พูดคุยราคาทองคำกัน

[nung-2-3]

ช่วงนี้ทองลงแรงครับ วันพรุ่งนี้ตลาดก็ปิด ผมคิดว่าราคาทองน่าจะกลับขึ้นมาแพงได้ในสัปดาห์ครับ เพื่อนๆคิดอย่างไรบ้างครับ
ผมคิดว่าแนวรับอยู่ที่ แนวแรก 915 ,แนวสอง 880 ครับ

[chatchai]

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ราคาทองคำขึ้นหรือลงนะครับ

[nung-2-3]

ปัจจัยหรือ อืมผมว่า
1.ค่าเงินดอลลาร์
2.สภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ
แต่ปกติที่ผมเล่นจะดูเทคนิคมากกว่าครับใช้ข่าวผสมด้วย

ตลาดทองคำปิดวันนี้ ได้เวลาพักผ่อนสมองและลดความเครียด 3 วันครับ

[nung-2-3]

วันนี้ราคายังวิ่งไม่แรงแนวโน้มผมว่าน่าจะวิ่งแคบๆไปก่อน 900-925 แล้วรอดูอีกทีหลังเปิดตลาดสหรัฐ ครับ
ถ้าราคาใก้ล 900 มาทำกำไรขาขึ้นกัน
ถ้าราคาใก้ล925มาทำกำไรขาลงกัน (ดีไหมครับเพื่อนๆ)

[nung-2-3]

วันนี้ผมว่าราคาน่าจะวิ่งอยู่ที่ 904-940 อ่ะครับ

[eskimo]

เมื่อประมาณปี 44 เคยไปสัมนา คุยเฟื่องเรื่องทอง ที่โรงแรมแถวประตูน้ำ ขออภัยจำชื่อคนที่มาพูดไม่ได้แล้ว

เท่าที่จำได้ ก็คือ เป็นไปตาม demand/supply ของโลก

supply ก็ตามกำลังผลิตของเหมืองทองทั่วโลก

demand สมัยโน้นมาจากหลักๆคือ
- ความต้องการเครื่องประดับที่ทำจากทอง
- ธนาคารกลางของประเทศต่างๆที่ต้องสำรองทองคำ เพื่อใช้ในการพิมพ์ธนบัตร

แต่เดี่ยวนี้พวก hedge fund ก็มาเก็งกำไรทองกันเยอะ ราคาอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับ demand/supply pure ๆ แล้ว

สมัยโน้นพอเสร็จจากงานสัมนาก็เคลิ้มเลย ตอนนั้นบาทละห้าพัน เลยพุ่งไปเยาวราชซื้อเลยทองคำแท่ง แล้วก็ถือมาจนถึงตอนนี้  :ep:

แต่ดันซื้อแค่แท่งเท่าไม้ขีด  :wall:  โฮ้ยยยย

[nung-2-3]

USA: น้ำมัน NYMEX ยืนเหนือ 110 ดอลล์เช้านี้ หลังทำนิวไฮทะลุ 112 ดอลล์วานนี้
การทะยานขึ้นของราคาน้ำมันวานนี้มีขึ้นหลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของUS(EIA)เปิดเผย สต๊อกน้ำมันดิบลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล, เบนซินลดลงเป็นสัปดาห์ที่4ที่ 3.4 ล้านบาร์เรล, อื่นๆลด 3.7ล้านบาร์เรล  ซึ่งก่อนหน้านี้ทางนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่า สต๊อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล,  เบนซินลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรและเยน จากมุมมองที่ว่า เฟด อาจจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้
ด้านทีมวิจัยพายุเฮอริเคนของมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโดปรับเพิ่มจำนวนพายุโซนร้อนและพายุเฮอริเคนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูพายุในมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วๆนี้ การพยากรณ์อากาศ ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเกิดพายุโซนร้อนอีก 2ลูก เป็น 15ลูก และปรับเพิ่มคาดการณ์การเกิดพายุเฮอริเคนอีก 1ลูก เป็น 8ลูก
แผนการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะขายทองบางส่วนจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทอง เนื่องจากการขายทองของ IMF จะเป็นไปตามข้อตกลงที่มีอยู่เกี่ยวกับการขายทองของธนาคารกลาง
ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณฑ์กล่าวว่า การขายทองของ IMF จะเพิ่มปริมาณการถือครองของนักลงทุนเอกชนแทนธนาคารกลางซึ่งจะทำให้กลไกของตลาด ไม่ใช่รัฐบาล เป็นตัวกำหนดราคา ข้อเสนอของ IMF ยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากประเทศสมาชิก 185ชาติ และสภาคองเกรสก่อนที่ IMF จะสามารถเริ่มขายทอง
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆในวันพุธ ขณะที่เทรดเดอร์เข้าซื้อยูโร ก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรบ (ECB) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเรื่องเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่า ECB ยังไม่พร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ย

[nung-2-3]

แต่วันนี้แนวโน้มยังไม่ค่อยดี แต่คาดว่ายังคงขึ้นได้ต่อครับ
เข้าไปดูข่าวเพิ่มเติมได้ที่  http://board.gold2sky.com/index.php?showtopic=26

[nung-2-3]

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.gold2sky.com
สรุปข่าวน่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำและน้ำมัน  10-4-51
 ราคาทองในช่วงเช้าวันนี้ อยู่ที่ระดับ  925.90/926.70 ดอลล่าร์/ออนซ์ ที่ตลาดนิวยอร์ค  โดยทองดีดตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค ที่  939.40 ดอลล่าร์ เมื่อวานนี้  ก่อนที่จะอ่อนตัวลง
 ส่วน BOE ธนาคารคารอังกฤษ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ส่ระดับ 5% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ในรอบ 5 เดือน ส่วน ECB  ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 4% ตามคาด

  บาท/ดอลล่าร์ช่วงเช้าอ่อนค่าลง โดย dealer ระบุว่า มีแรงซื้อดอลล่าร์จากธนาคารญี่ปุ่น แต่มีแรงขายดอลล่าร์จากผู้ส่งออกมารองรับไว้เช่นกัน

 กระทวงพาณิชย์สหรัฐ เผยยอดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 5.7% สู่ 6.23 หมื่นล้านดอลล่าร์ ในเดือน ก.พ. แต่ trader ในนิวยอร์คไม่ได้ให้ความสนใจกับข้อมูลดังกล่าวมากนัก

 ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเกินคาด 53,000 สู่ 357,000 ราย ในสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 5 เม.ษ จาก 410,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า

 ราคาสัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค. ของสหรัฐอ่อนลง 52 เซนต์ สู่ 109.59 ดอลล่าร์/บาร์เรล  โดยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ดอลล่าร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและซาอุดิอาระเบียระบุว่ายังคงมีอุปทานน้ำมันอย่ในตลาดเป็นจำนวนมาก

[nung-2-3]

สรุปข่าวราคาทองคำและน้ำมัน  16-4-51

 ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดสูงขึ้นในวันที่ 15 เม.ย ในขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์ ชดเชยบรรยากาศในการเข้าซื้อที่ซบเซา
 สัญญาทองส่งมอบเดือน มิ.ย เคลื่อนตัวในช่วง 926.10-939.80 ดอลล่าร์ มีวอลุ่มซื้อขายราว 92,902 สัญญา และดอลล่าร์ปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งลดแรงบวกของทองลง
 ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดปรับขึ้น 2.03 ดอลล่าร์ มาที่ 113.79 ดอลล่าร์/บาร์เรล หลังจากที่แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 113.99 ดอลล่าร์ ซึ่งเพิ่มความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะการประกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ
 กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยดัชนีราคาผู้ผลิต PPI พุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าสองเท่า จากที่นักเศรษศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% แต่ดัชนี  PPI ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ตามคาด  เมือเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI ทั่วไป เพิ่มขึ้น 6.9% แลพดัชนีพื้นฐานเพิ่ม 2.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2005
 ตลาดจะรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือนมีนาคมของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมีนาคมและเพิ่มขึ้น 2.4% เมือเทียบเป็นรายปี

ข่าวน่าสนใจวันนี้  
1.กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือนมีนาคม
2.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและอนุญาตก่อสร้างเดือนมีนาคม
3.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมีนาคมและสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Begie Book
4.สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

[nung-2-3]

สรุปข่าวราคาทองคำและน้ำมัน 21-4-51

 ราคาทองสปอต มีการซื้อขายที่ระดับ 921.00/922.00 ดอลล่าร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 916.40/917.20 ดอลล่าร์ โดยได้รับผลกระทบจากดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวสดใส
 สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงเช้านี้หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 117 ดอลล่าร์/บาร์เรล เมื่อวันศุกร์จากความวิตกที่จะเกิดปัญหาขัดข้องต่อไปอีกสำหรับการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย
 เมือวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.83 ดอลล่าร์ มาที่ 116.69 ดอลล่าร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 117 ดอลล่าร์
 ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย. ที่ตลาดกรุงลอนดอนบวกขึ้น 28เซนต์ มาที่ 114.20 ดอลล่าร์/บาร์เรล
 ด้านนาย ชาคิบ เคลิล ซึ่งเป็นประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปก และ รมว.พลังงานและเหมืองของแอลจีเรีย กล่าวว่าโอเปก ไม่เห็นความจำเป็นในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อฉุดราคาให้ลดต่ำลงโดยกล่าวเสริมวา การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะไม่มผลกระทบต่อราคาเนื่องจากตลาดมีปริมาณน้ำมันมากแล้ว
 กลุ่มกบฎในไนจีเรียเปิดเผยเม่อวันศุกร์ว่า ทางได้ก่อกลุ่มวินาศกรรมท่อส่งน้ำมันสำคัญของบริษัทรอยัล ดัท เชลล์ และยืนยันที่จะเดินหน้าโจมตีสาธารณูปโภคด้านน้ำมันต่อไป
 ด้านเจ้าหน้าที่ของเชลล์ ยืนยันว่ามีการระงับการผลิตจำนวนเล็กน้อยและปัจจุบันเชลล์มการผลิตน้ำมัน 400,000 บารร์เรล/วันในไนจีเรีย ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพในการผลิตอันเนื่องมาจากการก่อวินาศกรรมและความวิตกด้านความปลอดภัย

[nung-2-3]

สรุปราคาทองคำน้ำมันและเศรษฐกิจ 24-4-51
 ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 903.50/904.50 ดอลล่าร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 905.50/906.70 ดอลล่าร์ เมื่อราคาร่วงลงต่ำกว่า 900 ดอลล่าร์และแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 897.10 ดอลล่าร์/ออนซ์ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.
 สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบารเรล สู่ 316.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 18 เม.ย. สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน 3.2 ล้านบาร์เรล สู่ 216.6 ล้านบาร์เรลและสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวม Heating Oil และดีเซล ร่วง 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ 104.7 ล้านบาร์เรล
 ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นพุ่งขึ้น 4.2% สู่ 85.6% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ก.พ.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐขยับลงมาที่ 118 ดอลล่าร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ ขณะที่การฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์,การร่วงลงของสินค้าโภคภัณฑ์และการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐทำให้กองทุนขายทำกำไรออกมา
 ณ เวลา 7.22น. 24-4-51 ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย. ที่ตลาด nymex ร่วงลง 29เซนต์ มาที่ 118.01 ดอลล่าร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex
 เมื่อวานนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดตลาดบวก 23 เซนต์ หรือ 0.19 % มาที่ 118.30 ดอลล่าร์ หลังจากพุ่งขึ้นทำสถติตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 119.90 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร
ยูโร/ดอลลาร์ร่วงลงจากสถิติสูงสุดในวันพุธ หลังจากกิจกรรมการผลิตสินค้าที่ลดลงบ่งชี้ง่า ภูมิภาคยูโรโซนเริ่มได้รับความเสียหายจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและจากความแข็งแกร่งของยูโร
 นักลงทุนขายยูโรหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป ECB ลดการแสดงความเห็นในเชิงต่อต้านภาวะเงินเฟ้อ และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของ ECB อาจเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าการปรับลดดอกเบี้ย

[nung-2-3]

ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นปิดที่ระดับ 127.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวกระจัดกระจาย หลังหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดิบปรับระดับสูงขึ้นครั้งใหม่ โดยนักลงทุนไม่สนใจความคลื่อนไหวล่าสุดของซาอุดิอาระเบียที่ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต 300,000 บาร์เรลต่อวัน ตามเสียงเรียกร้องของตลาด รวมถึงชดเชยกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายอื่นที่ผลิตน้ำมันได้ในเกณฑ์ต่ำ ซึ่งในช่วงซื้อขายระหว่างวัน ราคาน้ำมันดิบได้ทะยานแตะที่ระดับ 127.28 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้กับระดับสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 127.82 ดอลลาร์

โดยในช่วงปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์ค สหรัฐ รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 76 เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 127.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ที่ตลาดลอนดอนของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 7 เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 125.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้นวอลสตรีทวันนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวกระจัดกระจาย หลังหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจจำนวนหนึ่งที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศอาจเติบโตขึ้น โดยจากรายงานของ "เดอะ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด" ที่เป็นตัวชี้นำความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจ ระบุว่าการดำเนินธุรกิจโดยรวมในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยในช่วงปิดตลาด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 41.36 จุด หรือ 0.32 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 13,028.16 จุด ขณะที่ดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ 0.09 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ
1,426.63 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 12.76 จุด หรือ 0.50 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 2,516.09 จุด
นายฌอง คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป ยืนยันวิกฤติสินเชื่อตึงตัวจะยังคงอยู่ต่อไป เพราะยังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าความเลวร้ายของวิกฤติสินเชื่อได้ผ่านพ้นไปแล้ว
นายทริเชต์ ยังนำเรื่องอาหารและพลังงานที่มีราคาพุ่งสูงในขณะนี้ ไปเปรียบเทียบกับวิกฤติราคาน้ำมันเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งส่งผลให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่ในยุโรป โดยนายทริเชต์ ย้ำว่า เขาจะไม่ยอมให้ปัญหาราคาอาหารและพลังงานมาทำให้ยุโรปเกิดการว่างงานครั้งใหญ่ขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน

ประธานธนาคารกลางยุโรปยังเตือนให้ธนาคารกลางหลายแห่งพึงระวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่ระมัดระวัง จะทำให้ปัญหาเงินเฟ้อยิ่งทวีความรุนแรง และจะยิ่งดันให้น้ำมันและอาหารมีราคาพุ่งสูงขึ้น

นายทริเชต์ มองว่าทางที่ดีที่สุดในขณะนี้คือการพยายามประคองอัตราดอกเบี้ยให้มีเสถียรภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้ามีเสถียรภาพมากขึ้นด้วยและจะโน้มนำให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดการจ้างงานตามมา