องการ และ ค่อยๆปลูกไป ไม่เร่งเด็ดขาด ตอนแรกคนงานชาวบ้านในพื้นที่บางคนก็บ่น ผมก็บอกว่าถ้าไม่ทำแบบของผมก็ไม่เป็ฯไร ผมจ้างคนอื่นได้ เค้าก็ยอมกัน เพราะพวกชาวบ้านเค้าก็หาเช้ากินค่ำน่ะครับ
หากวันไหน อากาศเริ่มร้อน ก็ให้หยุดปลูก รอฝนตก เพื่อให้ดินชื้นก่อน
นี่เฉพาะช่วงปลูกครับ
พอหลังจากปลูกก็ต้องตรวจตราว่ามีตายหรือเปล่าจะได้รีบปลูกซ่อม ผมมีจ้างคนงานไว้เฝ้าสวนไว้ครอบครัวนึง ให้เค้าปลูกสัปปะรด ในพื้นที่ด้วย ผมไม่เอาค่าเช่าที่ แต่ให้เค้าดูแลต้นยางให้ผม
หลังจากนั้น การคุมว่าพวกชาวบ้านที่จ้างมาใส่ปุ๋ย หรือว่าอย่างอื่น ผมจะใช้วิธีที่สังเกตุได้ครับ
เช่นการใส่ปุ๋ย ปกติ เค้าจะโรยรอบต้น บางที หากว่าเป็นปุ๋ยเคมี หากดินชืน วัน สองวัน มันก็ละลายหมดแล้ว เราอยู่กรุงเทพก็ไม่รู้ แต่ส่วนใหญ่ผมจะตามมาคุมครับ แต่บางทีเค้าใส่ก่อนผมมาสักวัน ผมก็บอกว่า
เวลาใส่ปุ๋ย ให้เอา จอบพรวนดินรอบต้นยางด้วย เพราะว่าฝนตก ปุ๋ยจะไม่ไหล พอเราขึ้นไปดู ก็ดูแค่ว่ามีรอยจอบ รอบต้นยางหรือเปล่าต้องเดินสุ่มไปตามส่วนต่างๆของพื้นที่เอา
ส่วนพวกปุ๋ยก็ให้เค้าเก็บกระสอบ ว่าใช้ไปกี่ถุง แล้วไปถามร้านค้าว่าเค้าเอาปุ๋ยไปกี่ถุง มาเปรียบเทียบกัน
ส่วนคนดูแล จะให้เค้าดูสวนยาง บางทีเราต้องเช็คว่าเค้าดูจริงเปล่า ผมใช้วิธีนี้ครับ ก่อนหน้าร้อน ผมจะให้เค้าเอาปูนพลาสเตอร์ ไปทาต้นยางป้องกันวไม่ให้ เปลือกต้นยางโดนแดดจัด ตาย เวลาไปดูก็สังเกตุว่าต้นยางมีการทาปูนพลาสเตอร์ไว้หรือเปล่า เพราะเวลาเค้าเดินทาปุน เค้าก็ต้องคอยตัดแต่งกิ่งดวย
แต่ผมโชคดีหน่อยที่คนดูแลเค้าดูแลดีครับ ส่วนชาวบ้านที่จ้างในพื้นที่ก็พอจะคุยกันรุ้เรื่อง เพราะบางที เราต้องใช้ใจ เวลาเค้าใส่ปุ๋ย ผมก็ไปใส่กับเค้าด้วย เค้าเลยดูว่าเราไม่ถือตัว เป้นกันเอง ประกอบกับรู้จักกำนันในพื้นที่ ด้วยครับ เค้าก็เลย เกรงใจหน่อยนึง
เอาเป็นว่าโดยสรุป ช่วงแรก ควรจะไปคุมครับ จนกระทั่วปลูกเสร็จ
เพราะว่าการให้ชาวบ้านในพื้นที่ดูแล ยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเราเท่าไหร่
ผมโชคดีว่า สองปีนี้ ผมไม่ได้ทำงานอื่น งานที่ทำกับเพื่อนก็ปลีกตัวมาดูได้ครับ นี่เพิ่งใส่ปุ๋ยเสร็จ ผมดีใจจังจะได้ไปเป็นมนุษย์เงินเดือนสักที เพราะว่าโดยส่วนตัว ผม ไม่ค่อยเห็นด้วยกับที่บ้านเท่าไหร่ แต่เมื่อ เค้าจะทำ ผมต้องไปคุมครับ ไม่อยากให้ เงินที่เค้าเก็บมาทั้งชีวิต สูญไปกับการที่จ้างคนอื่นเค้าทำ ทั้งหมด
ปีที่แล้ว ปีแรก ผมก็ เก็บเกี่ยวความรุ้ ไม่เชี่ยว และเคี่ยวครับ ใช้งบปลานปลาย
แต่ปีนี้ นี ผมรู้เยอะ อุดรูโหว่ ค่าใช้จ่ายได้เยอะ
ใช้งบประมาณ เท่ากันทั้งสองปีครับ แต่ว่า ปีนี้ ปลูกต้นยางได้เยอะกว่าปีที่แล้วในจำนวนต้นที่มากกว่ากัน หนึ่งเท่าตัวครับ